xs
xsm
sm
md
lg

I Am Legend : ตำนานที่เล่าขานโดยสัตว์นอกคอก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โดย  เวสารัช โทณผลิน
 
จินตนาการที่ถูกถ่ายทอดลงเป็นตัวหนังสือ แล้วผ่านเลยไปสู่จอภาพยนตร์ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับมนุษย์ เพราะถ้าดูจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา สัตว์โลกลำตัวตั้งฉากกับพื้นโลกซึ่งอาศัยอยู่บนดาวดวงนี้มาเพียงเสี้ยวอายุของสิ่งมีชีวิตอื่นอย่างมนุษย์ ได้สร้างเรื่องราวขึ้นมาเติมบางสิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตจริงอยู่ตลอดเวลา

I Am Legend ถือเป็นอีกหนึ่งส่วนเติมเต็มของริชาร์ด แม็ตธีสัน ที่ถูกนำไปสร้างเป็นรูปธรรมในแผ่นฟิล์มด้วยฝีมือของผู้กำกับฝีมือดีอย่าง ฟรานซิส ลอว์เรนส์ (Constantine)

ด้วยเนื้อหาที่ว่าด้วยเรื่องของความโดดเดี่ยว แม็ตธีสันผูกเรื่องให้ โรเบิร์ต เนวิลส์(วิล สมิธ) นักวิทยาศาสตร์จากกระทรวงกลาโหม กลายเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวของเมืองนิวยอร์ค ซิตี้ จากเหตุการณ์เชื้อไวรัสกลายพันธ์แปรสภาพทุกประเทศ ทุกทวีปบนโลกจนเป็นเสมือนเมืองร้าง

ชีวิตของเนวิลส์ในรอบหนึ่งวัน มักวนเวียนไปตามวงวัฎเดิมๆ เริ่มตั้งแต่การตื่นนอน ออกกำลังกาย ทำงานในห้องทดลอง ออกล่าสัตว์ และคลายสมองด้วยการตีกอล์ฟที่ลานจอดเครื่องบินอันเวิ้งว้าง

อีกหนึ่งภารกิจของเนวิลส์ คือ การส่งสัญญาณวิทยุติดต่อมนุษย์ที่ยังเหลือรอดอยู่บนโลก คนที่ไม่มีเชื้อไวรัสในร่าง คนที่ยังคงความเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับเขา

เมื่อเสียงสัญญาณจากนาฬิการ้องบอกว่าราตรีเริ่มเคลือบคลุม เนวิลส์ก็ต้องเอาร่างไปซุกซ่อนอยู่ในอาคารที่พักอย่างสงบเงียบ เพราะทันทีที่แสงตะวันเหือดลง บรรดาผู้ป่วยติดเชื้อที่มีสภาพไม่ต่างจากผีดิบหิวกระหายที่เดินได้จะออกมาจากที่ซ่อนในมุมมืดเพื่อตามเข่นฆ่าสิ่งมีชีวิตที่มี DNA ในเลือดต่างไปจากพวกมัน

หากดูกันเพียงพล๊อตหยาบๆ I Am Legend ก็ไม่ต่างอะไรกับภาพยนตร์แนวผีดิบครองเมืองที่เคยถูกผลิตติดต่อกันมาแล้วในช่วง 80’s – 90’s( อาทิ Return of The Living Dead, Re-Animator เป็นต้น) เพียงแต่รายละเอียดปลีกย่อยของ I Am Legend ในเรื่องดราม่าจะมีมากกว่า อีกทั้งยังเน้นเรื่องของการทดลองโดยมนุษย์ที่เชื่อ(โดยผู้ชมและตัวมนุษย์คนนั้นเอง)กันว่าเหลือรอดอยู่เพียงคนเดียว อย่าง เนวิลส์ ในการที่จะคิดค้นทดลองวัคซีนรักษาผู้ติดเชื้อให้หายจากอาการกระหายเลือด และนั่นก็นำไปสู่ชื่อเรื่องที่ส่งให้มนุษย์ธรรมดาๆ อย่างเขากลายเป็นตำนาน

ธีมของเรื่องอาจไม่ใช่สิ่งสดแปลก ปมประเด็นของการอยู่ลำพัง ความรักที่มนุษย์มีต่อเพื่อนต่างสายพันธ์ หรือการรักษาสภาพจิตในยามคับขันก็มิใช่เรื่องใหม่ จุดเด่นของ I Am Legend ตกไปอยู่ที่มุมกล้อง การวางลำดับภาพ และการสร้างฉากของเมืองอันเคยวุ่นวายให้ออกมาดูปร่าเปลี่ยว กับแสงเงาในฉากระทึกขวัญที่มีให้เห็นเป็นระยะๆ ตลอดทั้งเรื่อง

ถ้าใครเคยผ่านตากับวิดีโอเกมส์ที่ชื่อ Bio Hazard ก็น่าจะพอคุ้นกับภาพในบางฉากของภาพยนตร์เรื่องนี้ และนั่นก็อาจจะทำให้ระดับความตื่นเต้นและการลุ้นระทึกลดด้อยลง แต่ถ้าสภาพการรับรู้ของใครไม่ชินกับจังหวะของภาพยนตร์ทริลเลอร์ระทึกขวัญ ฉากชวนตระหนกภายในเรื่องก็ถือว่าสามารถเรียกเร้าอัตราการเต้นของหัวใจได้พอสมควร

ถือเป็นเรื่องซ้ำซากจำเจ ที่มนุษย์ใช้จินตนาการเติมส่วนพร่องของตัวเอง แนวความคิดที่ต้องการจะขึ้นปกครองสิ่งมีชีวิตอื่นทำให้สัตว์ที่เรียกตัวเองว่า ‘ประเสริฐ’ หลงลืมความเป็นเอกภาพกับจักรวาลไป บทสรุปของความพยายามจะปรับเปลี่ยนโลกและสิ่งแวดล้อม ทำให้การสละชีวิตมนุษย์เพื่อมนุษย์กลายเป็นสิ่งที่น่าชื่นชูบูชา แม้สิ่งนั้นจะเป็นการทำลายสิ่งมีชีวิตประเภทอื่นก็ตาม

เมื่อ I Am Legend เดินทางมาถึงบทสรุป การตัดสินใจของเนวิลส์ ก็กลายเป็นการตอกย้ำภาพ 'ตำนาน' ที่อยู่ในจินตภาพเลื่อนลอยของสัตว์นอกคอกอย่างมนุษย์ เพราะมันก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อีกเช่นกัน ที่ไม่ว่าใครก็ตามที่จะกลายเป็นตำนานของมนุษย์โลก มักจะต้องสูญลมหายใจไปเสียก่อน จึงจะมีสิทธิ์ได้รับการจารึกชื่อเอาไว้ว่า ครั้งหนึ่ง เวลาหนึ่ง เขาเคยเป็นตำนานบทหนึ่งของโลกใบนี้






กำลังโหลดความคิดเห็น