ขอเวลาทำใจ “หนิง” เผยหมดศรัทธาแฟนหนุ่มรอวันตัดสินใจเลิกหรือคบต่อ ลั่นเพราะรักถึงต้องหลบหน้าสงบสติก่อนเคลียร์ โบ้ยถ้าอยากรู้ว่าปัญหาใหญ่คืออะไรให้ไปถามฝ่ายชายเอง เกี่ยงไม่ตอบใช่มือที่สามหรือไม่ เปรยอีกฝ่ายต้องเปลี่ยนทัศนคติใหม่ พร้อมเผยให้อภัยครึ่งนึงแล้ว
เข้ามาร่วมแสดงความยินดีให้กับผู้จัดค่าย “เป่าจินจง” ในงานฉลองครบรอบ 10 ปี หลังงานเลิกนักแสดงสาว “หนิง ภารดา พัฒนาหิรัญ” นางร้ายเพื่อนซี้นางเอกหน้าหวาน “นุ่น วรนุช” เข้ามาในงานพร้อมทั้งกระซิบถามกระจอกข่าวว่าแฟนหนุ่ม “บิ๊ก ศรุต วิจิตรานนท์” ที่มาร่วมงานเช่นกันได้เดินทางกลับไปหรือยัง
แต่เมื่อไม่เห็นฝ่ายชายสาว “หนิง” ก็รีบเข้าไปทักทายกับทางผู้ใหญ่ทันที แต่เมื่อนักแสดงหนุ่มเดินเข้ามาเท่านั้นแหละเธอก็รีบเดินหลบหน้าเข้าไปห้องน้ำ ก่อนที่จะออกมาเปิดใจกับความรักที่กระท่อนกระแท่น เพราะก่อนหน้านี้ทั้งคู่ได้ตกลงว่าจะถอยห่างจากกันได้ระยะหนึ่ง รักๆเลิกๆแม้ฝ่ายชายจะพยายามง้องอนมาโดยตลอด และยืนยันยังไม่มีการเลิกรา งานนี้สาวหนิงบอกยังไม่มีคำตอบว่าจะเลิกหรือดี โบ้ยให้ถามฝ่ายชายเองว่าสาเหตุทุกอย่างคืออะไร
“ถามหนิง ณ วันนี้ยังไม่มีคำตอบจากหนิงว่ายังให้โอกาสหรือยังไม่ให้โอกาส บอกตรงๆ ว่า เป็นอะไรที่เกิดขึ้นเร็วมากจนหนิงตั้งตัวไม่ติดในบางเรื่องและขอใช้เวลาให้มีสติมากขึ้นกว่านี้ ถ้าเราตัดสินใจเราไปตอนนี้มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้ กลายเป็นเราทำอะไรโดยอารมณ์ชั่ววูบ หนิงขอให้ผ่านไปสักพักใหญ่ๆ ก่อน”
“บางทีคนเราต้องการคำตอบอะไรยังไม่ได้เวลานี้ก็ได้ ถ้ามันผ่านไปเลยก็เป็นเรื่องของสิ่งที่เขากำหนดให้เป็นอย่างนั้น คงไม่มีผู้หญิงคนไหนที่อยากผิดหวังเรื่องความรักหรอกแล้วหนิงพยายามทำทุกอย่าง ประคับประคองทุกอย่างให้มันดีที่สุดเท่าที่ผู้หญิงคนนึงจะทำได้และทำเพื่อคนๆ นึง ถ้ามันไม่ใช่ก็ไม่รู้ แต่ ณ วันนี้สับสนมากจริงๆ คะ มากจนตัวเองไม่มีคำตอบให้ตัวเองเหมือนกัน ถ้าให้ไปร้องไห้ทำอะไรไม่ได้เลยวันๆ คงไม่ทำ หนิงคงอยู่แบบมีสติ เอาธรรมะที่ไปปฏิบัติมาเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ ตอนนี้อยู่กับเพื่อนก็แฮปปี้ดี”
“ณ ตอนนี้ห่างเพื่อจะตอบตัวเองว่าจะกลับไปปรับหรือจะเลิกค่ะ มันเป็นจังหวะช่วงที่ขอหยุดคิดทุกอย่างเลย หนิงทำอะไรมาเยอะมากจนรู้สึกว่าขอพัก ขอมีเวลาหายใจนิดนึง ถือว่าครั้งนี้หนักที่สุดยังงงว่าเกิดขึ้นได้ยังไงแต่เรื่องอะไรถามพี่บิ๊กเองแล้วกันค่ะ”
เผยเหตุที่ทำให้ต้องต้องตีตัวออกห่างแฟนหนุ่ม เนื่องจากหมดศรัทธาในบางเรื่อง ส่วนเรื่องมือที่สามก็ไม่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากได้ว่าเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
“เคยเข้าใจคำพูดคำนึงมั้ย คำว่าศรัทธาหนิงว่าคือที่สุดแล้วอ่ะ เหมือนเราศรัทธาอะไรสักอย่างนึงอะไรบางอย่างที่ทำให้เราค่อยๆ เสื่อมลงไป ก็ทำให้รู้สึกว่าโอเคเราต้องพูดแต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีความรู้สึกดีๆ เลย เขาบอกหนิงไม่รับโทรศัพท์เขาแต่หนิงยังถามข่าวคราวเขากับคนรอบข้าง จะบอกป้าว่าอย่าทิ้งเขานะเพราะเขาไม่มีใคร หนิงคบกับเขามาหนิงรู้สึกถึงคำนี้ได้เลยว่าเขาเป็นคนไม่มีใครจริงๆ”
“หนิงเป็นคนที่ไม่ระแวงใครที่สุดแล้ว หนิงอยู่ได้ทุกวันนี้บนความศรัทธา เรื่องมือที่สามอย่าไปพูดถึงมันเลย ทั้งตัวหนิงเองคงไม่อยากได้ยินและพี่บิ๊กคงไม่อยากจะพูดถึง”
ถามว่า คิดถึงผลบ้างหรือไม่เมื่อออกมาเปิดเผยแล้วจะทำให้สถานการณ์มันรุนแรงขึ้น นางร้ายแจงยังงงๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่แม้ไม่รุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาแต่ก็ยังหาจุดจบไม่ได้
“วันที่หนิงพูดไป ก่อนที่หนิงจะพูดหนิงถามตัวหนิงเองแล้วว่าถ้าหนิงพูดไปแล้วฟีคแบคจะกลับมาเป็นยังไงหนิงคิดไว้ล่วงหน้าแล้ว พูดไปแล้วเขาทำเฉยๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ต้องยอมรับตรงนั้น ถ้าทุกอย่างมันดีขึ้นพระเจ้าคงช่วยหนิงมั้งแต่หนิงไม่อยากให้เป็นแบบนี้ สามารถให้อภัยได้มั้ย หนิงยังสับสนอยู่เหมือนกันที่ผ่านมาเรื่องมันเคยแรงกว่านี้แต่ก็ยังอยู่ได้แต่ทำไมวันนี้ถึงเป็นแบบนี้หนิงก็ไม่รู้”
“หนิงภาวนาอาจมีอะไรดีขึ้น ไม่ใช่กลับมาแล้วดีขึ้นมันต้องดีขึ้นจากข้างในด้วย ไม่ใช่เราอยากให้ดีขึ้นเพียงผิวเผิน ต้องดีขึ้นจากทัศนะคติ มุมมองความคิดอะไรหลายๆ อย่าง ถ้าพี่บิ๊กเปลี่ยนมุมมองทัศนคติมันย่อมดีขึ้นแน่นอนค่ะ บอกได้เลยว่า ณ วันนี้ไม่ได้เปิดโอกาสให้ใคร ถ้าจะมีๆ ไปนานแล้วจริงๆ มีคนเข้ามาตลอดเวลาอยู่แล้วอ่ะ”
ถามต่อว่าสาเหตุหลักคือต้องปรับนิสัยฝ่ายชาย เจ้าตัวยอมรับ....“เขาน่าจะ หนิงว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่เขาไม่ชอบอะไรในตัวหนิง หนิงปรับให้หมดแล้วค่ะ พี่เขาน่าจะยืนยันอย่างนั้นได้เหมือนกัน ถ้าหนิงคุยกับเขาเดี๋ยวใจอ่อนอีก ขอเวลาให้ได้คิดอะไรอีกเยอะๆ”
และขณะที่เธอนั่งให้สัมภาษณ์อยู่นั้น อีกมุมหนึ่งแฟนหนุ่มก็กำลังให้สัมภาษณ์เช่นกันและฝากกระจอกข่าวให้มาบอกว่า “รักหนิง” พอได้ยินอย่างนั้น นักแสดงสาวอึ้งไปสักพักพร้อมเผยทุกอย่างที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะคำว่ารัก
“หนิงว่าการตัดสินใจครั้งนี้ตัดสินใจจากความรักด้วยแหละ หนิงเคยพูดเสมอว่าวันนึงพี่จะเข้าใจว่าสิ่งที่หนิงเคยพยายามบอกพี่ พยายามให้พี่ทำโน่น ทำนี่ พยายามให้พี่เป็นอย่างนั้น อย่างนี้ทุกอย่างเพื่อพี่คนเดียวแล้ววันนึงเขาจะรู้ว่าสิ่งที่หนิงพยายามจะบอกเขา ด้วยความที่หนิงเป็นเด็กเขาอาจจะมองว่าเพราะเขาโตกว่าแต่ ณ วันนึงเขาจะเข้าใจว่ามันคืออะไร ณ วันนี้เขาน่าจะเข้าใจและถ้าเข้าใจข้างหน้าเขาก็จะดี”
ยอมรับว่าตอนนี้พยายามหลบหน้าฝ่ายชาย
“ยอมรับเลยค่ะว่าหลบหน้า ไม่ปฏิเสธเป็นอาทิตย์แล้วค่ะ เพราะว่าหนิงรู้สึกว่าถ้าหนิงเจอหน้าก็ใจอ่อนเหมือนเดิมและเป็นการใช้อารมณ์เหมือนกัน กลับไปคืนดีกันหรือบอกเลิกกันตอนนี้มันเป็นการใช้อารมณ์ทั้งคู่ สุดท้ายปัญหาคาราคาซังที่มันเกิดขึ้นตลอดมันจะไม่สามารถแก้ได้เลย หนิงว่าใช้เวลานานๆ มีสติมากขึ้นกว่านี้แล้วบางทีอาจเป็นบทที่บอกว่าจริงๆ แล้วเขาก็ขาดหนิงไม่ได้ หนิงก็ขาดเขาไม่ได้มั้ง”
“ถ้าพวกพี่ๆ ได้รู้ทุกอย่างที่อยู่แบบเป็นหนิง ที่หนิงพยายามให้อะไรหลายๆ อย่างดีขึ้นและจูนกันได้จะไม่มีใครว่าหนิงใจแข็งหรอก การใจแข็งของหนิงเขาจะไม่มีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้น คนเราจะรักกันคบกันไมได้เปลี่ยนแค่ ณ วันนี้เอาเธอ ฉันไปครอบครอง ทัศนคติหลายอย่างที่ต้องพร้อมให้อภัย เข้าใจและเสียสละ ณ วันนี้หนิงเข้าใจและให้อภัยอยู่ครึ่งนึง แต่คำว่าเสียสละของหนิงเขาน่าจะเข้าใจว่ามันคืออะไร”
“ถ้าเขาอยากจะเคลียร์ก็คุยค่ะแต่หนิงบอกกับพี่เขาแล้วว่าขอเวลาอีกสักอาทิตย์นึงให้รู้สึกว่าแข็งแรงกว่านี้ ไม่ได้ใช้อะไรด้วยอารมณ์ที่ขาดกันไม่ได้ และเขาต้องใช้อะไรจากข้างในคุยกัน ไม่ใช่พ่อแม่เราสนิทกัน เราคบกันมานานเราไม่ต้องเลิกกัน ไม่ใช่แค่เหตุผลสั้นแค่นั้น”