"จอย" แจง "แม็ก" ไม่ใช่ผจก.ส่วนตัว ส่วนเรื่องรักขอเป็นไปตามธรรมชาติ

ถูกเม้าท์ถึงแฟนหนุ่มนายแม็กหลายต่อหลายเรื่อง โดยเฉพาะออย่างยิ่งการเลือกรับงาน ทำเอานักแสดงหญิง "จอย ศิริลักษณ์" ต้องออกมาชี้แจง พร้อมบอกเล่าถึงอนาคตของชีวิตรักให้ได้รับทราบกันในรายการ "ที่นี่หมอชิต" เทปที่จะออกอากาศในวันอาทิตย์ที่ 3 ก.พ.นี้ เวลา 22.25 น. ทางช่อง 7

"กับข่าวที่เกิดขึ้นมีทุกรูปแบบทั้งดีและไม่ดี เจอมาหมดแล้ว กับข่าวที่ไม่ดีเกี่ยวกับตัวเองเมื่อก่อนจอยจะหวั่นไหวกับข่าว อะไรนิดอะไรหน่อยก็หวั่นไหว ทำไมอย่างนี้ ทำไมอย่างนั้น แต่พอโตขึ้นมามุมมองเปลี่ยนไป มองข่าวพวกนี้ว่าเป็นเรื่องธรรมดาของคนวงการ เพราะข่าวมีทุกแบบเคยแม้แต่ข่าวว่าจอยเจออุบัติเหตุรถชนตาย จนพ่อแม่ปู่ย่าตายายตกใจ ข่าวชู้สาวก็มี"

"วิธีการรับมือกับข่าวคือต้องทำใจ รวมไปถึงคุณพ่อคุณแม่ด้วยที่ต้องเข้าใจและทำใจ ตอนนี้กลับมองไปที่รุ่นน้องๆ ที่เดินเข้าวงการ เราจะมองออกเลยว่าเดี๋ยวช่วงไหนเขาจะเจอกับข่าวอะไร และต่อไปจะเจอแบบไหน เราจะรู้สเต็ปของข่าวที่พวกเขาเจอเลย สำหรับจอยจะไม่ค่อยซีเรียสกับข่าวเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปที่มีทั้งคนรักและคนเกลียด จะเฉยๆ ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่ถ้าเป็นข่าวจะที่กระทบกับงานจะซีเรียส ต้องออกมาพูดคุยชี้แจงกันให้เข้าใจ เพราะมันเป็นวิชาชีพ"

โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวเกี่ยวกับแฟนหนุ่มที่เข้ามาวุ่นวายเรื่องงานของเธอจนราวกับเป็นผู้จัดการส่วนตัวไปแล้วในตอนนี้
"กับข่าวกับพี่แม็ก (วินัย วัฒนราษฏ์) ที่มีคนบอกว่าเขามาดูแลเรื่องงานเป็นผู้จัดการให้จอยด้วย อันนี้อยากชี้แจงว่าข่าวนี้ไม่เป็นความจริง แรกๆ ของความเข้าใจผิดจากการที่จอยให้พี่แม็กเขารับโทรศัพท์เวลาจอยเข้าฉาก เพราะกลัวใครที่ต้องการโทรติดต่อเข้ามาเรื่องงานด่วนจะทำให้งานเขาล่าช้า และต่อมาจอยก็มีปัญหากับผู้จัดการส่วนตัวคนเดิม ไม่ได้ร่วมงานกันต่อ"

"จากที่เมื่อก่อนโทรศัพท์งานและอื่นๆ ทุกเรื่องจะเข้าไปที่ผู้จัดการ พอไม่มีผู้จัดการจอยก็เลยจำเป็นต้องให้เบอร์จอยลงข่าวทางหนังสือพิมพ์ ซึ่งสายที่เข้ามามันมีทุกชนิด ทั้งงาน ทั้งโทรมาป่วนมาแกล้ง ก็เลยไม่ไหว ก็ให้แม็กเป็นคนรับโทรศัพท์แทน ถ้าเป็นเรื่องงานก็ค่อยให้มาคุยกับเรา เราก็จะยังไงล่ะ"

"คือคนที่ไว้ใจได้เดี๋ยวนี้หายากมาก นอกจากนี้แล้วยังต้องมีเวลาที่จะเรียนรู้งาน เพราะงานแต่ละอย่างไม่เหมือนกัน วิธีการจัดการการพูดการดูแลก็ต่างกัน ซึ่งคนคนนี้เขาต้องมารับหน้าที่แทนเราทุกเรื่องทั้งดีและไม่ดี ไม่มีคนค่อยอยากจะทำเท่าไหร่ ซึ่งตอนนี้ก็ยังหาไม่ได้ พี่แม็กก็เลยยังต้องทำหน้าที่รับโทรศัพท์ให้จอยอยู่ แต่เขาไม่ได้เป็นผู้จัดการส่วนตัวนะคะ"

"แล้วตอนที่เราไม่มีใครก็มีพี่แม็กอยู่เคียงข้างเสมอ เวลาทุกข์สุดๆ การที่เรามีเขา เวลาที่เราทุกข์สุดๆ ไม่ไหวแล้ว อยากร้องไห้ เราก็เอาหัวไปพิงไหล่เขา แล้วร้องไห้เงียบๆ โดยที่เขาไม่ต้องพูดอะไร แค่เอามือลูกหัวเราเบาๆ เข้าใจเราก็พอแล้ว เราก็ได้ระบายออกด้วยการร้องไห้พิงไหล่เขา แค่นี้ก็พอแล้ว จอยไม่ค่อยร้องไห้เพราะความเสียใจ จะนิ่งเงียบ แต่จะเสียน้ำตามากกับความซึ้งใจ แค่เข้าเว็บไซต์ของตัวเอง เจอคำพูดดีๆ ทีเขาพูดถึงเรา รู้สึกดีกับเรา ก็จะร้องไห้"

"ร้องไห้ล่าสุดเมื่ออาทิตย์ที่แล้วน้านิด(อรพรรณ พานทอง)มาเซอร์ไพรส์ มาให้กำลังใจ เลยร้องไห้ น้ำตามาจากไหนไม่รู้ ร่วงเผาะๆ และอีกครั้งที่ร้องไห้มากเป็นความภูมิใจคือ ตอนวันเกิดล่าสุดครบ 30 ตอนนั้นตั้งใจมาก ซื้อมาลัยมากราบเท้าคุณพ่อคุณแม่ ขออภัยและขอขมา ก่อนจะเจอะคุณพ่อคุณแม่นี่คิดคำพูดไว้มากมาย แต่พออยู่ตรงหน้าบอกคุณพ่อคุณแม่หนูมากราบ แล้วก้มลงกราบก็ร้องไห้ แล้วไม่รู้น้ำตามาจากไหน คุณพ่อคุณแม่ก็พูดไม่ออก ก็ยกตัวจอยขึ้นมากอด แล้วก็ร้องไห้กันสามคน ซึ่งวันนั้นก็ได้กราบขอขมาและกราบขอบคุณท่านทั้งสองตามที่ตั้งใจไว้"

"ตอนนี้ 30 แล้ว สำหรับเรื่องแต่งงานหนูมองเป็นเรื่องธรรมชาติ อย่าไปฝืน ถ้าใช่ก็ใช่ คบกันทำให้ดีที่สุด เมื่อรู้สึกว่าพร้อมก็คงจะโอเค ซึ่งเมื่อไหร่ไม่รู้ อาจจะปุ๊บปั๊บก็ได้ เป็นเรื่องความพร้อมของคนสองคนที่คบกันต้องคุยกันก่อน ใช้เวลาดูว่าเขาจะดูแลเราได้มั้ย คบกันไปถ้าใช่ก็ให้ฝ่ายชายทำตามประเพณี ปล่อยทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ถ้าใช่มันก็ใช่ค่ะ"