xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจ “เป้ ไฮร็อก” ผมไม่ใช่ไอ้โรคจิต ถามกลับ “ษา” ใจทำด้วยอะไร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผมไม่ใช่ไอ้โรคจิต “เป้ ไฮร็อก” เปิดใจไม่ได้คุกคาม ยันสภาพจิตใจปกติไม่เคยเข้าโรงพยาบาลประสาท ถามกลับษาจิตใจทำด้วยอะไร ทำไมไม่ยอมให้เจอลูก ลั่นใครดีใครชั่วฟ้าดินรู้ดี

หลังจากที่ “วรรณษา ทองวิเศษ” แถลงข่าวถึงกรณีพิพาทกับ “เป้ ไฮร็อก” หรือ สุรัช ทับวัง พร้อมทั้งแฉถึงพฤติกรรมของเป้ที่ชอบขับรถตาม แอบปีนเข้าไปในบ้าน โทรศัพท์มาหาตี 1 ตี 2 ยัน 6 โมง จนทำให้ตัวเองต้องปิดโทรศัทพ์นี้นั้น ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นต่างๆ ว่า พฤติกรรมของเป้ดังกล่าวอาจจะเกิดจากความเครียดและอาจส่งผลกระทบทางด้านจิตใจ วันนี้เป้ก็ได้เปิดใจกับบันเทิงผู้จัดการอีกครั้ง ถึงเรื่องราวทั้งหมด และปฏิเสธว่าตนเองไม่ใช่ไอ้โรคจิต จวกกลับษายังเป็นคนอยู่หรือเปล่า จิตใจทำด้วยอะไร

“ผมยอมรับว่าผมตามเขามา 1 ปีเต็มแล้ว แล้วผมทำอะไรเขาหรือเปล่า ถามเขาหน่อยเขาเคยเห็นผมไหม ผมไม่เคยคิดทำอะไรเขาเลย ผมรักเขา ผมจะทำเขาเพื่ออะไร แล้วคนอย่างผมก็ไม่ใช่คนที่สังคมรังเกียจ ผมก็เป็นคนทำงาน ผมก็หาเงินเลี้ยงลูกให้ลูกผมเก็บเงินไว้ให้ลูก นี่คือจุดประสงค์ของผมแค่นั้นเอง ผมไม่อยากให้ลูกผมเป็นกำพร้า”

“วันนั้นที่ผมขึ้นไปบนรถเขา ผมก็ไม่ได้ไปทำอะไร แค่บอกว่าเป้ขอจับมือหน่อยนะ เป้คิดถึงนะแค่นั้นเอง พอเขาไล่ผมก็ลงจากรถ มันก็จบ เขาเป็นดาราผมก็แค่มนุษย์ธรรมดาเป็นศิลปินธรรมดา ผมพูดอะไรไปไม่มีใครเชื่อผมหรอก ไม่ต้องพูดดีกว่า ผมพูดอย่างเดียวว่าใครจะพูดยังไง ทองมันก็เป็นทองอยู่ดี ผมพูดอะไรไปมันก็ไม่มีประโยชน์หรอก ประชาชนอ่านแล้วหาว่าผมผิดผมเลวอย่างน้อยพระเจ้าก็รู้ว่า ผมทำอะไรอยู่ผมคิดอะไรอยู่ ผมไม่สนหรอกใครคิดยังไง แต่ผมคิดว่าผมทำเพื่อลูก คุณไม่ให้ผมเจอลูก 1 ปีเต็ม แม้แต่กระทั่งให้คุยกับลูกยังไม่ให้ผมคุยเลย คุณทำได้ไง ใจคุณเป็นมนุษย์รึเปล่าผมอยากถามแค่นี้”

“ถ้าเขาจะมองว่านี่เป็นการคุกคามก็สุดแล้วแต่เขา ผมไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน ผมพูดอะไรออกไปมันก็ไม่มีประโยชน์ ยังไงคนก็ต้องเข้าข้างผู้หญิงอยู่แล้ว แต่ทำไมผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งทรมานมาทั้งปี เจ็บปวดมาทั้งปี ทำไมไม่มีใครเห็นใจบ้าง ผมไม่อยากพูดอะไรมากมาย ผมว่าสักวันหนึ่งความดีที่ผมทำอยู่คงมีคนเห็น ทองยังไงมันก็เป็นทอง คุณจะหลอมละลายเผาไหม้ยังไงมันก็เป็นทองอยู่ดี”

ยอมรับว่าชอบโทรไปหาษาตอนที่ตี 3 ตี 4 จริงๆ แต่ไม่ได้มีเจตนาก่อกวน หากแต่ทำไปเพราะความคิดถึง บอกทีเมื่อก่อนคุยกันตี 4 ตี 5 ก็ไม่เห็นเป็นอะไร
“ผมโทรจริงเพราะว่าผมเล่นดนตรีเสร็จกลางคืน ดึกๆ ผมเล่นคอนเสิร์ตเสร็จตี 2 ผมก็เหงาผมก็อยากโทรคุยแต่เขาก็ไม่เคยรับสาย แต่ผมก็ไม่ได้โทรทุกวัน นานๆ ถึงจะโทรซักที ทำไม ตอนรักกันใหม่ๆ คุยถึงตี 4 ตี 5 ยังไม่เห็นมีปัญหาไรเลย ก็คุยกันทุกวัน คุยทีสามชั่วโมงสี่ชั่วโมงคุยจนแบตโทรศัพท์หมด ผมเข้าใจว่าตอนนี้เป็นไปไม่ได้แล้ว แต่ว่าผมก็อยากถามว่าลูกเป็นยังไงบ้าง ลูกมีความรู้สึกยังไง ลูกโตหรือยัง ผมก็แค่อยากรู้แค่นั้นเอง สิ่งที่ผมได้กระทำไปทุกวันนี้ก็เพื่อลูก ผมไม่อยากให้ลูกผมเป็นกำพร้า แต่เขาก็พยายามอยากให้ลูกขาดพ่อให้ได้ อยากให้ลูกเป็นเหมือนเขา มันเพราะอะไรผมอยากรู้แค่นั้นเอง เขาจะพูดยังไงก็เรื่องของเขา คือผมจนแค่นั้นเอง”

“ที่เขาบอกคุณเป้หนี้สินเยอะ ผมไม่เคยให้เขามาช่วยเหลือผมเลย หนี้ผมมันก็เรื่องของผม หนี้ผมมันก็ไม่ใช่ร้อยล้านพันล้านซะเมื่อไหร่ หนี้หลักหมื่นหลักพันมันหนักหนาสาหัสมากเลยหรือไง แต่ยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับษามันไม่ใช่หนี้ษา ผมไม่ใช่คนที่เครียดจนจิตใจผิดปกติ ใครๆ ก็บอกว่าผมทำแบบนี้บ้าหรือเปล่า ผมไม่ได้บ้า ผมไม่ใช่ไอ้โรคจิต ผมไม่เคยมีประวัติเข้าโรงพยาบาลประสาทคนที่เครียดน่าจะเป็นษามากกว่า เพราะปกติมีปัญหาอะไรเขาก็จะโทรมาหาผม อยากได้เบอร์เบอร์คนโน้นคนนี้เขาก็โทรมาหาผม ผมก็หาเบอร์ให้เขา ที่ผ่านมาผมก็คุยกับเขาเรื่องนี้แหละ”

“แต่ก็รู้สึกเสียใจนะครับ ถ้าใครจะคิดว่าการที่ผมตามษาและการที่ผมอยากจะเจอลูกมันทำให้ผมกลายเป็นคนผิดปกติ ผมมีความรู้สึกดีๆให้ ผมมีความจริงใจ เขาโทรมาหาผม ผมคิดว่าเขาก็มีความรู้สึกดีๆให้ผม แต่แล้วมันไม่ใช่เลย ผมรู้สึกเสียใจมากกว่า สิ่งที่พ่อคนหนึ่งอยากทำเพื่อลูกแต่ทำไปแล้วกลับกลายว่าไม่ดี ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน”

ยืนยันว่าที่ผ่านมาพยายามไปพบลูก แต่ฝ่ายษากลับสร้างเงื่อนไขให้ยุ่งยาก
“ผมก็พูดไปตลอด ผมก็คอยเขา คุณเองก็เชื่อเขาใช่ไหมล่ะ ถ้าไม่เป็นหัวอกเป้ไม่รู้หรอกว่าเจ็บขนาดไหน ผมไม่เคยบอกว่าไม่พอใจที่เค้าให้เจอเดือนละ 2 ครั้ง เขาเคยพูดกับผมให้ผมไปหา แล้วจะให้ไปหาที่ไหนล่ะ ถ้าไปหาที่บ้านเขาก็โอเค แต่นี่ให้ไปหาที่ๆ ผมไม่รู้จัก นัดที่โน่นที่นี่ ผมไม่รู้จัก ใครเป็นใครผมรู้จักเหรอ ไปบ้านคนโน้นบ้างคนนี้ทีเพื่ออะไรครับ ทำไมต้องทำให้มันยุ่งยาก ทำไมไม่พาลูกมาบ้านเป้ล่ะ จะได้จบๆไป”

เรื่องลูกขอไปพูดกันในศาล แต่สู้ให้ถึงที่สุดไม่ว่าผลจะออกมายังไงก็ดีใจที่ได้ทำเพื่อลูก
“อันนี้เดี๋ยวไปคุยกันในศาล ผมไม่อยากพูด ผมมีหนทางของผมละกัน ผมมั่นใจว่าเลี้ยงได้ อาทิตย์หนึ่งผมไปรับลูกที ผมไม่รับงานก็ได้ ไม่เห็นจำเป็นเลย อันนี้เดี๋ยวไปคุยกันในศาล ยังไงผมก็จะสู้ถึงผมจะแพ้หรือผมจะชนะ ผมก็ไม่สนใจ อย่างน้อยผมก็ได้ทำเพื่อลูก คนที่ผมรักเป็นชีวิตของผม คนที่มีความหมายกับผมมากคำว่าลูก ถึงผมสู้ไปแล้วมันไม่ชนะ แต่อย่างน้อย ผมภาคภูมิใจที่ก็ได้ทำเพื่อลูก”

“ก็ฝากบอกลูกผมด้วยละกัน ผมจะพยายามเต็มที่ อย่างน้อยสายเลือดผม ผมก็อยากได้มากอด อยากได้มาหอม แม้มันจะเจ็บขนาดไหนผมก็จะทน เพื่อลูกผมแค่นั้นเอง ผมไม่สนใครใจจะพูดยังไง ใครจะพูดผมเป็นโรคเป็นนั้นเป็นนี้ เป็นประสาทหรือเปล่า จิตใต้สำนึกของผมก็คือ เด็กคนหนึ่งอยากให้เขาได้ความอบอุ่นจากพ่อแค่นั้นเอง นี่แหละคือสิ่งที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้แค่ผมไม่ต้องการใดๆ ทั้งสิ้นนอกจากลูกผม ขอแค่อาทิตย์ละครั้งหรือเดือนละครั้งได้เจอเขา หรือถ้าไม่ได้เจอเลยมันก็สุดแล้วแต่”

“คนเราถ้าไม่มีความหวังมันก็คงฆ่าตัวตายไปหมดแล้ว ผมมีความหวังของผม ผมก็มีความสุขของผมอย่างน้อยผมได้เลี้ยงลูก อาทิตย์ละครั้งหรือเดือนละครั้ง ถึงผมจะไม่ได้คืนดีกับเขาผมก็ยังมีความสุข สิ่งที่ผมทำมันกลายไปความผิด กลายเป็นความคิดที่แย่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน รู้ว่าผมจน แล้วมาทำกับผมอย่างนี้ทำไม

“ต่อไปผมก็คงไม่ไปตามเขาแล้ว คงต้องรอศาลอย่างเดียว ถ้าศาลตัดสินว่าไม่ไห้เจอลูกผมก็จะอยู่อย่างทรมานอย่างนี้ต่อไป ถึงว่าไม่ให้ผมเจอลูก ผมก็จะอยู่บ้านนั้นต่อไป แต่ถ้าเกิดศาลโปรดผมให้ผมได้เจอลูกอาทิตย์ละครั้งก็ยังดี ผมไม่มีความผิดอะไรนี่ครับ ผมไม่ได้ไปตีไปต่อยษา อยู่ดีๆเขาก็เลิกกับผม แค่เขาไม่พอใจ แม่เขาให้เลิกก็เลิก ผมผิดอะไร ผมทำอะไรผิด”

“ทุกวันนี้ผมแทบไม่เหลือใครแล้ว พี่ผมก็เสียไปอีกคนแล้ว เขา หลอกพี่ผมมาตลอด หลอกว่าจะเอารูปหลานมาให้ดู หลอกว่าจะให้เจอ จะเอารูปเซเดย์มาให้ดูจนเขารอคอยทรมานจนเข้าโรงบาลและเสียชีวิตไป ผมเสียใจขนาดไหน เขาไม่เคยมานึกถึงความเสียใจของผมหรอก พี่คนนี้เขาดูแลผมมาตลอดตอนที่ษาทิ้งผมไป เขาดูแลผม เขากลัวผมจะฆ่าตัวตาย กลัวผมจะคิดสั้น เวลาผมไมมีแรงเขาทำให้ผมทุกอย่าง แต่ษาทำกับเขายังงี้ คิดดูมันยุติธรรมหรือเปล่า ผมถึงบอกว่าคนเราจะทำดีทำเลว พระเจ้ารู้ดี ฟ้าดินรู้ดี ใครเลวใครชั่ว”
กำลังโหลดความคิดเห็น