“เจ๊เบียบ” เตรียมหาเงิน 200 ล้าน จัดตั้งพรรคหญิงไทย ดันผู้หญิงให้อยู่แถวหน้า บอกตอนนี้ขาดกำลังคนและเงิน แต่แอบหวังว่าเลือกตั้งสมัยหน้าจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์การเมืองไทย
ตั้งแต่เปิดศึกแลกน้ำลายกับ “จิ๊ก เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์” จอมฉะพฤติกรรมดาราที่ชอบทำตัวฉาวอย่าง “เจ๊เบียบ ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช” ก็หายจากหน้าจอทีวีไปเลย ล่าสุด “บันเทิงออนไลน์” ได้รับการเปิดเผยจากเจ๊เบียบ ว่า ไม่ได้หายไปไหนยังทำงานปกติ แถมยังแอบลิสต์รายชื่อคนบันเทิงที่ทำตัวไม่เหมาะสม เตรียมเฉ่ง! ในทุกเมื่อ
แต่ที่เซอร์ไพรส์สุดๆ คือ เรื่องที่เจ้าตัวกำลังซุ่มตั้งพรรคหญิงไทยเพื่อเชิดชูสถาบันผู้หญิง ให้มีความเท่าเทียมกับผู้ชาย อีกทั้งยังหวังไกลถึงขั้นอยากเห็นผู้หญิงเป็นนายกรัฐมนตรีเลยทีเดียว
แม้ว่าตอนนี้จะยังขาดในเรื่องของกำลังเงินและบุคลากรที่จะมาร่วมอุดมการณ์ แต่เจ๊เบียบก็ยังมีความหวังว่าอีก 4 ปีข้างหน้า ในรายชื่อนักการเมืองจะต้องมีชื่อพรรคหญิงไทยประกาศศักดาอยู่ด้วยอย่างแน่นอน
“ไม่ได้เงียบนะ พี่แดงก็มีเวทีที่ออกไปทุกวันพุธ ก็คือ ตีข่าวเล่าความ 7 โมงครึ่งถึง 8 โมงครึ่งที่ทีไอทีวี นอกนั้นก็ทำงานด้านสมาคมงานบรรยายงานอะไรเยอะเลย บรรยายเรื่องของเยาวชน เรื่องของวัฒนธรรม เรื่องของสิทธิสตรีเพียงแต่ไม่เป็นข่าวทางหนังสือพิมพ์ เพราะไม่ค่อยอยากจะเป็นข่าวเท่าไหร่ แต่บางทีเห็นพวกพิธีกรนั่งใส่กางเกงแล้วกล้องมันโคลสมาเห็นถึงขาอ่อนเลย พี่ก็จดรายการเขาไว้แล้วจะทำหนังสือไปยังสถานี ให้เค้าช่วยลงมาควบคุมหน่อย เพียงแต่ตอนนี้พี่คิดว่าเอ๊ะ...เราจะไปหาเรื่องวีนเขาทุกเรื่องหรือเปล่านะ ก็เลยอาจจะสโลดาวน์นิดหนึ่ง”
“อีกอย่างที่พี่ตั้งใจไว้ คือ อยากตั้งพรรคหญิงไทย แต่ตอนนี้มันตั้งไม่ได้เพราะไม่มีเงิน มันต้องมีเงินและความพร้อมด้านบุคลากร คนมองภาพการเมืองว่ามันคือภาพลบเยอะ ใครกระโดดลงมาคนนั้นก็เหมือนกระโดดลงมาเจอของบูดของเน่า จริงๆ แล้วเราอยากทำงานการเมืองแบบให้ความรู้สร้างสรรค์ ให้ทุกคนตระหนักในบทบาทและสิทธิ ถ้าเราตั้งพรรคไม่จำเป็นต้องมี ส.ส.ก็ได้ จะหนึ่งคนหรือสองคนก็แล้วแต่เพราะเราไม่มีเงินไปปูนี่ แต่เราก็อยากให้สถาบันนี้มันเกิดขึ้น แล้วพี่จะเน้นไปที่เรื่องความสำคัญของสังคม เรื่องของคุณธรรมจริยธรรม และศีลธรรม”
“พี่แดงทำ ไม่ใช่ว่าเพื่อให้ตัวเองเป็นหัวหน้าพรรคนะ อาจจะเป็นเลขาหรือเป็นอะไรก็สุดแล้วแต่ พี่แค่ต้องการให้สภาบันของผู้หญิงมีพรรคการเมืองของผู้หญิงเกิดขึ้น เป็นความตั้งใจตรงนั้น เราจะเล่นการเมืองแบบการมีส่วนร่วมและสง่างาม แล้วทำเพื่อความถูกต้อง”
“พี่ก็ยอมรับว่า โอกาสเป็นจริงมันยากอยู่ 200 ปี ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่า เพราะตราบใดที่ผู้หญิงยังไม่รู้สึกร้อนหนาวกับสิทธิที่ถูกละเมิดสิทธิที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ความเสมอภาคอยู่แบบนี้ ทุกคนบอกว่าดี แต่พอเราจะขอความร่วมมือบอกไม่มีเวลา เงินไม่มีพร้อมมันจะเป็นแบบนี้ค่ะ บางทีคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ บางทีอาจจะไม่ค่อยเห็นด้วยแต่อาจจะบอกว่าดีก็ไม่เป็นไร”
ยังขาดปัจจัยหลัก นั่นก็คือ บุคลากรที่มีอุดมการณ์เดียวกัน รวมถึงเงินที่จะใช้ในการจัดตั้งพรรคที่ต้องมีอย่างน้อย 200 ล้านบาท จึงทำให้วันนี้พรรคหญิงไทยเป็นเพียงแค่นามธรรมเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามเจ๊เบียบก็ยังแอบหวังอยู่ลึกๆ ว่า เลือกตั้งสมัยหน้าป้ายหาเสียงต้องมีชื่อของ “พรรคหญิงไทย” รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน
“วันนี้พี่ขาดคน ขาดเงินซึ่งต้องมี 200 ล้านนะถึงจะพร้อม ซึ่งปัจจัยสำคัญก็ 2 เรื่อง มันสำคัญทั้งสองอย่างพี่ให้ความสำคัญกับทั้งสองอย่างนะ แต่ถ้าคนมีความคิดที่แน่วแน่ มุ่งมั่นอย่างพี่แดงมาช่วยกันหลายๆ หัว เราจะสามารถผลักดันและทำให้มันออกมาเป็นเรื่องเป็นราว ถ้าใครมองเห็นเขาก็เข้ามาช่วยแล้วทุกอย่างน่าจะง่ายขึ้น ที่นี้สำคัญมันอยู่ที่ว่านโยบายแนวทางของเรามันต้องร่วมกันคิด ร่วมกันทำไง พี่แดงก็คิดได้แค่นี้เองว่าด้านคุณธรรมจริยธรรม แต่ว่ามันจะต้องกำหนดออกมาเป็นนโยบายให้ชัดเจน ซึ่งมันต้องอาศัยสมอง ต้องคิดช่วยกัน เงินก็สำคัญ คนก็สำคัญ แต่สองตัวนี้พี่ให้ความสำคัญกับคนมากกว่า”
“ถ้ามีความพร้อม 2 ตัว คือ คนที่มีความพร้อมมาจับมือกัน มีอุดมการณ์ที่จะทำงานด้วยกัน เห็นความสำคัญเหมือนๆ กัน แล้วก็งบประมาณที่จะเอามาลง ซึ่งอย่างที่บอกว่าถ้าพี่ไมได้ 200 ล้านพี่ไม่ตั้ง เพราะถ้าตั้งไปมีเงิน 20-30 ล้าน ตั้งไปประชุมทีสองทีเงินก็หมดแล้ว แค่ค่ารถสมาชิกมาจากทั่วประเทศ ค่ากิน ค่าห้องพัก ค่าที่ ค่าอาหารก็หมดแล้ว ไม่มีอะไรที่จะรองรับภารกิจ”
“แต่เรื่องหาเงินพี่ว่าไม่ใช่เรื่องยากหรอก นี่ขนาดโยนหินถามทางเฉยๆ นะ กรรมการก่อตั้งไปหามาสมมติคนละล้าน 3 คน กรรมการก่อตั้ง 15 คน ขอคนละล้าน แล้วบางคนให้ 1 ล้านมาเลยเพราะอยากให้ตั้งพรรคสำเร็จ คือขนาดพี่ยังไม่ได้ลงแรงนะ เราแค่บอกว่าไปหามานะ ก็ไปติดต่อมาตรงนี้ๆ ล้านหนึ่ง ตรงนั้น 2 ล้านได้ทั้งหมดเท่าไหร่ ก็เกือบ 30 ล้าน แต่เรายังไม่ไปเอาเงินเขานะ คล้ายๆ ว่าแสดงเจตนารมณ์ไป”
“ก็อยากให้ได้สมัยหน้านะ ถ้าเป็นบุญของผู้หญิงก็ขอให้ประสบความสำเร็จ ให้ผู้หญิงเห็นร่วมกัน เยอะๆ พวกเธอก็นั่งเฉยๆ ให้ชั้นคิดหัวผุอยู่คนเดียว บางคนก็บอกว่าดีๆ พี่แดงทำไปเถอะ แต่ไม่มีใครเข้ามาช่วยเลยเข้าใจมั้ยคะ ส่วนนึงคงเพราะมันยังไม่เป็นรูปเป็นร่างมั้งคะ แต่ก็ดีนะเพราะตั้งแต่เราแสดงเจตนารมณ์ไปแล้วมีผู้หญิงเก่งๆ ระดับด๊อกเตอร์เสนอตัวเข้ามาช่วยหลายคน ซึ่งพี่ก็หวังว่าในวันข้างหน้าจะมีคนเก่งๆ มาร่วมระดมมันสมองกับเรา”
เผยอุดมการณ์และเป้าหมายของพรรคหญิงไทย คือ การผลักดันให้ผู้หญิงขึ้นมามีบทบาทในการเมืองไทย เพื่อประกาศศักดาว่าผู้หญิงก็มีสามารถไม่น้อยไปกว่าผู้ชาย
“พี่อยากกระตุ้นให้ผู้หญิงออกมามีส่วนรับผิดชอบบ้านเมือง เคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ชาย อยากให้ประเด็นของสังคมเป็นประเด็นที่เอามาชูเป็นนโยบายระดับประเทศ ที่จะแก้ไขรวมไปถึงเรื่องสุขภาพอนามัยการศึกษาความเสมอภาคต่างๆ เรื่องของวัฒนธรรมเรื่องของโอกาส ที่ผู้หญิงจะมีส่วนเข้าไปกระตุ้นให้ความรู้แล้วก็ดึงแล้วก็โน้มน้าวให้ออกมา”
“ซึ่งเวลานี้อาจจะมีกลุ่มผู้หญิงที่เขาทำอยู่ แต่กลุ่มผู้หญิงที่มาทำเขามาด้วยหัวใจที่ว่าต้องการทำการเมืองเพื่อผู้หญิงเฉพาะหรือเปล่า แต่พี่มีความรู้สึกว่าเขาอิงพรรคมากกว่า ที่พี่เห็นเนี่ยมีแต่พรรคประชาธิปัตย์ทั้งนั้นเลยที่ออกมาอย่าง อ.ผุสดี ตามไทย อย่างคุณมาลีรัตน์ พี่ไม่อยากให้อิงการเมือง อิงพรรคที่มีอยู่ อยากให้ออกมาทำเพื่อผู้หญิงล้วนๆ แม้ว่าจะไม่ได้ ส.ส.เลยแต่เราก็ทำงานในการเมือง เพราะผู้หญิงในเวลานี้ออกมาใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งมากขึ้นมากกว่าผู้ชายด้วยซ้ำ แล้วผู้หญิงในประเทศก็มากกว่าผู้ชาย”
“แต่ผู้หญิงที่เป็นตัวแคนดิเดตที่ต้องลงสู่การเลือกตั้งมันน้อยมากๆ เพราะว่าพรรคการเมืองไม่ส่ง แม้กระทั่งรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนี้จะบอกเรื่องสัดส่วนไว้ บอกให้ผู้หญิงใกล้เคียงกับผู้ชายในการส่งสมัครก็ไม่แน่ใจว่าพรรคสนใจจุดนี้หรือเปล่า เพราะผู้หญิงที่จะเข้ามาสู่การเมืองได้คือผัวตายไม่ก็พ่อตาย ผู้หญิงถึงจะเข้ามาได้ จะเข้ามาเพียวๆ โดดเดี่ยวเลยไม่มีหรอก ก็อย่างพี่แดงก็โดนด่าแทบตายเรื่องผัวเป็นผู้ว่าแล้วพี่แดงได้ ส.ว.แล้วมีใครคิดมั้ยว่าถ้าหากผัวได้เป็นผู้ว่าฯ แล้วเมียได้เป็นหมดมันแย่นะ ถ้าเราไม่ได้ทำด้วยหัวใจมันไม่มีทางหรอกค่ะ ถ้าเราไม่รักประชาชน แล้วไม่ออกไปหาประชาชนเราไม่มีทางได้พี่บอกได้เลย”
“เพราะฉะนั้นเป้าหมายของพี่คืออยากกระตุ้นให้ผู้หญิงเห็นความสำคัญ และตระหนักว่าการเมืองมันไม่ได้ไกลจากผู้หญิงนะ เราเสียภาษีเท่าผู้ชายนะ ทำไมผู้ชายมาหางบประมาณเอาเงินมาบริจาคประเทศ ผู้หญิงทำไมไม่ได้ล่ะ เพราะฉะนั้นกระตุ้นให้ผู้หญิงออกมาตื่นเต้น อันนี้ตอบในอารมณ์ของพี่นะ ส่วนความสำเร็จมันขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้หญิงด้วย”
“คิดงานการเมืองมันสนุก แต่ตอนนี้มันแข่งกันไร้จรรยาบรรณไร้คุณธรรม มันน่าเป็นห่วงเล่นการเมืองแบบไม่แล้วไม่เลิก เล่นการเมืองแบบอาฆาตพยาบาทแยกฝักแยกฝ่าย อคติอย่างรุนแรงฝ่ายมันฝ่ายกู อำนาจเก่า อำนาจใหม่ พี่แดงกลัวตรงนี้ คือ เราอยากเล่นการเมืองแบบพอแพ้ก็จับมือกัน ทำงานแบบอเมริกัน เลือกประธานาธิบดี แข่งกันเอาเป็นเอาตาย แต่พอแพ้สปิริตจับมือเลยแช็คแฮนด์ ไม่มีฟ้องร้องหรอก ใครเล่นการเมืองมีสิทธิ์เข้าคุกนะ ถูกตรวจสอบประวัติมีเท่าไหร่กี่ไส้กี่ขดถูกลากออกมาหมด น่ากลัว คือมันเป็นอคติไปแล้ว อีกหน่อยก็ไม่มีใครกล้าเล่นการเมือง”
ตั้งความหวังไว้ไกลว่า อนาคตเมืองไทยต้องมีนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้หญิงเหมือนอย่างต่างประเทศบ้าง
“อนาคตผู้หญิงก็มีสิทธิ์นะคะ เพราะว่าเดี๋ยวนี้ผู้หญิงเป็นนายกฯเยอะแยะ ทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ถ้าหากว่าเราอุตส่าห์ทำคุณงามความดีไว้แล้วประชาชนมองเห็นทางเลือกใหม่ เพราะเราจะไม่ใช้เงินซื้อเสียงเด็ดขาด ถ้าสมาชิกคนที่สมัครซื้อเสียงก็ต้องเชิญออกไป เพราะว่าต้องการเน้นในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม เรามาทำผิดเองไม่ได้ มันคืออุดมการณ์มันคือพาร์ทหนึ่งของอุดมคติ ในความเป็นจริงอาจจะลำบาก พี่แดงถึงคิดว่าไม่รู้ว่า 200 ปีจะตั้งได้หรือเปล่า แต่อย่างน้อยก็ได้จุดกระแสให้เห็นความสำคัญของผู้หญิง ว่าผู้หญิงก็มีบทบาท ก็มีส่วนสำคัญที่จะเดินกับผู้ชายในทางการเมือง”
“กฎหมายทุกฉบับมันเป็นกฎหมายที่บังคับใช้นะคะ แล้วก็ออกโดยฝ่ายนิติบัญญัติเพราะฉะนั้นการที่ผู้หญิงไม่ทวงสิทธิ์ แม้กระทั่งพรบ.นามสกุลยังคลอดไม่ได้เลย ส่วนใหญ่ผู้ชายอยู่ในสภาเขาทำกฎหมายออกมาก็เพื่อผู้ชาย กฎหมายอาญาชายใดที่ข่มขืนหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาตน ถ้าเป็นภรรยาสามารถข่มขืนได้ตลอด แค่เสียค่าสินสอดเท่านั้นน่ะ นี่ไงคือสิ่งที่ไม่เป็นธรรม มันยังมีอีกเยอะนะกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม”
ความตั้งใจแรกถ้าหากได้เข้าไปนั่งในสภาฯ เจ๊เบียบ บอกว่า จะแก้ไขเรื่องความไม่เท่าเทียมของผู้หญิงกับผู้ชายก่อนเป็นอันดับแรก รวมไปถึงเรื่องการศึกษาของเยาวชนไทยด้วย
“ความไม่เท่าเทียมกันมันก็ต้องแก้ไขหมด ถ้าไปพูดเขาจะหัวเราะเยาะเอา เพราะว่าแนวทางที่จะเข้าไปมันยังเข้าไปไม่ได้ อย่างที่พี่แดงพูดทั้งหมด คือ ความไม่เท่าเทียมกัน ประเด็นต่างๆ ด้านการไม่เท่าเทียม เรื่องการศึกษา ตำแหน่งที่คุมกำลังต่างๆ ทางทหารเราก็ลงไม่ได้ ตำแหน่งนายอำเภอ ผู้ว่าอย่างนี้ สัดส่วนมันจะต้องดีขึ้นนะ สัดส่วนมหาวิทยาลัยบางคณะยังห้ามผู้หญิงเลย จะมีให้เรียนแต่กับผู้ชาย ซึ่งมันไม่ใช่ สรีระมันไม่ใช่สิ่งที่จะมากีดกั้นในเมื่อสมองเท่ากันแล้ว ในเมื่อสมองผู้ชายไม่ได้ฉลาดมากไปกว่าผู้หญิง ในเมื่อผู้หญิงก็มีสิ่งที่พิเศษมากกว่าผู้ชาย ผู้หญิงมีความซื่อสัตย์และอะไรหลายๆ อย่างดีมาก มีสัญชาตญาณของแม่ของเมียที่จะทำเพื่อส่วนรวม เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน”
“สิ่งที่พี่อยากให้เยาวชนได้มีมากที่สุด เรื่องการศึกษา เพราะการศึกษาจะทำให้คนมีคุณภาพ การศึกษาจะทำให้คนมีคุณธรรมด้วย เราไม่เน้นเรื่องรายได้ เรื่องเศรษฐกิจเพราะว่าเราคิดว่า ถ้าหากมันมีคุณธรรมมีการศึกษาแล้ว สำหรับพี่อะไรก็ง่ายขึ้น มันพัฒนาได้หมดแต่ต้องเริ่มจากพัฒนาคนเสียก่อน”
นโยบายพรรคแม้ว่าจะเน้นหนักไปทางความเท่าเทียมกันระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย แต่งานหลักอย่างเรื่องรณรงค์ให้มีผัวหนึ่งภรรยาหนึ่งก็ยังไม่ได้วางมือ
“ยังไม่ทิ้ง เรื่องนี้มันก็รวมๆ กันหมดทุกเรื่องที่เกี่ยวกับครอบครัว เรื่องเมียน้อยก็อยู่ตรงนี้แหละ มันก็อยู่ในระบบนี่แหละ คนที่ทำให้ครอบครัวไม่อบอุ่น สามีปันใจ มีผู้หญิงอยากเข้ามาแย่งอะไรแบบนี้ มันก็อยู่ในงานของเราทั้งหมด วันๆ ปากเปียกปากแฉะให้คำปรึกษา งานของสมาคมมันก็เกี่ยวข้องกับครอบครัวสมาคมอบอุ่นเป็นสุข สโลแกนสามีหนึ่งภรรยาหนึ่ง ครอบครัวถึงจะขับเคลื่อน สิ่งที่จะมาปรับเปลี่ยนสังคมได้ เราต้องปรับเปลี่ยนตั้งแต่ต้นตอคือครอบครัว นั่นมันก็หมายถึง มีวัยรุ่น มีเด็ก มีพ่อมีแม่ ซึ่งทุกคนต้องหันมาปรับทัศนคติกัน”
