กลายเป็นข่าวฉาวส่งท้ายสิ้นปี กรณีพระเอกนักร้องชื่อดัง “มอส ปฏิภาณ ปัฐวีกานต์” นึกสนุกรวมหัวกับเพื่อน ๆ ผู้กำกับ นักแสดงจับดาราเด็กน้อง “แพทริค ชานนท์ มกรมณี” แก้ผ้ากลางกองถ่ายละครเรื่อง แสงดาวแห่งหัวใจ จนทำให้รู้สึกอับอายถึงกับต้องแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน
ล่าสุดหลังจากตกเป็นข่าวใหญ่หนุ่มมอส และกลุ่มเพื่อนก็พร้อมใจกันออกมานั่งแถลงข่าวขอโทษน้องแพทริค และ ครอบครัว แต่ก็ยังยืนยันว่าไม่ได้จับน้องแพทริคแก้ผ้า ซึ่งเรื่องนี้ทางด้าน “นายพรเลิศ มกรมณี” คุณพ่อน้องแพทริคได้เปิดใจถึงเรื่องนี้
“ตัวผมคงไม่อะไรมากเราไม่ได้โกรธหรือเกลียดเขาเข้าใจว่าเป็นการหยอกล้อกันเล่น แต่จะรู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกของน้องแพทริค มากกว่า ปกติเขาจะเป็นเด็กที่ร่าเริงช่างพูด แต่พอหลังวันที่เกิดเรื่องเขาจะซึมเศร้าไปนิดหน่อยไม่ได้ยินเขาเล่นเปียโนให้ฟังเลย ผมว่าก็คงเป็นไปตามประสาเด็กแป๊ปเดียวก็หายแล้วคงไม่ถึงขนาดที่ต้องมาเศร้าแบกโลกไว้ทั้งใบหรอก”
“แต่เขาบอกว่าเขารับไม่ได้รู้สึกกลัวไม่อยากที่จะไปถ่ายละครเรื่องนี้ หรือเข้าใกล้คนกลุ่มนี้อีกแล้ว ผมก็เอาแล้วเห็นหมายศาลมาแล้วรำไร เพราะเขาต้องเอาเราแน่ๆ ถ้าเราทำเขาเสียหายเลยปรึกษาทนายว่าจะทำยังไงดีมันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นทางทนายก็แนะนำให้เราไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้ก่อน เพื่อเป็นหลักฐานฉะนั้นผมขอยืนยันว่าทางเราไม่ได้ที่จะไปฟ้องร้องดำเนินคดีให้คุณมอสต้องเสียหายแต่อย่างใด ที่เราทำไปเพราะต้องการเซฟตัวเราเองเท่านั้นเอง”
“ซึ่งก่อนหน้านี้ทางด้านคุณมอสเขาก็โทรศัพท์ติดต่อมาจะขอคุยกับน้องแพทริค แต่ทางแพทริคเขาไม่ยอมคุยเขาบอกว่า เขาขอเวลาหน่อยเขากลัว ความรู้สึกของเขามันเปลี่ยนไปแล้วจากที่เคยเห็นพี่มอสเป็นพี่ชายเป็นฮีโร่ของเขา แต่พอเกิดเรื่องพี่มอสกับไม่ช่วยเขามาแกล้งเขา ลักษณะคล้ายกับคนอกหักประมาณนั้น คาดหวังกับคนนี้เอาไว้แล้วเขาไม่เป็นอย่างที่หวัง”
“ผู้ใหญ่อาจคิดว่าเป็นการหยอกล้อเล่นกันธรรมดา แต่แพทริคเขาอายุ 11 ขวบแล้ว เขาเริ่มรู้สึกว่าเขาเป็นหนุ่มแล้วพอเกิดเรื่องแบบนี้ต่อหน้าคนเยอะๆ เป็นธรรมดาที่รู้สึกอาย จริงๆ การเล่นหยอกล้อกันตามประสารุ่นพี่รุ่นน้องผมว่ามันก็ดี แต่บางทีเราต้องดูขอบเขตนิดหนึ่งว่ามันจะมีผลกระทบกับใครหรือเปล่า ทางแพทริคเขาบอกว่าเขาตั้งใจมาทำงานมากๆ มีความรับผิดชอบสูงอยากให้งานออกมาดี แต่ทำไมทุกคนกลับมาทำกับเขาแบบนี้ เพราะเพียงคิดว่าเขาเป็นเด็กตัวเล็กๆแค่นั้นเหรอ”
ส่วนเรื่องกรณีข่าวการเปลี่ยนตัวเด็กที่มารับบท “ต้นไม้” แทนน้องแพทริคนั้น ทางด้านคุณพ่อเผยว่า ยังไม่ได้รับการติดหรือคุยเรื่องนี้กับทางทีมงานเลย
“ยังไม่ได้มีใครติดต่อมาเลยมารู้ตอนที่นักข่าวโทรมาสัมภาษณ์นี่ล่ะ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของสัจจธรรมนะ ทุกอย่างเป็นเรื่องของธุรกิจ ถ้าเรื่องมากนักเขาก็เปลี่ยนให้เด็กคนอื่นมาเล่นแทนเป็นอย่างนี้บ่อยๆอยู่แล้ว จะให้เขามาหยุดกลางคันเพื่อนเราเขาคงไม่ทำหรอก เพราะเขาก็ลงทุนกันเยอะเรื่องตรงนี้ไม่ซีเรียสและไม่มีคอมเม้นท์ใดๆ แต่ก็คิดคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้เขาไม่เอาเราไว้แน่พอเป็นเรื่องขึ้นมา”
“ถามว่าเสียดายไหมที่ไม่ได้ร่วมงานกับทางดาราวีดีโอ เราคงจะมานั่งเสียดายไม่ได้ ถ้าให้เลือกระหว่างชื่อเสียงเงินทองกับความรู้สึกของลูก คงต้องเลือกความรู้สึกของลูกเราอยู่แล้วแน่นอนว่ามันต้องมีกระแสข่าวตามมาว่าพ่อ แม่ แพทริคเรื่องมากทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่ว่าจะให้ผมทำยังไงในเมื่อผมหว่านล้อมเขาแล้ว เขายังยืนยันไม่ยอมท่าเดียว”
“ผมพูดให้เขาฟังเลยว่า ลูกรู้ไหมว่าลูกจะทำให้เขาเสียหายนะ เพราะการทำละครเรื่องหนึ่งต้องลงทุนทั้งแรงเงินและแรงกายอย่างมหาศาลเลย เขากลับบอกผมว่าแพทริคขอเถอะป๊ะป๋าจะบังคับเขาเรื่องอะไรก็ได้ แต่เรื่องนี้เขาขอ ถึงให้เขากลับไปเล่นละครเรื่องนี้อีกเขาก็จะทำงานออกมาไม่ดี เพราะเขาระแวงกลัว และอายไม่มีสมาธิเลย”
“คนจะคิดว่าผมเป็นพ่อทำไมพูดกับลูกไม่ได้ แต่จะให้ผมทำยังไงขนาดบอกว่าเดี๋ยวผมจะไปบอกทางค่ายละครให้เขาเปลี่ยนบทให้ใหม่เขายังไม่เอาเลย ฉะนั้นจะให้ผมไปบังคับ หรือตัดสินใจแทนเขามันไม่ได้เราต้องเคารพสิทธิในการตัดสินใจของเขา เพราะเขาเป็นคนที่ต้องไปทำงานตรงนั้นไม่ใช่ผม”
“แพทริคทำงานในวงการมา 9 ปีแล้ว ผมเตรียมใจไว้ล่วงหน้าแล้วว่า อยู่วงการนี่มันต้องมีเรื่องขึ้นมาสักวันหนึ่งแล้วมันก็เกิดขึ้นมาจริงๆ ผมพยายามสอนและบอกแพทริคตลอดไม่ว่ากระแสข่าวจะออกมายังไงจะมีการแบนหรือบอยคอตเขา ชีวิตเขาก็ต้องดำเนินต่อไปอยู่ดีเขาไม่ต้องไปคิดอะไรมาก เรื่องที่จะไม่มีใครมาจ้างเราทำงานก็ไม่ต้องไปหวาดผวากับมัน ดีซะอีกถ้าไม่มีงานเข้ามาแพทริคจะได้กลับไปใช้ชีวิตในช่วงวัยเด็กของเขาอย่างเต็มที่ได้ไปเรียนหนังสือไปเจอเพื่อนๆตามปกติที่วัยเขาจะเป็น”
“ส่วนเรื่องของเงินทองมันเป็นของนอกกาย ผมมั่นใจว่าถ้าแพทริคไม่ได้ไปทำงานตรงนั้นผมก็สามารถหาเลี้ยงครอบครัวผมได้ ไม่ใช่ว่าเราหยิ่ง แต่ถ้าประชาชนไม่ยอมรับจริงๆ เราก็ยินดีที่จะให้ลูกเราก้าวออกมาทุกวันนี้ที่ให้เขาทำ เพราะเห็นว่าเขาสนุกและตั้งใจที่จะทำงานตรงนี้ แต่ถ้าเขาไม่แฮปปี้ออกมาครอบครัวเราคงไม่เดือดร้อนอะไร”
***
“มอส” ยันไม่ ได้จับ "แพทริค" แก้ผ้า แต่ขอโทษที่ทำให้รู้สึกไม่ดี
ความจริงจากปาก “แพทริค” ถึง “พี่มอส” และ “ดาราวีดีโอ”