หลังจากที่ภาพฉาวของ "จางป๋อจือ" กับ "เฉินกว้านซี" หลุดออกมามากมาย จนเป็นเหตุให้เกิดข่าวลือว่าชีวิตแต่งงานของทั้งคู่เริ่มจะแตกร้าวนั้น ล่าสุดเมื่อวานนี้ทั้งคู่ควงกันอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อบินกลับฮ่องกงหลังมีข่าวลือว่ามีคนเห็นจางป๋อจืออุ้มลูคัสเดินเที่ยวไปทั่ว
การปรากฏตัวของ จางป๋อจือ และ เซียะถิงฟง ร่วมกันนับเป็นข่าวที่น่ายินดีอย่างยิ่งเมื่อเห็นชัดว่าทั้งคู่ยังคงรักและเป็นห่วงกันอยู่เสมอ เมื่อมีภาพทั้งคู่จับมือกันแน่นอันเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าหลังเกิดวิกฤติ ความสัมพันธ์ของพวกเขาแน่นแฟ้นมากขึ้นกว่าเก่า ซึ่งครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่สื่อได้เห็นทั้งคู่ปรากฏตัวพร้อมกันหลังเกิดข่าวฉาวด้วย
โดยหลังเกิดเหตุการณ์ภาพฉาวของดาราสาวที่ตกเป็นเหยื่อของนักแสดงหนุ่มรูปหล่อ เฉินกว้านซี นั้น ข่าวคราวความสัมพันธ์ระหว่าง จางป๋อจือ และ เซียะถิงฟง ที่เพิ่งจะเริ่มสร้างครอบครัวด้วยกันก็ได้รับความสนใจอย่างมากจากสื่อทั่วเอเชีย แม้ว่า เซียะถิงฟง จะออกมายืนยันแล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและภรรยาสาวยังคงเป็นไปด้วยดี แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งข่าวลือต่างๆที่ออกมากล่าวว่าทั้งคู่ใกล้จะสิ้นสุดความสัมพันธ์ฉันท์สามี - ภรรยาลงแล้ว เพราะหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งคู่ไม่เคยปรากฏตัวพร้อมกันอีกเลย
เหล่าปาปารัสซีที่คอยตามติดทั้งคู่ไปทุกๆที่ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์สุดฉาว ได้ทราบข่าวว่าเซียะถิงฟงเดินทางมาที่ประเทศไทยเพื่อทำการลองเสื้อผ้าที่ใช้ในการแสดงภาพยนตร์เรื่อง “ฟงอวิ๋น 2” ขณะเดียวกับที่มีข่าวลือออกมาว่ามีคนเห็น จางป๋อจืออุ้มหนูน้อยลูคัสเดินเที่ยวไปทั่วในประเทศไทย เหล่าปาปารัสซีที่ทราบเรื่องจึงรีบบินตรงมาที่ไทยเพื่อควานหาตัวทั้งคู่ จนกระทั่งเมื่อวานนี้เองที่สื่อต่างๆเพิ่งจะมีโอกาสได้เห็นทั้ง2คนปรากฏตัวพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อเตรียมตัวบินกลับฮ่องกง
โดยระหว่างที่เหล่าปาปารัสซีต่างก็เข้ารุมถ่ายภาพของจางป๋อจือ และ เซียะถิงฟง ท่ามกลางความวุ่นวายของฝูงชนทั้งคู่ได้พลัดหลงกัน งานนี้ได้เห็นความห่วงใยที่เซียะถิงฟงมีต่อจางป๋อจืออย่างมาก เพราะเขาตะโกนเรียกภรรยาเสียงดังลั่นเพื่อที่จะให้เธอได้รู้ตำแหน่งของเขา ซึ่งทันทีที่หากันเจอทั้งคู่ต่างก็จับมือกันแน่น
งานนี้ เซียะถิงฟง ไม่ตอบคำถามใดๆกับนักข่าวจนกระทั่งเมื่อถูกนักข่าวถามขึ้นมาว่า ทั้งคู่มาเมืองไทยด้วยกันครั้งนี้เขาทำอะไรสนุกๆกับภรรยาขณะที่อยู่ในไทยบ้าง? เซียะถิงฟงตอบกลับทันทีว่า "เรามาที่นี่เพื่อมาทำงาน ไม่ได้มาหาความสนุก"
จนกระทั่งเมื่อทั้งคู่เดินมาจนถึงทางเข้าผู้โดยสาร เซียะถิงฟงแค่หันมายิ้มพร้อมกล่าวว่า "เดี๋ยวเจอกันที่ฮ่องกงนะทุกคน" ตามรายงานระบุว่า ตามแผนเดิมแล้วเซียะถิงฟงต้องลองชุดที่ใช้แสดงเพิ่มขึ้นอีกแต่ไม่ทราบเหตุผลที่แน่นอนว่าเป็นเพราะอะไรทีมงานถึงได้อนุญาตให้เขาบินกลับฮ่องกงก่อนกำหนด
ทันทีที่ทั้งคู่เข้าประตูสำหรับผู้โดยสารได้แล้วนั้น งานนี้มีนักข่าวเพียงคนเดียวที่สามารถตามติดพวกเขาเข้าไปข้างในได้
ซึ่งทันทีที่เซียะถิงฟงเห็นว่ามีนักข่าวสามารถเข้ามาข้างในได้เขาก็พูดขึ้นมาทันทีว่า "ดีนิ มีนักข่าวเข้ามาได้คนเดียวเองเหรอ?" โดยช่วงชุลมุนนั้นช่างภาพปาปารัสซีต่างก็พากันเข้าประตูอื่นๆเพื่อตามติดทั้งคู่ แม้ว่าคู่รักคนดังจะมีพนักงานรักษาความปลอดภัยทั้งชายและหญิงของสายการบินคอยดูแลความปลอดภัยของทั้งคู่อยู่ตลอดก็ตาม
โดยงานนี้เซียะถิงฟงรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าใดนักเกี่ยวกับความปลอดภัยของลูคัส ซึ่งเขาเองก็ได้พูดขึ้นมาเล่นๆกับสื่อที่ตามติดนั้นว่า "จะดีกว่านะถ้าคุณไม่ตีโดนตัวลูกชายผม หรือว่าคุณอยากให้ผมเป็นคนส่งคุณออกไป" งานนี้ผู้ช่วยของเขาก็พูดเล่นขึ้นมาเช่นกันว่า "คุณคงไม่อยากให้ส่งลูคัสออกไปใช่มั้ย? ถ้างั้นก็เล่นกับลูคัสซะ ทำให้เขาหัวเราะด้วย"
การเดินทางกลับฮ่องกงนั้น ทั้งคู่ได้บินกลับคนละสายการบิน ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาเซียะถิงฟงพยายามอย่างมากที่จะเปลี่ยนตั๋วเครื่องบินเพื่อให้เขาสามารถบินกลับพร้อมกับภรรยาสาวและลูกชายได้ แต่เนื่องจากไม่มีที่นั่งเหลือแล้ว ในที่สุดทั้งคู่จึงต้องแยกกันกลับคนละสายการบิน แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นเรื่องดีสำหรับเหตุการณ์นี้คือ ช่วงเวลา 20 นาทีระหว่างที่รอขึ้นเครื่องคนละสายการบินอยู่นั้น บรรดานักข่าวได้เห็นภาพความรักความอบอุ่นอันแสนแน่นแฟ้นที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวของเซียะถิงฟงและจางป๋อจือด้วยนั่นเอง