xs
xsm
sm
md
lg

“เสี่ยอู๊ด” ลากไส้ “นิว” บ่นไม่ใช่ดอกไม้ริมทาง!ส่วนข่าว “บี้” ไม่ขอตอบเพราะไม่อยากโกหก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เสี่ยอู๊ด” ซัด “นิว” น่วม บอกไม่คิดแฉ แค่หมั่นไส้ ยอมไม่ได้ก้าวร้าวเกินออกมาด่าตนโครมๆ ยันพระเอกหนุ่มยังคืนของไม่ครบ เปรียบเสมือนเหว ส่วนฟิล์มเหมือนฟ้า บอกของที่ให้นิวไม่ได้เศษเสี้ยวไล่ดูตัวอย่าง “ฟิล์ม” ร้องไห้ทำให้คนสงสาร แถมฉลาดตอบ ส่วน “จุ๋ย” ตนไม่ขอเกี่ยวข้อง แต่เชื่อคบอีกไม่นานก็ต้องเลิก พร้อมโต้ข่าวฉาวขอเบอร์ “บี้” -ให้เงินซูเปอร์สตาร์ 100 ล้าน

ดังกว่าดาราไปแล้วสำหรับ “เสี่ยอู๊ด สิทธิกร บุญฉิม” เสี่ยพระเครื่องที่เป็นข่าวฉาวรายวันเทียบชั้นดาราเลยทีเดียว เนื่องจากมีดาราหนุ่ม ในสังกัดที่ทยอยเป็นข่าวออกมาเป็นระลอกๆ ล่าสุดกับ “นิว วงศกร” พระเอกมาดเงียบ ที่ดูเหมือนเรื่องราวจะไม่จบง่ายๆ เมื่อเสี่ยอู๊ดเดินทางมาออกรายการ “สยามทูเดย์” และเปิดใจกับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวถึงกรณีโดนพาดพิงจากดาราหนุ่ม และนางเอกสาว “จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา”

โดยเจ้าตัวเปิดใจกลางรายการว่า ผลกระทบในชีวิตเกี่ยวกับข่าวตนไม่ได้มีผลกระทบมากมาย แต่เชื่อว่าการมีข่าวกับตนทำให้นักแสดงหนุ่มดังขึ้นแน่นอน

“ผลเสียกับชีวิตมันไม่มีอะไรกระทบอะไรมากเลย เพราะว่าผมไม่ใช่คนที่ต้องมาบริโภคสื่อ ผมปิดตาไม่ดูโทรทัศน์ ปิดหูไม่ฟังคนพูด และไม่ฟังสื่ออะไรเลย แล้วผมก็ปิดปากเพื่อไม่อยากจะบอกใครกับเรื่องที่เกิดขึ้น ผมไม่ใช่คนในวงการบันเทิง และผมก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเกี่ยวข้องอะไรกับวงการบันเทิงเลย ก็ยอมรับว่า เวลามีข่าวก็มาถึงร้อนๆ ก็จะรู้สึกว่าไม่พอใจเหมือนกัน มันก็จะรู้สึกหงุดหงิดแล้วก็จุกจิกว่า ทำไมต้องมาโยงถึงผมด้วย และที่ออกมาพูดในวันนี้ต้องบอกก่อนว่า ข่าวในหนังสือพิมพ์ รู้สึกว่ามันไม่ค่อยเป็นความจริง สิ่งที่ผ่านมากับสิ่งที่เขาพูดมันไม่เหมือนกัน เขาไม่ได้พูดความจริงทั้งหมด”

“ถ้าเกิดเรื่องเสียๆหายๆไม่รู้นะ แต่ผมว่าการที่มีข่าวออกมามากๆ มันกลับทำให้เขายิ่งดังขึ้นเนาะ เพราะถ้าเกิดพูดไปแล้วก็คือ นิวก็ไม่ได้ดังอะไรมากมาย คือ ถ้าเกิดให้ไปอยู่บ้านนอกก็ยังไม่มีใครรู้หรอกว่า นิว วงศกร เป็นใคร ส่วนใหญ่ก็รู้จักในตัวละครเท่านั้นเอง คือ ผมมั่นใจว่า ข่าวที่เกิดกับตัวผมและเขามันส่งผลให้ตัวเขาดังขึ้น พอมีข่าวออกมาคนที่เป็นข่าวเนี่ย นิว วงศกรคือใคร”

“อยากขอพูดทีละเรื่อง เอาเรื่องทวงก่อนแล้วกัน ผมบอกตามตรงว่าผมไม่อยากทวงของของใคร แต่ผมต้องการท้วงความจริงให้ปรากฏเพราะสิ่งที่ปรากฏกับสื่อตอนนี้มันไม่เป็นความจริง มันเป็นความเท็จ เกือบทั้งหมด คือตั้งแต่แรกเริ่มเลยเขาบอกว่าไม่รู้จักผม จริงๆ เขาก็รู้จักผมดีนะ”

“เรื่องรถฟอร์จูนเนอร์อีกเรื่องหนึ่ง ผมขอบอกเลยว่าผมไม่เคยให้ความสำคัญกับตัวนิวเลย อย่างรถผมก็ให้รถแบบกระจอกๆ คือ รถที่ให้คนอื่นๆ ผ่านๆ มา ส่วนใหญ่ก็จะเป็นรถนำเข้าทั้งนั้น ตั้งแต่แรกเริ่มผมไม่เคยไปทวงเงินเขาคืน และการที่ผมให้ของของเขามันก็เป็นความตั้งใจที่ผมจะให้ และไม่ต้องการทวงคืนอะไรทั้งนั้น แต่พอเกิดข่าวขึ้น นิวก็มาออกสื่อก่อนผม เพราะตอนนั้นผมปิดตัว แต่นิวก็ออกมาสถาปนาว่าผมเป็นเจ้าหนี้เขา และตัวเองก็เป็นลูกหนี้ แต่พอภาพมันกลายเป็นลูกหนี้เจ้าหนี้ขึ้นมา เขาก็เลยเอาของมาคืนผม ไอ้ส่วนผมมันก็รู้สึกหมั่นไส้เล็กน้อย ว่าให้ไปแล้วทำไมต้องเอามาคืน หรือว่าถ้าคิดจะคืนแล้วทำไมไม่คืนให้หมด”

ยืนยันพระเอกหนุ่มยังคืนของไม่หมดแน่นอน
“คือ ถ้าเขาบอกว่าคืนหมดแล้ว ผมบอกเลยว่ายังไม่หมด อย่างเรื่องบัตรเครดิตที่ใช้ทั้งหมดเขากล้าบอกมั้ยล่ะว่าเขารูดไปเท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้วตัวเลขในบัตรที่เขาใช้ไปมันก็ไม่มากมายอะไรนัก แต่ผมอยากจะบอกว่าตัวเขาน่ะรู้มั้ยว่าเขารูดไปเท่าไหร่ สลิปที่เขารูดไปมีเป็นหางว่าว ผมมีหลักฐานเก็บไว้ทุกอย่าง แต่ผมไม่อยากเอาหลักฐานออกมาพูด เพราะมันไม่ใช่การแฉ มันเป็นความจริงทั้งหมด ทุกอย่างที่เขาใช้ไป เขาบอกเอาคืนหมดแล้วก็เอามาคืนให้หมดจริงๆ แต่นี่มันยังไม่หมด เขาคืนให้ผมแค่ 2 แสน เท่านั้นมันเป็นเงินดาวน์รถที่มีข่าวออกมาตอนแรก”

“ทำไมเขาไม่กล้าพูดไปตรงๆ ว่าได้รับการช่วยเหลือจากพี่ตั้งแต่ก่อนจะดัง ค่าใช้จ่ายทุกอย่างก็ได้ใช้จากบัตรเครดิตของพี่ และผมก็ยังไม่ได้คืนพี่เขา ก็ตรงนั้นก็เป็นการที่พี่เขาให้การอุปถัมภ์ค้ำจุนผม ผมก็ขอขอบคุณครับ แค่พูดแค่นี้มันก็จบ"

ก่อนจะเผยถึงความสัมพันธ์ว่าที่จริงแล้วรู้จักกับพระเอกมาดเงียบได้ไม่นาน ส่วนจะมาก่อนหรือหลังนางเอกสาว “จุ๋ย วรัทยา" นั้นเจ้าตัวบอกไม่ได้สนใจ แต่ตนรู้จักมาตั้งแต่ยังไม่ดัง บอกหากรู้จักจุ๋ยก่อนแล้วทำไมหนุ่มนิวไม่ไปขอความช่วยเหลือแฟนสาว เชื่อไม่ได้คบเป็นแฟนจริงไม่กี่เดือนเดี๋ยวก็เลิก

“ผมรู้จักเขาสั้นมาก ผมรู้จักกับนิวมาในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้นเอง ประมาณไม่ถึงปี ผมไม่รู้นะว่าใครมาก่อนมาหลัง แต่กับกรณีในเรื่องที่มันเกิดขึ้น น้องจุ๋ยเนี่ยนะ เขาไม่ได้มารับรู้มาตั้งแต่แรก ถามว่าผมรู้จักจุ๋ยมาก่อนมั้ย ผมก็ไม่รู้จัก ผมมารู้จักจุ๋ยก็ตอนที่มีข่าวลงพาดหัวที่บอกว่าจุ๋ยวอนเสี่ยอู๊ดหยุดว่านิว ผมก็เลยมีความรู้สึกว่าคนชื่อจุ๋ยนี้มันคือใคร แล้วโผล่ขึ้นมาตอนนี้ได้อย่างไร จริงๆ ผมไม่รู้ด้วยว่าเป็นนางเอกดัง ผมไม่รู้ว่าเขาแทรกขึ้นมาในชีวิตผมตอนไหน”

“นิวรู้จักกับผมตั้งแต่ละครเรื่องแรกยังไม่ออนแอร์ นิวเข้ามาหาผมเพราะมากับ ออย ธนา แล้วจุ๋ยจะคบกับเขาก่อนหลังผมก็ไม่รู้แล้ว แล้วถ้าเกิดเขารู้จักจุ๋ยมาก่อนผม ทำไมเขาไม่ไปขอความช่วยเหลือกับจุ๋ยล่ะ มาขอความช่วยเหลือกับผมทำไมล่ะ ดาราพอได้รับความช่วยเหลือไป มันไม่ใช่มีแค่ได้รับความช่วยเหลือแล้วมาพูดกัน จริงๆ แล้วยังมีอีก 30-40 คน ที่ผมให้ความช่วยเหลือไป แล้วก็มีการไปมาหาสู่กันตามปกติอยู่ทุกวันนี้ แต่พอหลังจากนั้นใครจะดวงดีดังขึ้นมา แล้วพอดังขึ้นมาพอมีข่าวมาปรากฏก็แล้วแต่ แล้วถ้าเกิดมีคนมาบอกว่ารู้จักผม ผมก็มองว่ามันเป็นเรื่องดี บางคนบอกไม่เคยรู้จักผมมาก่อน ผมก็รู้สึกไม่ชอบ หลังจากนั้น พอบอกๆไม่รู้จัก แต่พอมาทำปัญหาเรื่องการเงิน มันก็เริ่มจะออกมากลบเกลื่อน”

“อย่างกรณีของนิว เรื่องรถฟอร์จูนเนอร์คันสีขาวที่เป็นข่าว พอเกิดเรื่องขึ้นมาเขาก็รีบเอาไปขาย ผมก็ไม่รู้นะว่าเขาจะเอารถมาขายทำไม เพราะรถก็เพิ่งซื้อ ผมไม่รู้นะว่าเขาขายเพื่อให้นักข่าวตามอีกหรือไง จริงๆ ถ้าเอาไปขาย สู้เอารถมาคืนผมไม่ดีกว่าหรือ แล้วพอเอาไปขายเสร็จเงินทุกบาทก็เงียบไป ผมก็เลยอยากรู้ว่า พอเอาไปขายแล้วเงินอยู่ไหน ผมไม่ได้ตามหาคนนะ แต่ผมตามหาเงิน พอตามไปตามมาเงินถึงได้ตามมาทีหลัง จริงๆแล้วไม่ใช่อยู่ดีๆแล้วเขาเอาเงินมาให้ผม แต่เป็นเพราะว่าผมไปหาเงินเขาเลยเอามาใช้ ถ้าผมไม่ตามหาเงิน เงินก็ไม่กลับมา”

“ผมอยากใช้คำว่าเขาเป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่เข้ามารู้จัก ผมไม่ได้รักเด็กคนนี้เลย ..(กระแทกเสียง) ผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับเด็กคนนี้เท่าไหร่”





บอกที่ให้ของกับพระเอกหนุ่มก็ใช่ว่าจะรัก เพราะแท้ที่จริงแล้วไม่ได้เศษเสี้ยวที่ให้กับศิลปินหนุ่มอย่าง “ฟิล์ม รัฐภูมิ” เปรียบ “นิว” เหมือนเหว ซึ่งต่างกับ “ฟิล์ม” ที่อยู่บนฟ้า บอกฟิล์มมีความละอายและเป็นเด็กดีมากกว่า

“แล้วที่ผมให้ของ ผมอยากรู้จริงๆ ถ้าผมให้เงินขอทานบาทหนึ่ง แสดงว่าผมต้องรักเขาใช่มั้ย อย่างผมให้ทุนการศึกษาเด็กผมก็ให้แบบสบายๆ เพราะผมตั้งใจจะให้ แล้วกับนิวแค่นี้ทำไมผมจะเขาไม่ได้ ที่ผมให้เขาไป ตอนแรกผมนึกว่าเขาเป็นคนดี คนที่เข้ามาในชีวิตผมทุกคน ผมสันนิษฐานก่อนว่าเขาเป็นคนดี หน้าตาดี จิตใจดี พูดดี ทำดี คือถ้าเกิดเป็นองค์ประกอบดีหมด ผมก็คิดว่าวันหน้าวันหลังเขาคงจะทำดีกับเรา”

“ผมคิดว่าเราคบคนนี้ไว้มันก็ไม่เสียหายอะไร แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเหตุผลกลใด ที่มันเข้ามาเปลี่ยนจิตใจ ความคิด และการกระทำของนิวไป เมื่อก่อนผมคิดว่าดูท่าว่าจะเป็นคนดี แต่พอเมื่อความดังเข้ามาหาเขาแล้ว เขาก็เปลี่ยนไปหมด ก่อนดังจะทำอะไรเพื่อให้ได้ เพื่อให้มี เพื่อให้ดี เพื่อให้เด่นกว่าคนอื่น ทุกคนสามารถทำได้หมด แต่พอหลังจากนั้นแล้วมันก็เปลี่ยนไป จากเมื่อก่อนที่เป็นพี่อู๊ดก็กลายเป็นเรียกเจ้าหนี้ กับสิ่งที่ผมให้นิวไปมันเป็นแค่เศษเสี้ยว ถ้าเทียบกับน้องฟิล์ม เรียกได้ว่าไม่ถึง 10% เลยที่เขาได้ไป เรียกว่าเปรียบฟิล์มกับนิวว่าฟ้ากับเหว”

“ฟิล์มเขาเป็นเด็กที่ หนึ่งผมรัก ผมเอ็นดู ผมสงสาร แต่นิวไม่ใช่ เข้ามาในชีวิตผม เขาไม่มีผลอะไรในชีวิตผมเลย แต่โอเคว่าผมช่วย ผมก็คิดว่าช่วยไปเพราะเราจะได้มิตรเพิ่ม ได้เพื่อนเพิ่ม ได้สิ่งดีๆ กับฟิล์มในความรู้สึกของผมผมคิดว่าเขาเป็นเด็กดีมาก คือถ้าเทียบกับนิวแล้ว อย่างน้อยฟิล์มเขาก็ยังมีจิตใต้สำนึกบ้าง และฟิล์มก็ยังมีความละอาย
คือ หลังจากเกิดข่าวขึ้นมา เขาก็ไม่ออกมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวแล้วให้สื่ออกมาด่าผม เขายังมีความระลึกว่าเขายังได้รับความช่วยเหลือจากผม เขาไม่กล้าออกมาด่าผม อีกอย่างพ่อแม่เขาก็เข้าใจดี”

“คือ ผมอยากเปรียบเทียบว่าฟิล์มเหมือนกับท้องฟ้า แต่นิวผมมองว่าเหมือนเหว ผมไม่เคยเสียใจกับกรณีที่เกิดขึ้น เพราะผมไม่เคยให้ความสำคัญในตัวเขา และไม่เคยรักเขาอย่างที่ใครว่า ถ้ารักคือผมต้องเสียใจ แต่นี่ที่ออกมาพูดเพราะว่าข่าวออกมาเยอะ ให้เขาพูดอยู่ฝ่ายเดียวโครมๆ แต่พอมีข่าวออกมามากก็ต้องออกมาเอาคืนหน่อย เพราะผมไม่อยากให้เยาวชนเห็นว่า การที่คนคนหนึ่ง ได้รับความช่วยเหลือจากคนอีกคนหนึ่ง พอหลังจากนั้นได้ดิบได้ดีไป ต้องออกมาแสดงกิริยาก้าวร้าว มาเปรียบเทียบ เหน็บแนม ผมว่ามันเป็นกิริยาที่ไม่เหมาะสม เป็นกิริยาที่ไม่เหมาะสมของการเป็นสุภาพบุรุษ มันไม่เหมาะสมกับคนที่เรียกว่าเป็นแบบอย่างของเยาวชน”

พร้อมโต้ข่าวไม่เคยพูดจารังแกจุ๋ย เผยเคยเรียกหนุ่มนิวมาคุย แต่ก็ยังไม่จบ บอกออกมาเตือนตนในฐานะอะไรเชื่อคบกันอีกไม่นานก็เลิก ลั่นหากอยากให้เรื่องจบจริงอย่างปากว่าช่วยเอาสก๊อตเทปปิดปากจะขอบคุณมาก

“ผมไปรังแกอะไรจุ๋ยมัน จุ๋ยมันก็แค่คนๆ หนึ่ง ผมก็แค่รู้จักเขาแล้วผมจะไปรังแกอะไรเขา แต่ผมเพียงแค่บอกเกริ่นให้รู้ว่าหนูเอ๊ย อย่าเพิ่งเข้ามายุ่งนะ เพราะว่าหนูไม่ได้เกี่ยวข้องตั้งแต่แรก เท่านั้นเองแต่ที่เขาจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับเรานั้นมันเป็นเรื่องของเขา แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไปเห็นจากข่าวที่ผ่านมา ที่ว่าจุ๋ยวอนไม่อยากให้เสี่ยอู๊ดพูดถึงนิว ผมอยากรู้ว่าเขามีสิทธ์อะไรมาพูดถึงผมแบบนั้น ทำไมมาพูดแบบนั้น เขาเป็นอะไรกันหรือ”

“อ่ะ ที่สื่อบอกว่าเป็นแฟนกัน ผมก็ไม่เข้าใจว่าเป็นแฟนกันแล้วทำไมต้องออกมาปกป้องขนาดนี้ ขนาดออกมาประกาศปาวๆ ว่า แฟนกันว่าเป็นแฟนกันแป๊บเดี๋ยวยังเลิกกัน ผมไม่เชื่อว่าเป็นแฟนกัน ซัก 3 วันนี้ หรือซัก 4-5 เดือนเดี๋ยวเขาก็เลิกกันผมมั่นใจได้ ผมเห็นเดือนเกิดของเด็กคนนี้ ผมเห็นดวงชะตาเกิดเขา ผมมั่นใจว่า อีก 5 เดือนเขาก็เลิกกัน ผมพูดแบบนี้ผมไม่ได้ฟันธงนะ เพราะผมไม่ใช่หมอดู”

“ที่จริงเคยคุยกับนิว มีอยู่ครั้งหนึ่งตั้งแต่เรื่องรถที่เอารถไปขาย ผมก็เลยสงสัยว่าเขาเอารถไปขายทำไม แล้วเงินอยู่ทีไหน แล้วตอนนั้นผมก็เคยโทรศัพท์ไปหาคุณแม่เขา แต่ผมไม่อยากจะลงลึกไปในรายละเอียดเพราะแม่เขาก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ผมยอมรับว่าผมไม่พอใจ แล้วพอไม่พอใจผมก็เลยโทรไปต่อว่าเขาแล้วพอซักพักเขาก็โทรกลับมา อยากจะมาเคลียร์แต่ผมก็ไม่รับสายแล้ว ไม่ขอเคลียร์อะไรอีกแล้ว เพราะผมถือว่าคนเราถ้าก่อนดังทำอะไรทำได้ หลังดังเป็นอย่าง ทำอีกอย่างมันดูไม่เสมอต้นไม่เสมอปลาย”

“ถ้านิวอยากให้เรื่องนี้จบนิวก็ต้องเอาสก๊อตเทปปิดปากตัวเอง ผมไม่เข้าใจว่านิวพูดทำไม แล้วนิวพูดตั้งแต่เริ่ม ถึงจะมีข่าวจากใต้ดินก็ควรเก็บมันไว้ใต้ดินนี่เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อก่อน เขาเป็นคนบอกตั้งแต่แรกว่าผมเป็นเจ้าหนี้ มันเป็นเรื่องเขาเองที่เขาออกมาพูดก่อน ผมออกมาพูดผมไม่ต้องการที่จะเอาอะไรคืนจากเขา เพราะเงินที่เขาได้ไปมันแค่เศษเสี้ยว แต่ผมยังยืนยันว่าเขายังคืนของผมไม่หมด เพราะเขาจำไม่ได้ว่าตั้งแต่เท้าจรดหัวเขาเอาอะไรไปบ้าง”

ลั่นนิวไม่มีระดับพอที่จะเป็นข่าวกับตน และไม่คิดนั่งแถลงข่าวเหมือนครั้งกรณีฟิล์ม พร้อมบอกสมัยมีข่าวพระเอกหนุ่มอกตัญญูไม่เคยเชื่อ แต่ตอนนี้เริ่มเชื่อข่าวแล้ว

“ผมขอบอกว่าเด็กคนนี้ไม่ได้ระดับพอที่ผมจะต้องลดตัวไปเป็นข่าวด้วย แต่กลับของที่ให้ไปกับ 30-40 คนที่ให้ไปมันเยอะกว่านี้อีกนี่แค่เล็กๆ น้อยๆผมให้ได้”

“ผมไม่ต้องการออกมาพูดให้เรื่องราวมันเป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนครั้งที่แล้วไม่ได้อยากออกมาแฉ มันเป็นเรื่องของการพูดจากความจริงกัน สังคมให้รับรู้ ส่วนใครจะเสียหายหรือไม่เสียหายนั้น ผมว่าความจริงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ผมว่าถ้าพูดความจริงมันคงไม่ส่งผลกระทบอะไรมากนัก กับนิวนั้นเรารู้จักครั้งแรกก็คือเขามาหาผมครั้งแรกกับออย ธนา มาเจอผมแล้วผมก็พาไปทานข้าว คือตอนนั้นเขาเข้ามาขอสปอนเซอร์ทีมฟุตบอล ตอนนั้นยังไม่ดังเลย ตอนนั้นไม่ใด้ให้ความสำคัญอะไรเลย”

“จากนั้นนิวก็เข้ามาหาผมเรื่อยๆ นิวก็เข้ามาหาเรื่อยๆ มาหาตลอด มาคนเดียวตอนแรกก็ดูเด็กคนนี้เหมือนเรียบร้อย เพราะเขาก็เป็นคนสุภาพ คือ เขามากับออยครั้งเดียว นอกนั้นเขามาเองตลอด พอซักพักหนึ่งก็พาน้องชายของเขาเข้ามาในบริษัทของผม หลังจากนั้นก็สนิทกับมาเรื่อยๆ แต่พอนิวเริ่มเล่นละครเรื่องแรกเขาก็เริ่มเป็นดารามีชื่อเสียง แล้วช่วงนั้นเขาก็มีปัญหากับ อาตู่ นพพล ซ้อนุช หรือ คุณแดง เขาก็มาปรึกษากับผมตลอด จนมีข่าวออกมาครั้งหนึ่ง ว่าน้องนิวอกตัญญูกับซ้อนุช ตอนนั้นผมให้กำลังใจ ให้คำปรึกษาตลอด แต่ก็ไม่เชื่อว่าเขาจะมีนิสัยอกตัญญูจริง เหมือนข่าวที่ลงๆ มาคือผมยังไม่เชื่อ”

“พอรู้จักได้ระยะหนึ่ง เขาขับรถของแม่ของอยู่ หลังจากนั้นแม่เขาได้เป็นรอง ผอ.รพ.แม่และเด็กที่โคราช นิวเลยเอารถคันนั้นกลับไปให้แม่ขับ เป็นรถประจำตำแหน่งของแม่ แล้วนิวก็เลยไม่มีรถ คือ ตอนนั้นเขาเป็นดาราแล้ว แล้วยังต้องนั่งรถเมล์อยู่ เขาก็เลยบอกว่าเขาดูไม่ดี นั่งแท็กซี่ นั่งรถเมล์ เขาก็เลยเอารถเล็กซ์ซัสของผมไปใช้ สีดำ ทะเบียน 997 พอเอาไปใช้เขาก็ปรับเปลี่ยนรถใหม่ ติดฟิล์มดำสนิทเพื่อไม่ให้คนจำได้ พอใช้ไปซักพักหนึ่งเขาก็รู้สึกว่าคนจำได้ว่าทะเบียนนี้รถเสี่ยอู๊ด นิวก็เลยมาบอกว่าขอซื้อรถใหม่ดีกว่า พอพูดเสร็จก็ไปดูรถไปเลือก เขาก็เอาเงินของผมดาวน์รถออกมา”

“เขาทำเองทุกอย่างตอนนั้นผมไม่ยุ่งอะไรกับเขาเลย แต่ตอนนั้นเป็นปัญหาคือเขาไม่มีเงินพอที่จะซื้อรถคันนี้ เขาไม่มีเครดิตที่จะผ่อนกับทางบริษัทเลย มันก็เลยต้องเป็นปัญหาในการเอาชื่อผมไปทำเครดิตในการซื้อรถคันนั้น ตอนนั้นผมให้เงินดาวน์แล้วก็ใช้ชื่อในการค้ำประกัน ผมบอกเลยว่า 100% เป็นของผมเงินดาวน์ เงินผ่อน คนค้ำของผม”

“แต่พอเขาใช้รถไประยะหนึ่งมันก็มีข่าวว่ารถมาจากไหน เพราะว่าเขาเพิ่งเข้าวงการ จะเอาเงินมาจากไหนซื้อรถ แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้สนใจ เพราะว่าเริ่มดังเขาก็หายไปเลย เขาไม่ได้ติดต่ออะไรกับผมเลย มาทราบข่าวอีกทีตอนที่เขาเอารถไปขาย ผมก็เลยถามว่ารถอยู่ไหน จะขายทั้งที่ไม่ปรึกษาเลยหรือ เลยติดต่อไปที่คนของนิวเลยได้รับคำตอบกลับว่านิวไม่เคยเป็นหนี้บุญคุณใคร ตอนนั้นผมก็เริ่มโมโหว่าเงินที่เอาไปก็ยังไม่เคยคืนเลย แล้วจะบอกว่าไม่เป็นหนี้บุญคุณได้อย่างไร ผมเลยบอกโทรมาบอกเขาว่ามีคนพูดแบบนั้น เขาก็เลยรีบแจ้นหาเงินมาคืน แต่การที่เอาเงินค่ารถมาคืนเนี่ยมันตั้งนานแล้ว การที่เอาเงินค่าดาวน์รถมาคืนนั้น”

“เขาเอาเงินจากกระเป๋าผมสดๆ แต่ตอนนิวคืน เขาคืนเป็นแคชเชียร์เช็คซึ่งมันไม่ถูกต้อง เพราะว่าการเข้าเงินบริษัทนั้นเป็นนิติบุคคล จริงๆ แล้วเขาเอาเงินมาคืน เขาคืนกับลูกน้องผม แล้วผมก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ดังนั้นเงิน 2 แสนนั้นผมก็เอามาจากบริษัทไม่ได้ นิวก็เลยต้องไปแปลี่ยนสั่งจ่ายในชื่อผม ผมก็เลยได้เงินคืน 2 แสน”

“พอทุกอย่างจบลงมาบอกว่าผมเป็นเจ้าหนี้ ถ้าเป็นเจ้าหนี้จริงคุณก็ต้องคืนของให้หมดซิ ทำไมคืนแค่ 2 แสน ผมอยากรู้ว่านิวรู้มั้ยว่าทั้งหมดมันคืออะไรบ้าง เขาไม่รู้หรอก เพราะว่าหลักฐานทุกอย่างอยู่กับผม เขาได้น้อยกว่าฟิล์มเป็น 10 เท่า แต่ที่ผมออกมาพูดเพราะผมหมั่นไส้ เขาไม่พูดความจริง เขาใช้ทุกอย่างใช้ทุกอย่างบิลยาวเป็นหางว่าว ยังไม่เคยคืนอะไรเลย บัตรก็ยังอยู่ที่เขา แม้จะอายัดแล้วก็จริง กับการที่เขาบอกว่าเขาคืนทุกอย่างแล้ว แล้วเงินในบัตรเครดิตล่ะว่าเงินมันอยู่ไหน แล้วเขาคืน เขาคืนค่าบัตรเครดิตจำนวนเท่าไหร่ที่เขาคืน ก็แค่คืนมา 2 แสน นี่ยังกล้าพูดอีกหรือว่าจะเอาอะไรอีก ผมไม่ได้ต้องการเงิน แต่ผมแค่ต้องการความจริงจากเขา เอาความจริงมาพูดกันดีกว่า ถ้าเกิดจะโกหกแบบนี้มาพูดกันตัวต่อตัวดีกว่า”

ก่อนจะทิ้งท้ายเรื่องหนุ่มนิว ว่า แท้ที่จริงแล้วตนไม่ได้อยากทวงของคืน แค่อยากได้ความจริงจากปากพระเอกหนุ่ม หากพูดขอโทษไม่ได้ก็หุบปากเสียจะดีกว่า พร้อมสอนหัดพูดให้ดูตัวอย่างจากฟิล์มว่าควรตอบสื่ออย่างไร

“ที่บอกว่าผมไปทวงอะไรเขา ผมไม่เคยทวง ไม่เคยอยากได้คืนอะไรไม่ต้องเอามาคืนผมหรอก แต่ผมไม่อยากจำแนกว่าเขาเอาอะไรไปบ้าง คือเอาเป็นว่าถ้าเกิดว่าไม่รู้ว่าเอาอะไรไปบ้าง ผมก็ขอขอบคุณพี่มากครับแค่นี้ผมก็รู้สึกดี นิวช่วยพูดให้มันฉลาดนิดหนึ่งแล้วกันจะได้ดูดีขึ้น ณ ตอนนี้ ผมอยากให้นิวทำตัวให้ดี ที่เขาเข้ามาหาผม ผมไม่อยากให้เขาเข้ามาขอโทษอะไรผม คือถ้าเกิดเขาจะมาขอโทษผม ช่วยหุบปากดีกว่า อย่ามาขอโทษผมดีกว่า”

“ผมอยากจะถามว่าเจ้าหนี้คนนี้เคยเก็บดอกเก็บผลกับคุณมั้ย ผมไม่ต้องการได้อะไรเลย แต่ผมอยากให้เขาระลึกที่เราทำให้เขาบ้าง แต่กับคำด่าคำว่าผมรู้สึกไม่ดีเลย ถ้าเป็นแบบนี้ผมรู้สึกเสียใจมาก กับนิวเปรียบอีกครั้งว่าเป็นฟ้ากับเหว เพราะคนจนๆผมก็ให้ของเล็ก คนรวยๆ ผมก็ให้ของใหญ่ๆ”

“กับเรื่องจุ๋ยเองผมไม่รู้จักว่าเขาเป็นใคร ต้องเข้าใจว่าผมจำดาราผู้หญิงไม่ถนัด คือถ้าเกิดพูดถึงพาดพิงเขาเกินไปก็ต้องขอโทษเขาก็แล้วกัน แต่ถ้าเขาอยากจะรู้เรื่องก็ต้องมาเคลียร์ใหญ่โต ไม่ใช่เคลียร์เงินเคลียร์ทอง แต่เป็นเคลียร์ความรู้สึก เพราะผมไม่ใช่โนเนม ไม่ใช่ขอทาน ไม่ใช่ดอกไม้ริมทางที่คุณจะมาอะไรก็ได้แล้วก็จากไป
แต่เรื่องนี้ไม่ได้ตัดอนาคตนิว อนาคตมันอยู่ที่ตัวเขาไม่ใช่อยู่ที่ผม ทุกอย่างอยู่ที่เขาจฉลาดพูด ฉลาดทำ ฉลาดตอบ เขาควรจะเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสและเปลี่ยนจากผู้ร้ายมาเป็นพระเอกให้ได้”

“อยากให้นิวไปดูอย่างฟิล์มซิว่าเขาทำอย่างไร ถ้าเกิดนิวทำให้คนสงสารได้อย่างฟิล์ม มันก็น่าจะดี นิวทำเป็นมั้ย ทำหน้าตาร่วงแบบฟิล์ม ร้องไห้เป็นแบบฟิล์มมั้ย อย่ามาทำน้ำลายกระฉอกออกไมค์ ออกมาด่าพี่อู๊ดโครมๆ มันดูไม่ดี ผมไม่เคยที่จะรังแกอะไรเขาเลย มีแต่เขามารังแกผม ถ้าเกิดให้ผมรังแกจริงผมพูดคำเดียว แรงๆไอ้นิวมันก็ตายไปแล้ว แต่ผมไม่ขอพูดนะ เพราะผมไม่อยากทำอะไรใคร ผมแค่อยากจะพูดทุกอย่างเพื่อให้ความจริงมันปรากฏ แต่ถ้าเกิดนักข่าวอยากรู้อะไรมากกว่านี้ลองไปถามนิวซิว่าทำไมต้องเอารถเสี่ยอู๊ดไปติดฟิล์มดำขนาดนั้น ไม่ต้องมาถามอะไรผมหรอก พอผมพูดอะไรมาก ก็หาว่าผมพูดเพื่อฆ่าน้อง ผมไม่อยากจะพูดอะไรมากเดี๋ยวทุกคนน้ำลายหก”

บอกการออกมาพูดครั้งนี้ไม่ใช่การแฉ หรือเชือดไก่ให้ลิงดู แค่ไม่ต้องการให้เยาวชนเลียนแบบพฤติกรรมของคนที่เป็นแบบอย่างในสังคมแต่กลับก้าวร้าวใส่ผู้มีพระคุณ เปรียบตัวเองเหมือนปลาร้าที่ไม่มีอะไรจะเน่ากว่านี้แล้ว ส่วนเรื่องทั้งหมดจะจบอย่างไรขึ้นอยู่กับอีกฝ่ายมากกว่าไม่ใช่ตน

“ไม่กลัวติดภาพติดหรอกครับ ผมเปรียบตัวเองเหมือนปลาร้า ผมว่าชีวิตผมมันไม่มีอะไรเน่ากว่านี้แล้ว ทุกวันนี้หนอนขึ้นหมดแล้ว ผมไม่เคยต้องการแฉใครทั้งนั้น ผมออกมาพูดให้แก้ต่างแก้ตัวให้ตัวเอง”

“เรื่องนี้จะจบอย่างไรต้องถามเขา เพราะว่าเขาจุดประกายขึ้นมาเอง แต่ผมอยากบอกว่าเคสของนิวที่เกิดขึ้นเสี่ยอู๊ดไม่จำเป็นต้องแถลงข่าวเหมือนอย่างฟิล์ม แต่ที่พูดออกไปครั้งนี้เพราะนิวพูดไม่จริง เรื่องที่เกิดขึ้นกับนิวเป็นเรื่องเด็กๆไม่มีเรื่องอะไรเลย”

“แล้วอย่ามาเรียกว่าเชือดไก่เลย ผมไม่ได้เชือดอะไรใครเลย แต่ไอ้ไก่ที่เขาพูดกันเนี่ยมันคงกลายเป็นเสี่ยอู๊ดนะไก่ตัวนั้นอ่ะ โดนนิวว่าโครมๆ นิวไม่ละอายเลยที่มาว่าผม พอนิวยิ่งว่าความมันก็ยิ่งผุด ทุกอย่างที่นิวพูดนิวก็เสียเองทั้งนั้น เพราะผมไม่มีอะไรเสียกว่านี้แล้ว คือที่ผ่านมาเด็กที่เข้ามาไม่มีแบบนี้นะ”

ก่อนจะเผยว่าที่เปรียบเทียบนิวกับหนุ่มฟิล์มไม่ใช่คบคนดีแค่คนเดียวที่จริงแล้วเด็กคนอื่นก็นิสัยดีเช่นกัน
“ไม่ใช่ฟิล์มดีอย่างเดียว ทุกคนก็ดี คนอื่นก็ดี เพราะผมไม่เคยอาฆาตใคร อย่าว่าแต่ฟิล์มเลย บิ๊กก็ดี ไผ่ก็ดี ออยก็ดี โบกี้ก็ดี ทุกคนก็ดีกันหมด เด็กดีคนก็รัก มีใครบ้างหรือที่อยากคบคนชั่วๆ แล้วพวกคุณคิดหรือเปล่าว่าผมชั่ว ผมไม่ได้คบแค่ คนสองคน ผมคบเกือบครึ่งวงการเลยด้วย”

ก่อนจะเผยถึงข่าวลือที่ว่า “เสี่ยอู๊ด” ถูกชะตา “บี้ เดอะสตาร์” จนถึงขั้นขอเบอร์ เจ้าตัวบอกไม่มีบุญขนาดนั้นและขอไม่พูดถึงหวั่นอีกฝ่ายเสียหาย

“ผมจะมีบุญถึงขนาดนั้นหรือ คือถ้าเกิดจะตอบอะไรผมขอตอบความจริงเรื่องนี้ผมไม่ขอพูด ผมว่าถ้าเกิดผมว่าคนที่พูดออกไป คนที่3 คนที่4 ต้นสังกัดเขาจะเสียหาย พอเถอะผมไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้ ผมเห็นใจคนที่เรื่องทั้งหมด”

ส่วนกรณีซูเปอร์สตาร์ขอเงินเป็นร้อยล้านเจ้าตัวบอกว่าแค่มาขอยืมเงินทำหนังเท่านั้น ซึ่งตนไม่ได้ให้เนื่องจากซุปเปอร์สตาร์คนดังกล่าวยังเด็ก แต่ยอมรับเป็นคนดีอีกคนที่น่าคบ ส่วนเป็นใครนั้นเจ้าตัวไม่ขอตอบ

“เดี๋ยวก็โดนหน้าหนึ่งอีกหรอก...(หัวเราะ) ผมอยากจะชี้แจงว่าซุปเปอร์สตาร์คนนี้เขาไม่ได้มาขอร้อยล้านจากผม แต่เขามาพูดกับผมว่าเขามีโครงการจะทำหนังซักเรื่องหนึ่ง เขาส่งคนของเขามาทาบทาม ขอยืมเงินให้ผมสนับสนุนงานของเขา เห็นเขาบอกว่าประมาณร้อยล้านบาท เขาน่ะขอต้นสังกัดเขาแล้วแต่เขาไม่ให้”

“คือ ตอนนั้นเขาคงรู้สึกว่าอายุน้อยอยู่ เขาก็คงเพ้อฝันไปตามประสาเด็ก เลยถามกลับไปว่าการที่คุณขอเงินผมร้อยล้าน แล้วหนังเรื่องนี้จะทำกำไรเท่าไหร่ ฉายแล้วได้กลับมาเท่าไหร่ เขาก็ตอบไม่ได้ สมมติว่าฉายแล้วได้ 200ล้าน ให้โรงครึ่งหนึ่ง100 ล้านมันได้แค่ทุนนะยังไม่รวมค่าผลิตอะไรเลย ผมเลยบอกว่าหยุดคิดเลยน้อง”

“อย่าไปรู้เลยว่าใคร อย่าพูดไปเลยอักษรย่อผมก็ไม่บอก เอาเป็นว่าอยู่ในก –ฮ นี่แหละเด็กคนนี้เป็นคนดี คนเก่ง อนาคตยังไปอีกไกล เอาเป็นว่าอนาคตผมจะช่วย แต่ตอนนี้ยังช่วยไม่ได้จริงๆ เพราะวุฒิภาวะเขายังน้อยอยู่ เขาเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง เขาเป็นคนที่ไม่เคยขอใคร คนแบบนี้เขาเรียกว่าเสือไม่กินขี้ เอาเป็นว่าเท่านี้พอนะ ขอแค่พูดเรื่องนิวพอเรื่องอื่นไม่อยากพูด”

โดนนักข่าวถามว่าทำไมถึงช่วยเหลือแต่นักแสดงหนุ่มเสี่ยคนดังตอบสั้นๆว่า.. “ก็รู้จักแต่ดาราผู้ชาย ดาราผู้หญิงไม่รู้จักนี่”

***

“จุ๋ย” โต้! ไม่เคยพูดพาดพิง “เสี่ยอู๊ด” ด้าน “นิว" จวกแหลก! เป็นผู้ใหญ่อย่ารังแกผู้หญิง
กำลังโหลดความคิดเห็น