จากไปอย่างไม่มีวันกลับอีกหนึ่งคนสำหรับนักร้องคุณภาพของบ้านเราอย่าง “ปื๊ด ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา” ในวัย 72 ปี ด้วยอาการไตล้มเหลวเมื่อช่วงตี 4 ที่ผ่านมาของวันนี้(23) ณ โรงพยาบาลศิริราช หลังนอนรักษาอาการป่วยด้วยโรคเส้นโลหิตในสมองแตกอย่างเฉียบพลันมานานร่วม 6 ปี โดยพิธีรดน้ำศพจะมีขึ้นในเย็นนี้ (23) เวลา 17.00 น. ศาลา 1 วัดตรีทศเทพ
“ทนงศักดิ์” เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 29 สิงหาคม 2478 ที่บ้านบรรทมสินธุ์ หรือบ้านพิษณุโลก เป็นบุตรของนายยอแสง ภักดีเทวา และนางสุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต หรือ “ป้าทอง” ศิลปินมีชื่อเสียงคู่หนึ่งของวงการนาฏศิลป์ไทย
แม้จะเติบโตและซึมซับในเรื่องของเสียงดนตรีและการแสดงละครมาโดยตลอด แต่ที่ทำให้ชีวิตของทนงศักดิ์ได้หักเหเข้าสู่แวดวงของงานบันเทิงอย่างจริงๆ จังๆ ก็คือเมื่อครั้งที่เขาและคณะนาฏศิลป์ของ “สุวัฒน์ วรดิลก” หรือ รพีพร ได้ถูกทางการสอบสวนเพราะสงสัยว่าเป็นคอมมิวนิสต์หลังเดินทางกลับจากการแสดงที่ประเทศจีนในปี 2500
ด้วยความที่ไม่สามารถกลับไปเป็นนักบัญชีได้อีกเพราะไม่มีบริษัทไหนอยากจะรับคนที่เกี่ยวข้องกับคอมมิวนิสต์เข้าทำงาน ทำให้ทนงศักดิ์ต้องกลายเป็นนักแสดงอย่างช่วยไม่ได้
เป็นนักแสดงได้ไม่นานนัก ทนงศักดิ์ก็มีโอกาสได้ร้องเพลงอัดแผ่นเป็นครั้งแรกในเพลงที่ชื่อว่า “เอื้องดอกฟ้า” ที่มีครูสมาน กาญจนะผลิน เป็นผู้แต่งทำนอง และแต่งเนื้อร้องโดยครู เกษม ชื่นประดิษฐ์” ในปี 2500 ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเพราะได้รับความนิยมไม่น้อย ก่อนที่จะมีเพลงอื่นๆ ตามออกมาอีกมากมาย อาทิ ยามชัง, แก่นจันทร์จ๋า, อยู่เพื่อคอยเธอ, หอรักหอร้าง, นกเอี้ยงจ๋า ซึ่งด้วยลีลาที่ออดอ้อนปนอารมณ์ขันที่เป็นเอกลักษ์นี้เองที่ทำให้หลายคนชื่นชอบในตัวนักร้องคนนี้เป็นอย่างยิ่ง
แต่ที่ทำให้เจ้าตัวประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักมากที่สุดก็คือการเข้ารวมตัวกับมีศักดิ์ นาครัตน์ ศักรินทร์ บุญฤทธิ์ เป็นคณะ “สามศักดิ์” โดยทนงศักดิ์เคยได้รับพระราชทานแผ่นเสียงทองคำถึง 3 ครั้งด้วยกันจากเพลง แมวเหมียว(สามศักดิ์), ใกล้เข้ามาแล้ว และไร้อารมณ์
นอกจากงานร้องเพลงแล้ว เขายังได้ร่วมเล่นละครทีวี ทางช่อง 4 ในเรื่อง ขุนศึก รวมถึงการรับบทเป็นพระเอกในงานภาพยนตร์เรื่อง “ขุนแผน” ของ “สมาน คราประยูร” อีกด้วย
นักร้องเสียงออดอ้อนมีภรรยาคู่ชีวิต คือ "ม่อม ผศ.กฤษณา ภักดีเทวา" มีทายาท 5 คน การัณนีย์, สุธีศักดิ์ (ครูโจ้ คอมเมนเตเตอร์ชื่อดังในรายการเดอะสตาร์), รศ.สมัครสมร, สรวัฒน์ และพิเศษศักดิ์
หลังอิ่มจากงานบันเทิงทนงศักดิ์ก็ได้หันเหเข้าสู่อาชีพเกษตรกร โดยซื้อที่ดินไว้ที่ปากช่องเพื่อทำไร่มานานนับสิบปีก่อนจะมาล้มป่วยจากโรคเส้นโลหิตในสมองแตกเฉียบพลัน เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2544 และนอนเป็นเจ้าชายนิทรามาโดยตลอดก่อนจะมาจบชีวิตลงภายหลังจากที่ทั้งภรรยา ลูกๆ รวมถึงเพื่อนๆ อาทิ สุเทพ วงศ์กำแหง, จิตติมา เจือใจ, เฉลา ประสพศาสตร์, มีศักดิ์ นาครัตน์, อุมาพร บัวพึ่ง, ชรัม เทพชัย, มานพ อัศวเทพ, สุประวัติ-นีรนุช ปัทมสูต, นฤพล ดุริยพันธ์, นฤมล ล้อมทอง ฯลฯ เพิ่งจะจัดงานฉลองวันเกิดวัย 72 ปี ให้กับเขาไปได้ไม่นาน
“บันเทิงออนไลน์” ขอร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของศิลปินคุณภาพอีกคนของเมืองไทย ไว้ ณ ที่นี้ด้วย
เพลง กรรมบันดาล...
กรรมฉันยังไม่สิ้น ฟ้าดินถึงได้บันดาล
ให้ฉันพบพาน แต่ความผิดหวังเรื่อยไป
มีรักแล้วจาก รักกันแล้วพราก จากกันแสนไกล
ฝากเพียงรอยเศร้าไว้ กร่อนทรวงใน ร้าวใจเหลือทน
* กรรมฉันทำปางก่อน หมุนจร ย้อนโชคชะตา
ให้ ฉันพบพา ดื่มกิน น้ำตาท่วมท้น
** เพียง ชาติเดียวหมองไหม้ หัวใจร้องไห้ คล้ายจิตวิกล
อยู่สู้ความสับสน อย่างคนช้ำ เพราะกรรมบันดาล
ซ้ำ * , **
“ทนงศักดิ์” เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 29 สิงหาคม 2478 ที่บ้านบรรทมสินธุ์ หรือบ้านพิษณุโลก เป็นบุตรของนายยอแสง ภักดีเทวา และนางสุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต หรือ “ป้าทอง” ศิลปินมีชื่อเสียงคู่หนึ่งของวงการนาฏศิลป์ไทย
แม้จะเติบโตและซึมซับในเรื่องของเสียงดนตรีและการแสดงละครมาโดยตลอด แต่ที่ทำให้ชีวิตของทนงศักดิ์ได้หักเหเข้าสู่แวดวงของงานบันเทิงอย่างจริงๆ จังๆ ก็คือเมื่อครั้งที่เขาและคณะนาฏศิลป์ของ “สุวัฒน์ วรดิลก” หรือ รพีพร ได้ถูกทางการสอบสวนเพราะสงสัยว่าเป็นคอมมิวนิสต์หลังเดินทางกลับจากการแสดงที่ประเทศจีนในปี 2500
ด้วยความที่ไม่สามารถกลับไปเป็นนักบัญชีได้อีกเพราะไม่มีบริษัทไหนอยากจะรับคนที่เกี่ยวข้องกับคอมมิวนิสต์เข้าทำงาน ทำให้ทนงศักดิ์ต้องกลายเป็นนักแสดงอย่างช่วยไม่ได้
เป็นนักแสดงได้ไม่นานนัก ทนงศักดิ์ก็มีโอกาสได้ร้องเพลงอัดแผ่นเป็นครั้งแรกในเพลงที่ชื่อว่า “เอื้องดอกฟ้า” ที่มีครูสมาน กาญจนะผลิน เป็นผู้แต่งทำนอง และแต่งเนื้อร้องโดยครู เกษม ชื่นประดิษฐ์” ในปี 2500 ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเพราะได้รับความนิยมไม่น้อย ก่อนที่จะมีเพลงอื่นๆ ตามออกมาอีกมากมาย อาทิ ยามชัง, แก่นจันทร์จ๋า, อยู่เพื่อคอยเธอ, หอรักหอร้าง, นกเอี้ยงจ๋า ซึ่งด้วยลีลาที่ออดอ้อนปนอารมณ์ขันที่เป็นเอกลักษ์นี้เองที่ทำให้หลายคนชื่นชอบในตัวนักร้องคนนี้เป็นอย่างยิ่ง
แต่ที่ทำให้เจ้าตัวประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักมากที่สุดก็คือการเข้ารวมตัวกับมีศักดิ์ นาครัตน์ ศักรินทร์ บุญฤทธิ์ เป็นคณะ “สามศักดิ์” โดยทนงศักดิ์เคยได้รับพระราชทานแผ่นเสียงทองคำถึง 3 ครั้งด้วยกันจากเพลง แมวเหมียว(สามศักดิ์), ใกล้เข้ามาแล้ว และไร้อารมณ์
นอกจากงานร้องเพลงแล้ว เขายังได้ร่วมเล่นละครทีวี ทางช่อง 4 ในเรื่อง ขุนศึก รวมถึงการรับบทเป็นพระเอกในงานภาพยนตร์เรื่อง “ขุนแผน” ของ “สมาน คราประยูร” อีกด้วย
นักร้องเสียงออดอ้อนมีภรรยาคู่ชีวิต คือ "ม่อม ผศ.กฤษณา ภักดีเทวา" มีทายาท 5 คน การัณนีย์, สุธีศักดิ์ (ครูโจ้ คอมเมนเตเตอร์ชื่อดังในรายการเดอะสตาร์), รศ.สมัครสมร, สรวัฒน์ และพิเศษศักดิ์
หลังอิ่มจากงานบันเทิงทนงศักดิ์ก็ได้หันเหเข้าสู่อาชีพเกษตรกร โดยซื้อที่ดินไว้ที่ปากช่องเพื่อทำไร่มานานนับสิบปีก่อนจะมาล้มป่วยจากโรคเส้นโลหิตในสมองแตกเฉียบพลัน เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2544 และนอนเป็นเจ้าชายนิทรามาโดยตลอดก่อนจะมาจบชีวิตลงภายหลังจากที่ทั้งภรรยา ลูกๆ รวมถึงเพื่อนๆ อาทิ สุเทพ วงศ์กำแหง, จิตติมา เจือใจ, เฉลา ประสพศาสตร์, มีศักดิ์ นาครัตน์, อุมาพร บัวพึ่ง, ชรัม เทพชัย, มานพ อัศวเทพ, สุประวัติ-นีรนุช ปัทมสูต, นฤพล ดุริยพันธ์, นฤมล ล้อมทอง ฯลฯ เพิ่งจะจัดงานฉลองวันเกิดวัย 72 ปี ให้กับเขาไปได้ไม่นาน
“บันเทิงออนไลน์” ขอร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของศิลปินคุณภาพอีกคนของเมืองไทย ไว้ ณ ที่นี้ด้วย
เพลง กรรมบันดาล...
กรรมฉันยังไม่สิ้น ฟ้าดินถึงได้บันดาล
ให้ฉันพบพาน แต่ความผิดหวังเรื่อยไป
มีรักแล้วจาก รักกันแล้วพราก จากกันแสนไกล
ฝากเพียงรอยเศร้าไว้ กร่อนทรวงใน ร้าวใจเหลือทน
* กรรมฉันทำปางก่อน หมุนจร ย้อนโชคชะตา
ให้ ฉันพบพา ดื่มกิน น้ำตาท่วมท้น
** เพียง ชาติเดียวหมองไหม้ หัวใจร้องไห้ คล้ายจิตวิกล
อยู่สู้ความสับสน อย่างคนช้ำ เพราะกรรมบันดาล
ซ้ำ * , **