“นิว” ปฏิเสธเปล่าเป็นเด็กในสังกัด “เสี่ยอู๊ด” โต้เสี่ยใหญ่ไม่ได้ซื้อรถให้ แค่ให้ยืมเงินดาวน์เฉยๆ เผยหนุ่ม “ออย ธนา” เป็นคนแนะนำให้รู้จัก แต่ตอนนี้ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว ก่อนย้ำความสัมพันธ์กับ “จุ๋ย” ยังแน่นปึ้ก!
หลังจากที่ผ่านมามีดาราชายหลายคน มีรายชื่อติดอยู่ในโผเป็นเด็กอุปการะในความดูแลของ “เสียอู๊ด-สิทธิกร บุญฉิม” ไม่ว่าจะเป็น “ฟิล์ม รัฐภูมิ”, “โบกี้ จักรินทร์”, “ออย ธนา” และ “แทค ภรัณญู” ล่าสุด มีอีกหนึ่งพระเอกดังแห่งวิกเจ็ดสีอย่าง “นิว-วงศกร ปรมัตถากร” ที่ล่าสุดโดนแฉว่าผิดใจเสี่ยใจป้ำจนถึงขั้นนำรถฟอร์จูนเนอร์สีขาวรถที่ถอยให้กลับมาคืน
ล่าสุด พอมีโอกาสเจอหนุ่มนิวเลยขอเปิดใจถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า...
“สำหรับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น ผมยอมรับนะว่ามันเป็นเรื่องจริงนะ และผมก็รู้สึกซีเรียสมากด้วย แต่ว่าตอนนี้ก็ทำใจยอมรับ เพราะว่าเราเป็นคนทำมันขึ้นมา และผมก็กำลังพยายามที่จะแก้ไขปัญหาอยู่ คือ ผมพยายามที่จะทำทุกอย่างให้มันดีที่สุด ซึ่งมันก็ได้แค่นี้ และผมก็ต้องทำใจยอมรับในสิ่งที่มันจะเกิดต่อไป”
“แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันก็จบลงหมดแล้ว ผมยอมรับนะว่าผมยืมเงินเขามาจริง คือ เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของเจ้าหนี้กับลูกหนี้นะ คือ ตอนแรกยอมรับว่าผมงง และก็เครียดมาก เพราะไม่รู้ว่าข่าวมันออกมาจากไหนและออกมาได้อย่างไร”
“คือ ใช่ในเมื่อมันออกมาแบบนี้ ผมก็อยากจะบอกว่า ตอนนี้เรื่องมันไม่มีอะไรแล้ว สรุปก็คือผมเอาเงินไปคืนเขาหมดแล้ว ผมคืนไปนานพอสมควรแล้ว คือ เงินยืมก็คือเงินยืม ตอนนี้ก็คืนไปแล้วผมก็สบายใจขึ้น คือ เรื่องทั้งหมดผมก็ฝากให้คนอื่นไปเป็นธุระติดต่อให้นะ เนื่องจากผมไม่มีเวลาไปทำเอง”
เผยคืนเงินเสี่ยอู๊ดไปหมดแล้วทุกบาททุกสตางค์ ย้ำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เคยปิดบอกการเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก...
“กับเรื่องที่เกิดขึ้นผมอยากจะบอกว่าผมไม่ได้ให้เขาซื้อรถให้ผมนะ ผมแค่ยืมเงินเขามาเป็นแค่เงินดาวน์เฉยๆ แต่ว่าเงินดาวน์ผมก็คืนเขาไปแล้ว ส่วนที่เหลือนั้นผมก็เป็นคนผ่อนต่อเอง เงินทุกบาททุกสตางค์เป็นเงินของนิวเองทั้งหมดแน่นอน”
“คือ พอดีรถคันนั้นผมขับไปชนมาแล้ว สีมันก็เพี้ยน อีกอย่างเบรกมันก็ไม่ค่อยดี มันก็เลยมีหลายอย่างให้เราตัดสินใจขายไป คือ คิดว่าเราเปลี่ยนคันใหม่มันน่าจะดีกว่า คือ เรื่องมันจบไปแล้วผมไม่อยากจะไปพูดอะไรมาก แต่ถ้าถามว่าเข็ดไหม ผมว่าน่าจะเป็นบทเรียนของผมนะเพราะว่าเวลาที่เราจะทำอะไรก็ต้องแน่ใจว่าเราพร้อมก่อนจะได้ไม่ต้องมีปัญหาภายหลัง”
“ในเรื่องของการที่ผมยืมเงินคนนั้น ผมก็ไม่ได้ปิดบังในการเป็นหนี้อะไร เพราะผมคิดว่าเรื่องนี้มันไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ารังเกียจหรือน่าอายอะไรเลย คือ เรื่องนี้มันจะผิดก็ต่อเมื่อผมไม่รักษาคำพูดหรือว่าเบี้ยวแต่ว่าตอนนี้ทุกอย่างมันจบลงไปหมดแล้ว”
เจ้าตัวยอมรับเสี่ยอู๊ดเป็นผู้มีพระคุณคอยช่วยเหลือตนได้ทุกเรื่อง เผยรู้จักกันเพราะหนุ่ม “ออย ธนา” แนะนำให้รู้จัก...
“ตอนแรกผมรู้จักกันกับเสี่ยอู๊ดได้ เพราะว่าพี่พี่ออยแนะนำให้รู้จัก และเราก็ได้ติดต่อกันอยู่พักหนึ่ง แล้วพอดีตอนนั้นผมก็จะเข้าไปขอสปอนเซอร์ทีมฟุตบอลที่เล่นอยู่กับพี่ออย คือ เราให้ความเคารพและนับถือพี่เขาเป็นเหมือนผู้ใหญ่คนหนึ่ง ที่เวลาเรามีปัญหาอะไรเขาก็สามารถช่วยเหลือเราได้ทุกเรื่อง พี่เขาก็เป็นผู้มีพระคุณที่คอยให้ความช่วยเหลือผมตลอด”
“หลังจากที่ผมรู้จักพี่เขามา ผมก็ตัดสินใจว่าจะซื้อรถก็เลยเข้าไปคุยกับพี่เขาแล้วก็เลยขอยืมเงินเขามาอย่างที่เป็นข่าว คือ หลังจากนี้ ถ้ามีโอกาส แต่ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ เพราะว่าผมไม่ได้โทร.คุยหรือติดต่ออะไรกับพี่เขาแล้ว แต่ว่าถ้ามีโอกาสเจอกันก็สามารถทักทายกันได้ปกติ เพราะว่าผมก็ยังให้ความรักแล้วก็เคารพพี่เขาเหมือนเดิม”
ยืนยันไม่ได้เป็นเกย์ ส่วนการที่ตนไปสนิทชิดเชื้อกับเสี่ยอู๊ดแล้วคนภายนอกมองว่าเป็นเด็กในสังกัดนั้น เจ้าตัวบอกแล้วแต่ใครจะคิดอย่างไร ขอแค่คนในครอบครัวเข้าใจเท่านั้นพอ...
“ผมว่าผมพูดชัดเจนแล้วนะว่า ผมไม่ได้เป็นเกย์ ผมเป็นผู้ชายแน่นอน กับเรื่องที่เกิดขึ้นผมก็รับผิดชอบทุกอย่างที่ผมพูดไว้ และก็รักษาสัญญากับพี่เขา แต่ส่วนถ้าใครจะคิดอะไรผมว่ามันก็คงจะไปห้ามใครไม่ได้หรอกนะ อีกอย่างเรามัวแต่ไปแคร์ความรู้สึกของทุกคนมันก็คงจะไม่ได้”
“เอาเป็นว่าเราเลือกแคร์เฉพาะคนที่เราแคร์ คนที่รักเรา คนที่เรารัก คนที่เราให้ความสำคัญ อย่างคุณพ่อคุณแม่นิว คือ ท่านก็รู้เรื่องทุกอย่างดี เพราะว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนิวเอาไปปรึกษาท่านทุกอย่าง และท่านก็จะบอกว่าเราจะทำอะไรก็ได้ แต่อย่าไปทำให้ใครเดือดร้อน หรืออย่าไปทำให้ใครเสียหายก็พอ”
พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า เสี่ยใหญ่จะไม่หักหลังด้วยการออกมาแฉความสัมพันธ์ ย้อนถึงเสี่ยจะทำอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรให้แฉอยู่ดี ก่อนแจงเรื่องยืมเงินเป็นเรื่องปกติ...
“ผมว่าพี่เขาก็เป็นผู้ใหญ่พอ เขาคงจะไม่มารังแกเด็กหรอก แต่ถ้าพี่เขาจะฉแขึ้นมาจริงๆ ผมก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรนะ เพราะว่าความจริงมันก็คือความจริง ผมก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่มีสิทธิ์เป็นหนี้ได้ แต่ว่าหนี้ที่ผมก่อขึ้นผมก็รับผิดชอบและก็ใช้หนี้ไปหมดแล้ว มันก็ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว”
“คือ ถ้ามีก็แค่ผมเคยไปทานข้าวกับทีมฟุตบอล แต่มันก็ไปกันหลายคน อีกครั้งก็ตอนที่ไปงานปีใหม่ที่ทางบริษัทของพี่เขาจัดก็แค่นี้เอง ผมว่ามันไม่น่าจะมีอะไรนะ คือ ผมเป็นคนมองโลกในแง่ดี คือ เวลาที่เราจะคบใครสักคน เราก็จะพยายามไม่มองในด้านที่ไม่ดีของเขา”
“แต่จริงๆ แล้วพี่เขาก็เป็นคนดีนะ ตอนแรกที่คบกันก็ไม่คิดว่ามันจะมีเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ คือ การที่ออกมาพูดในครั้งนี้ถ้าเกิดว่าผมทำให้พี่เขาเสียหาย ทำให้เขาเดือดร้อนผมก็ต้องขอโทษด้วยแล้วกัน”
พระเอกหนุ่มยันข่าวไม่มีผลกระทบใดๆ บอกความสัมพันธ์กับเพื่อนสาวคนสนิท “จุ๋ย วรัทยา” ยังดีเหมือนเดิม เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นเป็นแฟนกัน
“เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรผมนะ เพราะว่ามันก็เป็นเรื่องของผมเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่ผมเป็นคนก่อปัญหาขึ้นมาเอง แล้วผมก็กำลังจะแก้ปัญหาอยู่ คือเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานมากแล้ว แต่บังเอิญว่าพี่ๆ นักข่าวเพิ่งรู้ เพราะมันเพิ่งเป็นข่าวออกมา”
“ส่วนความสัมพันธ์ของผมกับจุ๋ยก็ยังคงเหมือนเดิม คบกันแบบราบรื่น แต่นี่หมายถึงว่าเราเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมนะ คือ ตอนนี้เรายังเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่ ถือว่าสนิทที่สุดแล้วในบรรดาเพื่อนในวงการและกับเรื่องที่เกิดขึ้นเขาก็บอกกับผมว่าเรื่องแบบนี้มันก็โดนทุกคนแหละ”
“ถ้าเกิดว่าเราไปกับผู้ชายคนก็หาว่าเป็นเกย์ ถ้าเราไปกับผู้หญิงคนก็หาว่าเราเจ้าชู้ คือ เรื่องแบบนี้มันก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของคนในวงการ”