“ลีเดีย” เปิดใจกลางงานแถลงข่าวเปิดอัลบั้ม “มูฟวิ่ง ออน” ย้ำเป็นห่วง “แม้ว” เรื่องความปลอดภัยมากกลัวโดนลอบฆ่าตายเหมือน “เบนาซีร์ บุตโต" เผยไม่มีโอกาสไปรับที่สนามบิน เหตุติดงาน มั่นใจได้เข้าพบเมื่อไหร่จะเอาเพลงชุดใหม่ไปให้ฟัง
เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับอัลบั้มเพลงชุดที่ 3 “moving on (มูฟวิ่ง ออน)” ของนักร้องสาวอาร์แอนด์บีเมืองไทย “ลีเดีย-ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา” แต่แล้วมิวายโดนผู้สื่อข่าวสะกิดถามถึงเรื่องของการการเดินทางกลับประเทศไทย ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ ที่เที่ยวบิน TG 603 ของอดีตนายกรัฐมนตรี “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร”
ซึ่งงานนี้เจ้าตัวเปิดใจถึงกระแสข่าวดังกล่าว พร้อมย้ำว่า เป็นห่วงความปลอดภัยขณะเดินทางถึงเมืองไทยมาก เหตุกลัวโดนลอบฆ่าแบบ “เบนาซีร์ บุตโต” อดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถาน
“สำหรับอัลบั้มนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หน้า ผมแล้วแนวเพลงก็มีพัฒนาการมากขึ้น ได้ใช้ความสามารถมากขึ้น เปลี่ยนวิธีการร้องใหม่ๆ มากขึ้น คือ อัลบั้มใหม่นี้เดียต้องไปเรียนร้องเพลงเพิ่ม เรียนเต้นเพิ่มด้วย ดังนั้น อัลบั้มนี้เดียว่าจะต้องมีอะไรแตกต่างจากที่ผ่านมาแน่นอน กับอัลบั้มนี้เดียก็คาดหวังนะแต่ก็ไม่ได้มากอะไร เพราะเดียกลัวผิดหวังด้วย แต่เราก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ แต่แล้วผลตอบรับจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่และกัน”
“จริงๆ แล้วอัลบั้มนี้เดียอยากจะบอกกับทุกๆ คนว่าที่ผ่านมาเดียเจอกระแสข่าวอะไรเยอะมาก เดียก็เลยอยากจะกลับมายืนจุดยืนเดิมว่าเดียเป็นนักร้องไม่ใช่ลูกสาวท่านอดีตนายกหรือเป็นเมียน้อยอย่างที่หลายคนคิดก็ได้ (หัวเราะ) คือที่ผ่านมาบางที่มันก็ดูไร้สาระนะ แต่ก็คงไปห้ามความคิดใครไม่ได้ ก็ปล่อยไปแล้วกัน เดียก็เลยออกอัลบั้มนี้มาเพื่อให้ทุกคนกลับมาเข้าใจแล้วฟังว่าเดียคือนักร้องอาร์แอนด์บีคนเดิม เดียก็อยากจะให้แฟนเพลงทุกคนลองหาฟังดูนะค่ะ เพลงน่าฟังทุกเพลง พรุ่งนี้ (28 มี.ค.) จะวางแผงแล้วฝากด้วยนะค่ะ”
ส่วนข่าวที่หวังสร้างกระแสเปิดอัลบั้มใกล้ช่วงวันอดีตนายกรัฐมนตรีกลับเมืองไทยนั้น เจ้าตัวเผยเป็นความบังเอิญและไม่จำเป็นต้องโปรโมตด้วยวิธีนี้...
“ไม่เกี่ยวกันเลย เดียไม่กลัวว่าใครจะมองว่าอย่างไร มันคงเป็นความบังเอิญมากกว่า ไม่ได้เกี่ยวกันหรอกมันคงมาชนกันมากกว่า แต่ดีนะที่ไม่ได้เป็นวันเดียวกัน แต่จริงๆ แล้วท่านวางแผนไว้ว่าจะกลับมาอีกตั้งหลายเดือนไม่ใช่เหรอ พอเปลี่ยนแผนมามันก็เลยตรงกันพอดี และมันก็ดันมาตรงกับเรา ตรงนี้ก็เลยทำให้คนสนใจมากเท่านั้นเอง”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องกระแสข่าวที่อดีตนายกรัฐมนตรีจะกลับมาเมืองไทย นักร้องสาวอาร์แอนด์บีเผยว่าตนคงไม่ได้เดินทางไปรับเนื่องจากติดงาน
“จริงๆ เมื่อก่อนเดียก็มีการติดต่อคุยกันบ้าง แต่ช่วงหลังนี้พอเดียเข้าห้องอัดเดียก็ไม่ได้คุยอะไรกับท่านเลย แต่ที่คุยกันส่วนใหญ่เราก็จะคุยกันเรื่องทั่วไป แต่เดียก็ไม่ได้เล่าถึงเรื่องข่าวอะไรที่เมืองไทยมากนัก เพราะกลัวท่านจะเครียดและไม่สบายใจด้วย”
“แต่เห็นว่าพรุ่งนี้จะกลับมาแล้วไม่ใช่เหรอค่ะ แต่เดียก็คงจะไม่ได้ไปรับหรอกนะ เพราะเดียมีงานที่เดียจะต้องไปให้สัมภาษณ์กับทางคลื่นวิทยุ แต่เดียก็รู้สึกดีใจนะที่ท่านจะกลับมาเมื่องไทยสักที ท่านจะได้กลับมาอยู่กับครอบครัวของท่านสักที เพราะท่านไปอยู่เมืองนอกเกือบ 2 ปีแล้วตอนนี้ท่านก็มีพี่โอ๊คที่อยู่ด้วย เขาก็คงจะกลับมาพร้อมกันนะ เดียรู้สึก”
“กับการกลับมาในครั้งนี้ของท่านเดียก็คงยังไม่ได้มีโอกาสไปพบท่านหรอกค่ะในช่วงนี้ และก็ยังไม่รู้เลยว่าจะได้เข้าพบท่านเมื่อไหร่ แต่เดียก็คงจะรออีกสักพักก่อน เพราะช่วงที่ท่านกลับมาเดียว่าท่านน่าจะยุ่งมากน่าดูเลย เพราะการกลับมาครั้งนี้ท่านก็คงจะต้องมาเคลียร์ปัญหาอะไรมากมายด้วย แต่ถ้าเดียมีโอกาสได้ไปพบท่านเดียก็คงจะเอาแผ่นซีดีเพลงอัลบั้มใหม่ไปให้ท่านฟังสักหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง”
เผยการกลับเมืองไทยของอดีนายกรัฐมนตรีครั้งนี้รู้สึกเป็นห่วงมากเหตุกลับโดนรอบฆ่าตายเหมือน “เบนาซีร์ บุตโต” อดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถาน...
“ตอนนี้ที่เดียห่วงท่านมากในเรื่องของความปลอดภัยของท่าน เพราะที่ผ่านมามันก็มีเรื่องของการวางระเบิด แล้วก็อย่างเรื่องของข่าวที่บุตโตในคดีฆ่าสังหารอะไรนั้น คือ มันมีมาหลายอย่างเดียก็เลยเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของท่านมากที่สุด”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่ากลัวไหมในความปลอดภัยของตัวเอง เพราะไม่แน่ว่าถ้าหากคนที่คิดปองร้ายอดีตนายกรัฐมนตรีทำไม่สำเร็จแล้วจะหันกลับมาเล่นงานตน นักร้องสาวเผยว่าไม่คิดจะมีใครมาลอบทำร้ายตนแน่นอน แต่ถ้าถึงคราวตายก็ต้องตาย
“สำหรับครอบครัวเดียคงไม่นะ แต่ถ้าหากอะไรมันจะเกิดมันก็คงจะถึงเวลาแล้วนะ คือถ้ามันต้องตายก็คือต้องตาย แต่ก็คงไม่มีใครมาทำอะไรเดียหรอกนะ เพราะเดียไม่ได้ไปทำอะไรไว้กับใครก็คงไม่น่าจะมีใครมาทำร้ายเรา เดียเป็นแค่นักร้อง เดียไม่ได้เป็นนักการเมืองคงไม่มีใครอยากจะสังหารเดียหรอก หรือเดียจะเป็นแบบทาทายัง (หัวเราะ) แบบนั้นมันก็น่ากลัวนะ ไม่เอานะ”