ปิดตำนานไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการสื่อสารที่เรียกกันว่า "โทรเลข" เรื่องทั้งหมดตั้งแต่ความเป็นมา การดำเนินงานที่ยาวนานมากว่า 133 ปี ตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ นั้นเป็นเช่นไร? มีอะไรที่เป็นที่ประทับใจบ้าง? ทั้งหมดติดตามชมกันได้ในรายการ "กบนอกกะลา" วันศุกร์ที่ 30 พ.ค.นี้ เวลา 20.40 น. ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี
ที่ช่องเดียวกันแต่เป็นวันเสาร์ใน "จุดเปลี่ยน" เวลาบ่ายโมงตรง มาดูภัยร้ายต่างๆ ที่แฝงมากับผลไม้ที่น่ารับประทานที่วางขายกันอยู่อย่างเกลื่อนกลาด จากนั้นในช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ 1 มิ.ย. เวลาเจ็ดโมง ใน "ซูเปอร์จิ๋ว" อาทิตย์นี้ได้นักเตะฝีเท้าดี "เสกสรรค์ ปิตุรัตน์" มาร่วมฝึกสอนเทคนิกการเล่นฟุตบอลให้กับน้องๆ ในช่วงซูเปอร์สปอร์ต
ช่วงค่ำเวลา 20.30 น. นั่งพูดคุยเรื่องราวต่างๆ ที่น่ารู้ กับ "ลุงยุ้ย ปานทอง" ปราชญ์ชาวบ้านที่เป็นทั้งครูภูมิปัญญาและหมอยาสมุนไพรแห่งบ้านบางระจันในรายการ "ปราชญ์เดินดิน" ส่วนที่ช่อง 7 ในรายการ "ที่นี่หมอชิต" เวลา 22.30 น. นักแสดงหญิง "จั๊กจั่น อคัมย์สิริ" จะมาเปิดใจถึงเรื่องราวความทุกข์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต รวมถึงข่าวเกาเหลากับเพื่อนนักแสดง "แพนเค้ก" ให้ได้รับทราบกัน
"จั่นคิดว่าหลายสิ่งที่ผ่านมาในชีวิตเกิดเพราะความไม่ละเอียดถี่ถ้วนพอ(เรื่องความรัก) คุณแม่ก็ถาม แต่ก็เชื่อการตัดสินใจของตัวเองเป็นหลัก แต่พอมีเรื่องเกิดขึ้นก็เสียใจ แม่ก็บอกว่ามันเป็นผลจากการตัดสินใจของเราเอง พี่ชายก็บอกว่าเราตัดสินใจเอง ไม่มีใครมาบังคับเราก็ต้องยอมรับผลของการตัดสินใจนั้นให้ได้"
"เราก็เออนะ หลายคนก็บอกว่า ไม่ว่าสิ่งอะไรที่เกิดขึ้นมันก็จะมีข้อดีของมันอยู่ เพราะอย่างน้อยทำให้เรามีประสบการณ์ เรื่องอย่างนี้คงไม่เกิดกับเราอีก หรือดีแล้วที่เราหยุดมันไว้ตอนนี้ไม่ปล่อยให้มันมากไปกว่านี้ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เราเข้มแข็งมากขึ้น ถ้าถามว่าอยากให้จั่นย้อนกลับไปแก้อะไรมั้ย จั่นก็ไม่อยากย้อน เพราะถ้าไม่มีเหตุการณ์ในวันนั้นก็ไม่มีจั่นในวันนี้"
"ทุกข์หนักที่สุดในชีวิตมั้ย จั่นก็อยากให้เป็นอย่างนั้นนะคะ ไม่อยากให้มีอะไรที่ทุกข์ไปกว่านี้ ถ้าเลือกได้ เพราะตั้งแต่เด็กจนโตก็ยังไม่มีเรื่องไหนทุกข์เท่าเรื่องนี้เลย ตอนที่เป็นทุกข์เรื่องนี้ จั่นทำงานได้นะคะ แต่ทำได้ไม่ดี สุขภาพก็เสีย หน้าตาก็แย่ จิตใจเศร้ามาก เพื่อนๆ ก็พยายามชวนไปเที่ยว ไปช้อปปิ้ง แต่มันก็ไม่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้น"
"ทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเราอย่างเดียว อยู่คนเดียวจะร้องไห้ง่ายมาก เวลาทำงานก็อย่ามีใครมาพูดให้รู้สึกเพราะจะเศร้าได้ทันที สักพักรู้สึกตัวเองแย่มาก ไม่ได้แล้วต้องทำอะไรสักอย่าง ก็ไปวัดฟังพระเทศน์ พระบอกว่าตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้ เราอย่าไปยึดติด พยายามมองทุกอย่างให้เป็นกลาง เลยได้สติอยากทำตัวให้มีประโยชน์ ไปทำบุญ เจอคนที่ด้อยกว่าเรายังสู้ไม่ถอย แล้วเราครบ 32 ขนาดนี้ แถมยังทำประโยชน์ได้อีกตั้งหลายอย่าง ทำไมเราถึงยอมแพ้"
"ก็เพราะเวลาทุกข์เราจะมองอยู่แค่ตัวเอง ปัญหาของตัวเองจมและวนอยู่ตรงนั้น ไม่ได้มองคนอื่น ไม่ได้มองว่ายังมีแม่และพี่ชายที่คอยห่วงนะ ขนาดพี่ๆ นักข่าวที่มาสัมภาษณ์เรา พอคุยเสร็จเขาก็มาจับเข่าบอกว่าพี่ขอโทษนะ พี่รู้ว่าเราเสียใจอยู่ แต่พี่ก็ต้องถามเพราะมันเป็นงาน แค่นี้จั่นก็รู้สึกดีแล้วค่ะ พอแล้ว รู้สึกว่ายังมีคนแย่กว่าเราตั้งเยอะ เมื่อก่อนเราก็อยู่มาได้แล้วต่อไปทำไมเราเราจะอยู่ไม่ได้ เลยรู้สึกว่าเราต้องอยู่ได้"
"ส่วนเรื่องแพนเค้ก มีข่าวออกมาว่าเขม่นกันเรื่องบท คนนั้นน้อยกว่าคนนี้ จั่นก็งงนะ เพราะเราเพิ่งไปถ่ายแฟชั่นด้วยกันมาที่เมืองจีน ไปกับน้องกับแม่น้อง ซึ่งก็น่ารักมากทั้งสองคน พอกลับมาก็มีข่าว เออนะ มาได้ไง ก็ขำๆ ไป เพราะหลังจากที่เคยเจอเรื่องใหญ่มา พอเจอเรื่องเล็กๆ เราก็ไม่ค่อยอะไร เพราะความจริงก็คือความจริง คนก็ต้องรู้เห็นกันเอง"
"ก็ไม่ซีเรียสอะไร ขำๆ ไป ก็ยังโทรคุยกัน จั่นจะเรียกเขาว่าน้องหมวย เพราะตอนไปถ่ายแฟชั่นเขาจะทำผมมวยๆ เหมือยหมวย เขาก็ว่าเจ้ ก็คุยกันขำๆ แต่ไม่ได้คุยกันเรื่องข่าวนะ เพราะมันไม่ใช่เรื่อง น้องก็น่ารัก และจั่นเองก็ไม่ใช่คนนิสัยแบบนั้น ก็ขอเคลียร์ว่าไม่ได้เกาเหลากันค่ะ กับชีวิตตอนนี้จั่นแฮปปี้มาก ตื่นมายิ้มกับตัวเองได้ อยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่ได้กังวลหรือเกรงใจใคร ไม่รีบร้อน โอเคมากๆ"
..........
คลิกชมโปรแกรมออกอากาศ
เอเอสทีวี
ช่อง 3
ช่อง 5
ช่อง 7
โมเดิร์นไนน์ ทีวี
เอ็นบีที
ทีวีไทย ทีวีสาธารณะ
ที่ช่องเดียวกันแต่เป็นวันเสาร์ใน "จุดเปลี่ยน" เวลาบ่ายโมงตรง มาดูภัยร้ายต่างๆ ที่แฝงมากับผลไม้ที่น่ารับประทานที่วางขายกันอยู่อย่างเกลื่อนกลาด จากนั้นในช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ 1 มิ.ย. เวลาเจ็ดโมง ใน "ซูเปอร์จิ๋ว" อาทิตย์นี้ได้นักเตะฝีเท้าดี "เสกสรรค์ ปิตุรัตน์" มาร่วมฝึกสอนเทคนิกการเล่นฟุตบอลให้กับน้องๆ ในช่วงซูเปอร์สปอร์ต
ช่วงค่ำเวลา 20.30 น. นั่งพูดคุยเรื่องราวต่างๆ ที่น่ารู้ กับ "ลุงยุ้ย ปานทอง" ปราชญ์ชาวบ้านที่เป็นทั้งครูภูมิปัญญาและหมอยาสมุนไพรแห่งบ้านบางระจันในรายการ "ปราชญ์เดินดิน" ส่วนที่ช่อง 7 ในรายการ "ที่นี่หมอชิต" เวลา 22.30 น. นักแสดงหญิง "จั๊กจั่น อคัมย์สิริ" จะมาเปิดใจถึงเรื่องราวความทุกข์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต รวมถึงข่าวเกาเหลากับเพื่อนนักแสดง "แพนเค้ก" ให้ได้รับทราบกัน
"จั่นคิดว่าหลายสิ่งที่ผ่านมาในชีวิตเกิดเพราะความไม่ละเอียดถี่ถ้วนพอ(เรื่องความรัก) คุณแม่ก็ถาม แต่ก็เชื่อการตัดสินใจของตัวเองเป็นหลัก แต่พอมีเรื่องเกิดขึ้นก็เสียใจ แม่ก็บอกว่ามันเป็นผลจากการตัดสินใจของเราเอง พี่ชายก็บอกว่าเราตัดสินใจเอง ไม่มีใครมาบังคับเราก็ต้องยอมรับผลของการตัดสินใจนั้นให้ได้"
"เราก็เออนะ หลายคนก็บอกว่า ไม่ว่าสิ่งอะไรที่เกิดขึ้นมันก็จะมีข้อดีของมันอยู่ เพราะอย่างน้อยทำให้เรามีประสบการณ์ เรื่องอย่างนี้คงไม่เกิดกับเราอีก หรือดีแล้วที่เราหยุดมันไว้ตอนนี้ไม่ปล่อยให้มันมากไปกว่านี้ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เราเข้มแข็งมากขึ้น ถ้าถามว่าอยากให้จั่นย้อนกลับไปแก้อะไรมั้ย จั่นก็ไม่อยากย้อน เพราะถ้าไม่มีเหตุการณ์ในวันนั้นก็ไม่มีจั่นในวันนี้"
"ทุกข์หนักที่สุดในชีวิตมั้ย จั่นก็อยากให้เป็นอย่างนั้นนะคะ ไม่อยากให้มีอะไรที่ทุกข์ไปกว่านี้ ถ้าเลือกได้ เพราะตั้งแต่เด็กจนโตก็ยังไม่มีเรื่องไหนทุกข์เท่าเรื่องนี้เลย ตอนที่เป็นทุกข์เรื่องนี้ จั่นทำงานได้นะคะ แต่ทำได้ไม่ดี สุขภาพก็เสีย หน้าตาก็แย่ จิตใจเศร้ามาก เพื่อนๆ ก็พยายามชวนไปเที่ยว ไปช้อปปิ้ง แต่มันก็ไม่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้น"
"ทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเราอย่างเดียว อยู่คนเดียวจะร้องไห้ง่ายมาก เวลาทำงานก็อย่ามีใครมาพูดให้รู้สึกเพราะจะเศร้าได้ทันที สักพักรู้สึกตัวเองแย่มาก ไม่ได้แล้วต้องทำอะไรสักอย่าง ก็ไปวัดฟังพระเทศน์ พระบอกว่าตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้ เราอย่าไปยึดติด พยายามมองทุกอย่างให้เป็นกลาง เลยได้สติอยากทำตัวให้มีประโยชน์ ไปทำบุญ เจอคนที่ด้อยกว่าเรายังสู้ไม่ถอย แล้วเราครบ 32 ขนาดนี้ แถมยังทำประโยชน์ได้อีกตั้งหลายอย่าง ทำไมเราถึงยอมแพ้"
"ก็เพราะเวลาทุกข์เราจะมองอยู่แค่ตัวเอง ปัญหาของตัวเองจมและวนอยู่ตรงนั้น ไม่ได้มองคนอื่น ไม่ได้มองว่ายังมีแม่และพี่ชายที่คอยห่วงนะ ขนาดพี่ๆ นักข่าวที่มาสัมภาษณ์เรา พอคุยเสร็จเขาก็มาจับเข่าบอกว่าพี่ขอโทษนะ พี่รู้ว่าเราเสียใจอยู่ แต่พี่ก็ต้องถามเพราะมันเป็นงาน แค่นี้จั่นก็รู้สึกดีแล้วค่ะ พอแล้ว รู้สึกว่ายังมีคนแย่กว่าเราตั้งเยอะ เมื่อก่อนเราก็อยู่มาได้แล้วต่อไปทำไมเราเราจะอยู่ไม่ได้ เลยรู้สึกว่าเราต้องอยู่ได้"
"ส่วนเรื่องแพนเค้ก มีข่าวออกมาว่าเขม่นกันเรื่องบท คนนั้นน้อยกว่าคนนี้ จั่นก็งงนะ เพราะเราเพิ่งไปถ่ายแฟชั่นด้วยกันมาที่เมืองจีน ไปกับน้องกับแม่น้อง ซึ่งก็น่ารักมากทั้งสองคน พอกลับมาก็มีข่าว เออนะ มาได้ไง ก็ขำๆ ไป เพราะหลังจากที่เคยเจอเรื่องใหญ่มา พอเจอเรื่องเล็กๆ เราก็ไม่ค่อยอะไร เพราะความจริงก็คือความจริง คนก็ต้องรู้เห็นกันเอง"
"ก็ไม่ซีเรียสอะไร ขำๆ ไป ก็ยังโทรคุยกัน จั่นจะเรียกเขาว่าน้องหมวย เพราะตอนไปถ่ายแฟชั่นเขาจะทำผมมวยๆ เหมือยหมวย เขาก็ว่าเจ้ ก็คุยกันขำๆ แต่ไม่ได้คุยกันเรื่องข่าวนะ เพราะมันไม่ใช่เรื่อง น้องก็น่ารัก และจั่นเองก็ไม่ใช่คนนิสัยแบบนั้น ก็ขอเคลียร์ว่าไม่ได้เกาเหลากันค่ะ กับชีวิตตอนนี้จั่นแฮปปี้มาก ตื่นมายิ้มกับตัวเองได้ อยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่ได้กังวลหรือเกรงใจใคร ไม่รีบร้อน โอเคมากๆ"
..........
คลิกชมโปรแกรมออกอากาศ
เอเอสทีวี
ช่อง 3
ช่อง 5
ช่อง 7
โมเดิร์นไนน์ ทีวี
เอ็นบีที
ทีวีไทย ทีวีสาธารณะ
