ยังมุ่งเน้นสาระ “ผอ.อสมท” ยันไม่คิดเป็นหนึ่งด้านบันเทิง แต่ยอมรับเหตุปรับผังปี 51 มีรายการบันเทิงเพิ่มเยอะ เพราะต้องการทำกำไร มั่นใจยิงเรียลิตี้ตลอดปี ช่วยสร้างเรตติ้ง เจ้าตัวลั่นถอด “โชว์ไทม์ By ศศิธร” มาทำเอง เนื่องจากนึกถึงผลประโยชน์ขององค์กรและผู้ชมเป็นหลัก
แม้ว่าผลประกอบการของโมเดิร์น ไนน์ปีนี้ จะลดน้อยกว่าปีที่แล้วค่อนข้างมาก เนื่องจากปัญหาทางการเมืองที่ผ่านมา แต่ ผอ.อสมท คนล่าสุด “วสันต์ ภัยหลีกลี้” ก็สู้ไม่ถอย เมื่อวันก่อน เจ้าตัวได้แถลงการปรับผังใหม่ของปี 2551 ออกมาเตรียมโกยรายได้แล้ว ซึ่งการปรับครั้งนี้ ผอ.ยอมรับมุ่งไปที่บันเทิง
“จากการปรับผังคราวที่แล้วที่เราเน้น “ข่าวข้นคนข่าว” โดยรวมเรตติ้ข่าวก็เพิ่มขึ้น ช่วงไพรม์ไทม์ก็เพิ่มขึ้นเยอะ ครั้งนี้เราจะปรับรายการให้แข็งแรงขึ้นอีก เช่น “เกมทศกัณฑ์” เป็น “ยกสยาม”, “ชัย บดินทร์ โชว์” เป็น “อโรคยา” เวิร์คพอยท์ก็ทำเหมือนเดิม”
“ในช่วงของ non prime time เราปรับทั้ง 7 วัน จ.-ศ.หลังข่าวภาคเที่ยงปรับใหญ่ จะมีรายการ “หนังดังหลังเที่ยง” ที่เป็นซีรีส์จีน ซึ่งเราจะได้สหมงคลฯเข้ามาเป็นพันธมิตรใหม่ด้วย นอกจากนี้ รายการลักษณะซีซันแนลโปรแกรมก็น่าสนใจ เราจะมีคนพันธุ์อาร์ตามด้วยนักการตลาดที่เราเอาเวลามาทำเอง”
เมื่อถามต่อว่า อสมท จะเป็นสถานีของเรียลิตี้เลยหรือเปล่า ผอ.ปฏิเสธว่า...
“เรียลิตี้ไม่เยอะมากหรอกครับ ในต่างประเทศถ้าเราสังเกตเรตติ้งที่สูงมากๆ คือ พวกเรียลิตี้ โชว์ แต่เดิมเรามี เอเอฟ, เดอะ สตาร์ แต่เราคิดว่าจะขึงให้มันต่อเนื่องและยาวขึ้นแทนที่จะผลุบๆ โผล่ๆ เราก็จะทำยาวให้มันเป็นปี”
“เราก็คิดว่าเรียลิตี้จะทำให้เรตติ้งแข็งแรงขึ้นด้วยในแง่รายได้ด้วยซึ่ง “มายา ไอดอล” ได้กันตนาเสริมเป็นพันธมิตรใหม่เข้ามา”
ชี้แจงเหตุผลที่ต้องถอดรายการบันเทิง “โชว์ไทม์ บาย ศศิธร” ที่อยู่กับช่อง 9 มาร่วม 13 ปี
“จริงๆ เราคุยกันแล้วว่ารายการข่าวบันเทิงเราควรจะทำเอง ที่ผ่านมา บางทีเราไม่ค่อยได้ทำเองหรือทำเองก็อยู่ที่หลังเที่ยงคืน หลังเที่ยง แล้วในช่วงแรกเราก็เอากลับมาทำ 2 วันเสาร์-อาทิตย์นะครับหลังจากนั้นเราก็มีโอกาสคุยกันเหมือนเป็นการส่งสัญญาณไปก่อน”
“ถามว่า เราจะรุกข่าวบันเทิงมั้ย ก็ถือว่าข่าวบันเทิงเราเป็นข่าวที่เราเปิดกว้าง และไม่มีค่ายอยู่แล้ว ทีมข่าวบันเทิงของ อสมท เราเข้มแข็งคิดว่าเราควรจะมีสล็อตเราทำเองมากขึ้น เรามีอีเวนต์ เราจะมีจัดกิจกรรมต่างๆ บ่อยขึ้น รวมทั้งออร์แกไนซ์เรื่องรางวัลสำหรับคนบันเทิงที่มีไนน์ เอ็นเตอร์เทน อวอร์ด”
“จริงๆ เป็นเรื่องธรรมชาตินะครับ ของรายการที่มีเข้ามีออก ถ้าไม่มีรายการออก รายการใหม่ก็จะเข้าไม่ได้เพราะว่าสถานีโทรทัศน์มีเวลาอยู่ 24 ชั่วโมง พาร์ทที่ยากที่สุด คือ การจัดผังรายการ เราต้องนึกถึงคนที่ทำมาด้วยกัน นึกถึงคนใหม่ การสร้างความแข็งแรง นึกถึงเรื่องรายได้แต่ว่าทุกอย่างในการทำเราทำด้วยความโปร่งใสและนึกถึงผลประโยชน์ขององค์กรและผู้ชมเป็นหลัก”
ต่อคำถามที่ว่าการที่ผังใหม่นี้ อสมท ได้ดึงพันธมิตรใหม่ๆ ด้านบันเทิงเข้ามาค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นกันตนา, สหฯ, ทริปเปิ้ล ทู ของซูโม่กิ๊ก เกียรติ กิจเจริญ และ ติ๊ก กลิ่นสี นั้น เพื่อต้องการเป็นผู้นำด้านบันเทิงด้วยหรือเปล่า
“ผมว่าโทรทัศน์มันเป็นสื่อแมสแล้วก็เรามีคาแรกเตอร์ของเราที่แข็งแรงอยู่ แต่ว่าคาแรกเตอร์นี้เรารักษาเอาไว้ ในขณะเดียวกัน สิ่งสำคัญอันหนึ่ง คือ ทำอย่างไรให้มันกลมกล่อม ผมคิดว่าทีวีเหมือนอาหารทำอย่างไรให้มันกลมกล่อม มันไม่เปรี้ยวจัด ไม่หวานเกินไป ให้มันลงตัวซึ่งผมคิดว่าส่วนผสมบันเทิงมันเติมขึ้นมาได้อีกโดยให้มันดูดี”
“จริงๆ ยังเน้นเรื่องข่าว รายการสาระความรู้ ที่เพิ่มบันเทิงเข้ามาก็เพิ่มบันเทิงที่มีสาระ ยังอยู่ในคอนเซปต์ ยอมรับว่า วันนี้ สัดส่วนบันเทิงก็เพิ่มขึ้นอีกนิดหนึ่ง ถามว่า อย่างมีซีรีส์จีนแล้วจะมีซีรีส์เกาหลีมั้ย เราไม่มีข้อห้ามว่าห้ามทำเรื่องนู้นเรื่องนี้ จริงๆ เราวันนี้เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เราต้องดูแลผู้ถือหุ้น เราต้องดูเรื่องรายได้”
“แต่เราถือว่าเราเป็นสถานีให้น้ำหนักเรื่องข่าวอยู่มากนะครับ เรายังมองว่าของเราเน้นคุณภาพ”