"เท่ง" แจงข่าวเปล่าเกาเหลา "โน้ต" เหตุดึง "โจอี้ บอย" เสียบแทนหนัง "หลวงพี่เท่งภาค 2" พร้อมโต้ข่าวมั่วโก่งค่าตัวแสนแพง ส่วนความรู้สึกต่อเจ้าพ่อแร็พนั้นบอกเฉยๆ เพราะเห็นหน้าก็ขำแล้ว ย้ำไม่อยากให้ทุกคนเอามาเปรียบเทียบเพราะคนละคนกันเล่น เปรยภาค 3 อาจจะขอมากำกับเองเพราะจะได้มีเวลาเล่นสมใจ
หลังจากที่ได้ข้อสรุปกันเป็นที่เรียบร้อย สำหรับภาพยนตร์ตลกสุดฮาเรื่อง "หลวงพี่เท่ง 2" ของผู้กำกับตลกแถวหน้าของเมืองไทย "โน้ต เชิญยิ้ม" ที่ล่าสุดได้เจ้าพ่อขาแร็พเมืองไทยอย่าง "โจอี้ บอย" มาสวมบทพระสงฆ์นักพัฒนาแทนที่หลวงพี่เท่งในภาคแรกที่แสดงโดย "เท่ง เถิดเทิง" ทำให้มีกระแสข่าวออกมาว่า "โน้ต-เท่ง" ทะเลาะกันถึงขั้นตัดขาดกันเลยทีเดียว
ล่าสุดมีโอกาสเจอ "เท่ง เถิดเทิง" ที่งานเดินรณรงค์ "เทวดาบังคับ ขับไม่ให้โทร" ที่สี่แยกปทุมวัน ของภาพยนตร์เรื่อง "เทวดาท่าจะเท่ง" เมื่อวันก่อน ตลกมากฝีมือเลยขอออกมาเปิดใจถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่าไม่เคยมีปัญหากันแต่ตนจำต้องเลือกงานหลักไว้ก่อน
"ไม่มีเลย ไม่มีปัญหาอะไรเลยกับพี่โน้ต ไม่มีปัญหากับใครทั้งสิ้น ทุกสิ่งทุกอย่างคนก็พูดกันไปปากต่อปาก ถามว่าผมอยากเล่นไหม ผมก็อยากเล่นนะ แต่เราต้องเอางานหลักของเราไว้ก่อน แต่ก็ไม่เป็นไร ยังมีปลอบใจอยู่คือหนังหลวงพี่เท่ง 3 ผมอาจจะได้กลับมาเล่นก็ได้"
"ผมคิดว่าหลวงพี่เท่งรูปนี้คงจะสึกยากนะ เพราะเท่าที่คุยกับพี่โน้ต เขาบอกว่าในหนังเรื่องนี้หลวงพี่เท่งไปทิเบต ไปเดินกับท่านลามะอยู่ แล้วกลับไปเยี่ยมญาติ(หัวเราะ)"
"คือถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดอีก ผมคิดว่าแน่นอน ถ้าเราทำเองเราจะกำหนดตัวเองได้ กำหนดคิวได้ แล้วเราทำงานแบบไม่เร่งรีบ อย่างหนังเรื่องคนมาหาเฮีย เราทำงานกันเอง คือเอาคิวโหน่งกับคิวผมเป็นหลัก แล้วเราทำงานก็ไม่ต้องรีบอะไรมาก"
ต่อข้อถามที่ว่าภาพยนตร์เรื่อง "หลวงพี่เท่ง ภาค 3" หนุ่มเท่งก็อยากจะขอเอามากำกับเอง เล่นเองใช่หรือไม่ ตลกชื่อดังเผยว่าอาจจะได้ลงมือทำงานกับ "โน้ต เชิญยิ้ม" ก็เป็นได้
"อาจจะมาร่วมด้วยช่วยกันก็ได้นะ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดผมคิดว่าคงเป็นไปอย่างนั้น เพราะว่าหลวงพี่เหมือนจะถูกโฉลกกันกับพี่โน้ตกับผม ถ้าทำไปแล้วไม่มีพี่โน้ตกับผมก็เหมือนว่ามันจะไม่สมประกอบ คือเรื่องนี้ผมเคยคุยกับพี่โน้ตแล้ว ขอพี่โน้ตแล้วให้พี่ทำภาค1 กับภาค 2 ส่วนภาค 3 ผมขอทำบ้าง"
"แต่มันก็ยังอีกนานเลย ไว้รอให้สมองว่างก่อน คิดไปเรื่อยๆ ก่อน น่าจะประมาณอีกสัก 2 ปีก็จะนิมนต์หลวงพี่เท่งมา แต่ถ้าทำจริงๆ ผมก็คงจะไม่ได้ลงทุนเองหรอกนะครับ มันคงเป็นผู้ใหญ่ลงทุนให้ ผมอยากจะทำนะ แต่ในอนาคตก็ยังไม่แน่ อาจจะมีเรื่องอื่นก่อนก็ได้"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวที่ว่าหนุ่มเท่งไม่ได้รับเล่นภาพยนตร์เรื่อง "หลวงพี่เท่ง ภาค 2" เพราะมีปัญหาเรื่องค่าตัว เจ้าตัวยืนยันติดแค่เรื่องคิวถ่ายเท่านั้น
"เรื่องค่าตัวโอเคหมดแล้ว ค่าตัวทุกอย่างทางพระนครฟิล์ม ได้คุยกันแล้ว โอเคไม่มีปัญหาอะไรเลย ทุกอย่างโอเคหมดเลย แต่ติดที่เรื่องของคิวอย่างเดียวเลย ตั้งแต่ถ่ายหนังมาก็มีปัญหาเรื่องคิวตลอด เพราะมัวแต่จะไปรอเราคนเดียว หนังเขาจะเดินทางไปสัก 80-90 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องมารอเรา ต้องมารอเราอีกนาน เราก็เกรงใจดาราคนอื่นเขาเหมือนกัน"
"ตั้งแต่ที่มีข่าวออกมามันก็ไม่มีผลกระทบอะไรนะ แต่ก็จะมีผลกระทบตรงที่ว่าขาดรายได้เท่านั้นเอง เสียดาย น่าจะเก็บไว้ให้ลูก(หัวเราะ) แต่พอเราดูคิวเราแล้วมันยากมาก แต่เรื่องผมกับพี่โน้ตไม่มีปัญหาอะไรจริงๆ "
ส่วนการที่เจ้าพ่อขาแร็พเมืองไทยอย่าง "โจอี้ บอย" มาสวมบทพระสงฆ์นักพัฒนาแทนที่หลวงพี่เท่งนั้น เจ้าตัวย้ำเปรียบเทียบกันไม่ได้กับภาคแรก ย้ำคนละแนวและคนละคนเล่น...
"พอบอกว่าเป็นโจอี้ ผมขำนะ ผมว่าพลิกคาแรคเตอร์ของโจอี้มากเลยนะ จากที่เราเห็นว่าโจอี้เขาเป็นเจ้าพ่อแร็พอยู่แล้ว แล้วมาเป็นหลวงพี่ พอเห็นหน้าแล้วขำนะ เพราะว่าในเรื่องหลวงพี่เท่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบทหรือเส้นเรื่อง มันเป็นเส้นเรื่องที่เราคุยกันมานานแล้ว มันฮา หนังเรื่องนี้สร้างขึ้นมาเพื่อบังคับให้คนฮา เพราะฉะนั้นไม่ว่าโจอี้จะพูดอะไรก็ช่าง บทมันถูกวางไว้ให้หมดแล้ว เราก็จะได้เห็นหลวงพี่อีกองค์หนึ่งที่เป็นหลวงพี่แร็พ ผมว่าน่าสนุกมากๆ"
"แต่มันคนละแนวกันครับ ผมเลยไม่อยากจะให้ทุกคนเอามาเปรียบเทียบกัน เพราะมันคนละแนวกัน อย่างโจอี้เขาก็ชัดเจน เพราะถ้าเห็นหน้าโจอี้ เราก็จะนึกถึงการร้องแร็พ เห็นหน้าเท่งก็จะนึกถึงตลก เราจะมาเปรียบเทียบกันไม่ได้ คนละอย่างกัน คนละคนกันเล่น"