ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีทีเดียวสำหรับหนังไทยนอกกระแสอย่าง "Wonderful Town : คนเหงา เมืองงาม" ผลงานการกำกับของ "อาทิตย์ อัสสรัตน์" ที่ได้รับการต้อนรับและไปคว้ารางวัลจากเวทีต่างประเทศมาหลายต่อเทศกาลภาพยนตร์ อาทิ New Currents Award เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน เกาหลีใต้, VPRO Tiger Award เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติร็อตเทอร์ดัม, Special Jury Prize เทศกาลภาพยนตร์เอเซียเมืองโดวิล ฝรั่งเศส และ FIPRESCI Award เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติฮ่องกง
"ผมมีความสุขที่หนังได้เป็นที่รู้จักในเทศกาลต่างๆ มันเป็นหนังเรื่องแรกของผม และผมยังเพิ่งเริ่มต้นในสิ่งที่ผมทำอยู่..." ผู้กำกับซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงของวงการหนังสั้นจากผลงานอย่าง มอเตอร์ไซค์, Boy Genius ฯ เผยถึงความรู้สึกต่อเสียงตอบรับในการกำกับหนังยาวเรื่องแรกของตนเอง
“โชคดีที่ผมได้รับทุนสนับสนุนจากต่างประเทศค่อนข้างเยอะ แต่สุดท้ายก็ต้องทำหนังเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เพราะว่าคนอื่นเขาไม่อยากทำน่ะ ค่ายไม่อยากทำหนังเล็กๆ น่ะ ค่ายเขาชอบทำหนังใหญ่ๆ อย่างโหน่งเท่ง อะไรพวกนั้น”
"การได้รางวัลก็เหมือนกับการได้รับการชมเชยว่าทำงานดี เหมือนกับคำพูดที่ว่า...หนังเรื่องแรกของคุณไม่เลวเลยนะ สร้างต่อไปและอย่าหมดหวัง เราคิดว่างานของคุณมีศักยภาพ...ผมคิดว่าสำหรับผู้กำกับหนังยาวเรื่องแรก นี่เป็นสิ่งที่ค่อนข้างสำคัญ มากกว่าเงินทองหรือโล่ห์เกียรติยศที่ได้รับ"
เมือง "ตะกั่วป่า" จังหวัดพังงา เป็นจุดเริ่มต้นทุกอย่างในหนังเรื่อง Wonderful Town มันเป็นเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ คลอด้วยเสียงคลื่นและนกร้อง, ประปรายด้วยโรงแรม รีสอร์ท ตึกแถว พร้อมต้นไม้ร่มรื่นรกครึม, ภูเขาโอบล้อมทะเล ทะเลโอบชายหาด, ท้องฟ้าสีฟ้าสด ตกเย็นเป็นสีชมพูอ่อนตัดกับภูเขาสลับซับซ้อน, ผู้คนใกล้ชิดรู้จักกัน
โดยอาทิตย์ได้บอกถึงจุดเริ่มต้นของการสร้างหนังเรื่องนี้ว่า...
"ผมได้แรงบันดาลใจในการสร้างหนังเรื่องนี้จากการได้ไปที่เมืองตะกั่วป่า จังหวัดพังงา หนึ่งปีหลังจากเหตุการณ์สึนามิ ผมไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน และผมรู้สึกกระทบใจอย่างแรงจากบรรยากาศภายในเมือง มันเป็นเมืองที่สวยงาม เงียบ เก่า และเต็มไปด้วยความเศร้าจากโศกนาฏกรรมสึนามิที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน ถ้าเปรียบเมืองนี้เป็นคนคนหนึ่ง น่าจะเป็นหญิงชราที่เศร้าแต่งดงาม"
หนังรักเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของ "ต้น" หนุ่มสถาปนิกชาวกรุงเทพที่เดินทางมาตะกั่วป่าเพื่อคุมงานสร้างรีสอร์ท กับ "นา" หญิงสาวในพื้นที่เจ้าของโรงแรมขนาดย่อมหลังปั๊มน้ำมัน ทั้งคู่พบเจอกัน ณ โรงแรมเก่าแก่ของฝ่ายหญิงซึ่งกำลังซบเซา บรรยากาศเงียบเหงา อารมณ์ที่เคว้งคว้าง ผนวกกับความเงียบสงบ และร่องรอยแห่งความเสียหายจากโศกนาฏกรรม พวกเขาตกหลุมรักกันและเริ่มความสัมพันธ์กันอย่างลับๆ แต่ไม่สามารถเร้นรอดจากสายตาของคนในเมืองไปได้
....ความรักของคนทั้งคู่ อาจจะไม่ต่างจากโศกนาฎกรรมของเมือง ที่ท้ายสุด แม้แต่ความพยายามฟื้นตัวจากการสร้างสิ่งก่อสร้างใหม่ๆ ก็ไม่ได้ทำให้ความปวดร้าวนั้นมลายหายไปได้ง่าย
"ความต้องการของผมคือการเล่าเรื่องคนสองคนที่ได้มาพบกันท่ามกลางบรรยากาศของเมืองที่เป็นอยู่ เป็นหนังที่เต็มไปด้วยความเรียบง่ายและความคิดธรรมดา ผมไม่มีความตั้งใจที่จะทำหนังสึนามิความตั้งใจแรกของผมคือการสร้างหนังรัก"
ถือเป็นเรื่องที่ยากเหลือเกินกับการที่หนังนอกกระแสเช่นนี้จะมีโอกาสฉายให้คนทั่วไปได้ชมกัน แต่ Wonderful Town ก็ได้รับโอกาสที่ว่าในการเตรียมที่จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไทยครั้งแรกภายใต้โครงการ Director’s Screen (Director’s Screen Project) จัดทำโดยกลุ่มคนทำหนังอิสระ ร่วมกับเอสเอฟ ซินีม่า ซิตี้ ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ที่เอสเอฟ เวิลด์ ชั้น 7 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า วันละ 1 รอบ ทุกวัน เวลา 19:30 น. และจะฉายติดต่อกันนาน 4 สัปดาห์ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถโทรไปสอบถามรายละเอียดได้ที่ 086-412-2289
"ผมไม่ได้หวังว่างานชิ้นนี้จะประสบความสำเร็จมาก เพราะหนังของผมไม่ใช่หนังกระแสหลัก แต่หนังไทยควรมีโอกาสฉายที่เมืองไทย และผมหวังว่าคนไทยจะชอบมันครับ..." อาทิตย์กล่าวทิ้งท้าย