xs
xsm
sm
md
lg

ยันไม่ฟ้อง “นก-ฉัตรชัย” สุดฉุน! ลูกถูกถามพ่อเป็น “เกย์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<b>นก-ฉัตรชัย สุดฉุนกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้น
“นก-ฉัตรชัย” แจงข่าว “เตียงหัก” พร้อมโต้ข่าวย้ายอาศัยบ้าน “ไก่-วรายุฑ” บอกข่าวมั่วทั้งนั้น ทำหลายคนเกิดความเสียหาย สุดฉุนลูกสาวถูกถามพ่อเป็นเกย์หรือเปล่า ยันไม่คิดจะฟ้องเหตุข่าวที่ออกมาคงมาจากกระบวนการความคิดของหัวสมองคน ย้ำครอบครัวตนรักกันดี ไม่มีปัญหามือที่สาม

กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที สำหรับการบุกไปถึงสำนักงานของหนังสือพิมพ์บันเทิง “มายาแชนแนล” ของผู้จัดชื่อดังจากช่อง 3 อย่าง “ไก่-วรายุฑ มิลินทจินดา” ในช่วงเย็นที่ผ่านมาของวันนี้ (20) เนื่องจากถูกพาดพิงในข่าวและโดนกล่าวหาว่า ผู้จัดคนดังเป็นต้นเหตุทำครอบครัว “นก ฉัตรชัย-นก สินจัย เปล่งพานิช” บ้านแตก

ล่าสุด ทีม “ข่าวบันเทิงผู้จัดการออนไลน์” ได้สอบถามไปยัง “นก-ฉัตรชัย” เจ้าตัวเลยเปิดใจถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า

“สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น อยากจะบอกว่าส่วนตัวผมแล้วมันก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากหรอก แต่ที่โดนเต็มๆ คงเป็นพี่ไก่ คือ เนื้อหาทั้งหมดนั้นผมยังไม่ได้อ่านนะ แค่ฟังมาเฉยๆ เห็นเขาบอก ว่า บ้านของพี่แตกแยกแล้ว และพี่ก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของพี่ไก่นานแล้ว ประมาณเนี้ยนะที่ผมได้ยินมา”

“คือ เนื้อหาทั้งหมดนี้ผมว่ามันมีผลกระทบต่อพี่ไก่เขานะ เขาเป็นคนเสียหาย คือ เนื้อหานั้นเขียนว่าเขาเป็นคนพูดสิ่งเหล่านั้นขึ้นมา เขาก็เลยรู้สึกเสียใจ เพราะเขาไม่ใช่คนพูดแบบนั้น อีกอย่างเขาก็โดนเพื่อนเขาด่าด้วยว่าทำไมพี่ไก่เป็นคนแบบนี้”

เผยส่วนตัวไม่ได้สนใจอะไรกับข่าวนานแล้ว บอกเดี๋ยวนี้ข่าวมั่วจับเรื่องครอบครัวตนไปรวมกับคนอื่นจนวุ่นวาย...“ตอนนั้นพี่ไก่เขาไม่รู้อะไรเลย อยู่ดีๆ ก็โดนเพื่อนด่า เขาก็เลยไปซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นมาอ่านดู พอเขาเห็นว่ามันไม่ใช่ มันไม่ถูกต้องเขาก็เลยปรี๊ดแตกขึ้นมา มันก็เลยเกิดเรื่องราวทั้งหมดนี้ขึ้นมาอย่างที่มีในข่าวนั่นแหละ”

“แต่โดยส่วนตัวของผมแล้ว ผมก็ไม่ได้สนใจกับข่าวพวกนี้มานานแล้ว คือ มันเยอะมากจนผมไม่รู้จะทำอย่างไร คือ ตอนนี้เห็นเอาเรื่องของครอบครัวผมไปมั่วกับหลายๆ คนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพี่ตั้ว พี่ปู หรือแม้แต่พี่ไก่เอง ก็โดนกันไปหมด ข่าวมันมาเยอะมากจนตอนนี้ข่าวเขียนอะไรกันก็ไม่รู้ จนตอนนี้พี่คิดว่าไม่อยากไปสนใจมันแล้ว”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า กับการที่ข่าวนำเสนอแบบนี้มันเหมือนเป็นการบีบให้ต้องออกมาพูดหรือเปล่าว่าตกลงแล้วสถานภาพของครอบครัวเป็นอย่างไรกันแน่ นักแสดงหนุ่ม เปิดใจว่า

“อันนี้ก็ไม่รู้นะ ผมคิดว่าเจตนาของเขาเพียงต้องการที่จะขายข่าวมากกว่า เขาไม่ได้ต้องการบีบผมหรอก แต่อยากจะบอกว่าข่าวของเขามันมีผลกระทบกับคนหลายๆ คนนะ อย่างพี่ไก่ก็ต้องโดนว่า”

“คือ เนื้อหาที่ระบุลงในหนังสือพิมพ์พอคนที่เขาได้อ่าน เขาก็จะคิดว่ามันต้องใช่อย่างในข่าวลง บางคนก็อาจจะคิดว่าไม่ใช่ คือ เรื่องแบบนี้มันคิดได้สองอย่าง แต่ถึงอย่างไรมันก็ย่อมเกิดความเสียหายอยู่แล้ว”

“ส่วนความเสียหายกับผม ก็คือ เขาหาว่าผมเป็นเกย์ แล้วยังคุณนกหญิงอีกล่ะที่เขาเอาไปเขียนรวมกันคนโน้นคนนี้ แต่ที่สำคัญ ลูกผมล่ะพอเพื่อนเขาอ่านหนังสือพิมพ์ เพื่อนเขาก็ต้องมาถามลูกผมอีกว่า เกิดอะไรขึ้นกับพ่อแม่มึงวะ พ่อมึงเป็นเกย์เหรอ แล้วพ่อแม่มึงอยู่ด้วยกันเปล่าวะ แบบนี้ลูกผมเขาจะรู้สึกอย่างไรเมื่อต้องเจอกับคำถามแบบนี้ ผมว่ามันไม่แฟร์นะ ไม่แฟร์กับใครเลยสักคน”"

บอกข่าวที่ออกมาตนไม่คิดที่จะมาฟ้องร้องกับสำนักพิมพ์ดังกล่าว แนะข่าวที่ออกมาคงออกมาจากกระบวนการทางความคิดของหัวสมองคนมากกว่า...

“คือ ที่ผ่านมา ผมก็ว่ามันเยอะพอแล้วนะ แต่ผมไม่อยากที่จะเข้ามายุ่ง หรือออกมาตอบโต้อะไร แต่กรณีนี้ถ้าถามว่าผมจะฟ้องไหมนั้นคงไม่หรอกนะ มันคงไม่ถึงขนาดนั้น เอาเป็นว่าผมอยากพูดว่ากับข่าวที่ออกมานี้มันคงจะมาจากกระบวนการทางความคิด รวมกับสารต่างๆ ในสมองของแต่ละคนที่จะคิดออกมามากกว่า”

“ถ้าเรามัวแต่ไปฟ้องเขากลับมันก็จะเป็นบาปเป็นกรรมกันเปล่าๆ มันจะเป็นบาปติดตัวไปในชาติหน้า เดี๋ยวชาติหน้าจะต้องเกิดมาเจอกันแล้วจะต้องมาฟ้องกันอีก ส่วนถ้าเกิดเขาจะทำอะไรต่อไปนั้นผมก็คงตอบไม่ได้นะก็คงแล้วแต่ตัวของเขา ทางสำนักพิมพ์เขา”

“แต่ผมเชื่อว่า การที่พี่ๆ นักข่าวทุกคนทำนั้น มันก็เหมือนเราอยู่วงการเดียวกัน มีอะไรก็เกื้อหนุนกันได้ เราเป็นพี่น้องกัน เราน่าจะรักกัน อะไรที่ผิดก็ตักเตือนกัน ส่วนอันไหนที่ถูกก็ควรจะว่ากันไปตามถูก ไม่ใช่เห็นใครไม่ดีหรือไม่ชอบใครก็เข้าใส่กันเลย”


<b>ภาพ ไก่-วรายุฑ ขณะแถลงข่าวด้วยความแค้น
<b>ภาพสวีทหวาน นก-ฉัตรชัย และ นก-สินจัย

ต่อข้อถามที่ว่าหลังจากที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมีโอกาสได้คุยหรือปรึกษากันกับ “นก-สินจัย” บ้างไหม นักแสดงหนุ่มเปิดใจว่า

“เรื่องมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง ผมยังไม่มีโอกาสได้คุยอะไรเลย เพราะพี่นกหญิงเขากลับมาจากการแสดงละครเวทีก็ดึกแล้ว ผมก็นอนแล้ว พอตอนเช้าผมก็ต้องตื่นไปทำงานตั้งแต่เช้าก็เลยยังไม่ได้เจอกันเลย”

“ส่วนกับลูกตอนนี้พี่ก็ยังไม่ได้คุยกันเลยเหมือนกัน แต่พี่ก็คิดว่าเขาน่าจะเข้าใจดีนะ เพียงแต่ว่ามันมีผลกระทบกับเขาพอเวลาคนมาถามมากกว่า แต่จริงๆ แล้วเขาก็เข้าใจดีอยู่แล้ว”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า เมื่อวานก่อนที่ “ไก่-วรายุฑ” จะบุกไปยังสำนักงานของนิตยสารบันเทิง “มายาแชนแนล” เขาได้มีการบอกเราก่อนหรือเปล่า หนุ่มนก เปิดใจว่า

“เขาโทร.มาหาผม เขาเล่าว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เขาบอกว่าเขาไม่ไหวแล้ว เขาทนไม่ได้แล้ว เขายอมมาหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้เขายอมไม่ได้ เขาบอกว่าเขาจะเข้าไป เขาจะเข้าไปพบกับ บก.หนังสือฉบับนั้นหน่อยว่าเขาทำแบบนี้เขามีจุดประสงค์อะไรถึงทำแบบนี้”

“และพี่ไก่ก็เข้าไปคุยอย่างที่ทุกคนเห็นในข่าว คือ ผมบอกตามตรงนะว่าผมไม่ค่อยเห็นเขาโกรธอะไรขนาดเมื่อวานเลย คือ เวลาเขามีปัญหาอะไรเขาก็จะแว้ดๆ ๆ ออกมาเลย แต่เขาก็ไม่มีอะไรหรอก แต่ครั้งนี้เขาโกรธมากเลยนะ ถึงได้บุกไปถึงขนาดนั้น”

ต่อข้อถามที่ว่าอยากให้ช่วยชี้แจงเลยว่าตกลงแล้วตอนนี้สถานภาพครอบครัวเป็นอย่างไรกันแน่ นักแสดงหนุ่มเปิดใจเพียงสั้นๆ ว่า

“กับในข่าวที่บอกว่าพี่แยกบ้านกันอยู่กับพี่นกหญิงแล้วนั้น แล้วก็หอบเสื้อผ้าไปอยู่บ้านพี่ไก่แล้วนั้น พี่อยากจะขอบอกว่าถ้าอยากรู้ว่าว่าเรื่องเป็นอย่างไรลองไปถามป้อมยามที่หมู่บ้านพี่ดูได้เลย ลองไปสัมภาษณ์ที่ป้อมยามหมู่บ้านพี่ได้เลย ว่าบ้านของพี่และสองนกยังอยู่กันดีหรือเปล่า”

“ผมอยากจะบอกว่านะวันนี้ความสัมพันธ์ของพี่นกทั้งสองก็ยังเหมือนเดิม เดี๋ยวพรุ่งนี้ละครเวทีบัลลังก์เมฆรอบสุดท้ายผมก็ต้องไปดูอยู่ดี พาลูกๆ ไปดู เหนียวแน่น ไม่ได้แยกเตียง แยกบ้านแน่นอน”

***
บก.บห.มายาฯ ยัน "สองนก" บ้านแตกจริง กร้าวถ้า "ไก่" จะฉี่รด นสพ. มาฉี่ใส่ตนดีกว่า

"ไก่" สุดยัวะ ข่าว "นก" หอบเสื้อผ้าอยู่กิน ลั่นอยากฉี่รดหนังสือพิมพ์
กำลังโหลดความคิดเห็น