"ลินน์ สเปียร์ส" แม่แท้ๆของ "บริทนีย์ สเปียร์ส" นักร้องสาวเจ้าปัญหา ได้ยื่นฟ้องต่อศาลโดยกล่าวหาว่า "แซม ลุตไฟ" ให้ยาพร้อมพูดจาข่มเหงจิตใจนักร้องสาว โดยเรียกร้องศาลให้ออกคำสังควบคุมตัวลุตไฟให้อยู่ห่างๆจากบริทนีย์ก่อนที่นักร้องสาวจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
โดยข้อเรียกร้องดังกล่าวนี้ได้ร้องต่อศาลพร้อมแนบรายละเอียดที่พรรณนาถึงสภาพอันแสนยุ่งเหยิงของนักร้องสาว เมื่อครั้งที่แม่ของเธอเดินทางไปตามคำเชิญเมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยบรรยายถึงปัญหาของนักร้องสาวเกี่ยวกับการแสดงพฤติกรรมแสนประหลาดคล้ายเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆออกมาและยังเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวเองและเสื้อผ้าของน้องหมาวันละหลายๆรอบด้วย
คำสั่งควบคุมครั้งนี้ระบุให้ลุตไฟห้ามเข้าใกล้บริทนีย์ภายในระยะ 250 หลารวมทั้งที่บ้านของนักร้องสาว,บ้านของครอบครัวนักร้องสาวและที่โรงพยาบาลขณะที่บริทนีย์กำลังเข้ารับการรักษาตัวอยู่ด้วย พร้อมเหตุผลว่า "นายลุตไฟได้ใช้ยากับบริทนีย์ เขาทำการตัดสายโทรศัพท์บ้านของบริทนีย์และกำจัดที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือของเธอ เขาพยายามที่จะเข้าควบคุมทุกๆสิ่งของบริทนีย์"
ในเอกสารจำนวนกว่า 6 หน้าที่ลินน์ สเปียร์สแม่ของนักร้องสาวให้การไว้คือ เมื่อครั้งที่เธอและแจ๊คกี้เพื่อนของเธอเดินทางไปถึงที่บ้านของบริทนีย์ ลุตไฟ เพื่อนที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวของบริทนีย์ได้เผยว่าเขาให้ยากับนักร้องสาว
"แซมบอกกับแจ๊คกี้และฉันว่าเขาได้บดยาของบริทนีย์จนเป็นผงซึ่งบนเคาน์เตอร์นั้นยังรวมถึงยา Risperdol และ Seroquel ( ยาระงับประสาทที่ใช้สำหรับผู้มีอาการทางจิต )"
"เขาบอกกับพวกเราว่าเขาใส่ยาพวกนี้ลงในอาหารของบริทนีย์และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมบริทนีย์ถึงได้เงียบงันตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา เธอเอาแต่นอน เขาบอกกับพวกเราว่าแพทย์ที่รักษาบริทนีย์ตอนนี้พยายามที่จะให้เธออยู่ในสภาพไม่รู้สึกตัวเพื่อที่หมอจะได้ให้ยาเพื่อรักษาอาการทางสมองของเธอได้"
พร้อมกันนั้น แม่ของบริทนีย์ยังระบุอีกว่า ลุตไฟยังต้องการให้ลินน์ทำตามคำสั่งของเขาทุกอย่างด้วย
"ผมเป็นคนเดียวที่อยู่กับลูกสาวคุณทุกวันตลอด 24 ช.ม." ลินน์ อ้างคำพูดของเขา
"ผมนอนหลับอยู่ในรถนอกบ้านของเธอดังนั้นเธอจึงหนีไปไหนไม่ได้ พวกคุณทุกคนเอาแต่เมา ถ้าผมไม่ได้เข้าบ้านเพื่อให้ยากับบริทนีย์ เธออาจจะฆ่าตัวตาย จากนั้นเขายังบอกกับฉันอีกว่า "ถ้าคุณพยายามกำจัดผมออกไปล่ะก็ เธอตายแน่และตอนนั้นผมจะยืนปัสสาวะรดหลุมศพเธอ"
นอกจากปัญหาเรื่องการให้ยาแล้ว ลินน์ยังระบุอีกว่าบริทนีย์และลุตไฟมีปากเสียงกันตลอดในช่วงเย็นด้วย "แซมเคยบอกกับบริทนีย์ว่าเธอเป็นแม่ที่ใช้ไม่ได้ เธอเป็นแค่โสเภณีเหมือนขยะไร้ค่าชิ้นหนึ่ง เพราะเธอแคร์แอดนันแฟนใหม่มากกว่าลูกของตัวเอง และเธอไม่สมควรได้รับสิทธิ์ดูแลลูกๆ"
ลินน์ กล่าวถึงพฤติกรรมของลูกสาวที่ดูแปลกไป
"บริทนีย์ กลายเป็นคนที่ปั่นป่วนตลอดเวลาจนไม่สามารถหยุดเคลื่อนไหวได้เลย เธอจะทำความสะอาดบ้านและเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวเองอยู่ตลอดเวลา แถมเธอยังเปลี่ยนเสื้อผ้าให้น้องหมาวันละหลายๆรอบด้วย บริทนีย์พูดคุยกับฉันด้วยน้ำเสียงของเด็กตัวเล็กๆที่ยังไม่รู้ภาษา บริทนีย์หยิบขวดยาขึ้นมาและอ่านฉลากดูแล้วเธอก็ถามพวกเราว่า "อาการนอนไม่หลับ แปลว่าอะไร?" แต่แซม กลับตอบเธอแค่ว่ายาพวกนี้จะช่วยให้เธอตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา"
3 วันหลังจากเรื่องราวดังกล่าวที่เกิดขึ้นภายในบ้าน บริทนีย์ สเปียร์สถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลที่ ยูซีแอลเอ เมดิคัล เซ็นเตอร์ แผนกผู้ป่วยทางจิต ซึ่งเธอจะถูกบังคับให้อยู่ที่นั่นเป็นเวลา 14 วัน โดยมีเจมี สเปียร์ส พ่อของเธอและทนายความ เป็นผู้คอยตรวจสอบควบคุมตัวเธอเป็นการชั่วคราว