เอเอฟวีก 2 “เบียร์ V2-เบนซ์ V4” ปิ๋วไปไม่ถึงฝัน ด้าน “เบียร์” น้ำตาแตกรับเสียใจ แต่ทำดีที่สุดแล้ว ยันไม่ทิ้งร้องเพลงแน่ ด้าน “เบนซ์” ไม่โทษเทคนิคเหตุร้องเพลงเพี้ยนทั้งเพลง เพราะไม่ได้ยินเสียงตัวเอง ด้าน “ทรู” เซอร์ไพร์สดึง “ต้อย” กลับทำหน้าที่พิธีกร ส่วน “ปั๋ง” รับสุดทรมานกุมความลับรายการ
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับการแข่งขันทรูอะเคเดมีแฟนเทเชีย ซีซั่น 5 สัปดาห์ที่ 2 ในโจทย์เพลงที่อยากร้องของบรรดานักล่าฝันชาย ที่มีเหตุต้องได้ออกจากบ้านอะคาเดมี่ ไปอีก 2 ราย และในสัปดาห์นี้เซอร์ไพร์สแรกของคอนเสิร์ต ก็เปิดตัว “ปั๋ง ประกาศิต โบสุวรรณ” ที่รับหน้าที่พิธีกรมาหนึ่งสัปดาห์ ที่มีทั้งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำหน้าที่พิธีกรแทน “ต้อย เศรษฐา” ต่างๆ นานา แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางผู้บริหารทรูเองจะเผยว่าให้ “ปั๋ง ประกาศิต” รับหน้าที่แทนตลอดรายการ แต่ในสัปดาห์นี้ “ต้อย เศรษฐา” กลับมารับหน้าที่แทน “ปั๋ง” แล้ว เรียกว่าคนดูปรบมือและส่งเสียงกรี๊ดต้อนรับ การกลับมาของพิธีกรและนักร้องรุ่นใหญ่ชื่อดังสนั่นฮอลล์ทีเดียว
ส่วนคอมเมนเตเตอร์ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ “ปั๋ง ประกาศิต” ที่ลงจากตำแหน่งพิธีกรชั่วคราวมารับตำแหน่งเดิม,ไก่ สุธี และ เอ๋ นรินทร ณ บางช้าง ที่มาในทรงผมใหม่ ก่อนที่นักล่าฝันชายทั้ง 8 คน จะออกมาวาดลวดลายร้องเพลงกันชนิดที่เรียกว่าโหวตกันไม่ถูกเลยทีเดียว เริ่มต้นจากหนุ่มอารมณ์ดี หน้าเด็ก “รอน V12” ที่มาในเพลง “เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ” ก็สามารถทำออกมาได้ดี แม้ว่าพลังเสียงจะยังไม่ถึงขั้นทรงพลังแต่ก็สามารถคุมโชว์ออกมาได้ดี ตามมาด้วยนักล่าฝันชายร่างใหญ่เสียงดีอีกคนอย่าง “แต๊บ V3” ที่มาในเพลง “ที่ฉันรู้” ทำออกมาได้ดี และได้รับคำชมจากคอมเม้นท์เตเตอร์และคนดูปรบมือเป็นกำลังใจให้สนั่นฮอลล์
ส่วนหนุ่ม “นัท V13”ที่มาในเพลง “ใจหนึ่งก็รัก อีกใจก็เจ็บ” น้ำเสียง และการแสดงออกบนเวทีดูดี แต่ยังเปล่งเสียงแข่งกับดนตรีไม่ได้ เสียงเบาและอาจต้องมีการแก้ไข ต่อกันด้วย “ว่าน V15” ที่สัปดาห์ที่แล้วร้องเพลงได้ดีมาก จนได้รับคำชม แต่มาสัปดาห์นี้อาจจะด้วยความเกร็งและตื่นเต้นจึงทำให้ร้องไม่ดีนัก จำเนื้อเพลง “คืนใจ” บางท่อนไม่ได้ ต่อกันที่ “เบียร์ V2” หนุ่มจากชาวคลิป เช่นเดียวกับ “ว่าน V15” วันนี้หนุ่มเบียร์มาในเพลง “Girlfriend” เสียงร้องอาจไม่โดดเด่นแต่ลีลาและการเต้น รวมทั้งการเอ็นเตอร์เทนคนดู เบียร์ถือว่าทำได้ดีทีเดียว
ต่อกันที่หนุ่ม “ปั๊ม V8” ที่แม้ว่าสัปดาห์ที่แล้วจะร้องเพลงคร่อมจังหวะ แต่มาสัปดาห์นี้ทำการบ้านมาดี ส่งให้เพลง “กล้าพอไหม” คนส่งกำลังใจให้ค่อนข้างมาก แม้จะยังร้องเพี้ยนอยู่บ้างแต่ก็สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ดี มาถึงหนุ่มเสียงดี ที่ร่อแร่ยืนปากเหวมาตั้งแต่คราวที่แล้วอย่างหนุ่ม “เบนซ์V4” มาคราวนี้ร้องเพลง “รักเธอเสมอ” ซึ่งตอนร้องมีปัญหาเรื่องการฟัง เนื่องจากเครื่องเอียร์มอนิเตอร์เกิดดับไม่ได้ยิน จึงทำให้หนุ่มเบนซ์ร้องเพี้ยน แต่ก็สามารถร้องออกมาได้จนจบเพลง และได้รับเสียงปรบมือเป็นกำลังใจค่อนข้างมากอีกเช่นกัน
มาถึงหนุ่ม “กี๋ V14” หนุ่มร็อกปิดท้ายด้วยเพลง “อกหัก” ของ “บอดี้สแลม” ที่เรียกคนทั้งฮอลล์ให้สนุกและร้องตามได้ ส่วนบรรดานักล่าฝันสาวๆ ก็มาโชว์คั่นในเพลงละลาย ของ “โฟร์มด” จาก “หนิม V9”, “กรีน V16” และ “มิกกี้ V10” ส่วนอีก 3 สาว “โบว์ V5”, “พริ้งV1” และ “กู๊ด V10” มาโชว์ในเพลง “รักฉันเรียกว่าเธอ” และส่งโชว์สุดท้ายด้วยเพลงความหมายดีๆ จากทั้ง 6 สาวด้วยเพลง “กลับมาหาเพื่อน”
ก่อนที่ “ต้อย เศรษฐา” จะประกาศผลผู้ที่มีผลป๊อบปูล่าโหวตน้อยที่สุด 3 อันดับจากฝั่งออดิชั่นสด ซึ่งมี “แต๊บ V3", “กี๋ V 14” และ “เบนซ์ V4” สุดท้ายหนุ่มเบนซ์เป็นผู้มีผลคะแนนป๊อบปูล่าโหวตน้อยสุด ต้องเดินออกจากบ้านไป ส่วนฝั่งคลิป ได้แก่ หนุ่ม “เบียร์ V2” ที่ต้องออกจากบ้านไปทั้งน้ำตา ปิดฉากคอนเสิร์ตสัปดาห์ที่ 2 เหลือนักล่าฝัน 12 คน กลับเข้าสู่บ้านเอเอฟในสัปดาห์ที่ 3 ต่อไป
“เบนซ์” ไม่โทษเทคนิค บอกตนทำดีที่สุดแล้วแต่อาจดวงไม่ดี
ภายหลังคอนเสิร์ตหนุ่มเบนซ์เปิดใจถึงการเดินออกจาบ้านอะคาเดมี่ครั้งนี้ ว่า ตนไม่ติดใจโทษเรื่องเทคนิคที่ทำให้ตนไม่ได้ยินเสียงตัวเองในการร้อง แต่โทษดวง ลั่นเสียดายโอกาสแต่เข้มแข็งพอที่จะยอมรับผลการตัดสิน และไม่คาดหวังการโหวตกลับ
“เบนซ์มีประสบการณ์จากวีกแรกมั้ง กับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เราไม่โทษใคร มันก็เกิดขึ้นได้ อะไรจะเกิด เราทำสิ่งที่ดีที่สุดให้ดีแล้วกัน เราก็อาจจะไม่ได้ยิน เราเอาอารมณ์ออกมาให้ดีที่สุด เบนซ์ว่าเบนซ์ทำดีที่สุดแล้ว ทุกคนคงจะรู้ว่าในบ้านทุกคนรู้ว่าเบนซ์ร้องอย่างไร แต่พอมาวันนี้ไม่เป็นไรครับ เข้มแข็งครับ ไม่โทษเรื่องเทคนิคครับ มันเกิดแล้วไม่มีใครอยากให้เกิดหรอก ทุกคนอยากให้มันออกมาเพอร์เฟ็กต์ อยากให้มันออกมาดีทั้งนั้นแหละครับ ไม่มีใครอยากพลาดแน่นอน ไม่มีปัญหาด้วยอาจจะเป็นดวงมั้งครับ อย่างไรก็สู้ต่อไปครับ”
“ก็คงต้องโทษดวงมั้งครับ คนทางบ้านก็คือเกี่ยวมันก็เกี่ยวกับการโหวตนะ แต่ถ้าผมมาทงานมีผลงานอะไรออกมาก็คงเข้าใจว่าเราไม่ได้ร้องแย่ขนาดนั้น เขาคงเข้าใจได้ในภายหลัง ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายทุกคนต้องเข้าใจ”
“เสียงปรบมือวันนี้เป็นอะไรที่ดีครับ ถ้าเบนซ์ร้องดีอาจไม่ได้เสียงปรบมือขนาดนี้ก็ได้ มันเหมือนพอรู้ตัวก็รู้ว่าเสียงมันดับ มันบอกว่าอย่าหยุดร้อง ตอนแรกวอกแวก มันมาทั้งเพลงแล้วไม่ได้ยินเสียงตัวเองแล้ว ก็สู้ต่อ ก็ดีใจ จะไม่มีวันลืมวันนี้เลย เบนซ์ไม่เสียใจเลยที่ได้ร้องเพลงวันนี้ เบนซ์ไม่หวังโหวตกลับนะ ไม่ได้คิดอะไรเพื่อโกหกตัวเองให้เข้า ก็ปล่อยไปเลย จะโหวตกลับก็ได้ อะไรจะเกิดก็เกิด เบนซ์เป็นแบบนี้ไม่คิดล่วงหน้าครับ”
ยอมรับเสียดายโอกาสส่วนอนาคตจะได้ออกเทปหรือไม่นั้น เจ้าตัวเผยต้องอยู่ที่ผู้ใหญ่จะเล็งเห็นความสามารถของตนหรือไม่
“ผมคิดเสมอว่าเวลาร้องเพลงเนี่ยออกคอนเสิร์ตให้คิดว่ามันคือวีกสุดท้ายของเรา เพราะเราได้ทำเต็มที่ เบนซ์คิดตลอด แต่ออกก็คือออกเราต้องรับความจริง พอมายืนวันนี้ก็ยอมรับ แต่สิ่งที่มันคุมไม่อยู่คือความรักเพื่อน มันสนิทกันมาก เพราะว่าเรากินนอนด้วยกัน สนิทกันเร็วมาก ถ้าไม่ใช่คนที่กินนอนด้วยกันอาจไม่สนิทกันก็ได้นะ มันผูกพันมาก เรารู้สึกเป็นห่วงกัน ก็เลยร้องไห้กัน อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด”
“เสียดายก็ยังมีนะก็เสียดายนะ มันก็เสียดายนะโอกาสดีเด็กต่างจังหวัดมาอยู่ 2 สัปดาห์ก็พอใจแล้ว จากนี้ก็คงออกเทปครับ นั่นแน่.. (หัวเราะ) ตรงนี้เบนซ์ยังไม่คิดอะไรนะ แต่ว่าจะออกไปเรียนก่อน อนาคตก็ต้องดูทางผู้ใหญ่ว่าให้โอกาสเบนซ์อีกหรือเปล่า ยังเห็นความสามารถของเราหรือเปล่าทำหน้าที่ต่อไป”
“เบียร์” น้ำตาแตกออกจากบ้านเอเอฟ ลั่นไม่ทิ้งร้องเพลงแน่นอน
ด้านหนุ่มจอมขี้แย ของบ้านเอเอฟ “เบียร์ V2” ลั่นเสียใจกับการต้องเดินออกจากบ้านอะคาเดมี่ครั้งนี้ แต่ตนก็ถือว่าทำดีที่สุดแล้ว แม้จะออดิชั่น 2 ปี แต่ก็ยังไปไม่ถึงฝั่งฝันก็ตาม
“รู้สึกว่าเราทำเต็มที่แล้วจะออกมายังไงไม่เสียใจ ยังคิดถึงเพื่อนๆ ตอนประกาศก็รู้สึกตกใจ แต่ก็ไม่เสียใจครับ เพราะว่าเราทำเต็มที่ ไม่น่าเชื่อว่าผมจะทำได้ถึงขนาดนี้ คือ ปีที่แล้วเบียร์ก็ติด 1 ใน 50 ก็คือ เหมือนปีที่แล้วอกหักมาแล้วมาปีนี้ก็ไม่ได้เป็นตัวจริงมีความรู้สึกตรงนี้ไม่ท้อนะครับ แค่ได้มา 2 วีกนี้ก็ถือว่าดีใจ และขอบคุณมากๆ ที่เลือกผมเข้าไปเป็น 1 ใน 16 ดีใจแล้วครับแค่นี้”
“ตอนนี้คงอาจจะหยุด หยุดดูตัวเองก่อนสัก อาทิตย์ 2 อาทิตย์ แล้วก็ค่อยๆ นึกว่าเราจะไปลำดับไหนก่อนดีครับจะก้าวไปไหนก่อน จะไปเรียนก่อนไหม หรือว่าอาจจะทำอะไรต่ออันนี้ยังไม่ทราบ ตั้งหลักก่อน เรื่องร้องเพลงก็ยังไม่หยุดแค่นี้ ยังไงก็ยังไม่หยุด และรู้สึกว่าพัฒนาขึ้นเยอะมากครับ เยอะจริงๆ”
ส่วนความยุติธรรมในการโหวตออกทางคลิป กดดันตนหรือไม่นั้น เจ้าตัวบอกแข่งขันกับตัวเองมากกว่า ก่อนฝากเพื่อนในบ้านดูแลตัวเอง
“ทั้งหมด 4 คนคลิปเนี่ย แนน โบ เบียร์ หรือว่าทุกคนมีศักยภาพพร้อมที่จะเป็นนักล่าฝัน ยังไงก็ไม่ซีเรียส ถามว่ากดดันไหม ไม่กดดันนะคับเพราะว่าสู้กับตัวเองมากกว่าที่จะสู้กับคนอื่น แข่งกับตัวเองมากกว่า เพราะถึงยังไงก็มันก็ต้องเป็นคนใดคนหนึ่งอยู่ดี เราสามารถทราบได้
“ปั๋ง” บ่นทรมานเก็บความลับ ทำหน้าที่พิธีกรแทน “ต้อย” แค่สัปดาห์เดียว
ภายหลังจบคอนเสิร์ต “ปั๋ง ประกาศิต” เปิดใจต่อการเข้ารับหน้าที่พิธีกรในครั้งนี้ ว่า เพราะทางผู้บริหารทรูขอร้องให้มารับหน้าที่แทนก่อน และตนต้องเก็บเป็นความลับ ทั้งที่มีการมองไว้หลายคนแล้วทั้ง นีโน่ เมทนี, ดู๋ สัญญา แต่อาจสู้ค่าตัวไม่ไหว บอกทรูให้เหตุผลที่เลือกตนเพราะเป็นคนเอเอฟแล้ว
“ก็คุยกันมาตั้งนานแล้วครับ ตั้งแต่แรก ผมเองก็ลำบากใจ เพราะว่าผมเองก็ต้องเก็บความลับนี้ไว้เสมอครับ จริงๆ เรื่องของเรื่องไม่มีอะไร คือ อาต้อยมีงานคอนเสิร์ตที่ได้คอนเฟิร์มไว้แล้วตั้งแต่แรกเลย แล้วผู้บริหารทางยูบีซีก็มาบอกผม ซึ่งโอ้โหเป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นมาก เพราะว่ามาหาผมที่บ้านตอนประมาณตี 1 ที่ต้องมา เพราะวันรุ่งขึ้นผมต้องเดินทางไปมาเก๊า 5 วัน แล้วผมกลับมาคืนวันศุกร์ วันเสาร์ผมทำงานเลย สคริปต์ก็เพิ่งมาเห็นที่นี่เมื่อวันแรก และเนื่องจากเราเป็นชาวเอเอฟก็มีหลายๆ คนที่เลือกดูอยู่ เพียงแต่ว่าคนเหล่านั้นไม่ได้เป็นชาวเอเอฟ เขาว่าอย่างนั้นกันนะครับ คำถามแรกที่ผมถามว่าถ้าผมไม่รับจะทำอย่างไร ผู้บริหารเขาก็บอกว่าไม่มีใครแล้ว แล้วผมก็เป็นชาวเอเอฟด้วย ผมกดดันมาก”
“ผมก็ถามเขาว่าถ้าผมไม่ทำ มีคนที่รองจากผมไหม ถ้าผมไม่รับ เขาบอกไม่มี แล้วจะให้ทำอย่างไร คนรู้จักกัน แต่ถ้ามองในอีกมุมหนึ่ง ผมก็ว่ามันท้าทายดีนะครับ และไม่เป็นไร ผมก็พยายามทำให้ดีที่สุด”
“การเก็บความลับก็ทรมาน มากครับ (หัวเราะ) ก็จะมีคำถามเข้ามาต่างๆเข้ามาตลอด ว่าผมจะมาทำตลอดไหม จนกระทั่งผมก็ไม่รู้ว่าจะบอกอย่างไรดี บอกไม่ได้ ถ้าบอกเขาก็จะหาว่าเราไม่เก็บความลับ แล้วที่สำคัญคือผมเพิ่งรู้ว่าผมต้องมาทำ ก่อน คือถ้าผมไม่บินไปเมืองนอก เขาอาจจะบอกผมใกล้กว่านี้อีก อันนี้ผมบอกทีมงานว่าผมต้องไปมาเก๊าเช้าวันอังคาร เขามาหาผมที่บ้านตี1วันจันทร์ มาก็มาคุยที่บ้าน ก็ดีครับ สนุกดี”
“ที่เขาเล่าให้ฟังว่าตอนแรกนะ ผมถามคำถามพี่บอย ว่า พี่ครับถ้าผมไม่รับ มีคนที่พี่จะไปเจอต่อไหม เขาบอกไม่มี เขาก็มองไว้ที่ผม แต่ตอนแรกที่เขาดูไว้มีพี่นีโน่, พี่ดู๋ สัญญา, พี่ฮาร์ท สุทธิพงษ์ ผมไม่รู้ว่าคนเหล่านี้ปฏิเสธหรือว่ายังไงผมไม่ทราบ เขาก็เล่าให้ฟังทั้งหมด”
บอกเสียงตอบรับในการทำหน้าที่พิธีกรมีทั้งคนวิจารณ์ดีและไม่ดี..
“ก็มีทั้งดีและไม่ดี มีอย่างนี้ด้วยนะ บางคนบอกโอ้โหทำไมเรียบร้อยจัง เกร็งจังเลย แต่พอเดินมาสักแป๊บ โอ้โหทะเล้นมากเลย ทำไมขี้หลี อ้าวเรางง ก็จะเจออย่างนี้ทุกวันเลย ผมก็เลยไม่รู้จะยังไงดี ก็ดีเป็นประสบการณ์อันหนึ่งในชีวิตครับ”
ส่วนกรณีหนุ่ม “เบนซ์ V4” ต้องออกจากบ้านเอเอฟนั้น ยอมรับเรื่องเทคนิคการได้ยินเสียงมีส่วนทำให้ร้องเพี้ยน บอกทีมงานต้องแก้ไข เพราะมีผลกระทบต่อคนดูทางบ้านที่อาจได้ยินนักล่าฝันร้องเพี้ยนแล้วไม่โหวต
“มีผลมาก เพราะว่าโมเดิร์นไนน์ไม่มีช่วงที่คอมเมนเตเตอร์ แสดงว่า ชาวบ้านได้ดูแต่ตอนที่น้องร้องเพี้ยนๆ แล้วกลับมาอีกทีอาจจะเป็นคนที่ 3 หรืออาจจะไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น หรือฟังอาจจะไม่รู้เรื่อง เอียร์มอนิเตอร์ใครจะรู้เรื่อง ซึ่งน่าจะมีผลนิดๆ และก็คงต้องแก้ไข แต่ผมมองว่ามันเป็นเรื่องของ คราวที่แล้วเขาก็อยู่ปากเหวอยู่แล้วนะ อาจจะเป็นเรื่องดวงชะตา แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่นะครับ อย่างที่ผมเคยบอกมาเสมอว่าไม่ว่าใครจะอยู่หรือใครจะไป ถ้าตั้งใจแล้วมีพรสวรรค์ มีดวงที่ดี มันก็ได้ดีเองครับ”
แนน-เดียร์” ร่วงเอเอฟสัปดาห์แรก ด้าน “ทรู” บอกออกแค่ 2 คน เป็นลูกเล่นรายการ
“เอเอฟ 5” เข้าบ้านแล้ว "ทรู" เผยสัปดาห์แรกออก 4 คน
ผู้บริหาร "ทรู" แจงเอเอฟ 5 ยังหาพิธีกรแทน "ต้อย" ไม่ได้
“นัท” เอเอฟ 5ยันแค่ดูแลตัวเอง แต่ไม่ใช่เกย์
“กี๋” โต้เกาะกระแส “ต่าย ซีซั่นเช้นจ์” เข้าบ้านเอเอฟ
“นัท” ยันเข้ารอบเอเอฟ 5 ไม่เกี่ยวนามสกุล “ทิวไผ่งาม
เปิดตัว เอเอฟ 5 นักล่าฝันช็อกผลจนเป็นลมล้มตึง!
16 นักล่าฝัน “AF5” มาแล้ว จับตา “ลูกคนดัง-แฟนดารา” เข้ารอบ