หลังจากที่พยายามกันมาหลายครั้ง และแฟนๆ ต่างรอคอยกันมาอย่างยาวนาน ในที่สุด Dragonball การ์ตูนอันเป็นที่รักของแฟนๆ ทั่วโลกก็ได้ฤกษ์จะฉายในฉบับคนแสดงจริงๆ จังๆ ในเดือนส.ค.ที่จะถึงนี้แล้ว ภายใต้การควบคุมงานของ "โจวซิงฉือ" ซูเปอร์สตาร์ฮ่องกงที่เป็นแฟนตัวยงของการ์ตูนเรื่องนี้ด้วย
20th Century Fox ค่ายหนังยักษ์ใหญ่ได้ประกาศการออกฉายของ Dragonball แอนิเมชั่นสุดยิ่งใหญ่ผลงานของ โทริยามา อากิระ ในฉบับภาพยนตร์ไลฟ์ แอ็คชั่น เป็นที่เรียบร้อยในวันที่ 15 ส.ค. ปี 2008 โดยเรื่องนี้ได้ เจมส์ หว่อง ผู้กำกับ-นักเขียนบทอเมริกัน เชื้อสายฮ่องกง ที่เคยมีผลงานการกำกับมาแล้วจากเรื่อง Final Destination ภาค 1 และ 3 กับ The One ที่นำแสดงโดยเจ็ทลี และผลงานการเขียนบทจากซีรีส์สุดดังแห่งยุค 90 The X Files มารับหน้าที่กำกับ ภายใต้การอำนวยการสร้างของ โจวซิงฉือ ผู้ที่ประกาศตนเป็นสาวกของการ์ตูนเรื่องนี้มาอย่างยาวนาน
โดยผู้ที่จะมารับบท ซุน โกคู ฮีโร่ของเรื่องได้แก่หนุ่มหล่อชาวแคนาดาวัย 25 อย่าง จัสติน แช็ตวิน ที่มีผลงานเรื่องล่าสุดอย่าง The Invisible หรือบทที่แฟนๆ คุ้นตามากที่สุดอย่างลูกชายของ ทอม ครูส ใน War of the Worlds เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งล่าสุดเขาได้เข้ารับการฟิตร่างกายกับทาง 87Eleven บริษัทสตันท์ชื่อดังที่อยู่เบื้องหลังผลงานเด่นๆ จากเรื่อง The Matrix, The Bourne Supremacy, Mr. & Mrs. Smith และ 300
ส่วนคนที่จะมาเป็นคู่ต่อกรของเขาในภาคนี้ได้แก่ ปิคโกโล ที่จะรับบทโดย เจมส์ มาร์สเตอร์ นักแสดงอเมริกันวัย 45 ที่หลายคนรู้จักเขาในบทแวมไพร์ สไปค์ จากซีรีส์สุดดัง Buffy the Vampire Slayer
โดยเนื้อหาในภาคที่จะนำมาสร้างเป็นหนังเรื่องนี้ยังคงไม่ชัดเจน นอกจากการต่อสู้ของโกคูเพื่อปกป้องโลกจากวายร้ายมากมายที่ต้องการทำลายจักรวาล ซึ่งเจมส์ หว่องจะพัฒนาจากบทที่เบน แรมซีย์มือเขียนบทคนเก่าร่างเอาไว้คร่าวๆ
"ผมเป็นแฟนของ Dragonball มาอย่างยาวนาน ความลื่นไหลของเรื่องเปิดโอกาสให้เราใส่จินตนาการลงไปได้อย่างมากมาย" โจวซิงฉือที่ลงมือมาจับงานยักษ์ของแฟนการ์ตูนทั่วเอเชียและทั่วโลกกล่าวต่อหนังสือพิมพ์ Oriental Morning Post ของเชี่ยงไฮ้
หลังจากเคยมีผลงานระดับอินเตอร์มาแล้วอย่าง Shaolin Soccer และ Kung Fu Hustle จึงน่าสงสัยว่าถึงคราวทำผลงานเป็นเป็นแรงบันดาลใจต่อเขาอย่างมากชิ้นนี้ ทำไมเขาถึงไม่ลงมือกำกับเอง โจวซิงฉือก็เปิดใจว่า "ผมจะกำกับเฉพาะหนังที่ผมสร้างเรื่องราวขึ้นมาเองเท่านั้น มันเป็นอุดมการณ์ของผม"
โจวซิงฉือเคยเปิดใจต่อสื่อมวลชนที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2004 ระหว่างที่เขาไปโปรโมท Kung Fu Hustle ที่นั่นว่าเขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Dragonball ซึ่งใน Kung Fu Hustle นั้นเองที่หลายคนสังเกตว่าสไตล์การต่อสู้ของเขาในท้ายเรื่องเหมือนเอาลีลาของโกคูมาใช้อย่างไม่ผิดเพี้ยน
ภายใต้การดูแลงานของเขา ทีมงานเบื้องหลังจะผสมผสานระหว่างชาวตะวันตกและตะวันออก แต่ขณะที่ตัวละครอื่นๆ ยังไม่เป็นที่เปิดเผย เป็นไปได้ว่าเขาจะเลือกใช้นักแสดงที่อยู่ในสังกัดของเขาเอง ทั้ง คิตตี้ จาง ดาราสาวเซ็กซี่ ที่เปิดตัวกับผลงานเรื่องล่าสุดของเขาเองอย่าง CJ7 ที่อาจจะมารับบทเป็น จีจี้ แฟนสาวของ โกคู เช่นเดียวกับการทาบทามหนุ่มฮ่องกงอย่าง เฉินก้วนซี ที่ตอนนี้กำลังร่วมงานระดับอินเตอร์ในบทเล็กๆ ของภาคต่อมนุษย์ค้างคาว The Dark Knight ให้มาร่วมแสดงในเรื่องนี้ด้วย แต่กระนั้นการตัดสินใจทั้งหมดจะอยู่ที่ตัวผู้กำกับเจมส์ หว่องเป็นผู้ตัดสิน
ล่าสุดทางเอล นอร์เต หนังสือพิมพ์ของเม็กซิโกรายงานว่ากองถ่ายของเรื่องนี้จะใช้พื้นที่ของเมืองดูแรนโกในการถ่ายทำ 85% ของเรื่องราวทั้งหมด โดยจะใช้ทั้งในบริเวณป่าเขา, ฟาร์มหลายแห่ง รวมทั้งที่ลานของศูนย์วัฒนธรรมของที่นั่นด้วย ซึ่งเป็นสถานที่ที่แนะนำโดย แอเรียล เวลาสโก ชอว์ ผู้กำกับสเปเชียล เอฟเฟ็ค ที่เคยร่วมงานกับเจมส์ หว่องมาแล้ว
"ดูแรนโกสมบูรณ์แบบทั้งเรื่องโรงแรมที่พัก, บุคลากร, การคมนาคม, อุปกรณ์, ทีมสตันท์, ภัตตาคาร การมาของหนังเรื่องนี้จะสร้างงานให้กับเมืองถึง 750 ตำแหน่งซึ่งส่งผลถึงเศรษฐกิจโดยรวมของเมืองอย่างมาก" ซูซานนา เอโลเซกุย ผู้อำนวยการฝ่ายการท่องเที่ยวและภาพยนตร์ของเมืองดูแรนโกกล่าว
ฉากต่างๆ ที่จะใช้ในการถ่ายทำกำลังดำเนินการก่อสร้างภายในเดือนนี้ โดยจะเริ่มเปิดกล้องที่นี่ภายในเดือนพ.ย. แล้วจะถ่ายทำจนเสร็จภายในเดือนมี.ค.ปีหน้า แต่จะมีบางฉากที่จะยกกองไปถ่ายกันที่เอสตาโด เดอ เม็กซิโก เพื่อฉากการถ่ายทำที่เทือกเขา เนวาโด เดอ โทลูกา อันโด่งดัง
เมื่อปี 2002 20th Century Fox ได้สิทธิ์ในการสร้าง Dragonball ฉบับภาพยนตร์ จนกระทั้งเมื่อปี 2004 มือเขียนบท เบน แรมซีย์ ได้รับค่าเหนื่อยถึง 5 แสนเหรียญในการดัดแปลงบทจากฉบับการ์ตูนสำหรับ Dragon Ball Z โดยตอนนั้นวางตัวผู้กำกับ โรแลนด์ เอเมอริช จาก ID4 และ The Day After Tomorrow มาเป็นผู้กำกับ ก่อนที่โจวซิงฉือและเจมส์ หว่องจะก้าวเข้ามารับหน้าที่สานต่อโปรเจ็คท์นี้แทน
