ผู้บริหาร "ทรู" แจง "เอเอฟ 5" ยังหาพิธีกรแทน "ต้อย เศรษฐา" ไม่ได้ บอกต้องออดิชั่นเหมือนนักล่าฝัน ขอไม่เอ่ยชื่อแต่เล็งคนรอบรู้ดนตรีไว้แล้ว บอกปีนี้ดีใจกระแสแรง สปอนเซอร์ทุ่มงบ 120 ล้านเนรมิตบ้านเอเอฟใหม่ โต้ข่าวอะคาเดมี่ทำกำไรมหาศาลบอกไม่ใช่จุดมุ่งหมายของรายการ แต่ยอดสมาชิกไม่เคยลด
เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วสำหรับเหล่านักล่าฝันทั้ง 16 คน ในรายการเรียลลิตี้โชว์ยอดฮิตอย่าง ทรูอะคาเดมี่แฟนเทเชียซีซั่น 5 แม้ช่วงเวลาเปิดตัวบนเวทีด้วยสปอนเซอร์นานไปนิดจนนักข่าว และแฟนคลับเริ่มเมื่อย แต่บรรดาแฟนคลับ นักล่าฝันทั้ง 16 คน ก็มาเชียร์กันเรียกว่า ลานหน้าพารากอนฮอลล์ ของสยามพารากอน เมื่อค่ำวานนี้ (24) ดูแคบไปเลยทีเดียว
ที่ลุ้นที่สุดของงานเห็นจะหนีไม่พ้นการเปิดตัวตำแหน่งพิธีกร แทน "ต้อย เศรษฐา ศิระฉายา" ที่ทำมา 4 ปีแล้ว โดยโปรดิวเซอร์ และ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายรายการ ทรูวิชั่นส์ อย่าง "บอย อรรถพล ณ บางช้าง" บอกแม้แต่ตัวพิธีกรก็ต้องออดิชั่น ตอนนี้ยังหาไม่ได้ เนื่องจากต้องการคนที่มีความรู้ด้านดนตรี ไม่ขอเปิดเผยว่าใครเนื่องจากเป็นมารยาท และจะเซอร์ไพร์สในวันคอนเสิร์ตครั้งแรก แต่ยืนยันไม่ใช่เอเอฟรุ่นพี่แน่นอน
"คือตอนนี้ตัวพิธีกรก็มันยังไม่ได้จริงๆน่ะ คือหมายถึงว่ามันมีหลายช้อยส์ให้เราเลือกไง แต่เรายังไม่ได้แคสท์จริงๆ เรามีแต่คนเข้ามา แต่ยังไม่ได้คัดเลือกกันบนเวทีเลยไง เล็งไว้แล้ว แต่รับรองว่าไม่ใช่นักล่าฝันที่เป็นรุ่นพี่แน่นอน เราไม่ใช้ เรามีเหตุผลครับ รายการนี้เราโฟกัสเด็กปี 5 เราไม่ได้โฟกัสเด็กปีอื่น ไม่ใช่นักล่าฝันรุ่นพี่แน่ๆ ผมไม่เคยใช้เด็กปีอื่นมาพันกัน"
"บางคนลุ้นอยากให้เป็นผู้หญิงเนี่ย ก็ได้ล่ะน่ะ แต่ผมก็อยากได้ผู้ชายเหมือนเดิม ก็คนที่มีความสามารถด้านดนตรีก็เป็นปัจจัยหนึ่ง และมันก็หาคนยาก เราอยากได้แบบนี้ คือมันไม่ใช่ไปหาปุ๊บได้ปั๊บ คนดูรู้สึกว่าเขาต้องอยู่ในวงการดนตรีด้วยนะ ถ้าเป็นพิธีกรได้ด้วยในความยากของรายการ มันไม่ใช่เป็นแค่คนนำไงครับว่าน้องคนนี้จะร้องเพลงนี้นะ มันเป็นเรื่องของความรู้สึกด้วย เพราะมันมีทั้งการประกาศคนออกด้วย มันต้องได้ฟีล"
"ฉะนั้นมันต้องหาว่าใครที่เขาจังหวะดี ที่จริงมันไม่ลำบากนะ แต่บอกไม่ได้ เพราะว่ามันเป็นมารยาท เราจะไปบอกว่าเป็นพี่โอม ชาตรี แบบนี้มันก็ไม่ได้ เพราะว่าถ้าเสร็จแล้วออกมามันไม่ใช่พี่โอม แล้วพี่โอมจะรู้สึกอย่างไร จะเรียกว่าอะไรล่ะ ออดิชั่นไม่ผ่านหรือ เพราะคือคนที่ขึ้นมาเป็นพิธีกรคือคนที่เราออดิชั่นมาแล้ว เราถึงบอกไงว่าอะไรต่างๆเนี่ยเราเองก็อยากมีมารยาท ไม่อยากไปพูด"
บอกส่วนตัวแล้วไม่กดดันกับการเลือกพิธีกรมาทำหน้าที่บนเรียลลิตี้โชว์ในปีนี้ และตั้งใจจะเปิดตัวกันวันคอนเสิร์ตแรกเลยทีเดียว
"ผมไม่รู้สึกกดดันเลยจริงๆนะ ผมรู้สึกว่ามันเป็นการวนเวียนของวัฏจักรของคนซึ่งต้องมีอยู่และมีไป แล้วเราจะเอาเรื่องพวกนี้มาเครียดทำไม แต่ผมเข้าใจนะว่าคนดูลุ้น ว่าแบบไหนเขาจะชอบหรือไม่ชอบชอบหรือไม่ชอบ แต่พิธีกร เราคิดว่าเราเลือกมาจะต้องดี จะเปิดตัววันคอนเสิร์ตเลย ทุกคนจะได้รู้พร้อมกันในวันนั้นเลย ขนาดนักล่าฝันทั้ง 12 คนยังไม่ทราบเลย"
จะเปิดให้เข้าบ้านในวันที่ 11 พ.ค. นี้ แล้วแม้บ้านหลังดังกล่าวจะยังไม่เสร็จ แต่ผู้สนับสนุนรายใหญ่ อย่างแมกโนเลีย ลงทุนสร้างให้กว่า 120 ล้านบาททีเดียว ส่วนทางทรูจะเช่าเป็นสตูดิโอในการถ่ายทำรายการต่อไป
"สงสัยจะเกิน 100 ล้าน แต่ผมก็ยังไม่ได้เช็คเลย แต่รู้แต่ว่ามีการลงทุนไปเยอะมาก แต่ก็คือเราทำไปแล้ว ไม่บานปลายนะ แต่เขาก็อาจจะมีการทำอะไรที่ต่อยอดจากนี้ คือตัวผมเอง ผมมีโปรเจ็กต์อีกอันหนึ่งอยู่ต่อ หลังจากจบซีซั่นนี้ ผมจะทำโปรดักชั่นต่อไปเลย ในสตูดิโอ คงเป็นไว้สำหรับเช่า อย่างง่ายๆ ในบ้านจะมีครัว ผมก็อาจจะทำรายการคุ้กกิ้ง มันจะเป็นสตูดิโอเหมือนฮอลลีวู้ดครับ ก็คงถึง 100 ล้าน รวมงบการตลาดด้วย ปีนี้มันขึ้นมา 20 เปอร์เซ็นต์ ก็ 120 ประมาณนี้แล้ว แน่ๆ"
"คือจริงๆแล้วทางแมกโนเลียจ่ายให้เรา เพราะที่เขา เขาสร้างแล้วให้เราเช่า คือเขาสร้างหมดเลย เขาสร้างโรงเก็บเครื่องบิน ผมก็ไปสร้างข้างในเป็นบ้าน เป็นงบของผม โครงเป็นของเขา เหมือนเราไปเช่าตึกไปทำออฟฟิศ คือข้างนอกเป็นของเขา ส่วนข้างในก็เป็นของเรา ทีนี้พอจบเสร็จแล้วก็จะเหลือแต่โครง มีแอร์ เราจะถ่ายทำต่อ เราก็ไปเช่าเขาต่อ เราก็คงต้องทำสัญญาเช่าเขาต่อไป"
ยิ้มแก้มปริคาดกระแสแรงแน่ปีนี้
ที่ผ่านมาโดนวิจารณ์เรื่องรายได้ ที่มาจากรายการนี้ว่ามีผลกำไรมหาศาล "ผู้บริหารทรู" แจง รายการนี้ไม่เคยหวังผลกำไร แต่ยอมรับยอดสมาชิกไม่เคยตก ยิ้มแก้มปริ แฟนคลับเกาะขอบเวทีตั้งแต่ก่อนเข้าบ้าน บอกกระแสปีนี้ดีเกินคาด
"คือจริงๆรายการนี้ ไม่เคยทำเพราะเรื่องกำไร คือมันไม่ได้ทำแบบฟรีทีวี ถ้าฟรีทีวีคือรายการ 1 ชั่วโมง ซื้อเวลามา 300,000 บาท ขายโฆษณาได้เท่านี้ ค่ารายการเท่านี้ ได้กำไรเท่าไหร่ แต่อันนี้ไม่ใช่ อันนี้คือเรามองการขายสมาชิก"
"อย่างสมาชิกก็เพิ่มขึ้น เพราะสมาชิกเราไม่เคยตก แต่ก็ไม่ได้ถึงกับว่าเพิ่มเท่าตัว เขาก็ไม่สามารถบอกได้หรอกว่าพอทำอะคาเดมี่แล้วจะมีคนสมัครเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ เพราะเรามีช่องอื่นๆด้วย แต่ว่าการทำเพย์ทีวีก็เหมือนกับว่าเราต้องทำให้ดี เพราะฉะนั้นวิธีการคิดมันจะไม่เหมือนฟรีทีวี ฟรีทีวีมันเหมือนการขายของที่ซื้อมาขายไป แต่นี่มันไม่ใช่ มันเหมือนกับว่ามันทำให้ดีเพื่อสมาชิก เหมือนถ้าคุณทำหนังสือ รูปเล่มมันต้องดี ซึ่งวิธีการคิดจะไม่เหมือนกัน"
"อย่างปีนี้น่าจะดีนะ วันนี้ก็เบาใจหน่อยนะ แฟนคลับมากันเยอะขนาดนี้ นี่ผมไม่เคยรู้เลยนะว่าเป็นแบบนี้ คือผมทานข้าวมา แล้วผมเดินขึ้นมายังงงเลยว่าอะไร ผมนึกว่าเขามีงานที่อื่น แล้วผมก็นั่งทานข้าวกับคุณศุภชัย (เจียรวนนท์) ข้างล่าง แล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนขึ้นมา ก็ตกใจว่านี่อะไรเนี่ย มางานแถลงข่าวเราเหรอที่ กรี๊ดๆอยู่เนี่ย เขาก็บอกว่าใช่ โหทำไมมาเร็วจัง ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะ"
"สิ่งหนึ่งที่ผมมองว่ารายการนี้มันเหมือนกับการแข่งขันกีฬานะ เหมือนว่าปีหนึ่งแล้วฤดูกาลแข่งขันมันกลับมา แล้วก็มีตั้งเป็นแฟนคลับเหมือนฟุตบอลนะ แมนยูฯเจอเชลซี มันก็จะมีแบบนี้ คือมันถึงฤดูกาลแล้ว ก็จะมาเชียร์แล้ว มาสนุก พอจบไปก็สงบไป พออีกหนึ่งปีฤดูกาลเปิด ก็กลับมาใหม่ ผมคิดว่าตอนนี้พฤติกรรมคนดูจะเป็นเรื่องนี้แล้ว เป็นเรื่องของกองเชียร์ เรื่องความสนุกสนาน ซึ่งดี ผมชอบ ผมคิดว่าเมืองไทยมันควรจะมีอะไรแบบนี้ มันจะมีสังคมของแฟนคลับ"
กับกระแสข่าวลือว่าในสัปดาห์แรกจะเอานักล่าฝันออก 4 คนรวด นั้น โปรดิวเซอร์มือทองบอกให้ติดตามชม รับรองปีนี้สนุกแน่.. "ทำไมต้อง 4 คนล่ะ (ยิ้ม) เดี๋ยวก็ต้องดูไป แต่ปีนี้จะสนุกแน่นอน"
***
“กี๋” โต้เกาะกระแส “ต่าย ซีซั่นเช้นจ์” เข้าบ้านเอเอฟ
"นัท" ยันเข้ารอบเอเอฟ 5 ไม่เกี่ยวนามสกุล "ทิวไผ่งาม"
16 นักล่าฝัน “AF5” มาแล้ว จับตา “ลูกคนดัง-แฟนดารา” เข้ารอบ