สิ่งหนึ่งที่ รูธ เรนเดลล์ – ราชินีอาชญนิยายของเกาะอังกฤษ – พยายามจะบอกเป็นนัยๆ กับผู้อ่านในหนังสือทุกเล่มของเธอก็คือ เราทุกคนสามารถเป็นอาชญากรได้
อาชญากรรมอาจเป็นเรื่องของเหตุและผลสำหรับบางคน แต่เรนเดลล์เชื่อว่า อาชญากรรมเป็นเรื่องของจังหวะเวลา มันไม่ต่างอะไรกับสิ่งที่เรียกว่า “พรหมลิขิต” เลย ซึ่งทั้งสองอย่าง มันเป็นสิ่งที่เราไม่มีสิทธิควบคุมได้
เราทุกคนที่มักจะเข้าใจว่า เราต่างมีศีลธรรมในจิตใจมากพอ เรามีชีวิตที่ดีและอาจจะไม่ต้องขวนขวายอะไร เราพอจะมีความเมตตามากกว่าการคิดพยาบาทโกรธแค้น
แต่ก็นั่นเอง ไม่มีใครเกิดมาเป็นโจรโดยสันดาน พวกเขาก็เหมือนเราๆ ท่านๆ ที่ “แรงจูงใจ” ประจวบเหมาะกับเวลาที่ขาด “การยับยั้งชั่งใจ” เพราะฉะนั้นอาชญากรรมของรูธ เรนเดลล์จึงเกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน ไม่มีการวางแผนใดๆ ที่ซับซ้อน
การลงมือฆ่าใน No Night Is Too Long (นิยายที่เรนเดลล์ใช้นามปาก บาร์บารา ไวน์) ก็เช่นเดียวกัน มันเกิดขึ้นในจังหวะที่คนดูไม่คาดคิด และการหาทางออกของตัวละครก็ไม่ได้อยู่นอกเหนือเหตุผลและความเป็นไปได้
ทิม เป็นเด็กหนุ่มท่าทางเรียบร้อยคนหนึ่ง เขาอาศัยอยู่กับแม่ที่ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ มาตั้งแต่พ่อเสียไป ทิมจึงเหมือนอยู่คนเดียวในบ้าน เขาคบหากับแฟนสาว-ซึ่งเป็นเพื่อนที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่ความสัมพันธ์เป็นไปอย่างจืดชืด นั่นต้องหมายรวมถึงชีวิตของทิมด้วย
จุดหักเหมาถึง เมื่อทิมได้พบกับ ดร. อิโว อาจารย์สอนวิชาโบราณคดีซึ่งมีพฤติกรรมน่าสงสัย เขาเดินตามทิมไปทุกที่ ก่อนที่จะบอกเหตุผลว่า เขาสนใจเด็กหนุ่มในเชิงชู้สาว ทิมกับอิโวก็เหมือนน้ำมันกับไฟ นอกจากจะจุดติดในเสี้ยววินาทีแล้ว มันยังร้อนแรงเผาผลาญทุกสิ่งที่อยู่รายรอบ
ในทีแรกทิมดูจะมีความสุขกับการอยู่กับอิโวมากทีเดียว แต่ความคาดหวังที่มากขึ้นถูกทำลายลงเรื่อยๆ เมื่ออีกฝ่ายกลับเย็นชา และเห็นเด็กหนุ่มเป็นแค่ของเล่นทางเพศ
ในตอนที่อิโวจะต้องเดินทางไปอลาสก้ากับคณะทัวร์ที่ต้องการไปชมภูเขาในเขตขั้วโลก ทิมขอร้องที่จะติดตามไปด้วย ?และนั่นก็นำไปสู่ความบาดหมางครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างทั้งคู่
ฉบับภาพยนตร์โทรทัศน์ซึ่งกำกับโดย ทอม แชงค์แลนด์ (ออกฉายทางสถานีโทรทัศน์บีบีซีในปี 2002) ขยายเนื้อหาในส่วนความหลังของทิมให้มีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น ทุกครั้งที่ทิมนึกถึงอดีตฝังใจในตอนเด็ก ภาพถูกปรุงแต่งให้เหมือนกับความฝันจางๆ เหตุการณ์ถูกปะติดปะต่ออย่างกะท่อนกระแท่น แต่แสนงดงาม
ภาพในฝันของทิมย้อนไปตอนที่เขาอยู่ชั้นประถมในโรงเรียนประจำชายล้วน ความสนิทชิดเชื้อระหว่างเขากับรุ่นพี่คนหนึ่งกลับแนบแน่นมากกว่าธรรมดา นั่นเป็นรักครั้งแรกและการผจญภัยทางเพศอันแสนหฤหรรษ์ที่กลายเป็นปมขัดแย้งในใจ
สิ่งที่ได้รับการเริ่มต้น แต่ไม่ได้ถูกเติมเต็มกลายมาเป็นเรื่องสำคัญในชีวิตของทิม เขาตั้งใจให้ความรักของเขาและอิโวเป็นไปอย่างสมบูรณ์ แต่ก็ไม่ใช่ และเมื่อเขาได้เจอกับ อิซาเบล - หญิงสาวลึกลับที่เขาเจอระหว่างการรออิโวที่อลาสก้า – มันเกิดขึ้นอย่างง่ายๆ เขารักอิซาเบล และภาระที่ต้องสะสางให้เสร็จ คือการเลิกรากับอิโว
อย่างที่คนดูไม่คาดคิด อิโวกลับปฏิเสธคำขอนั้น เพราะความจริงก็คือเขารักเด็กหนุ่มสุดหัวใจ แต่ความรู้สึกและการแสดงออก ทำให้ทิมเข้าใจผิดมานานและไกลเกินไปแล้ว
ทั้งคู่มีปากเสียงกันเลยน้อย ตอนที่คณะทัวร์แล่นเรือไปยังเกาะแห่งหนึ่ง ทิมและอิโวทะเลาะกันอีกครั้ง ทิมผลักอีกฝ่ายล้มลงหัวฟาดพื้น และในช่วงที่เกิดภาวะคับขัน ทิมเลือกที่จะเดินหนี และปล่อยให้อิโวอยู่บนเกาะร้างเพียงลำพัง
ลี วิลเลี่ยมส์ ในบทของ ทิม แสดงออกถึงอารมณ์สับสนของตัวละครได้อย่างดีเยี่ยม เขาหวาดกลัวอย่างทุรนทุราย และแม้แต่ในตอนที่เขาเป็นฝ่ายกระทำบ้าง เขาก็ยังดูตกเป็นเหยื่ออยู่นั่นเอง
มาร์ค วอรเร็น นักแสดงอังกฤษหน้าดุ รับบทเป็น อิโว ท่าทีขึงขังของเขาไม่ได้ทำให้คนดูรักหรือเอาใจช่วยเลย เช่นเดียวกับทิม แม้แต่ในตอนที่เขาโดนทำร้าย คนดูก็กลับไม่รู้สึกว่าเขาเป็นเหยื่อ
นับจากตอนนั้น หนังก็เข้าสู่บรรยากาศระทึกขวัญทันที ทิมใช้เวลาเกือบปีตามหาอิซาเบลแต่ไม่พบ ในขณะที่เขาพยายามหนีความผิด เด็กหนุ่มกลับรู้สึกว่าอิโวยังอยู่รอบๆ ตัวเขาตลอดเวลา
แต่ละคืนผ่านไปอย่างโหยหวนสำหรับทิม เขานอนหลับฝันดีถึงรุ่นพี่คนนั้น ก่อนจะตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อรับรู้ฝันร้ายที่ว่า เขาได้ฆ่าใครคนหนึ่งไปแล้วอย่างเลือดเย็น ในซีเควนซ์นี้ หนังบังคับให้เราเห็นทิมเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น
นอกเหนือจากการสร้างเหตุฆาตกรรมจากเรื่องธรรมดาสามัญที่คนอ่าน (หรือคนดู) สามารถวางตัวเองไว้ในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกับตัวละครแล้ว การวางเงื่อนไขของพล็อตเรื่องในตระกูลเขย่าขวัญ ก็ยังถูกวางเป้าหมายเสียใหม่ด้วย
โดยปกติแล้ว เราจะได้อ่าน (หรือดูหนัง) เขย่าขวัญประเภท Whodunit หรือ “ใครฆ่า” เสียเป็นส่วนใหญ่ วัตถุประสงค์ของมันคือการหลอกล่อคนอ่านหรือคนดูว่า ใครเป็นผู้ลงมือฆ่า และการล้อเล่นกับคนดู ก็มักจะอยู่เหนือความคาดหมายทั้งหมด (ซีรีส์ชุด CIS เป็นอาทิ)
รูธ เรนเดลล์มักจะบอกคนดูเสียก่อนแล้วว่า ใครคือคนฆ่า พ้นจากนี้ สิ่งที่คนดูจะต้องเอาใจไปจดจ่อก็คือ ฆาตกรจะสำนึกผิดได้หรือไม่ หรือเขาจะเอาตัวรอดจากการถูกจับได้อย่างไร
เพราะฉะนั้น บ่อยครั้งเหลือเกินที่ตัวละครที่ลงมือกระทำความผิด มักจะเป็นตัวละครที่คนอ่าน (หรือคนดู) เอาใจช่วย ตัวละครเหล่านี้ตกเป็นเหยื่อของความพลาดพลั้งเพียงหนเดียว และไม่สามารถต่อกรกับความรู้สึกผิดบาปได้
พูดให้จำเพาะเจาะจงลงไปกว่านั้น ตัวละครเหล่านี้ (เช่น ทิม) ก็คล้ายคลึงกับคนที่เราๆ ท่านๆ ได้พบเจอในชีวิตประจำวันนั่นเอง
ทิมหรือคนเหล่านั้นไม่ได้วิเศษวิโสไปกว่าใคร ไม่มีพลังอำนาจพิเศษ ที่จะลบล้างความผิดของตนเองได้ พวกเขาหายใจเข้าออกอย่างหวดระแวง และพวกเขาเป็นคนที่ไม่มีความสุขที่สุดในโลก
No Night Is Too Long คลี่คลายอย่างที่เราไม่คาดฝัน แต่มันก็ไม่ใช่การหักมุมเพื่อเอาสนุกท่าเดียวแน่ๆ หากแต่มันสื่อความไม่แน่นอน อันเป็นสิ่งที่มนุษย์ไปควบคุมมันไม่ได้
เราอาจจะคิดว่า ชีวิตของเราห่างไกลกับเรื่องพรรค์นี้เหลือเกิน แต่ก็อย่างที่เราเห็นกันตามหน้าหนังสือพิมพ์ บางทีการมีระแวดระวังอย่างมีสติ - ก็ช่วยอะไรไม่ได้