xs
xsm
sm
md
lg

“เจ๊ไก่” สู้ตายฟ้อง “มายาฯ” 30 ล้าน ลั่นถ้าอยากไกล่เกลี่ยให้ “ประวิทย์” มาเคลียร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ไก่ วรายุธ” ฟ้อง “มายาฯ” แน่ 30 ล้าน ทั้ง แพ่ง-อาญา บอกจะไม่มีการประนีประนอมแน่นอน เผยคุยกันทางโทรศัพท์ตกลงเรียบร้อย แต่ไม่มีความรับผิดชอบ บอกจะเคลียร์กับนาย "ประวิทย์" เท่านั้น ยันฟ้องเป็นกรณีตัวอย่าง หากชนะคดีเงินทุกบาททุกสตางค์บริจาคหมด พร้อมย้ำสัมพันธ์ "นก" รู้จักมา 30 ปี รักด้วยความบริสุทธิ์ใจ

ศึกบานปลายเสียแล้ว สำหรับหนังสือพิมพ์บันเทิงชื่อดัง “มายาแชนแนล” กับคู่กรณี “ไก่ วรายุธ มิลินทจินดา” ที่โดนหนังสือพิมพ์บันเทิงชื่อดังเขียนพาดพิงในทางชู้สาว ทำครอบครัวของทั้งสองนก อย่าง “นก ฉัตรชัย” และ “นก สินจัย” บ้านแตก จนต้องบุกถึงโรงพิมพ์ ขอให้ลงแก้ข่าวว่าข้อมูลที่ลงนั้นไม่เป็นความจริง แต่ทางหนังสือพิมพ์ชื่อดังยังไม่ได้เอ่ยคำขอโทษต่อกรณีดังกล่าวลงแต่อย่างใด วันนี้ (25) ผู้จัดชื่อดังจึงออกแถลงข่าวพร้อมทนาย ยืนยันจะเรียกค่าเสียหาย 30 ล้าน อีกทั้งฟ้องหมิ่นประมาทอีกด้วย ก่อนจะเปิดใจแถลงข่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า

“ความจริงอยากให้เรื่องมันจบตรงนั้น ถ้าเขาขอโทษเรา เราคุยกันทางโทรศัพท์และรับปากเราว่าจะทำตาม เราต้องการแค่นี้เอง แต่เขาเป็นผู้ใหญ่แล้วด้วย และไม่ได้ทำอย่างที่พูดโทร.หาเขาเมื่อวานตอนเที่ยงเขาบอกติดประชุมอยู่ สามโมงโทร.กลับมาว่ามีอะไรหรือครับ พี่ก็บอกว่าทำไมไม่ทำตามที่บอกเขาบอกว่าผมทำดีที่สุดแล้วตรงนี้ บอกพี่ดีที่สุดของพี่เนี่ยยังไม่ใช่ที่เราต้องการนะ ฉะนั้น เรารู้สึกว่าต้องเรียกร้องความยุติธรรม อยากจะทำให้เป็นคดีตัวอย่างว่าสิ่งที่เขาทำมันเลวร้ายเกินไปกว่าที่เราจะยอมรับได้”

“ปรึกษาทนายความว่าตรงนี้ไก่ฟ้องได้มั้ย พี่นก (นพดล ศรีชยันดร) บอกว่าได้ ฟ้องเลยเพราะงั้นเราเลยเชิญพี่นกมาว่าเราจะฟ้องในลักษณะไหน ถามว่าไกล่เกลี่ยอีกรอบมั้ย ก็เขาลงในฉบับเล่มไหนไม่รู้ว่าถ้ามาก็มาขอโทษจะมาทำไม ไม่ต้องมา แล้วนี่เขาก็ลงเหมือนเราไปบุกเขาอีกต่างหากน่ะ แถมเอาเว็บไซต์มาลงอีก ไม่รู้เอามาด่าเราอีกน่ะ ทำไมอย่างเว็บไซต์ดีๆ ที่เขาเชียร์เราเยอะแยะที่พูดถึงว่าเขาเลวทำไมเขาไม่เอามาลง เราก็ช่างเถอะ”

“เรียกร้องเงิน 30 ล้านแล้วเงินทั้งหมดถ้าได้ชัยชนะพี่จะทำบุญทั้งหมดเลย ไม่เอาเก็บไว้ที่ตัวเอง เอาไปให้สถานสงเคราะห์ต่างๆ ฟ้องทั้งแพ่งและอาญา ไม่ต้องให้ลงขอโทษอะไรอีกแล้ว เพราะเดี๋ยวหนังสือพิมพ์ก็ลงว่าเราชนะแล้วเท่านั้นก็จบแล้ว ฟ้องเพื่อศักดิ์ศรีของตัวเอง และเป็นคดีตัวอย่างว่าเวลาเขียนอะไรให้มีสามัญสำนึกและจรรยาบรรณความเป็นนักหนังสือพิมพ์หน่อย อย่าทำร้ายคนอื่นขนาดนี้จนเขาได้รับความเสียหาย หลังจากข่าวลงมีผลกระทบค่ะ มีคนโทร.มาด่าค่ะว่ามึงเลวอย่างนี้เลยเหรอไก่ ถ้าเพื่อนไม่ด่าเราคงไม่รู้สึกนะ”

กับกรณีที่ฝ่ายคู่กรณีบอกว่าให้ฉี่ใส่ตนเองแทนหนังสือพิมพ์นั้น ผู้จัดชื่อดังบอกจะไม่มีการฉี่รดแล้วหวั่นกระเด็นใส่ตนเองแล้วจะซวยมากขึ้นไปอีก บอกไม่หนักใจเลยที่ต้องทะเลาะกับสื่อนี้ พร้อมเผยบอก “นก ฉัตรชัย” แล้วว่าจะมีการฟ้องร้อง และทั้งสองนกอาจต้องมาขึ้นศาลในฐานะพยานด้วย

“ที่ร้องไห้เพราะเสียใจ แค้นใจที่ไปยืนร้องไห้อยู่หน้าบ้านเขา เหมือนเราเป็นหมาไปยืนเห่าๆ แล้วเจ้าของบ้านเขาไม่ออกมา เรื่องฉี่เนี่ย กลัวแล้วล่ะ กลัวของเราจะเสียหาย ไม่เอาเดี๋ยวมันกระเด็นขึ้นตัวพี่เดี๋ยวแย่ขึ้นไปอีก”

“ตอนนี้ไม่หนักใจค่ะ ที่ฟ้องหนังสือพิมพ์ เพราะว่าเราไม่ผิด เราบริสุทธิ์ทุกอย่าง และมันไม่เป็นความจริงเลย คนในหมู่บ้านบอกเป็นไปได้อย่างไรฉันไม่เคยเห็นคุณฉัตรชัยเลย แล้วบอกว่ามานอนที่นี่ ก็บอกนกชายแล้วค่ะ เมื่อคืนนี้ว่าจะฟ้อง เขาก็บอกพี่ไก่เอาจริงหรือ เอาจริง เราไม่ยอม นกบอกแล้วแต่พี่ไก่ ทำดีที่สุดแล้วกัน ถามว่าพี่นกจะร่วมฟ้องมั้ย ก็เขาไม่ได้เดือดร้อนนี่คะ คือ หนังสือพิมพ์ทุกฉบับลงเขาเตียงหัก คือ เรื่องปกติ แต่นี่เราเดือดร้อน ถ้าขึ้นศาลก็คงเชิญนกชาย นกหญิง มาเป็นพยานทั้งคู่ เขายินดีอยู่แล้วน้องพี่ทั้งคู่”

“แล้วในหนังสือพิมพ์น่ะ เราก็อ่านแล้วค่ะ เราจบและเราสอนหนังสือปริญญาโทอยู่พี่คงไม่โง่อย่างที่เขาพูดหรอกนะ”

บอกในกรณีนี้จะไม่มีการประนีประนอมแน่นอน หากไม่ใช่ผู้ใหญ่ที่เคารพมาขอร้องก็จะไม่ยินยอมเป็นอันขาด

“ถึงตรงนี้แล้วไม่ประนีประนอมแล้วค่ะ แต่เมื่อวานนี้เขาไม่สนใจเลย เขารู้สึกว่ามึงอยากฟ้อง ฟ้องไปเขาไม่แคร์น่ะ เหมือนตบหน้าเราน่ะ ซึ่งเราเป็นคนพูดเองว่าเราจะฟ้องถ้าเราไม่ฟ้องเราก็เสียคน เพราะข่าวนี้ถือว่าทำให้เราเสียหายที่สุดค่ะ”

“เรื่องนี้ไม่ได้ปรึกษาทางช่องเลยค่ะ ปรึกษาทนายอย่างเดียว ฟ้องเพื่อว่าเราไม่ผิด เราจะได้มีละครทำต่อไป เดี๋ยวเราเป็นคนเลว นายก็จะด่าเราเอาคนเลวไว้ในช่องทำไม มันมีอะไรอีกเยอะแยะที่จะกระทบต่อตัวเรา เพราะฉะนั้นเราต้องป้องกันเอาไว้ก่อน ถึงมันยังไม่เกิดก็จริง ถ้าผู้ใหญ่ขอไกล่เกลี่ยก็ต้องดูว่าเป็นผู้ใหญ่ที่เรานับถือรึเปล่า เราเคารพมั้ยถ้าเป็นตาสีตาสาที่ไม่รู้จักก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับเรา ใหญ่แค่ไหนเราก็ไม่กลัวค่ะ ถ้าเป็นผู้ใหญ่ที่เคยช่วยเหลือเรามาตั้งแต่ต้นก็ว่าไปอย่าง ถ้าเป็นนายประวิทย์มาขอพี่ก็คงให้ เพราะท่านมีบุญคุณกับเราน่ะ พี่ยังทำงานกับช่อง 3 ถ้านายเห็นเราถูกเป็นคนดีอยู่ก็โอเค”






ด้าน นายนพดล ศรีชยันดร ทนายความของไก่ วรายุฑ เปิดเผยถึงกรณีนี้ ว่า สามารถเอาผิดข้อหาหมิ่นประมาทได้ ส่วนผู้จัดชื่อดัง เผยยอมเสี่ยงกับงานนี้เต็มตัว พร้อมขึ้นศาลเต็มที่

ทนาย : “ความผิดในเรื่องนี้เป็นเรื่องหมิ่นประมาทนะครับ ถ้าผู้สื่อข่าวไปลงในสิ่งที่ไม่เป็นความจริงและเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ก็ฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทเป็นคดีอาญานะครับ มีโทษจำคุกและมีความเสียหายในทางแพ่ง ต่อชื่อเสียงการทำมาหากิน”

“จากที่ผมทำงานมาเนี่ยก็ไม่ได้สนับสนุนให้เขาฟ้องร้องนะครับ อยากให้เขาเจรจากัน ถ้าเจรจากันไม่ได้ ถ้าฟ้องก็ต้องฟ้อง เพราะคดีมีมูล อีกประการหนึ่งได้มีข้อความฉบับแรกว่า “สองนกบ้านแตกโดยไก่ วรายุฑ เป็นผู้ยืนยัน” ถือว่าไม่เป็นความจริง มาในฉบับที่สอง เขาทำโดยการลงคอลัมน์เล็กๆ แต่ว่าเนื้อความมีความหมายว่า ยินดีรับผิด ว่า “เนื่องจากหนังสือพิมพ์มายาแชนแนลได้นำเสนอข่าวไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา ไปเมื่อฉบับที่ผ่านมา ทำให้ไก่ได้รับความเสียหาย ซึ่งต้องแสดงความเสียใจและขอโทษที่เกิดความคลาดเคลื่อน “ก็คือไม่จริง”

ไก่ : “นี่แหละค่ะที่เราจะเอาชนะเขาได้ ถึงแม้เขายอมขอโทษก็จริงแต่ลงหน้าในและคอลัมน์เล็กๆ น่ะ ต้องลงหน้าหนึ่ง เพราะถ้าอย่างนี้ใครจะไปเห็นล่ะ คือ เขารับผิดแล้ว แต่เขาไม่ทำอย่างที่เราต้องการ เพราะฉะนั้นมันเรียกว่ายังไม่บรรเทาความเสียหายที่เราได้รับ ภาษากฎหมายเขาบอกแบบนี้”

“ไกล่เกลี่ยในศาลก็ไม่แล้วค่ะ ถ้าคดียืดเยื้อกินเวลาหลายปีก็ยินดีค่ะ อยากขึ้นไม่เคยขึ้นศาลเลยในชีวิต ..(หัวเราะ) ถ้าเขาจะดังเพราะเรื่องนี้ก็ดังไปซิ ก็เอาเงินมาละกัน จริงๆ เราไม่เคยมีคดีฟ้องร้องเลย ตกใจตัวเองที่กล้าทำอะไรขนาดนี้และตื่นเต้น แต่หลายคนบรรดาเพื่อนๆ นักแสดง บอกลุยเราไม่ผิด คนในวงการสนับสนุนเยอะมาก เพราะเขาโดนหนังสือพิมพ์เล่มนี้เยอะมาก และเขาไม่กล้าออกมาโต้ตอบ เราก็นำทางให้เขาเห็นว่าเขียนดีๆ และที่ฟ้อง 30 ล้านเพราะอยากได้ตังค์เยอะๆ เพราะไหนก็เสียหายแล้วก็อยากเอาเงินไปบริจาคละกันจะได้ทั่วทุกมูลนิธิ”

“ฝากบอกเขาว่าเขาคงชินกับการฟ้องร้องนะคะ คดีไก่อาจไม่ทำให้คุณตื่นเต้นหรือตกใจ แต่ไก่ต้องขอเรียกร้องสิทธิ์และความสูญเสียของไก่ เพราะฉะนั้นคุณช่วยรับคำฟ้องไก่ด้วยละกันนะคะ ถ้าไงเราจะคุยกันตั้งแต่วันนี้ไปคุยกันในศาลละกันนะคะ”

“ถือว่าเอาตัวไปเสี่ยงกับงานนี้ละกัน เรายอมเสี่ยงชีวิต เพราะไม่มีอะไรเสียแล้วหนิ พ่อแม่ก็ตายหมดแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องอายพ่อแม่แล้ว ญาติๆ ก็มีแต่น้องๆ พี่ๆ ทั้งนั้น ครั้งนี้เราขอเอาชื่อเสียงเราคืนมา พี่ว่าคุ้มนะดีกว่าคนเข้าใจผิดพี่ไปตลอดชีวิตนะ พี่ว่าถ้าพี่ไม่ไปญาติดีกับเขา พี่คิดว่าหนังสือพิมพ์เล่มเดียวไม่ทำให้พี่ตายได้ แต่ต่อไปเขาตายพี่ก็ไม่สนใจนะ”

ก่อนผู้จัดชื่อดังจะทิ้งท้ายยืนยันความสัมพันธ์กับ “นกชาย ฉัตรชัย เปล่งพานิช” ว่า ที่จริงสนิทกันมาร่วม 30 ปี ตนรักอย่างบริสุทธิ์ใจ บอกน้องคนไหนเดือดร้อนมาตนก็ช่วยเหลือตลอด

“ถึงเขาจะรักกันหรือแยกกันอยู่ ก็ไม่เกี่ยวกับเรา เราจะไม่หาต้นตอปล่อยข่าว เราจะฟ้องเฉพาะในส่วนของเรา กับพี่นกคบกันมาสามสิบปีแล้วน่ะ ทำไมมาโง่ลงแบบนี้อยากดังหรือไง เราก็ไม่รู้นะ ใครๆ ก็รู้เมียก็รู้ว่าเป็นพี่น้องกัน ดูแลช่วยเหลือกันเป็นเรื่องปกติ พี่ช่วยนักแสดงน้องๆ ทุกคนใครเดือดร้อนอะไรมา ไม่ต้องยุติที่จะจบเรื่องข่าวกับพี่นก เราก็คบกับนกปกติ ถือว่าเราบริสุทธิ์ใจน่ะ เราช่วยทำละครด้วยกันก็เป็นเรื่องปกติ”



***

ยันไม่ฟ้อง “นก-ฉัตรชัย” สุดฉุน! ลูกถูกถามพ่อเป็น “เกย์”

บก.บห.มายาฯ ยัน "สองนก" บ้านแตกจริง กร้าวถ้า "ไก่" จะฉี่รด นสพ. มาฉี่ใส่ตนดีกว่า

"ไก่" สุดยัวะ ข่าว "นก" หอบเสื้อผ้าอยู่กิน ลั่นอยากฉี่รดหนังสือพิมพ์
กำลังโหลดความคิดเห็น