“ฟลุค” ท้า “ซ้อเจ็ด” จะเขียนด่าอย่างไรด่าไป แต่ 2 ปีข้างหน้าหาก “อชิ” อ่านออกแล้วตนยังถูกเขียนถึงในแง่ลบอีก ตนจะขายหุ้น 70 กว่าล้าน ตามล่าตัวคนเขียน เจ้าตัวเชื่อคอลัมนิสต์คนนี้ไม่มีญาณทิพย์ มั่นใจซ้อคงไม่เขียนให้ตนดูแย่ไปกว่านี้แล้ว พร้อมเอ่ยปากชอบที่ถูกด่าทำให้ตนเป็นจุดสนใจมากขึ้น
มั่นอกมั่นใจว่า “ซ้อเจ็ด” จากคอลัมน์บีบสิวหัวช้าง เขียนแฉตนในแง่ลบ ว่า นิยมงาบแต่สาวลูกครึ่ง แถมใช้ลูกไม้เชยๆ ในการหลีสาว งานนี้ พระเอกหนุ่มต้นตำรับคาสโนวา “ฟลุค เกริกพล มัสยวานิช” เลยโวยแหลกกลางงานฉลองครบรอบ 10 ปี เมเจอร์ โบวล์ ว่า...
“ซ้อไม่ต้องเขียนถึงคนอื่นหรอก เขียนถึงตัวเองดีกว่า เพราะว่าชีวิตผมมีความสุขดี ภรรยาก็หน้าตาดี ลูกก็หล่อ และคนที่เป็นข่าวด้วยก็หน้าตาดีทั้งนั้นเลย จะมาเขียนถึงผมไม่ดีเนี่ยเป็นเรื่องนั่งเทียนทั้งนั้น”
“ไปว่าเขาอย่างนู้นอย่างนี้ไปแอบดูเขาหรือไง เขาเป็นเจ้าของกล้องวงจรปิดทั่วโลกหรือครับ ถึงได้ไปเห็นทั่วโลกเลย บางเรื่องเป็นเรื่องที่ส่วนตัวมากๆ เลยน่ะ ผมไม่เชื่อว่าคนๆ หนึ่งที่จะมีญาณทิพย์รู้ทุกเรื่องในโลก บางคนอาจจะบอกว่าเรารู้มาจากเพื่อนโอเคไม่ว่ากัน อย่างบางคนที่ใช้ชื่อตัวเองผมชอบมากรู้สึกว่าแมนมาก”
เจ้าตัวยอมรับถูกซ้อด่าทำให้ดังขึ้น พร้อมประกาศหากลูกชาย “อชิ” โตขึ้นแล้วอ่านเจอคอลัมน์ที่เขียนด่าพ่อ ตนยอมหมดตัวตามล่าคนเขียนแน่
“การที่ซ้อด่าผมเนี่ย ทำให้ผมดังขึ้นนะ แต่ว่าสิ่งเหล่านี้เราไม่ควรจะไปส่งเสริมมันมากนัก พูดถึงกันดีๆ กันบ้างมั้ย สังคมมันจะน่าอยู่ หนังสือจะน่าอ่านเยอะ ลองเขียนชมบ้างสิ แบบกัดน้อยๆ น่ะ”
“ตอนนี้ผมไม่แคร์ว่าซ้อเจ็ด จะเป็นใคร เขียนด่าได้เขียนไปก่อนครับ เพราะผมว่าคนอ่านมีวิจารณญาณ เขาอ่านเอาความมันส์ คนนี้จะเขียนไปได้ถึงไหนก็สนุกดี แต่ว่าวันใดที่อชิอ่านออกเขียนได้แล้วมาเขียนถึงผมไม่ดี ผมจะขายหุ้นของผมทั้งหมดเลยที่มีอยู่ 70 กว่าล้านนี่นะครับตามล่าเลยนะครับว่าเป็นใคร อย่านะครับ ตอนนี้อีก 2 ปีอยากเขียนเขียนไป ไม่ว่า”
“ผมไม่ฟ้องเขาครับ วันหนึ่งจะเขียนลงหนังสือพิมพ์ด่าซ้อเจ็ดบ้าง ตอนนี้ไม่กลัวครับ ผมเชื่อว่ามันก็มีแค่เล่มเดียวและคนอ่านทุกวันเดี๋ยวก็เบื่อแล้ว แล้วจะมีอะไรทุกวันน่ะที่จะด่าผมให้มันดูแย่กว่านี้น่ะมันคงยากแล้ว ก็ด่าไปผมก็ชอบ อ่านแล้วก็มันส์ดี”
เมื่อถามต่อว่าหนุ่มฟลุคกลัวเสียภาพหรือไม่ หากคนอ่านเชื่อว่าซ้อเจ็ด เขียนถึงตนเอง คุณพ่อสุดเนี้ยบบอกไม่สน ตนยอมเป็นแพะที่เดินไปไหนก็มีแต่คนพูดถึง
“ไม่เป็นไรถ้าคนจะเชื่อ เพราะว่าภาพมันถูกสร้างขึ้นมาอยู่แล้ว ถามว่ามีใครรู้มั้ยว่าชีวิตจริงๆ ผมเป็นอย่างไร คงไม่มีใครรู้ เพราะว่าไม่มีใครเข้ามานอนอยู่ที่บ้าน เข้ามานั่งด้วย ไปไหนมาไหนเราก็อยู่คนเดียว กับคนขับรถ กับโบ กับลูก เป็นครอบครัวมีแค่นี้”
“ผมมีการศึกษาน่ะเลยเข้าใจว่าอะไรก็ตามมันต้องมีตัวตายตัวแทน สมมติมีข่าวร้ายมันต้องมีคนที่โดนน่ะต้องมีแพะสักตัวน่ะ พอดีเราเป็นก็ไม่เป็นไรแต่ว่าโอเคมีคนรู้จัก เป็นแพะรับบาปก็ยังดีกว่าเป็นแพะที่เดินๆอยู่ทั่วไปโดยที่ไม่มีใครรู้จัก เป็นเทวดาก็เป็นไป เราเป็นแนวไหนก็ได้แต่ขอให้เป็นตัวที่เป็นจุดสนใจก็โอเค”
