กลายเป็นคอนเสิร์ตชวนเศร้าไปเฉยสำหรับ Love is Winter Festival 07หลังผู้จัดปล่อยให้คนทะลักเข้าล้นพื้นที่ไปหลายเท่า ก่อปัญหาทั้งระบบเสียงไปได้ไม่ถึงด้านหลัง แถมห้องน้ำและอาหารไม่พอที่จะเข้า ส่งผลให้ค่ำคืนแห่งความรักกลายเป็นค่ำคืนแห่งความระทมแทน
คอนเสิร์ต KTC LOVEiS Winter Festival 2007 ที่มี บอย โกสิยพงศ์ และ วินิจ เลิศรัตนชัย เป็นโต้โผใหญ่ที่มีขึ้น ณ.ไร่โบนันซ่า เขาใหญ่ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางความคาดหวังของคนดูที่คาดว่าจะได้ชมคอนเสิร์ตที่สุดแสนจะโรแมนติก จากโปรแกรมที่จะมีการแสดงตลอดทั้งคืนท่ามกลางอากาศเย็นยะเยือก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โปรแกรมของคอนเสิร์ตนั้นจัดได้ค่อนข้างลงตัว คอนเสิร์ตเริ่มต้นด้วยการแสดงของ LOLITA,SAFE & Big Bomb, Nan & Jib,Shining Star & Begin & Life,Lex & แมว จีระศักดิ์ Squeez Animal และ Strangers ตามด้วยตัวบอยด์เองที่ลากสังขาร (เหตุเพราะมีข่าวว่า เสี่ยบอยด์เป็นลมที่เห็นคนยัดทะนานเข้ามาเกินคาด) ขึ้นมาพร้อมกับป๊อด ธนชัย อุชชิน นักร้องคู่บารมีด้วยบทเพลง “รักคุณเข้าอีกแล้ว” ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดมหกรรมคอนเสิร์ตความรักครั้งนี้อย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตามปัญหาเรื่องเสียงก็เกิดขึ้นทันทีที่คอนเสิร์ตเริ่ม เมื่อระบบเสียงที่ผู้จัดๆ จัดไม่สามารถส่งไปถึงผู้ฟังที่อยู่ด้านหลังได้ โดยก่อนหน้านี้ผู้จัดอ้างว่า เตรียมระบบเสียงที่จะสามารถฟังเพลงได้ไพเราะได้ทั่วบริเวณ ปรากฏว่าพอเอาเข้าจริง ผู้ฟังด้านหลังบริเวณตั๋วราคา 1500 บาทนั้นแทบจะไม่ได้ยินเสียงเบสแม้แต่นิดเดียว ซึ่งน่าเสียดายแทนศิลปินที่ขนกันมาและตั้งใจแสดงกันอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็น P.O.P, บี พีระพัฒน์,รัดเกล้า,กบ ทรงสิทธิ์ ที่นำเพลง ที่แห่งนี้,อยากจะขอ,ปาฏิหาริย์,ขีดเส้นใต้,ยอม,ลมหายใจ,จะเก็บเธออยู่ในใจเสมอ ตามมาด้วย โป้ โยคีเพลย์บอย,สินเจริญ บราเธอร์ส, Tree for Three , 7th Scenes,ปั่น –มาลีวัลย์ ฯลฯ
เสียงตะโกนเรียกร้องให้ปรับปรุงเสียงยังมีอย่างต่อเนื่อง แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรแก้ไขให้ดีขึ้นอย่างไร ขณะที่บนเวทีนั้นยิ่งดึกศิลปินที่มาบรรเลงก็ยิ่งมัน โดยเฉพาะ “ปาน” ธนพร แวกประยูร ที่นำ หนุ่มบาว-สาวปาน ข้ามค่ายมาเรียกความโจ๊ะกับคนดูได้ส่วนหนึ่ง ก่อให้เกิดภาพน่าเห็นใจคนดูอย่างยิ่งที่พยายามจะสนุกโดยการร้องแทนเสียงที่ไม่ได้ยิน แต่ก็ทำได้อยู่พักเดียวก็ชักจะไม่ไหวกับการจ่ายเงินหลักพันมาร้องคาราโอเกะแบบไม่มีไมค์ท่ามกลางเขาใหญ่แบบนี้ ครั้นจะขยับไปดูข้างหน้าคนก็เต็มไปหมดจนไปกันไม่ไหว
รอบดึก LOVE is เริ่มนำเพลงแดนซ์มาไล่ความเซ็งกันบ้างโดย นภ พรชำนิ บี -พีระพัฒน์,เบน ชลาทิศ,บอย ตรัย,โต๋ ,ID ,TK-H,Cora & Begin ทำให้คนลุกขึ้นมาเต้นตามได้พอสมควรอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบทเพลง ความลับ,รัก รัก รัก,อย่าเข้าใจฉันผิด,ผ้าเช็ดหน้า,Y.M.C.A, I will Survive ,Can't Take My Eyes Off You และเพลงลมหายใจในจังหวะดิสโก้ ( ถึงแม้ว่าระบบเสียงจะไม่อำนวยก็ตาม )
แต่ยิ่งเต้นคนดูก็ยิ่งหงุดหงิด!! เพราะน้ำก็หายาก อาหารก็ขายหมด แถมห้องน้ำก็ยังน้อยจนน่าสังเวช เล่นเอาสุภาพสตรีจำนวนมากพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านั่งกันเฉยๆ ดีกว่า เพราะ ดิ้นมากเดี๋ยวร่างกายขับของเสียออกมาแล้วต้องไปยิงกระต่ายกลางป่ามันจะไม่งาม
ตีสี่...ความทรมานใกล้จะสิ้นสุดแล้ว 55555 (เวลาที่คอนเสิร์ตจะปิดตัวเองคือ 6 โมงเช้า) ด้วยความที่ทั้งเหนื่อยใจและเพลียจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการมีความรัก ทำเอาคนดูลุกไม่ขึ้นจากแม้จะมีร็อกแบนด์อย่าง JETSET'ER ขึ้นมาโขยก แต่เสียงด้านหลังก็ยังคงให้อารมณ์เหมือน ‘ริงโทน’ ในโทรศัพท์ จนท้ายสุดแล้ว บอยด์ กัปตันของ LOVE is ก็ต้องโดดขึ้นเวทีร่วมแจมกับศิลปินคนอื่นๆ เพื่อปิดคอนเสิร์ตที่แสนเพลียใจครั้งนี้ในช่วงรุ่งเช้า
โยนกันมั่วอ้างคนเยอะเพราะแอบเข้างาน
แหล่งข่าวกล่าวว่า ผู้จัดทั้งสองฝ่าย (LOVE IS และ วินิจ) โยนกันมั่วถึงความห่วยแตกในการจัด แหล่งข่าวกล่าวว่า จำนวนคนที่รับได้อยู่ที่ 15,000 คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั๋วคอนเสิร์ตนั้นจองเต็มแล้ว แต่พอเอาเข้าจริงกลับมีคนแห่กันเข้าไปมากกว่าเดิม ที่เห็นจะๆ ก็คือ มีการขายตั๋วที่หน้างานอีกด้วย( ในราคา 1300 บาท...ถูกกว่าราคาจองอีกแน่ะ!!) ซึ่งก็ไม่ทราบอีกเท่าไหร่ที่ยัดเข้าไปจนโบนันซ่าโป่งถึงสองถึงสามหมื่นกว่าคน
ด้านหัวเรือใหญ่ของคอนเสิร์ตอย่าง "บอย โกสิยพงศ์" เองที่รับรู้ปัญหาดังกล่าวก็ได้พยายามที่จะจัดคนทั้งหมดให้เข้าที่เข้าทางอย่างเต็มที่โดยลงมาทำหน้าด้วยตนเองกระทั่งเกิดอาการเป็นลม ขณะที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของผู้จัดเองกลับยืนยันว่าไม่มีการขายบัตรเกินไปอย่างที่มีคนพูดกัน แต่คนที่เข้าไปเกินนับหมื่นคนนั้นเป็นเพราะการลักลอบเข้าไปต่างหาก
"คนพวกนั้นไม่มีบัตรแต่อาศัยการเดินเลาะเข้าทางป่ารอบๆ บางคนถึงกับมุดเต้นท์ที่ตั้งอยู่อีกด้านของฝั่งทางเข้าเพื่อแอบเข้างานนี้ ทางเรายอมรับว่าระบบรักษาความปลอดภัยและการตรวจตราของเจ้าหน้าที่นั้น ดูแลไม่ทั่วถึงทุกพื้นที่บริเวณงานจนเป็นเหตุให้คนเข้างานเกินจำนวนที่ตั้งไว้"
อย่างไรก็ตามที่แย่ที่สุดคงไม่มีอะไรเกินเครื่องอำนวยความสะดวกที่ผู้จัดเตรียมไว้ยังกับการรับคนไม่กี่พันคน คิวที่เข้าห้องน้ำยาวเหยียด โดยเฉพาะสุภาพสตรีถึงกับบ่นอุบกับการเข้าห้องน้ำที่ต้องลุ้นว่าจะมีน้ำไปชำระความสะอาดกันหรือเปล่า ซึ่งก็น่าอนาถถึงขนาดต้อง ‘แบกขวดน้ำ’ เข้าไปล้างให้กับตัวเองเอง
คนดูยังเหนื่อยกันสุดๆ ส่งท้ายเพราะต้องเดินกลับไปที่รถที่จอดทิ้งเอาไว้รายทาง เพราะที่จอดรถที่ผู้จัดเตรียมไว้นั้นไม่พอ ทำให้การไปดูคอนเสิร์ตครั้งนี้นอกจากได้บริหารกระเพาะปัสสาวะและไตกันตลอดทั้งคืนแล้ว ยังได้บริหารน่องกันอีกดอก
"งานนี้คนจัดและ LOVE is คงรวยกันเละเทะ แต่คนดูมีความรู้สึกเหมือนโดนหักหลังอย่างแรงจากน้าบอยด์และน้าวินิจนะคะ" สาวหน้าจิ้มลิ้มคนหนึ่งบอกกับ บันเทิงออนไลน์
เสียงบ่นเหล่านี้ไม่ทราบว่าจะไปถึงหูของ "บอยด์ โกสิยพงศ์" ที่แฟนเพลงศรัทธาหรือ "วินิจ เลิศรัตนชัย" ผู้จัดตัวจริงกันบ้างหรือเปล่า หรือเงินมันไปอุดหูเสียจนไม่ได้ยินอะไร แล้วรอว่า เดี๋ยวปีหน้าคนเหล่านี้ก็จะลืมเหตุการณ์ในคืนนี้แล้วจะกลับมาร่วมมหกรรมทุกข์กันอีกรอบหนึ่ง?
ก็ความรักมันต้องรู้จักให้อภัยนี่เนาะ ตามคอนเซ็ปต์ LOVE is?