xs
xsm
sm
md
lg

นักจิตวิทยาบอก “เป้” เข้าข่าย “มาโซคิสม์” แนะควรเปิดอกคุยกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ดร.วัลลภ” ชี้พฤติกรรมของ “เป้ ไฮร็อก” เข้าข่าย “มาโซคิสม์” บอก “ษา” ต้องให้ฝ่ายชายเจอลูกเพื่อลดความกดดัน พร้อมแนะนำทางออกทั้งคู่ควรหันหน้ามาคุยกัน

หลังจากที่ “เป้ ไฮร็อก” หรือ สุรัช ทับวัง สร้างวีรกรรมบุกขึ้นรถ “วรรณษา ทองวิเศษ” อดีตภรรยาบริเวณลานจอดรถโรงแรมแอมบาสเดอร์ และได้ขับรถตามจนฝ่ายหญิงต้องเลี้ยวเข้าโรงพักไปลงบันทึกประจำวัน กลายเป็นข่าวใหญ่โตขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับนั้น เรื่องราวกลับไม่ได้จบที่โรงพักเมื่อฝ่ายหญิงเลือกที่จะเปิดแถลงข่าวในวันต่อมา พร้อมทั้งเปิดเผยว่า อดีตสามีมีพฤติกรรมแปลกๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ชอบติดตามไปไหนต่อไหน ,แอบปีนเข้ามาในบ้าน หรือแม้แต่โทรศัพท์มาหาตี 1 ตี 2 ยัน 7 โมงเช้า

พฤติกรรมดังกล่าวของอดีตนักร้องชื่อดังทำให้ษาถึงกลับออกอาการหวาดกลัว ในขณะที่บุคคลรอบข้างอย่าง “คุณแม่ของษา” ก็ออกอาการเป็นห่วงลูกสาวอย่างหนัก หวั่นเป้จะเครียดและส่งผลกระทบถึงจิตใจและอาจทำอะไรรุนแรง

ด้าน “ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม” นักจิตวิทยาชื่อดัง ก็ได้กล่าวถึงพฤติกรรมของเป้ว่าน่าจะเข้าข่าย “มาโซคิสม์” พร้อมทั้งแนะนำทางออกในการแก้ไขปัญหาทางด้านจิตใจ

“เราต้องนิยามให้มันถูกต้องก่อนนะว่า โรคจิตของชาวบ้าน กับ คำว่าโรคจิตของทางการมันต่างกัน โรคจิต ทางการในจิตเวช หมายถึง คนที่มีอาการทางประสาท สติฟั่นเฟือนเป็นอาการที่รุนแรงที่สุดแล้ว แต่ในทางชาวบ้านจะคิดว่าโรคจิต หมายถึง คนที่มีพฤติกรรมเพี้ยนๆ แปลกๆ แต่ไม่ถึงขั้นเป็นบ้า ฉะนั้นถ้าตอบอย่างวิชาการ คือ เขาไม่ใช่โรคจิต แต่จะมีแนวโน้มเป็นสองอย่าง”

“อย่างแรกเลยเป็นคนที่ยังติดใจในรสชาติเรื่องเพศของผู้หญิงไม่อยากที่จะเลิกลาคอยติดตามพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้ผู้หญิงสงสารแล้วกลับมาคืนดีด้วย หรือ มีปมด้อยกลัวว่าผู้หญิงจะมีคนอื่นเจอผู้ชายที่ดีกว่า”

“อย่างที่สอง คือ เป็นคนที่ก้าวร้าวต้องการที่จะข่มขู่ขวัญไม่อยากให้ผู้ชายคนอื่นเข้ามายุ่ง จะคอยติดตามรังควาญพยายามจะจับผิดว่าสาเหตุที่เลิกเป็นเพราะผู้หญิงมีผู้ชายคนอื่น เหมือนอยากที่จะประจานให้คนอื่นรู้ หรือไม่พอเลิกกันแล้วทำให้เขาเดือดร้อน ซึ่งแบบนี้แสดงว่าเขาขาดผู้หญิงไม่ได้ หรือไม่ยังแคร์อยู่มาก”

“ส่วนทางด้านกรณีเป้นี่น่าจะเป็น เพราะเขามีปมด้อยอยู่ในใจมากกว่า ไม่ใช่โรคจิต ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทางที่ดีทั้งสองฝ่ายต้องมานั่งจับเข่าคุยกันสองคน เพราะเราไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรโรคจิตเขาอาจจะแค่คิดถึงเราจริงๆ หรือเขาต้องการเรื่องลูกเขาถึงได้มาง้อใหม่ ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง แล้วก็มาตกลงว่าเขาต้องการอะไร ถ้าเขาต้องการเยี่ยมลูกเราก็ต้องมีหยวนๆ บ้าง ต้องยอมให้เขาพาลูกไปเที่ยวบ้าง เพราะถ้าเราไม่ยอมเขาจะตามเราอย่างนี้ หรือถ้าเขาอยากปรึกษาอยากคุยแบบเพื่อนเราไม่ควรที่จะปฏิเสธ แต่ถ้าจะมาแสดงความต้องการทางเพศเราต้องยืนยันว่ามันไม่มีทางที่จะเป็นไปได้แล้ว”
“การที่จะดูว่าเป็นโรคจิต หรือ ไม่ต้องไปตรวจเช็คดูถึงภูมิหลังเขาด้วย ซึ่งกรณีของเป้เขาอาจเข้าข่ายอยู่ในพวกมาโซคิส พวกนี้จะเป็นคนที่ต้องการทำให้ตัวเองได้รับความเจ็บปวด ถูกทรมาน น่าสงสาร ทำให้คนอื่นเห็นใจ ซึ่งต่างกับอาการโรคจิต เพราะโรคจิตจะเป็นบ้าไปเลย”

“ถ้าตรวจพบว่าเขาเป็นโรคจิตกฎหมายจะคุ้มครองเข้าทันทีเลยศาลตัดสินว่าห้ามยุ่งเด็ดขาดเลย ต้องพาเข้ารักษาตัวที่โรงพยายบาลอย่างเดียวเลย คนที่เป็นบ้าจะไม่รู้ตัวเองว่าเป็นบ้า เพราะฉะนั้นถ้าภรรยาฟ้องว่าสามีตัวเองเป็นโรคจิตก็ต้องมีการตรวจยืนยัน”

เรื่องทั้งหมดนี้ผมว่ามันเป็นปัญหาที่เกิดจากครอบครัวเรื่องส่วนตัวถ้าจะให้ดีต้องมานั่งคุยกันหรือไม่ก็มาปรึกษาผมก็ได้ยินดี หรือปรึกษาให้ฟรีก็ได้ ทุกวันนี้ก็มีเคสแบบนี้เข้ามาเยอะมากในสังคมไทยเราปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะ เรื่องสามีภรรยา”
กำลังโหลดความคิดเห็น