"บอย" ไม่รับปากจะสานฝันให้น้องสาว"น้ำ" แข่งเดอะสตาร์

"บอย" น้ำตาไหลซึ้งน้ำใจคนไทยบริจาคเงินนับล้านให้ครอบครัว "น้ำ เดอะ สตาร์" ส่วนกรณีช่วยสานฝันให้ "นัด" เข้าประกวดร้องเพลงแทนพี่เจ้าตัวลั่นต้องฟังความเห็นของคนดู ด้าน "พ่อ" ขอบคุณมูลนิธิดำรงชัยธรรมที่ส่งเสียลูกทั้ง 4 คนให้เรียนจบป.ตรี เผยฝันของลูกน้ำเป็นจริงแล้ว พร้อมยันลูกคนรองมีแววเป็นนักร้องได้

ครอบครัวของ "ศิราณี ทองนิยม" หรือ "น้ำ เดอะสตาร์" รับมอบเงินบริจาคจากบัญชีบริษัท เอ็กแซ็กท์ จำกัดไปเรียบร้อยแล้วด้วยยอดเงินรวมสูงถึง 1,189,053 บาท อีกทั้ง "มูลนิธิดำรงชัยธรรม" ได้มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องให้แก่ "นัด, เนย, นิว,หนูนา" น้องๆของ "น้ำ" ให้ศึกษาจนจนระดับปริญาตรีด้วยโดยมี "บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ" และ "สุเมธ ดำรงชัยธรรม" เป็นคนมอบไปเมื่อวานนี้ (9 เม.ย.) ที่ตึกแกรมมี่

เกี่ยวกับยอดบริจาคที่สูงนี้ผู้บริหารเอ็กแซ็กท์บอกสุดซึ้งน้ำใจคนไทย

"เราเปิดกองทุนนี้ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม วันที่รู้ว่าน้องน้ำไปเดอะ สตาร์ต่อไม่ได้นะครับแม้น้องน้ำจะไม่ได้มีโอกาสโชว์ในเวทีเดอะ สตาร์แต่ครั้งหนึ่งในชีวิตเขาอยากร้องเพลงวันที่เปิดคอนเสิร์ตวันแรกเธอก็ได้ร้องเพลง ผมรู้สึกดีกับครอบครัวที่พยายามดูแลรักษาลูกขนาดนี้และน้องก็ได้พยายามสานฝันของตัวเองด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น ก็ชื่นชมและเราก็เปิดโอกาสให้กับเขา"

"ไม่ทราบว่าจะได้ยอดเยอะขนาดนี้ จะปิดกองทุนเลยมั้ยก็จริงๆแล้วกองทุนเอ็กแซ็กท์ได้ปิดไปแล้วนะครับและได้มามอบกันวันนี้แต่มีอีกบัญชีหนึ่งของครอบครัวของคุณพ่อน่ะครับ ผมยังไม่มีโอกาสได้คุยว่าคุณพ่อจะเอาเงินไปทำอะไรซึ่งทางมูลนิธิดำรงชัยธรรมได้มอบทุนการศึกษาให้น้องๆด้วยที่อยากจะให้น้องๆได้มีการศึกษากัน ขอบคุณนะครับทำให้ผมได้เห็นน้ำใจคนไทยด้วยกัน.. (น้ำตาไหล)"

ส่วนกรณีที่ "นัด จารุวรรณ" น้องคนรองของ "น้ำ" ที่ตอนนี้เป็นคนดูแลน้องๆแทนแม่อยากเข้าประกวดเดอะ สตาร์นั้น คุณบอยเผยต้องรอฟังเสียงของคนดูก่อน

"สำหรับน้องนัดจะสานฝันให้เธอได้เป็นนักร้องมั้ย มันก็ต้องดูความพร้อมหลายๆอย่างหมายถึงถ้านัดจะมาประกวดเดอะ สตาร์น่ะนะครับเพราะว่ามันไม่ใช่เป็นเรื่องของเราแต่มันเป็นเรื่องของคนดูด้วย"

ด้านพ่อน้ำตาคลอกล่าวขอบคุณผู้ใจบุญอีกครั้งพร้อมยันลูกสาวคนรองสามารถสานฝันแทนพี่ได้

"ผมรู้สึกตื้นตันใจประชาชนและแฟนคลับ ผมต้องกราบพระคุณที่ช่วยเหลือน้ำ อีกอย่างผมก็ขอบพระคุณบริษัทแกรมมี่ คุณบอยแล้วก็มูลนิธิดำรงชัยธรรมที่ช่วยเหลือครอบครัวครับที่ให้ลูกเรียนต่อ อนาคตของลูกๆ 4 คนก็จะเลี้ยงเขาให้เรียนสูงๆและเป็นคนดีของสังคมและตั้งใจเปิดร้านซักรีดให้แม่เขา"

"ส่วนเรื่องที่นัดอยากลงแข่งเดอะ สตาร์ เขาก็บอกว่าอยากแข่งจริงๆ เขาอยากร้องเพลงด้วยเรียนไปด้วยซึ่งผมก็เห็นว่าเขามีแวว เขาชอบร้องเพลงกับน้องๆ ตอนที่น้ำอยู่ก็ร้องด้วยกัน เขาเป็นคนร่าเริง ส่วนเรื่องที่นัดได้เรียนต่อก็เป็นบุญของเขานะครับที่มูลนิธิคุณไพบูลย์ได้ส่งเสีย ต้องขอบคุณมูลนิธิฯเพราะน้ำฝันเอาไว้ว่าจะส่งน้องเขาเรียน จะช่วยพ่อแม่ ตอนนี้ถือว่าความฝันของน้ำประสบความสำเร็จแล้วครับ"

เมื่อถามต่อถึงสภาพจิตใจของคนในครอบครัว พ่อเผยว่ายังรู้สึกเป็นห่วงลูกสาวที่จากไป ส่วนน้องสาวของน้ำไม่เชื่อว่าได้สูญเสียพี่สาวสุดที่รักไปตลอดกาลแล้ว

"สภาพจิตใจของผมตอนนี้ก็ยังดีไม่มากครับ ยังเป็นห่วงเขา ยังคิดว่าเขายังไม่จากไป คิดว่าเขายังอยู่ เขายังอยู่ในใจผม (เสียงสั่น) ส่วนน้องๆเขาก็รู้สึกว่าเหมือนขาดอะไรไปอย่างหนึ่งเพราะเขาเคยเล่นเคยร้องเพลงด้วยกัน นี่ก็น้องคนสุดท้ายเขาก็เรียกแต่น้ำๆ เรียกหาพี่เขา เขายังไม่รู้ว่าพี่เขาเสียแล้ว ส่วนคนที่ 2 กับคนที่ 3 เขาก็ว่าพี่น้ำยังไม่จากไป เขาก็ถามว่าหายไปไหน เขายังไม่เข้าใจว่าพี่น้ำไม่อยู่แล้ว ผมก็บอกว่าพี่น้ำเขาไปสบายแล้ว ไปสู่สุคติ"

"ตอนนี้ผมยังนอนไม่ค่อยหลับ หลับๆตื่นๆ รูปต่างๆของเขาผมก็ยังเก็บไว้ในห้องเขา ไม่ให้ใครมายุ่ง เวลาผมอยู่ในบ้านก็ยังนึกว่าเขาอยู่ด้วยเวลาลุกขึ้นมาดูก็ไม่มี ผมไม่กลัวนะครับ ส่วนน้องๆเขาก็นอนอยู่ห้องข้างๆกันน้องเขาก็ยังได้ยินเสียงน้ำร้องเพลง เด็กๆเขาก็กลัวครับแต่ดีที่นอนกันหลายคน บางทีเปิดโทรทัศน์เสียงดังในห้องแต่น้ำยังไม่มีเข้าฝันผมนะครับ แต่เข้าฝันป้าเขาคือเขามาร้องเพลงให้ฟัง ป้าเขาก็คิดว่าน้องน้ำคงไปสบายจริงๆแล้ว"

"ส่วนโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่น้ำเป็นผมว่าไม่ใช่กรรมพันธุ์นะครับเพราะทางญาติผมก็ไม่มีใครเป็น ลูกๆทั้ง 4 ก็ตรวจแล้วไม่มีอะไรครับ ผมก็สบายใจแล้วครับ ตรวจเลือดพวกเขาก็ดีครับ ส่วนที่น้ำป่วยผมว่าเป็นเรื่องของกรรมปางก่อนมากกว่าที่เขามาชดใช้กรรมเพราะน้ำเกิดมานี่เกือบ 4 โล ตัวใหญ่สมบูรณ์ แข็งแรง เขามาเป็นตอนย่าง 13 ปี"