“ไก่” สุดยัวะ ข่าว “นก” หอบเสื้อผ้าอยู่กิน ลั่นอยากฉี่รดหนังสือพิมพ์

“ไก่ วรายุฑ” บุกนิตยสารมายาแชนแนล หลังถูกเขียนพาดพิง “นก ฉัตรชัย” ขนย้ายข้าวของมาอยู่ที่บ้านตนเอง เจ้าตัวสุดยัวะบอกรับไม่ได้ ออกอาการปรี๊ดแตกบอกอยากจะฉี่รดหนังสือพิมพ์ทีเดียว

กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที สำหรับการบุกไปถึงสำนักงานของนิตยสารบันเทิง “มายาแชนแนล” ของผู้จัดชื่อดังจากช่อง 3 “ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา” ในช่วงเย็นที่ผ่านมาของวันนี้ (20)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสาเหตุของการมาของผู้จัดชื่อดังก็เป็นเพราะว่า ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ทางนิตยสารบันเทิงฉบับดังกล่าวได้ลงข้อเขียนในลักษณะที่ว่า นักแสดงชื่อดัง “นก ฉัตรชัย” นั้นได้เลิกรากับภรรยานักแสดง “นก สินจัย” และได้ขนย้ายข้าวของมาอยู่ที่บ้านของผู้จัดฯ จากวิกเอ็มโพเรียมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับทาง ไก่ วรายุฑ เป็นอย่างมาก จนเจ้าตัวต้องตัดสินใจเดินทางมาเพื่อขอรับฟังคำชี้แจงจากทางนิตยสารบันเทิงฉบับดังกล่าว ซึ่งผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ระหว่างที่ทางผู้จัดของช่อง 3 แถลงข่าวนั้น เจ้าตัวมีอาการคับแค้นใจเป็นอย่างมากถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาเลยทีเดียว ก่อนจะเปิดใจถึงการบุกโรงพิมพ์ครั้งแรกในรอบ 30 ปีในวงการบันเทิงทั้งน้ำตาว่า..

“วันนี้ตรงมาเลยค่ะ แล้วไก่ (นักข่าวมายาแชนแนล) เขารับสาย แต่เราก็ไม่ได้บอกเขานะว่าเราจะมา เพื่อนโทรมาบอกกว่ามึงลงหน้าหนึ่งนะ เราก็งงว่าเฮ้ยเราไปทำอะไร ไม่ได้ไปทำอะไรที่ไหนเลย ข่าวมันทำให้ผัวเมียเขาทะเลาะกันเลยนะ ทำให้ผัวเมียเขาแตกกันเนี่ย เราจะเสีย เพราะเราหรือ มันไม่ใช่น่ะ คิดได้อย่างไร คือพอเพื่อนบอกปุ๊บก็ให้เด็กไปซื้อหนังสือเลย”

“ความจริงหนังสือพวกนี้ไม่เคยอยู่ในหัวสมองอยู่แล้ว ไม่เคยคิดที่จะอ่านหรือจะซื้ออะไรเลย แต่ทีนี้เพื่อนโทรมาบอกว่าเฮ้ยไก่มึงอ่านหนังสือยัง เราก็ถามหนังสืออะไร นี่แหละเล่มนี้มึง มึงทำเขาชิบหายชาวบ้านเขาจะด่ามึงแหละทีนี้ เราจะเสียคนน่ะ เขารักกัน เขาเป็นคู่ผัวตัวเมีย เป็นคู่สามีภรรยาตัวอย่าง แล้วพ่อแม่พี่น้องที่เขาเคยเอาลูกเต้า เอาใครมาฝากเขาจะรู้สึกอย่างไร เจอหน้าจะคิดอย่างไรเขาจะไม่ชี้หน้าด่าหรือว่ามึงทำให้ผัวเมียเขาแตกกัน โอ้โห ทำได้อย่างไร เสียใจนะที่เขียนอย่างนี้ มันไม่ใช่น่ะ แล้วมีการบอกว่าไก่ วรายุฑ กร่างยืนยัน 2 ปี ยืนยันอะไร บ้าหรือ สัมภาษณ์ฉันหรือ แล้วมาลงยืนยันน่ะ”

“วันนี้มาปรากฏว่าเข้ามาไม่มีใครอยู่เลยค่ะ กองบก.ไม่มีใครอยู่เลย มีแต่เด็กๆที่เป็นนักข่าว ช่างภาพ กับคนเขียนข่าว แล้วน้องอีกคนที่ชื่อไก่ มารับหน้าว่าจะให้หนูช่วยอะไรได้บ้าง คือถ้าช่วยก็ช่วยแก้หัวข่าวให้หน่อย ขอโทษเรื่องที่ลงไป ว่าข่าวนก สินจัย กับ นก ฉัตรชัย และไก่ วรายุฑ ไม่เป็นความจริง เท่านั้นเอง ขนาดเท่าเดิมที่เขียนเอาไว้ สีเดิม เท่านี้ก็พอใจแล้ว เพราะคนที่อ่านหนังสือเล่มนี้ ชาวบ้าน เขาไม่รู้ แล้วถ้าเขาคิดว่าเป็นเรื่องจริง เราจะเสียขนาดไหน เรามีอาชีพทำละคร คนจะดูถูกเรามั้ย ว่าเราเป็นแบบนี้แล้วทำให้ผัวเมียเขาทะเลาะกัน ใครเสีย เราเสียซิ สองคนเขาก็เสีย”

“วันนี้เข้ามาถามว่าแก้ไขอะไรได้มั้ย คือถ้าบอกว่าไม่ได้ หรือไม่ได้เขียน ตบเลยค่ะ อยากเป็นข่าวเหมือนกัน อยากขึ้นหน้าหนึ่ง เหมือนกันค่ะ ให้เป็นเรื่องเหมือนกัน เคลียร์ไม่ได้ พี่ก็คงต้องขอความเป็นธรรมกับเราหน่อยน่ะ แต่ถ้าเขาไม่มารับผิดก็คงอาจจะทำเหมือนกันนะ เราก็รู้จักทนายเก่งๆเหมือนกัน ชีวิตนี้ไม่เคยมีเรื่องกับนักข่าว ไม่เคยเป็นแบบนี้เหมือนกัน อย่ามาทำแบบนี้ เสียชื่อตัวเอง มาทำแบบนี้ทำให้เราเสียหายมันเดือดร้อนกับตัวเองเพราะทำให้ครอบครัวเขาเสียหาย”

ก่อนจะเผยว่ากรณีที่ข่าวลงถึงความสัมพันธ์ดังกล่าวของตนและดารารุ่นน้องนั้น ไม่เป็นความจริง แต่ก็ยังอุตส่าห์อุตริคิดได้
“เราไม่ได้อยู่หมู่บ้านนั้นเลย คนละที่กันค่ะ เราก็อยู่ของเรา ไม่เกี่ยวกัน วันนี้ที่มาเคลียร์นิดเดียวว่าทำไมถึงลงอย่างนี้ ได้ข่าวมาจากไหนหรือ ทำไมถึงต้องเขียนอย่างนี้ด้วย”

“มันแรงมาก ในชีวิตไม่เคยเจอข่าวแรงขนาดนี้เลย ใครอุตริคิดได้แบบนี้ด้วย แต่ถ้าเป็นเรื่องสนุกสนาน ซุบซิบ อะไรแบบนี้พี่ไม่เคยถือโกรธ เย้าแหย่ นู่นนี่นั่นไม่เคยโกรธ เพราะถือเป็นการหยอกล้อกันของนักข่าวหนังสือพิมพ์ แต่นี่เราเสียหาย ทำให้เขาเลิกกันเนี่ย แยกกันเนี่ย”

“กับนกยังไม่ได้คุยค่ะ เดี๋ยวก็ต้องบอกเขาว่ามาบุกถึงนี่แล้ว เดี๋ยวก็ต้องเล่าให้เขาฟัง พี่นกเขาไม่เดือดร้อนกับตรงนี้ เพราะเป็นข่าวที่เราทำให้เขาเดือดร้อน เราทำให้เขาเสียหาย คนเดือดร้อนคือเราวันนี้จะมาบอกว่าวรายุฑไม่ได้ทำ ไม่ได้เป็นความจริงตามที่เขาลงแบบนี้ เท่านั้นเองก็จบลงเหมือนกันสีเดียวกันเท่านั้นจบ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แก้ข่าว รับผิดชอบในการกระทำของตัวเองหน่อย ว่ามันไม่ใช่ แล้วเขียนอย่างไรว่าไก่ วรายุฑ ยืนยัน ยืนยันนี่คือเขาต้องมาสัมภาษณ์เราซิ นี่มันไม่ใช่ไง”

บอกพอมาถึงโรงพิมพ์ไม่มีผู้ใหญ่รับหน้า ทำโมโหและอาจจะมีการฟ้องร้อง พร้อมสับเละคนเขียนใช้สมองส่วนไหนคิดก่อนเขียนออกมา ปรี๊ดแตกบอกอยากจะยืนฉี่รดหัวหนังสือพิมพ์ทีเดียว
“โกรธน่ะ ทำแล้วไม่รับผิดชอบ กล้าเขียนทำไมไม่กล้ารับ ว่าเราจะพูดอะไร หายไปเฉยๆแบบนี้ มันเหมือนท้าทายให้เราโมโหมากขึ้นนะ ถ้าลงแก้ให้ก็โอเคไม่ว่ากันอยู่แล้ว แต่ขอให้แก้เท่ากันที่ลงแบบนี้ ไม่ใช่ไปลงอยู่มุมใดมุมหนึ่ง ตอนนี้ไม่เย็น แล้วน่ะค่ะ ที่จริงแล้วมายาแชนแนลเนี่ยมันควรจะเจ๊งไปตั้งนานแล้ว ลงมาได้อย่างไร เดี๋ยวยืนเยี่ยวรดมันด้วย หัวหนังสือเนี่ย เดี๋ยวให้มาพร้อมๆกันก่อน ตรงนี้ล่ะ จริงๆ ไม่สวยก็จะทำ แต่จะแอบเยี่ยวก็ได้จะออกมาให้ถ่ายให้ดู ปกติเราไม่เคยโมโหอย่างนี้เลย ...(นก ฉัตรชัยโทรเข้ามาพอดี)”

“ใครอยากได้ภาพยืนเยี่ยวรดหัวหนังสือ ลงไม่ได้อีกใช่มั้ย เดี๋ยวโดนปรับอนาจารอีก อยากจะให้รู้ว่าอยากให้เขาแก้ข่าว อยากให้เขารับผิดชอบ ไม่ว่าเขาจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ใช้สมองส่วนที่ใช้ออกลูกคิดหรืออย่างไร”

“วันนี้ถ้ามาแล้วบอกไม่รู้เรื่องฟ้องเลย เพราะมันไม่ใช่เรื่องธรรมดา ชาวบ้านอ่านเนี่ยเราเสียนะ เพราะเราทำให้ครอบครัวเขาแตก แล้วยิ่งเราเป็นแบบนี้ด้วยคนจะด่าเราแค่ไหน แล้วเราก็ทำละครน่ะ แล้วพ่อแม่พี่น้องเอาลูกเต้ามาหาเราเขาจะเชื่อเรามั้ย ตัดอาชีพกันเลยนะ เขาคิดหรือเปล่า”





ก่อนจะเผยว่าดารารุ่นน้อง “นก ฉัตรชัย” บอกยังไม่เห็นข่าว แต่ตนคือผู้เสียหายจะขอจัดการทุกอย่างเอง ยอมรับข่าวที่ออกมาแรงเกินรับไม่ไหว หวั่นคนอ่านข่าวมองตนเลว

“นกเขาก็บอกว่าผมยังไม่เห็นข่าวเลยพี่ไก่ เราเลยบอกไม่ต้องห่วง นกไม่เดือดร้อนแต่เราเดือดร้อน เพราะเราทำเขาเสียหาย เราทำให้เขาแตกกัน นก สินจัย ยังไม่ได้คุย เขาก็คงไม่พอใจหรอกที่ข่าวออกมาอย่างนี้ ไม่มีเรื่องจริงแม้แต่นิดเดียว”

“เราออกมาแสดงความบริสุทธิ์ เราไม่ได้ร้ายที่ทำให้ครอบครัวเขาแตกแยกกัน ที่เขาแยกกันเพราะเรา เราต้องรักษาให้ตัวเองเป็นปกติ เป็นคนดีของสังคม เพราะเราอยู่ตรงนี้ไม่เคยมีเรื่องเสียหาย 30 ปี ไม่เคยมีเลย ใครล้อเล่นใครกัดเรา เราก็ขำนะ แต่ถ้าเราไม่เสียหายนะ แต่ตรงนี้มันเสียหายไง”

ก่อนจะร่ำไห้เสียใจกับข่าวที่เขียนพาดพิง บอกมีผลกระทบกับการทำงาน พร้อมอยากฟังคำอธิบายจากเจ้าของหนังสือพิมพ์ว่าคิดอย่างไรที่เขียนพาดพิงตนร้ายแรงขนาดนี้

“อยากฟังว่าทำไมเขาคิดแบบนี้ เขาเขียนแบบนี้ ..(ร้องไห้) มันเหมือนเราเป็นคนเลวน่ะ เป็นคนเลวที่ทำให้ผัวเมียเขาทะเลาะกัน ชีวิตนักแสดงไม่เคยเป็นแบบนี้ ทำให้ผัวเมียเขาทะเลาะกัน ไม่เคยเจอข่าวขนาดนี้ ไก่ย้ำ ยืนยัน ทำได้ไง เราก็รักนกจะตาย เราก็รักนก สินจัย ทำไมมาทำแบบนี้ (ทุบโต๊ะ) เราไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิตน่ะ ถ้าคนอื่นลองมาคิดซิเจออย่างนี้จะอย่างไร .. มันแรงมาก เลวร้ายมาก มันไม่ควรจะมีหนังสือพิมพ์อยู่ในประเทศนี้ไม่ควรมี

“เป็นผู้ใหญ่ก็ควรออกมารับหน่อย มาเคลียร์กันซิ ทำไมไม่มา หายหมด มีแต่เด็กที่ไม่รู้อะไร จะว่าอะไรเด็กๆก็ว่าไม่ได้ เพราะผู้ใหญ่ไม่อยู่ อยากรู้ว่าคิดอย่าง เราไปทำความเดือดร้อนอะไรให้เขา จงเกลียดจงชังอะไรเรานักหนา ทำไมถึงแกล้งเราได้ถึงขนาดนี้ ทั้งที่มันไม่ใช่ความจริงเลยซักอย่างเดียว อยู่มาไม่เคยทำความเดือดร้อนให้ใคร ทำเพื่อสังคม แล้วจะให้เราทำอะไรบอก เราทำให้ ทำไมต้องทำขนาดนี้ คนไม่รู้เรื่องก็ต้องว่า วรายุฑเลว ไก่เลว ”

“เราไม่เคยขึ้นโรงพิมพ์ ไม่เคยอะไรเลย ครั้งแรกในชีวิต อยากเรียกร้องความเป็นธรรม เราไม่มีความผิด ทำไมต้องทำร้ายเราขนาดนี้ ความจริงมันไม่ใช่น่ะ มันไม่ใช่ แล้วทีหลังใครจะเชื่อถือเรา กล้าคบเรา เดี๋ยวก็ทำให้คนนั้นเขาแตกกัน คนนี้เขาแตกกัน”

“แต่เขาคงไม่มาแล้วล่ะ โทรศัพท์ก็ไม่รับ แต่ตอนที่ขับรถข้ามา น้ำ (พีอาร์ค่ายละคร) บอกว่าเขาไปแล้ว เหมือนหนีเราน่ะ หนีทำไมน่ะ หนีทำไม ผิดใช่มั้ย ไม่ผิดอย่าหนีซิ ขอโทษซักคำเราก็จะไม่ว่าอะไรหรอก จะแกล้งเราหรือ จะฆ่าเราหรือ จะไม่ให้อยู่วงการบันเทิงแล้วหรือ จะไม่ให้ทำงานแล้วหรือ อายนะเนี่ยมานั่งร้องไห้เนี่ย มันแค้นใจ น้องๆไม่เคยเห็นเราเป็นแบบนี้หรอก เข้มแข็งจะตาย วรายุฑ แต่ตอนนี้เสียใจ”

ก่อนจะเผยถึงความสัมพันธ์ของ “นกหญิง-นกชาย” ว่าตนเองยังไม่แน่ใจต้องทะเลาะกับใครหรือไม่ แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง “นกหญิง” ก็คงจะเข้าใจ

“เราไม่รู้ว่าเราต้องไปทะเลาะกับใครหรือเปล่าก็ไม่รู้ คือถ้ามันไม่ใช่ความจริง นกเขาก็คงไม่คิดอะไรหรอก แต่เราน่ะผิดไงตามข่าว เพราะว่าเขาคนถูกกระทำไง ในเรื่องนี้”

สำหรับความสัมพันธ์ของนักแสดง “นก ฉัตรชัย” และ “ไก่ วรายุฑ” นั้นในระยะหลังๆ ค่อนข้างจะถูกสื่อจับตาเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่นักแสดงรุ่นใหญ่ร่างกายไม่มีแรงจนต้องเข้าโรงพยาบาลในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งทางผู้จัดคนนี้ก็ไปเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด รวมถึงกรณีที่ทั้งสองยังได้ชักชวนผลิตละครร่วมกันได้

โดยในขณะที่นักแสดงรุ่นใหญ่ มีข่าวกับผู้จัด ในลักษณะที่มีความสัมพันธ์ซึ่งดูจะลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ ทว่าในความสัมพันธ์ของเขากับภรรยา “นก สินจัย” กลับตรงกันข้าม โดยบางครั้งก็มีข่าวที่รุนแรงถึงขนาดที่ว่าทั้งสองแยกเตียงกันอยู่มานานแล้ว กระทั่งทั้งคู่ต้องออกมาแก้ข่าวอยู่เป็นระยะๆ

***
บก.บห.มายาฯ ยัน "สองนก" บ้านแตกจริง กร้าวถ้า "ไก่" จะฉี่รด นสพ. มาฉี่ใส่ตนดีกว่า