xs
xsm
sm
md
lg

งามหน้างานแต่ง “บอล-นาตาลี” จับสื่อไทยพ้นโรงแรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


งามหน้า! งานแต่ง “บอล-นาตาลี” โกลาหล ไล่ให้นักข่าวออกไปจากโรงแรม ระดมพลการ์ดยืนเฝ้าทางเข้าออก ขนาดจะเข้าส้วมยังไล่ไปที่ลานจอดรถ ด้านเจ้าภาพหลบเงียบ ส่วนโรงแรมกับพีอาร์งานโบ้ยกันอุตลุด เปล่าสั่งตะเพิด!

       ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้วสำหรับงานแต่งแห่งปีของ  “บอล ภราดร ศรีชาพันธุ์” กับสาวสวยที่สุดในโลก “นาตาลี เกลโบวา” มีผู้ใหญ่และเพื่อนพ้องที่เป็นคนดังและคนสำคัญตบเท้าเข้าร่วมยินดีคับคั่ง รวมถึงบรรดาสื่อมวลชนทั้งสายกีฬา สังคม บันเทิง ต่างก็แห่แหนมาทำข่าวอย่างคึกคัก ทำเอาพื้นที่ของโรงแรมแน่นขนัดไปด้วยผู้คนที่มาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว

       ภายหลังจากที่ “ภราดร-นาตาลี” ออกมาแถลงข่าวเมื่อเวลา 16.30 น.ก็มีการแจ้งให้ผู้สื่อข่าวทราบว่า ให้รอรับซีดีภาพงานแต่งของทั้งคู่ในเวลา 21.00 น.เนื่องจากสถานที่คับแคบไม่สามารถให้กองทัพนักข่าวเข้าไปได้ ซึ่งเรื่องนี้สื่อมวลชนต่างเข้าใจกันดี เพราะได้รับแจ้งจากผู้จัดการส่วนตัวของนาตาลีตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่เข้ารับพระราชทานน้ำสังข์แล้ว

       ขอบอกว่า การที่คนดังไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปร่วมงานเป็นเรื่องธรรมดา หลายต่อหลายคู่ก็ไม่ให้นักข่าวเข้าไปถ่ายภาพ เนื่องจากกลัวว่าจะเกิดความวุ่นวาย ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งของ พิม ซอนย่า, ลูกเกด เมทินี, แหม่ม คัทลียา งานหมั้นของทาทา ยัง หรือแม้แต่กระทั่งงานแต่งของนีโน่ ซึ่งจัดขึ้นในวันเดียวกัน ก็ล้วนไม่ให้นักข่าวเข้าไปถ่ายภาพในบริเวณงานทั้งนั้น แต่ทุกงานก็ผ่านพ้นไปด้วยดี ไร้เสียงวิพากษ์วิจารณ์

       เพราะทุกคนต่างเข้าใจในเมื่อเจ้าภาพไม่สะดวก นักข่าวก็จะยืนถ่ายภาพอยู่บริเวณหน้างานเท่านั้น คอยจับภาพว่ามีแขกเหรื่อคนไหนที่มาร่วมงาน แต่สำหรับงานแต่งของ ภราดร-นาตาลี ภายหลังจากที่แถลงข่าวเสร็จ หลังจากที่นักข่าวมารอรับซีดีที่บริเวณล็อบบี้ กลับส่งการ์ดมาเชิญนักข่าวให้ออกจากโรงแรม บอกทางโรงแรมต้องเคลียร์พื้นที่ ทำเหมือนนักข่าวเป็นเศษผงอะไรซักอย่างที่ต้องกวาดให้พ้นจากประตูโรงแรม

       ทั้งๆ ที่ไม่มีนักข่าวหน้าไหนเข้าไปวุ่นวายในงานแต่งของทั้งคู่ สื่อมวลชนต่างให้เกียรติบ่าวสาวในเมื่อไม่ให้เข้า ก็ไม่มีใครก้าวก่าย แต่ทางเจ้าภาพกลับไม่ให้เกียรตินักข่าว ตะเพิดออกไปนอกโรงแรมซะงั้น

       ขนาดหมายังเดินเข้าเซเว่นได้ แต่ทำไมคนสองขาใส่เสื้อผ้าปิดของสงวนกลับไม่ให้เข้าไปเหยียบในสถานที่ที่คนเข้าไปได้ หรือว่าสื่อมวลชนไม่ใช่คน มีราคาแค่ “ขี้ข้า” พอใช้งานเสร็จก็เฉดหัวทิ้ง 

        นอกจากจะสำแดงความโหดไล่สื่อมวลชนออกมาหน้าโรงแรมแล้ว ทุกอย่างก็ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น ขนาดยืนเป็นยามเฝ้าประตูอยู่หน้าโรงแรม การ์ดจอมโหดที่ดักทางเข้าออกยังกับยักษ์วัดแจ้งก็ยังขู่ออกมาเป็นระยะๆ ห้ามเสียงดัง ห้ามนั่งบ้างล่ะ หวั่นว่าภาพลักษณ์โรงแรมจะเสียหาย

        นักข่าวก็เลยได้แต่ยืนแถวตรงหน้าโรงแรม แต่พอเวลาล่วงเลยไป ช่างภาพยืนจนแทบจะเป็นไส้เลื่อน ส่วนผู้หญิงอีกนิดนึงคงเป็นเส้นเลือดขอด หนักเข้าหลายคนเริ่มปวดหนักปวดเบาขึ้นมาตามประสาท้องไส้มนุษย์ ก็เลยบากหน้าขอเข้าไปขอปลดทุกข์ในโรงแรมซะหน่อย แต่กลับทุกข์หนักกว่าเดิมเพราะเจอพนักงานปฏิเสธว่า “ไม่อนุญาตให้นักข่าวเข้าโรงแรม เชิญไปเข้าตรงลานจอดรถ”  พอย้ายก้นไปที่ห้องน้ำลานจอดรถก็ต้องอึ้งปนอ้วก เพราะห้องน้ำสกปรกเลอะเทอะ แทบไม่น่าเชื่อว่าห้องน้ำซกม๊กอย่างนี้จะอยู่บนโรงแรมห้าดาว

        แต่คำตอบสุดท้ายของนักข่าวที่มาทำข่าวงานนี้ก็คือต้อง “ทน” เท่านั้น

        หลังจากเผชิญยุ่งอยู่หน้าโรงแรมเป็นเวลา 3 ชม.เต็มๆ พอ 3 ทุ่มตามเวลานัดหมายก็ยังไม่มีเงาพีอาร์คนที่จะเอาซีดีภาพมาให้ พอโทรศัพท์ไปทวงสัญญา คำตอบที่ได้ คือ “ยังไม่เสร็จ” พร้อมยกแม่น้ำทั้งห้าและขอให้รออีกครึ่งชั่วโมง ทุกคนก็ยินดี เพราะยังไงก็ทนมาสามสี่ชั่วโมงแล้วนี่ อีกแค่ 30 นาทีจะเป็นไรไป แต่สุดท้ายปาเข้าไปร่วมชั่วโมงก็ยังไม่มีซีดีโผล่มาซักกะแผ่น ทีนี้เลยต้องกริ๊งกร็างหาอีกรอบ ครั้งนี้ถึงขั้นกดวางสายใส่ บางคนถึงกับไม่รับเอาดื้อๆ

        เมื่อไม่มีคำตอบนักข่าวก็ต้องหาคำตอบ สื่อทุกสำนักต่างรวมพลเข้าไปถามกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลงานแต่งระดับโลกครั้งนี้ เพื่อขอให้ชี้แจงความกระจ่าง เพราะอีกไม่ถึงสองชั่วโมงก็จะเป็นวันใหม่แล้ว ทุกคนยังต้องรีบกลับไปเขียนข่าว เพราะต้องให้ทันตีพิมพ์และออกอากาศในวันรุ่งขึ้น แต่แล้วคำตอบที่ได้ถึงกับทำให้ทุกคนอึ้งเพราะเพิ่งไรท์ภาพนิ่งไป 10 แผ่น แต่นักข่าวครึ่งร้อย ส่วนวิดีโอยังไม่ทำอะไรกับมันเลย กว่านักข่าวจะได้ซีดีภาพในงานก็ปาเข้าไปเที่ยงคืน รวมระยะเวลาที่นั่งบริจาคยุงหน้าโรงแรมตั้งแต่ 6 โมงเย็นยันเที่ยงคืน 6 ชม.เต็มอิ่ม

         ส่วนเรื่องที่ไล่นักข่าวออกไปนอกโรงแรมก็โบ้ยความผิดกันสุดฤทธิ์ ถามพนักงานโรงแรมก็บอกเป็นคำสั่งของ “ผู้จัดการส่วนตัวของนาตาลี” สั่งให้กันนักข่าว พอถามทีมจัดงานกลับแก้ตัวตาใสว่าเป็นคำสั่งของทางโรงแรม โยนกันไปโยนกันมามั่วกันไปหมด

         สรุปว่าไม่มีใครผิด นักข่าวผิดเอง  ผิดที่ได้รับการ์ดเชิญ ผิดที่อ่านแฟกซ์ ผิดที่มาร่วมงาน ผิดที่เกิดมาหัวดำ ไม่ได้หัวทอง ก็เลยไม่ได้รับการเชื้อเชิญโค้งคำนับจากโรงแรม

         ถ้านี่คือมาตรฐานที่ดีที่สุดของโรงแรมห้าดาว และเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของ “ออกาไนซ์ศรีชาพันธ์” ก็ต้องขอปรบมือให้ ต่อไปชื่อเสียงคุณคงดังกระฉ่อน และเป็นที่พูดถึงกันไปอีกนาน

 






จากใจนักข่าวถึง "ภราดร-นาตาลี" และโอเรียนเต็ล
อย่างไรก็ตามนี่คือความรู้สึกของ "ก้อง" นักข่าวหนุ่มจากรายการ "ดาวกระจาย" หนึ่งในนักข่าวที่ติดตามทำข่าวงานมงคลของ "บอล-นาตาลี" มาตั้งแต่ต้น และอยู่ในเหตุการณ์งานแต่งยอดแย่แห่งปี้งานนี้มาโดยตลอด ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าเป็นการกระทำที่ไม่ให้เกียรติกันเลย

"เขาบอกเราว่าจะให้สัมภาษณ์เจ้าบ่าวเจ้าสาวแต่ไม่ให้เข้างาน กำหนดมาแบบนี้เราก็ยอมปฏิบัติตาม เพราะโดยส่วนตัวเราก็ถือว่าเราก็ให้เกียรติเจ้าของงาน ไม่ให้เราเข้าบอกสามทุ่มจะไรท์ซีดีให้ ซึ่งทุกคนก็เข้าใจกันหมด รอเอาซีดีและรอเก็บบรรยากาศทางเข้าหน้างานก็พอ แต่เจ้าของงานกลับไม่ให้เกียรติเราเลย จริงๆ เราก็ไม่ได้เรียกร้องไม่ได้อยากเดินเพ่นพ่าน ถ้าคุณไม่อยากให้รอนี่มาเลื่อนเรื่อยๆ อ้างโน่นอ้างนี่ คุณบอกตั้งแต่แรกว่าไม่ให้เราเก็บภาพเดี๋ยวภาพจะส่งไปให้ทีหลัง ที่ทุกคนอยู่รอก็เพราะคุณบอกว่าสามารถรอรับภาพได้หลังเลิกงาน"

"อย่างหนึ่งที่แย่คือขาดความรับผิดชอบ ปัดกันไปปัดกันมา ทุกคนก็บอกว่ามีหน้าที่ในการดูแลสื่อมวลชน ให้การตอนรับสื่อมวลชนอย่างดี ถามเขาว่ามาตรฐานคำว่าอย่างดีของเขาคืออะไร อย่างดีของเขาคือปล่อยให้นักข่าวไปนั่งรออยู่ที่จอดรถอย่างนั้นหรอ ถามว่าในระหว่างงานมีใครสักคนในงานชะโงกหน้าลงมาดูบ้างมั้ยว่านักข่าวจะอยู่ยังไง น้ำซักแก้วยังไม่ได้กินเลย สามทุ่มต้องไปซื้อข้าวซื้อน้ำมากินกันเอง แล้วการ์ดก็มองสายตาเหมือนเหยียดหยามกันเหลือเกิน"

"มีความรู้สึกว่านี่คือนิสัยหรือจิตวิญญาณของผู้ที่มีอาชีพบริการหรอ ถึงแม้คุณจะบอกว่าคุณขอโทษ แต่ถามว่าคุณขอโทษแล้วคนที่ทำมันรู้มั้ย คือเขารู้หรือเปล่าว่าเขาทำอะไรลงไป เห็นว่าเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวรับแต่นักท่องเที่ยวต่างประเทศ รับแต่แขกต่างประเทศวีไอพี แล้วทำไมมาทำกับคนไทยด้วยกันแบบนี้ แล้วบอกไว้เลยว่านักข่าวไม่อยากจะไปเลย ได้ยินกิตติศัพท์เรื่องนี้ของที่นี่ว่าแย่ ถ้าไม่ใช่ไปทำงานก็ไม่มีใครไปให้ดูถูกหรอก"

"ถามถึงความรับผิดชอบ ในตอนนี้ก็ยังไม่เห็นความจริงใจของใครเลยสักคน ถามว่าใครควรจะออกมารับผิดชอบตอนนี้ก็ซึ้งในน้ำใจแล้วว่าเป็นยังไง คือไม่ได้รับความจริงใจเลย ทุกคนปัดๆ หมด ถามทางโรงแรมก็บอกว่าเคยแนะนำแล้วว่าให้เปิดห้องจัดที่ให้นักข่าวอยู่ แต่เจ้าของงานเลือกที่จะไม่ทำเอง ถ้าเป็นแบบนี้จริงเค้าจะมาบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ ส่วนเราก็คงต้องรับผิดชอบตัวเองที่ยอมไปทำข่าวของคนแบบนี้"

ด้านนักข่าวสาวตาคมจากช่องดังย่านวิภาวดี เผยถึงสิ่งที่ตัวเองโดนกระทำมาอย่างตรงไปตรงมาว่า.....
"งานแต่งใหญ่โตและค่อนข้างที่จะมีเวลาเตรียมงานนาน มันไม่ควรจะผิดพลาดได้มากมายขนาดนี้ คือข้อผิดพลาดมันเกิดขึ้นมันเป็นเรื่องปกติ แต่นี่มันมากไป แล้วอย่างที่เราเจอกันตอนสุดท้ายคือมีการโทษกันเอง ฝ่ายพีอาร์เขาก็บอกว่าเขาไม่รู้เรื่อง ฝ่ายดูแลโรงแรมก็บอกว่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คือเห็นได้เลยว่าเขาไม่มีความพร้อมอะไรเลย คือมันแย่เกินไปสำหรับโรงแรมระดับนี้จริงๆ มันควรจะมีห้องรับรอง แต่ยังไงก็แล้วแต่ตั้งแต่เราทำข่าวมาเราก็ไม่เคยเจออะไรที่มันแย่ขนาดนี้ เพราะว่ามันคือข้างถนนเลย เพียงแต่ว่ามันอยู่หน้าโรงแรมเท่านั้นเอง แต่มันก็คือที่ที่รถวิ่งเข้า-ออก"

"เราไม่รู้จะโทษใคร บางคนก็บอกกว่าการ์ดเจ้าสาวสั่งมา บางคนก็บอกว่าภารดรสั่งมา แต่ความจริงคืออะไรเราไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ ถ้าพูดถึงงานทาทาเขาจะให้เกียรติเรา และเท่าที่สังเกตเขาก็จะสั่งให้พีอาร์เขาตลอดว่าให้ดูแลพี่ๆสื่อมวลชน ซึ่งตรงนี้ถ้ามันออกมาจากปากบ่าวสาวเหตุการณ์นี้มันอาจจะไม่เกิดขึ้นหรือเปล่า ตรงนี้คือความคิดนะเพราะเราก็ไม่รู้ว่าใครสั่งอะไร มีความรู้สึกว่าโบ้ยกันไปโบ้ยกันมา"

"ส่วนกระแสที่มีบางส่วนโจมตีนักข่าว ตรงนี้ถ้าใครไม่อยู่ตรงนั้นไม่รู้หรอกว่ามันรู้สึกยังไง ถึงเราจะเป็นนักข่าว ถึงเราจะไม่ใช่นักเทนนิสระดับโลก ไม่ใช่นางงามจักรวาล ถ้าพูดถึงฝ่ายผู้หญิงเราก็คือผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่ออกไปทำงานกลางค่ำกลางคืน ซึ่งเราทำเพื่อให้คุณได้มีข่าวบันเทิงดูกัน แล้วยังไงให้เราไปเข้าห้องน้ำลานจอดรถโน่น ถ้าโดนข่มขืนโดนอะไรขึ้นมาใครรับผิดชอบ"

"สนใจกันนิดนึง ไม่มีของกินไม่มีน้ำให้เราโอเคไม่เป็นไร แต่น่าจะจัดเอาเก้าอี้มาให้เรานั่งนิดนึง เรานั่งคลุกกับพื้นทางเดินเกือบ 6 ชั่วโมงนะ โทรถามพีอาร์ตั้งแต่บ่ายโมง ว่าพี่ให้เอาอะไรไปคะ เอาเทปไปได้มั้ยหรือเบต้าตัดง่ายกว่า โอเคน้องเอาเบต้ามา พอไปถึงถามเราว่าแล้วเอาสายลิ้งค์มามั้ย อ้าวคุณบอกคุณมีทุกอย่างให้ แถมคุณมีดีวีดีแต่กลายเป็นคุณไม่มีอะไรสักอย่าง แถมคุณจะมาเอามินิดีวีดีอีกใครจะไปมี ทำกับเราแบบนี้ได้ยังไง บัตรเชิญเราก็มีในมือ ไม่ใช่เราไม่มี"

"ตอนนี้ก็แค่อยากให้เขารับรู้ว่า งานเขามันเป็นอย่างนี้ ระหว่างที่เรานั่งรออยู่ที่พื้นข้างล่าง เขาก็คงมีความสุขซึ่งมันก็โอเคมันงานแต่งเขา เราก็ยินดีด้วย สื่อมวลชนที่ติดตามข่าวคุณมาจนถึงทุกวันนี้ แต่คุณปล่อยให้เขาเจอการ์ดไม่มีมารยาท เข้าห้องน้ำสกปรกๆ แบบนั้น นักข่าวไม่ใช่ได้ซีดีแล้วเสร็จงานไง ต้องกลับมาตัดต้องมาเขียนข่าวอีก ก็อยากให้เขารับรู้ตรงนี้บ้าง แต่ถ้าไม่รู้สึกอะไรก็ไม่เป็นไร"







กำลังโหลดความคิดเห็น