xs
xsm
sm
md
lg

คาสโนวาเตียงหัก! “ฟลุค” รับเลิก “โบ” แล้ว พร้อมยันไม่เกี่ยว “แบม”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ฟลุค” รับ เลิก! “โบ” แล้ว เผยแยกเตียงมานาน 2 ปี แต่ยังไม่หย่า บอกอยากคงสถานภาพพ่อแม่ “น้องอชิ” พร้อมยันสาเหตุการเลิกไม่เกี่ยว “แบม” แน่นอน ออกตัวไม่ใช่คนเจ้าชู้ และยังรักอดีตภรรยาเสมอตลอดระยะเวลา 5 ปี บอกตนไม่เคยนอกใจแม้แต่ครั้งเดียว แต่โอกาสคืนดีไม่มี ส่วนจะแต่งงานใหม่หรือไม่นั้น บอกต้องศึกษาอีกนาน

เป็นอันว่าปิดฉากจบความคลุมเครือแล้วเรียบร้อย สำหรับคู่รักลูกหนึ่งของหนุ่มคาสโนวาเบอร์ต้นๆ อย่าง “ฟลุค เกริกพล มัสยวานิช” กับภรรยาสาว “โบ ชญาดา ลิ่วเฉลิมวงศ์” ที่แต่งงานกันมา 5 ปี และมีทายาทน่ารักหนึ่งคน "น้องอชิ" วัย 4 ขวบเศษ แต่เหมือนว่าช่วงระยะหลังเกิดกระแสข่าวรักร้าวมานับครั้งไม่ถ้วน อีกทั้งมีข่าวเตียงหักมาโดยตลอด แต่ทั้งคู่ก็ไม่เคยออกมายอมรับต่อกระแสข่าวดังกล่าวว่าเป็นเรื่องจริง

จนวันนี้ (4) กลางงาน “เอ็กแซ็กท์ แอนด์ ซีเนริโอ้ ทูเก็ตเดอร์ 2008” จัดขึ้น ณ โรงละครเมืองไทยรัชดาลัยเธียเตอร์ ของ “บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ” กองทัพสื่อเข้ารุมสัมภาษณ์พระเอกคาสโนวาจนในที่สุด ฟลุค เอ่ยปากขึ้นเองว่าจะขอพูดเรื่องนี้เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเอ่ยถึงการจบความสัมพันธ์ครั้งนี้ว่า...

“ผมเห็นพี่ๆ นักข่าวถามมาหลายทีแล้ว วันนี้ผมก็ขอพูดให้มันจบๆ กันไปเป็นครั้งสุดท้าย คือตอนนี้ผมยอมรับว่า ระหว่างผมกับโบ เราคุยกันไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า เรายังไม่อยากบอกเรื่องนี้กับใคร เพราะเราอยากให้ลูกของเราพร้อมเสียก่อน รับรู้สถานการณ์ทุกอย่างได้เสียก่อน แต่ตอนนี้เราเห็นตรงกันว่า ลูกของเราเริ่มเข้าใจอะไรหลายๆ อย่างแล้ว”

“คือ อยากจะบอกว่าผมกับโบเราสองคนได้แยกเตียงกันมา จริงๆ แล้วก็ประมาณ 2 ปีได้แล้ว แต่เราสองคนไม่เคยบอกใคร คือ อยากจะบอกว่าเราไม่ได้ต้องการที่จะปิด อีกอย่างเพราะว่าเรารักลูก เราก็เลยไม่อยากให้ลูกรู้สึกไม่ดี แต่ตอนนี้ลูกโตพอที่จะเข้าใจพอเจอผมก็ถาม เจอโบก็ถาม ทุกครั้งที่ถามผมกับโบก็เจ็บ แต่ผมขอเลือกเอง ผมขอเจ็บดีกว่า”

“ส่วนในเรื่องของสาเหตุที่ทำให้เราแยกกันนั้น ก็เกิดจากเรื่องหลายๆ อย่าง และคือมันเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ เลย อีกอย่างผมก็ไม่อยากที่จะไปเอ่ยถึง เพราะเรื่องราวมันก็ผ่านมา 2 ปีแล้ว ผมก็เลยไม่อยากที่จะย้อนอะไรไปมาก”

ยืนยันไม่เกี่ยวกับข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน เพราะความสัมพันธ์ของตนกับสาวโบได้จบลงไปนานแล้ว และไม่เกี่ยวกับข่าวสัมพันธ์สาว “แบม จณิสตา” พี่ภรรยาอย่างแน่นอน

“ข่าวทั้งหมดที่ออกมานั้น มันเกิดหลังจากที่เราทั้งสองคนได้แยกเตียงกันแล้ว และผมขอยืนยันว่า ตั้งแต่ที่ผมแต่งงานกับโบมา 5 ปี ผมไม่เคยนอกใจโบแม้แต่ครั้งเดียว และที่เลิกกันก็ไม่กลัวว่าคนจะมองว่าเป็นเพราะข่าวด้วย เพราะตลอดเวลาที่คบกันอยู่ด้วยกัน เราก็รักกัน แต่ที่เราเลิกกันเพราะว่ามันมีปัจจัยหลายๆอย่างที่เรายังบอกไม่ได้ นั่นก็เป็นส่วนหนึ่ง”

“กับเรื่องนอกใจนั้น มันไม่เกี่ยวกันแน่นอน แต่มันเป็นแค่การที่เราไม่เข้าใจกัน ในเรื่องของมือที่ 3 นั้นไม่เกี่ยวเลย คือ เรื่องมือที่ 3 เนี่ยผมขอว่าไม่ต้องมาถามเลย ไม่ต้องมาทำอะไรกับผม เพราะมันไม่เกี่ยว คือผมไม่อยากจะพูดแล้ว เพราะเรื่องทุกอย่างมันผ่านไปหมดแล้ว”

“กับพี่แบมนี่ไม่เกี่ยวกันเลย ตลอดเวลาที่รู้จักกัน ผมรู้สึกกับพี่แบมเหมือนคนในครอบครัว พี่แบมเปรียบเสมือนพี่สาวที่คอยให้คำปรึกษา ก็แค่นั้น”

เผยการเลิกราครั้งนี้ยังไม่มีการเซ็นใบหย่า ซึ่งยืนยันไม่เกี่ยวกับเรื่องภาพลักษณ์อย่างแน่นอน เพียงแต่ต้องการคงสภาพพ่อและแม่ของ “น้องอชิ” เท่านั้น

“เราไม่ถึงขั้นหย่า คือ เราตกลงกันแล้วว่าถึงแม้ว่าเราจะเป็นสามีภรรยาที่แม้ว่าจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่ว่าเราก็จะสามารถเป็นพ่อและแม่ที่ดีของลูกได้ และผมก็เชื่อว่า โบเขาก็คงทำหน้าที่แม่ของเขาได้ดี คือ ทุกวันนี้เราก็ปรับเปลี่ยนในเรื่องของการจัดการทุกอย่างได้อย่างมีความสุขดี ไม่ว่าโบจะเป็นคนดูแลลูกวันไหน หรือผมจะดูแลลูกวันไหนก็ตาม คือ เราไม่ได้เซ็ตกันว่ามันเป็นวันของใคร แต่ว่าเราสองคนก็เลี้ยงลูกกันด้วยความรัก คือ ไม่ว่าจะเป็นวันไหนเราก็รักลูก และลูกก็จะต้องมีความสุขทุกวัน แต่ถึงแม้ว่าเราจะเลิกกัน ไม่ว่าจะอยู่กับพ่อหรือแม่ เขาจะต้องมีความสุขแน่นอน”

“แต่สำหรับวันที่เขาอยู่ด้วยกันทั้งพ่อและแม่ ผมก็ว่าเขาก็ยิ่งมีความสุข ยิ่งกว่าวันที่เขาอยู่กับใครคนใดคนหนึ่ง ดังนั้น เราก็อยากที่จะคงสัมพันธภาพของเราให้ดีอย่างเดิม”

“ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องภาพลักษณ์หรอกครับ ที่เราไม่ได้เซ็นใบหย่าเพราะเราอยากคงสถานภาพ เพื่อให้ลูก คือ เราทำมาตลอด 2 ปีก็เพราะลูกคนเดียว คือในเวลานี้เขาไม่มีใคร ผมไม่มีใคร เราก็อยู่ตรงนี้ไปเรื่อยๆ”




ก่อนจะยืนยันว่าโอกาสคืนดีไม่มี หนุ่มฟลุคบอกเลยเวลาไกล่เกลี่ย ลั่นลูกทราบเรื่องพ่อแม่ดีอยู่แล้ว พร้อมเผยตนยังรักอดีตภรรยาอยู่
“คือ เราแยกเตียงกันมา 2 ปีแล้ว แต่ส่วนเรื่องแยกบ้านนี่แยกมาได้ 1 ปี มันเลยเวลาไกล่เกลี่ยมานานแล้ว ซึ่งตรงนี้โบและผมเราก็เข้าใจกันดี คือเราก็มีความสุขกันดีในรูปแบบของเรา แต่เรื่องพวกนี้คนนอกอาจจะไม่เข้าใจเราได้ดี แต่ที่ผ่านมาตลอดเราก็มีความสุขกันดีตลอด”

“ส่วนอชินั้นเขารู้เรื่องนี้มาปีกว่าแล้ว คือเขาจะรู้เรื่องเป็นคนแรกตลอดทุกเรื่องตั้งแต่เรื่องเกิดขึ้นมา แต่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ เราก็ไม่ได้บอกกับลูกอย่างชัดเจนทุกเรื่อง คือ เขาก็รู้ว่าวันนี้ไปกับพ่อ พรุ่งนี้ไปกับแม่ แต่เราสองคนก็พยายามหาเวลา ที่จะไปกับลูกพร้อมกัน”

“โอกาสกลับมาดีกันเนี่ย ผมว่าการที่เราคบกันวันนี้ มันก็เป็นทุกอย่างแล้วก็เหมือนกับที่โบเคยพูดไปก่อนหน้านี้แล้ว คือเราเป็นพ่อแม่ลูก ส่วนในเรื่องที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมมันคงอีกนาน แต่ถามว่าเราอยากกลับมาเป็นเหมือนเดิมมั้ย ผมคงตอบไม่ได้ แต่ผมอยากจะบอกว่าถ้าถามว่าผมรักมั้ย ผมรักเขาตลอด ผมไม่เคยเลิกรักเขาเลย ไม่ว่าจะออกข่าวอะไรก็แล้วแต่ บางครั้งมันก็หนักใจที่เราจะพูด”

“ถ้าถามว่าผมเสียใจมั้ยกับการเลิกครั้งนี้ ก็ต้องบอกว่าเสียใจครับ เพราะที่ผ่านมามันก็มีช่วงเวลาที่เราต้องอยู่คนเดียว คือตอนที่เลิกกันใหม่ๆเราก็กลัวเป็นข่าวนะ เพราะช่วงนั้นเราก็ไม่สามารถออกไปไหนกับใครได้ คือเรียกว่าเป็นการทิ้งเพื่อนไปเลย เพื่อไปอยู่กับครอบครัว เพื่อจะได้ไม่ต้องมีข่าวออกมา คือเราอยู่กับตัวเราเอง อยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียว ยอมรับว่าเหงามากช่วงนั้น”

แต่พอนักข่าวถามว่าในการบอกเลิกครั้งนี้ ฝ่ายไหนบอกเลิกก่อนเจ้าตัวรีบบอกไม่มีใครบอกเลิกใคร แต่ใช้ความรู้สึกบอกแทนกันได้ อีกทั้งลูกก็พร้อมที่จะยอมรับได้แล้ว จึงคิดว่าสามารถบอกคนอื่นได้แล้ว

“ไม่มีใครบอกเลิกใครก่อนทั้งนั้น แต่มันเป็นเพราะการกระทำและความรู้สึกหลายๆอย่างที่เกิดขึ้น มันเลยทำให้เราต้องแยกกันออกมา คือช่วงชีวิตที่ผ่านมามันก็มีทั้งเรื่องที่เล็ก และแรง แต่เราก็อยู่กันได้ความเข้าใจในตอนนี้ แล้วก็ดีมาก”

“ผมถือว่าช่วงนี้มันเหมือนเป็นช่วงที่ดีที่สุด ในรอบ 2 ปีของผมเลยก็ได้ เอาเป็นว่ายิ่ง 2-3 อาทิตย์ช่วงหลังๆนี้ ผมยิ่งรู้สึกดีขึ้นมาก เพราะเราเริ่มคุยกันรู้เรื่องแล้วและก็ตกลงกับเขาว่า ผมจะบอกคนอื่นแล้วนะ เพราะมันนานมาแล้วที่เราต้องเก็บไว้เป็นความลับ คือผมอยากให้ทุกคนเลิกถาม และเลิกสงสัย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องลูกของเรา คือตอนนี้เขาเข้าใจดี ร่าเริงแจ่มใสดี ไม่มีปัญหาเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นทุกอย่างของเราคือลูก คือ ลูกโอเคทุกอย่างก็โอเค”

ก่อนที่นักข่าวจะถามว่าหลังเลิกรากันครั้งนี้ หนุ่มฟลุคจะแต่งงานอีกหรือไม่นั้น เจ้าตัวบอกยังไม่ใช่ตอนนี้และคงเป็นเรื่องยาก เพราะคงต้องศึกษาคนที่ใช่อีกนาน แต่ยอมรับช่วงห่างกันตนรู้สึกเหงามากและพยายามไม่ทำตัวเศร้า

“เรื่องครอบครัวใหม่ ตอนนี้ยังหรอกครับ ตอนนี้ก็อยากดูแลลูกให้ดีที่สุดก่อน คือขอให้มันแย่ลงไปกว่านี้ก็พอ และผมก็คิดว่าการที่ผมพูดครั้งนี้ มันก็คงจะไม่มีอะไรที่แย่ไปกว่านี้แล้วนะ”

“เรื่องแต่งงานใหม่ เรื่องนี้ก็พูดยากนะ และผมก็ยังไม่รู้ด้วยว่าผมจะเจอคนที่ใช่หรือเปล่า คือตอนนี้มันต้องเป็นคนที่ใช่จริงๆแล้วผมต้องแน่ใจริงๆ เพราะแค่ครั้งเดียวผมก็เข็ดแล้วในเรื่องของการแต่งงาน นี่ทุกวันนี้ยังไม่ได้หย่านะแค่เลิกกันอย่างเดียว ผมก็รู้สึกเหงาแล้ว คือที่ผ่านมาผมทำทุกอย่าง เพื่อหลอกตัวเอง เพื่อให้ผมมีความสุข ผมพยายามทำตัวให้มีความสุข แต่ลึกๆในใจแล้วผมเหงา แต่ผมต้องทำให้ผมมีความสุข”

“คือ ถ้าผมทำตัวเศร้าผมก็จะเศร้าไปเรื่อยๆ คือ จะบอกว่าใครที่เศร้าอยู่ก็ไม่ต้องเศร้าแล้ว ไม่ต้องมานั่งมิวสิควิดีโอ ไม่ต้องนั่งในห้องน้ำ ไปเที่ยวเลย อยากทำอะไรไปทำให้เต็มที่ แล้วชีวิตช่วงนั้นจะพออยู่ได้ อย่างผมเลิกกันมา ผมก็ยังอยู่คนเดียวได้ตลอดเวลา 2 ปี แต่ถามว่าทุกวันนี้ผมพร้อมมั้ย จิตใจผมน่ะพร้อมหรือยัง บอกเลยว่ามันพร้อมยาก ต่ถ้าถามว่ามันเข้มแข็งหรือยัง ตอนนี้มันคงด้านไปแล้ว คือมันเจ็บจนชินไปแล้ว มันไม่มีอะไรแข็งแรงขึ้นหรอก แต่มันยิ่งจะช้ำ”

“คือ ถ้าสมมติว่าโบจะเปิดใจคบใครใหม่ หรือผมจะเปิดใจไปคบใครใหม่ ผมก็ว่าเราทั้งคู่น่าจะเข้าใจกันแล้ว เพราะเราก็โสดกันมา 2 ปีแล้วนะ เพียงแต่ว่าไม่มีใครรู้เท่านั้นเอง คือ 2 ปีนี่มันนานนะคือผมใช้ชีวิตอยู่กับใครคนหนึ่ง ใช้ชีวิตอยู่กันมาทุกวัน ก่อนตั้งแต่เป็นแฟนมา 3 ปีครึ่ง เราไม่เคยแยกกันมาซักวัน แต่พอมาถึงวันแรกที่เราแยกห้องกัน จนมาถึงวันนี้มันเหงานะครับ คือที่ผ่านมาผมรู้สึกแย่มาก แล้วช่วงนั้นผมไม่ได้รับงานเลย มันยิ่งแย่ไปใหญ่ ช่วงนี้ก็เลยมารับงานเพื่อไม่ให้รู้สึกเหงา เราจะได้ไม่เบื่อ ไม่งั้นคงเหงาตายพอดี”

ก่อนจะข่าวว่ากับภาพสาวๆ ที่ควงจนมีภาพปาปารัซซี่ออกมาบ่อยๆ นั้น ก็เกิดจากความเหงาที่อยากมีเพื่อน เพราะตนต้องศึกษาให้นานเพราะพลาดชีวิตแต่งงานมาแล้วหนึ่งครั้ง

“เรื่องเกร็งที่จะหาคู่ใหม่เนี่ย มันแน่นอนอยู่แล้ว ต่อจากนี้จะคบใครใหม่ เริ่มต้นกับใครตอนนี้ก็คงต้องศึกษานานขึ้นแล้ว เพราะว่าผมกลัว แต่ไม่ได้เข็ดหรอกนะเรื่องความรัก เพราะว่าความรักมันเป็นสิ่งที่สวยงาม คือผมคิดว่าเรากลับมารักใครได้ มันคงจะมีความสุขมากเลย แต่ตอนนี้ผมขอกลับมารักลูกและรักตัวเองก่อนแล้วกัน ที่ผ่านมาผมรักลูกมาก”

“ส่วนกับคนที่เป็นข่าวก็เพราะผมเหงา อยากมีเพื่อน เขาก็เป็นแค่เพื่อน ภาพที่หลุดมาผมก็ไม่คิดอะไร แต่คนอื่นเขาคิดกันไปเอง แต่พอดีผมอาจจะโตที่เมืองนอกด้วย บางทีบางอย่างที่เกิดขึ้นคนไทยเขาก็รับไม่ได้ คือ ผมก็เข้าใจดีว่าคนเราก็อยากมีเพื่อนบ้าง แต่ภาพที่ออกมามันเป็นภาพนิ่งมันก็สามารถบรรยายได้มากกว่าเพื่อน คือถ้าเป็นภาพเคลื่อนไหวมันก็ตีความไปได้อีกเรื่องหนึ่ง”

ก่อนจะปิดท้ายการเปิดใจกับสื่อมวลชนครั้งนี้ว่า ตนเลิกเจ้าชู้เพราะสาวโบลบลายได้จริง และยืนยันว่าไม่ใช่คนเจ้าชู้ แต่เชื่อว่าชีวิตแต่งงานที่จะอยู่กันให้ยืนยาวนั้นเป็นสิ่งที่ยาก เพราะต่างก็ได้รับการเลี้ยงดูมาไม่เหมือนกัน

“ภาพผมที่ผ่านทั้งหมด คือก่อนที่จะมีหนังสือลบลายคาสโนวาเขาก็ลบลายผมได้จริงๆ คือ ผมไม่เคยมีใครเลยตลอดระยะเวลา 3 ปี ผมก็อยู่กับครอบครัว ไปไหนมาเดียวกัน ใช้รถคันเดียวตลอด ไม่เคยแยกกันเลย ผมไปไหนเขาก็รอผม เขาไปไหนผมก็รอเขา คือภาพที่ออกมันก็คือภาพ แต่ผมรู้ว่าความจริงคืออะไร ผมบอกได้ตามตรงว่าผมไม่ได้เจ้าชู้แน่นอน ผมพูดได้คำเดียวว่าผมไม่ได้เจ้าชู้แน่นอนครับ”

“ผมว่าที่จริงแล้วชีวิตคู่มันก็ยากตั้งแต่วันแรกแล้ว ตั้งแต่ที่เราคบกันเพราะว่าคนเราถูกเลี้ยงดูมาตลอด 20-30 ปี คือเราถูกเลี้ยงมาแบบคนละพ่อแม่ คนละสังคมกันแล้ว เพื่อนก็คนละกลุ่ม แต่พอวันหนึ่งที่เราต้องมาคบกัน เราก็ต้องปรับอะไรกันเยอะมากเลย คือช่วงแรกๆมันมีความรักไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เราก็จะยอมได้ทุกอย่าง แต่สุดท้ายพอเวลามันผ่านไปมากๆขึ้น ความรักทุกอย่างที่ผ่านมามันก็จะกลายเป็นเพื่อนแต่พอจนมาถึงวันนี้พอมันมีเรื่องอะไรขึ้นมามันก็เลยกลายเป็นแบบนี้ จะเห็นได้จากหลายๆคู่ที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่คู่ผมคู่เดียว แต่เรื่องที่มันแดงมาคู่เดียวเพราะว่าคู่ของผมอยู่ในสปอตไลต์ครับ”

***
“ฟลุค”ประกาศ ยอมหมดตัวควัก 70 ล้านล่า “ซ้อเจ็ด”

โต้! เตียงหัก “ฟลุค”เตรียมปั๊มลูกเพิ่มสยบข่าวฉาว

“โบ” ยันเตียงไม่หัก แจง “ฟลุค” ควงสาวไม่ซ้ำหน้าเป็นเรื่องปกติ

"โบ" รับหวาน “ฟลุค” ลด ส่วนความอดทนสูงขึ้น

“ฟลุค” แจงควงพี่เมีย เหตุเพราะเมียไม่ว่าง

"แบม" บอก เรื่องปกติสนิทกับสามีน้องสาว


กำลังโหลดความคิดเห็น