2 เพื่อนซี้ "อั้ม-เมย์" เปิดใจเคลียร์ข่าวรุมตบ "เข็ม ตีสิบ" บอกแค่ขอคุยว่าเอารถยนต์ของตนออกมาขับได้อย่างไร แจงไม่ได้แตะต้องตัวแล้วจะทำร้ายร่างกายได้อย่างไร ย้ำยังพูดไม่จบก็รีบขับรถพุ่งหนีจนเกือบชนคนของตน ท้าอยากไปแจ้งความเต็มที่เพราะตนก็มีหลักฐานเหมือนกัน ด้านฝ่ายชายจวกมือที่สี่ "ทอม-โสภณ" มายุ่งทำไมแล้วทำเพื่อส้น_ ี นอะไร ยันเลือก "เมย์" ประกาศตัดสัมพันธ์ "เข็ม" ชัวร์ พร้อมเผยเช็คกล้องวงจรปิดแล้วไม่มีภาพตบกัน ท้าพิธีกรสาวแจ้งตำรวจเอาหลักฐานมายืนยัน
ตกเป็นข่าวฉาวโฉ่ทางหน้าหนังสือพิมพ์กับกรณีที่ 2 ดาราเพื่อนซี้อย่างนางเอกสุดเซ็กซี่ "อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ" และนางร้ายหน้าสวยอย่าง "เมย์ เฟื่องอารมณ์" ที่จู่ๆ ก็เจอข่าวเมาท์สนั่นว่าทั้งคู่ได้รุมทำร้ายพิธีกรสาวชื่อดัง "เข็ม-กฤตธีรา อัมพรวิจิตร" หรือ "เข็ม ตีสิบ" เนื่องจากฉุนที่พิธีกรชื่อดังนำรถตนมาขับ และเคยให้สัมภาษณ์พาดพิงกันหลายครั้งเกี่ยวกับเรื่องราวความรักกับ "หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย" จนเกิดมีปากเสียงกันที่ห้างเอ็มโพเรียมเมื่อวานนี้
ล่าสุดสาวเมย์ก็ได้จูงมือเพื่อนซี้อย่างสาวอั้มจัดแถลงข่าวถึงเรื่องของกระแสข่าวดังกล่าว ที่ร้าน "D-WA" ของสาวอั้ม ย่านเกษตร-นวมินทร์ เวลา 14.00น. โดยในงานแถลงข่าวดังกล่าวทางตัวต้นเหตุอย่าง "หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย" ก็ได้มาร่วมงานแถลงข่าวดังกล่าวด้วย แถมงานนี้ยังมีสื่อมวลชนที่มาร่วมทำข่าวเป็นจำนวนมาก โดยนางร้ายสาวเริ่มเปิดการแถลงข่าวก่อนว่า...
"เมื่อวานเวลาประมาณ 16.00น. เมย์ได้ไปเดินเล่นที่ห้างเอ็มโพเรี่ยมจริง คือเมย์แค่จะไปซื้อของใช้ อีกอย่างตอนแรกเมย์ก็ยังไม่รู้เรื่องเลยว่ามีอั้มอยู่ที่นั่นด้วย คือตอนนั้นพอที่เมย์กำลังหาที่จอดรถพอดีและทางยามเขาก็ให้ขับเข้าไปจอดที่ชั้นล่างสุดของห้าง คือชั้น บี3 และพอดีเมย์หันมาเห็นรถมินิคูเปอร์คันหนึ่งจอดอยู่ดูแล้วคุ้นๆ แถมพอดูที่ทะเบียนรถก็ยังเหมือนอีกคือ พ 3027 คือเมย์จำได้เลยเพราะรถคันนั้นเป็นชื่อของเมย์และเป็นรถที่พี่หนุ่มซื้อไว้ใช้ร่วมกัน คือรถคันนี้เราซื้อมาตั้งนานแล้ว"
"กับเรื่องของรถคันที่มีปัญหานั้นมันรถมินิคูเปอร์สีขาว ป้ายแดง ทะเบียน พ 3027 จดทะเบียนโดยใช้ชื่อ "เมย์-ศิกานต์ เจริญพานิช" จริงๆ แล้วรถคันนี้เมย์กับพี่หนุ่มเราผ่อนด้วยกัน ส่วนที่เขายบอกว่าเขาก็ผ่อนมาหลายเดือนนั้นเมย์ก็ไม่รู้นะ เพราะว่ามันเป็นชื่อเมย์ กับเรื่องนี้เขาก็คงจะต้องเข้าไปคุยกับทางบีเอ็มดับดบลิว ริซซิ่งแล้วล่ะว่าจะเป็นอย่างไร"
"แต่ก็ไม่รู้นะว่าถ้าเขายากจะมาช่วยผ่อน แต่เมย์ก็ยังไม่ทราบเรื่องนี้นะ แต่เขาบอกเมย์ว่าเรารถเขาและตอนนี้เมย์ก็ยังไม่รู้นะว่ารถคนนั้นอยู่ไหน จริงๆ แล้วเราก็สามารถแจ้งได้นะว่ารถเมย์หายไป คือเมย์คบกับพี่หนุ่มมาหลายปีแล้วก็คงจะต้องมีของที่ใช่ร่วมกันบ้างนี่ก็ยืนยันได้แล้วว่ามินิคูเปอร์เป็นชื่อของเมย์ ในความคิดของเมย์เรามีสิทธิ์ทุกอย่างอยู่แล้ว"
"เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานเมย์ก็ยังสงสัยเลยว่ารถของเรามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร เพราะว่ารถคันนี้เราไม่เห็นมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้วและเราก็เคยถามพี่หนุ่มนานมากเกือบสองเดือนว่ารถเอาไปทำอะไร เขาก็บอกว่าจะเอาไปขายก็คิดว่ารถน่าจะอยู่ที่เต้นท์ เราก็เลยไม่ได้สนใจอะไรเพราะไม่ค่อยใส่ใจเรื่องรถอีกแล้ว จนมาเห็นเมื่อวานนี้ก็เลยสงสัยว่ารถคันนี้มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ตอนนั้นเมย์โทรไปติดต่อพี่หนุ่มแล้วแต่เขาก็ไม่ได้รับสาย เมย์เลยโทรไปหาพี่ที่เป็นผู้จัดการของเมย์กับพี่หนุ่มเขาก็บอกว่าพี่หนุ่มไม่ได้ไปที่เอ็มโพเรี่ยม มันเลยทำให้เมย์สงสัยว่ามีคนขโมยรถเรามาหรือเปล่า"
"เมย์ก็เลยโทรไปหาอั้ม และพอดีอั้มก็บอกว่าเขาก็อยู่ที่เอ็มโพเรี่ยมพอดี เขามาทำงานและกำลังจะเสร็จแล้ว เมย์ก็เลยบอกอั้มว่าให้ลงมาด้วยกัน เพราะไม่รู้ว่ามีใครมาขโมยรถเราหรือเปล่า อั้มเขาก็เลยวนรถมาเจอกัน แต่ก็ไม่ได้ไปจอดขวางอะไรนะ แค่จอดอยู่ข้างๆ ใกล้ๆ ขณะที่เมย์ก็ยืนเอามือถือถ่ายไว้ตลอดเวลาว่ารถที่จอดมันอยู่ตรงไหน คือเมย์จำได้เลยว่ารถคันนั้นจอดอยู่ที่เสาเลขที่ 140 เราต้องยืนยันว่าอยู่ดีๆ รถมาจอดตรงนี้ได้ไง (โชว์รูปในโทรศัพท์มือถือ)"
"เหตุการณ์ตอนนั้นเรายืนอยู่กัน 4 คน คือตรงนั้นก็จะมีคนขับรถของอั้ม มีพี่ผู้จัดการส่วนตัวของอั้ม อั้มและก็เมย์ เรายืนรอกันสักพักก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมา ตอนแรกเราก็ไม่รู้นะว่าเขาเป็นใคร เพราะเขาใส่หมวก ใส่แว่นสีชา คือเราไม่รู้ว่าเขาเป็นใครและเขามาทำอะไรหรือเปล่า เพราะอยู่ดีๆ เขาก็เดินมาที่รถมินิคันนั้นของเมย์ ตอนนั้นเรารออยู่กันในรถตู้ของอั้มที่จอดรออยู่ข้างๆ กัน แต่ก่อนหน้านั้นเราก็มีรูปถ่ายเป็นหลักฐานอยู่แล้วว่ารถเราจอดอยู่ที่ไหน ขนาดตอนที่ผู้หญิงคนนั้นมาอั้มเขาก็ยังถ่ายรูปเอาไว้เลย (อั้มโชว์รูป)"
"อั้ม" โต้ข่าวด่า "เข็ม" หน้าด้าน
อั้ม : "อั้มขอยืนยันเลยว่าเมื่อวานเราไม่ได้มีการตบตีอะไรเลย มีมากสุดก็แค่เอามือไปจับประตูรถเท่านั้นเอง และอีกอย่างหนึ่งก็ไม่มีการโดนตัวอะไรเลยด้วย ส่วนที่เขาหาว่าอั้มไปทำไม่สุภาพกับเขานั้นมันไม่มีเลยนะ กับคำที่บอกว่าหน้าด้านนั้นก็ไม่มีเลย คืออั้มแค่พูดว่าพี่ไม่อายบ้างเหรอค่ะที่ไปเอารถคนอื่นมาขับก็แค่นี้เอง คือเราก็ถามเขาไปตามปกติ ถ้าหากเป็นเราเขาพูดแบบนี้เราคงลงไปจากรถแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่หาว่าเราไปแย่งกุญแจกับเขานั้นก็ไม่มีเลย"
เมย์ : "ตอนนั้นเมย์ก็บอกเขาไปอย่าเพิ่งไปนะค่ะ เราลงมาคุยกันก่อนได้ไหม เมย์ถามเขาไปว่าพี่ไปเอารถมาได้อย่างไร แต่เขาบอกว่ารถคันนั้นเป็นรถพี่ เมย์ก็ถามเขาว่าจะเป็นรถพี่ได้อย่างไร เพราะ รถคันนั้นมันเป็นรถของเมย์ เป็นชื่อเมย์ด้วย แต่เหมือนว่าเขาจะไม่ยอม อีกทั้งขณะที่พูดเขาก็ไม่ได้ออกมาจากรถเลยนะ แล้วเราก็ไม่ได้ดึงเขาให้ลงมาด้วย เพราะเราก็สุภาพพอในการพูดคุยกันอยู่นอกรถ แต่มือเราก็จับประตูรถคุยกับเขานะและอั้มเขาก็พูดว่าพี่ทำแบบนี้มันดูไม่ดีหรอก พี่ขับรถไปอย่างนี้ทั้งๆ ที่พี่รู้ว่าเป็นรถของเมย์ พี่ออกมาคุยและเคลียร์ให้เรื่องนี้ยุติสักทีดีไหม"
"แต่เขาก็บอกว่าหลีกไป เขาจะไป แต่เราก็บอกว่าเดี๋ยวพี่หยุดคุยกันก่อน แต่เขาก็บอกไม่ค่ะหลีกไปเขาจะไป ตอนนั้นมือเมย์ก็จับอยู่ที่ประตูรถ ส่วนปากก็บอกไปว่าพี่อย่าเพิ่งไป แถมพี่คนขับรถเขาก็อยู่ข้างหน้าพอดี แต่เขาก็เหมือนกับจะขับรถพุ่งไปจนเกือบจะชนพี่คนขับรถของอั้ม แถมตรงนั้นมันก็มีกรวยวาวางกั้นอยู่ข้างหน้า แต่เขาก็พุ่งออกไปอย่างแรง "
"กับเหตุการณ์นี้เมย์บอกตามตรงเลยว่าไม่อยากจะพูดให้ทุกคนพูดพาดพิงถึงใคร เพราะว่าเรื่องนี้มันมีแต่เสียอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นตัวเมย์ อั้มหรือพี่คนนั้น อีกทั้งพี่หนุ่มก็ตาม แต่ในเมื่อข่าวที่ออกมาและทางนั้นเขาก็พูดกับทางคนใกล้ชิด จนทำให้เราเสียหาย แถมยังมาบอกว่าเป็นการรังแกกันแบบ 4 รุม 1 ตรงนี้สาบานได้เลยนะว่าเมย์กับอั้มไม่ได้ไปสัมผัสตัวเขาหรือตบตีเขาเลย จริงๆ เราอยากให้มีภาพวงจรปิดมากว่าจะได้รู้กันไปว่าเกิดอะไรขึ้นมาก เพราะตอนนี้กับข่าวที่ออกมากลายเป็นว่าทางเราเสียหาย โดยโดนข้อหาว่าเราไปทำร้ายเขา ขอเลยเอากล้องออกมายืนยันกันเลยดีกว่า"
"กับเรื่องที่เกิดขึ้นเขาไม่ได้พูดไม่ดีกับเราและเราก็ไม่ได้พูดไม่ดีกับเขา คือเมื่อวานเราไม่มีการใช้คำศัพท์ที่หยาบคายอะไรเลย ไม่มีการแหกปากเสียงดังใส่กัน เพียงแต่ว่าเราคุยกันไม่รู้เรื่องและก็ขับรถออกไปทันที แต่กลายเป็นว่าออกเป็นประเด็นว่าเรารุมบ้าง โดนทำร้ายบ้าง เขาเสียใจร้องไห้ คือมันไม่ใช่ตรงนั้นเลย ไม่ได้แตะต้องอะไรเขาเลย"
"ส่วนที่มีคนบอกว่าเมย์ขับรถสีขาวตามพี่เขาไปถึงตึกจัสมินนั้นไม่มีการตามไปเลยแน่นอน คือเมย์ยังห่วงด้วยซ้ำว่าเขาเอารถฉันไปแล้ว คือเราพูดไม่ออกเลย ไม่รู้จะพูดอย่างไรและถ้าถ้าเราขับรถตามเขาไปจริงๆ มันก็ต้องมีกล้องวงจรปิดตรงที่ที่คืนบัตรและยามก็ต้องเห็นด้วย"
ต่อข้อถามที่ว่าทางฝั่งของคู่กรณีได้เข้าไปแจ้งความกับตำรวจแล้ว นางร้ายสาวทำหน้างงแล้วบอกต่อไปว่า
"ไปแจ้งเลย ถ้าเขามีหลักฐาน คือถ้าเขาคิดว่าเขาถูกก็ตามสบายเลย เพราะเรารู้ดีว่าความจริงคืออะไรและเราก็สามารถพิสูจน์ได้ด้วย อีกอย่างเมย์ก็ไม่คิดแจ้งกลับเขาด้วย แต่ถ้ามีอะไรเดือดร้อนถึงเราจริงๆ พวกเราก็สู้ตายแน่ ถ้าไม่เดือดร้อนถือว่าปล่อยไปแล้วก็ปล่อยไปเลย เราถือว่าไม่มีอะไรแล้วกัน"
"จริงๆ แล้วเมย์ก็สามารถที่จะแจ้งความกลับเขาข้อหายักยอกทรัพย์ได้นะ เพราะเรามีหลักฐานที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง คือเมย์สามารถเอาความได้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ เมย์สามารถทำเขาได้แต่เมย์ก็เลือกที่จะไม่ทำ (เน้นเสียง) เพราะเมย์ถือว่าเราอยู่ในวงการเดียวกัน เขาก็มีอนาคตของเขาและเราก็ไม่คิดทำร้ายเขาอยู่แล้ว เราถือเป็นเรื่องของการเข้าใจผิดเท่านั้นเอง เพียงแต่เขาไม่รับฟังแล้วเขาก็พูดออกไปกลายเป็นว่าเราไปทำร้ายร่างกายเขา"
"ส่วนการที่เมย์ไม่เอาผิดเขาก็ไม่ได้เกี่ยวกับการที่พี่หนุ่มโทรมาขอเลย มันเป็นเพราะตัวเราเองมากกว่า คือเรื่องตรงนี้จริงๆ เป็นเรื่องภายในครอบครัวด้วยซ้ำ แต่ว่าเขากับออกมาพูดก่อนเลยทำให้เราเป็นฝ่ายเสียหาย เรื่องนี้เอาเป็นว่าลองไปถามพี่หนุ่มดีกว่า คือเมย์ไม่อยากที่จะไปสู้รบปรบมืออะไรกับใคร ขนาดเมื่อวานมีพี่นักข่าวหลายคนโทรไปหาเมย์เมย์ยังไม่พูดเลย คือหลังจากนี้ถ้าเขาไม่มีอะไรเมย์ก็จะไม่เอาความเขาอยู่แล้ว ถือว่าเรื่องที่ผ่านมาก็ขอให้มันจบๆ กันไป"
"หนุ่ม" เลือก "เมย์" ท้า "เข็ม" แน่จริงแจ้งตำรวจแล้วเอาหลักฐานมายัน
ในวันเดียวกันทางด้านตัวต้นเหตุอย่าง "หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย" เปิดใจถึงกระแสข่าวทั้งหมดว่า..."กับการที่ผมมาร่วมงานแถลงข่าวในวันนี้ ผมไม่ได้ออกมาเพื่อที่จะไปโจมตีใครนะ ผมแค่อยากจะขอออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะผมรู้สึกแปลกๆ ที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น คือมันไม่น่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้เลย ถ้าไม่มีบุคคลที่ 4 เข้ามาเกี่ยวข้อง นั่นก็คือ ผู้ที่อ้างว่าเป็นเพื่อนคนสนิทของฝ่ายที่ถูกทำร้ายที่ออกมาให้ข่าวว่ามีการตบตี ทำร้ายร่างกาย ผมขอยืนยันนะครับว่าเท่าที่ผมไปเช็คทางเอ็มโพเรียมมาแล้ว ไม่มีการทำร้ายร่างกายและไม่มีการตบตีกันแต่อย่างใด"
"ส่วนในเรื่องของคดีความที่จะมีการฟ้องร้องไหมนั้นมันก็อาจจะทำได้นะ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันทำให้คุณเมย์ คุณอั้มและผมเสียหาย เสียความเชื่อถือและเสียชื่อเสียง คือตรงนี้ผมเชื่อว่าฝ่ายที่ถูกทำร้ายนั้นเขามีมีบุคคลที่ 4 ออกมาแอบอ้างและให้ข่าวไปต่างๆ นานานว่าโดนทำร้ายจริงๆ อยากฝากทางสื่อว่าอยากให้ขอหลักฐานหน่อยได้ไหมว่าเขามีใบพิสูจน์ทางการแพทย์หรือเปล่าว่าคนของเขาถูกทำร้ายร่างกายจริงหรือมีภาพของกล้องวิดีโอที่เอ็มโพเรียมไหมว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมอยากจะขอร้องสื่อว่าอยากให้ลงข่าวอย่างเป็นธรรมและอยากให้เห็นใจพวกเราด้วย เพราะการนำเสนอข่าวนิดเดียวแบบนี้มันสามารถที่จะพลิก ความรู้สึกให้คนที่ชื่นชอบเรามาเกลียดเราได้"
ต่อข้อถามที่ว่าแล้วเอารถยนต์ของ "สาวเมย์" ไปให้ "สาวเข็ม" ขับได้อย่างไร นักแสดงหนุ่มตอบทันทีว่า
"อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่าครั้งหนึ่งผมเคยมีความสนิทสนมกับคุณเข็ม ผมต้องขอเอ่ยชื่อเขานะ แต่หลังจากนั้นผมไปมาหาสู่กันจริงๆ ตามภาษาคนรู้จักกัน ยอมรับนะว่ารถคันนี้ผมซื้อในชื่อของคุณเมย์ แต่ว่าตอนนั้นผมเอารถคันนี้ไปจอดไว้ที่พักของคุณเข็ม หลังจากนั้นก็มีปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างที่ทราบๆ กัน จนมามีข่าวที่ผมไปร่วมงานแต่งงานของคุณพิม (ซอนย่า คูลลิ่ง) จนเป็นข่าวใหญ่โตขึ้นมา จนถึงทุกวันนี้"
"แต่สำหรับเรื่องรถผมก็ยังไม่ได้กลับไปเอารถกลับมาที ซึ่งมันก็จอดไว้นานแล้ว ซึ่งเรื่องนี้คุณเมย์ก็ยังไม่ทราบเลยเป็นเหตุบังเอิญที่ทำให้คุณเมย์ไปเห็นรถคันนั้นเข้าพอดีในเมื่อวาน คือตรงนี้ผมพูดในฐานะที่ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ผมไม่ได้พูดเหมือนคนสู่รู้บางคนนะ คือผมพูดได้เพราะผมฟังมา คือไม่ใช่ไม่รู้อะไร คือพวกที่มีแต่หูไม่มีสมองแล้วออกมาพูดให้คนอื่นเสียหาย กับตรงนี้ถ้าใครที่รู้ตัวว่าหูหนาปัญญาอ่อนพูดให้คนอื่นเขาเสียหายก็ควรจะรับๆ ไปบ้างนะครับ"
"กับการที่ผมเอารถไปให้คุณเมย์ขับนั้นผมไม่ได้ถือวิสาสะอะไรนะครับ คือรถคันนี้เป็นรถของผมจริงๆ แต่ผมซื้อในชื่อของคุณเมย์ ผมไม่ได้ทิ้งแบบเรี่ยราดนะครับ ผมไม่ใช่คนร่ำรวยเหมือนที่ข่าวแซวๆ กัน ว่าผมชอบซื้อรถแจกหญิงคนละคัน ไม่ใช่แบบนั้นเลย อีกอย่างที่เขาออกมาบอกว่าเขายังเคยช่วยผมผ่อนนั้น เอาเป็นว่าไปหาหลักฐานมาดีกว่าว่าผ่อนตอนไหนแล้วค่อยมาคุยกันดีกว่า"
"แต่กับเรื่องที่เกิดขึ้นผมก็ยังไม่ได้เคลียร์กับเข็มทีนะ เพราะผมยังไม่ได้ไปเอารถกลับมาที คือตอนนี้ผมไม่รู้ว่ารถอยู่ที่ไหน รู้อย่างเดียวว่าที่มีการติดต่อมากับบุคคลอื่นบอกว่ารถคันนี้ไปจอดที่บ้านของเพื่อนเขาแล้ว คือมันมีคนที่ออกมาพูดทำให้จนกลายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้น อันนี้ผมขอประณามจริงๆ "
ต่อข้อถามที่ว่าก่อนหน้านี้เคยบอกกับสาวเมย์ว่าจะเอารถไปขายแล้วทำไมถึงเอารถไปให้เมย์ แบบนี้ก็แสดงว่าโกหกสาวเมย์เหรอ นักแสดงหนุ่มเผยว่า
"จะขายจริงๆ แต่ตอนนั้นมันเกิดความลังเลอยู่ว่าจะขายดีไหม เราก็เลยเลือกที่จะเอาไปจอดไว้ ส่วนกุญแจอที่อยู่ที่พักของเขาก็ต้องขอละไว้ในฐานที่เข้าใจนะ ในเรื่องนี้ผมไม่ได้โกรธคุณเข็มนะครับ แต่ผมโกรธคนที่ปล่อยมากกว่า คือพวกมือที่สี่นะ ไม่รู้ว่าทำแบบนี้เพื่ออะไร ผมอยากรู้คำตอบจริงๆ ทำเพื่อส้นตีนอะไรเหรอ คุณทำร้ายเพื่อนคุณเองคือคุณเข็ม คุณทำร้ายผู้หญิงสองคนที่คุณไม่รู้จักเลย คุณเป็นผู้ชายหรือป่าวนะ ผมฝากถามหน่อยแล้วกัน ผมอาจเป็นคนนิสัยไม่ดี เป็นคนเจ้าชู้ แต่ผมก็ยอมรับ แต่คุณทำอะไรอ่ะ ผมมีพยานนะ ผมไม่ได้เอ่ยชื่อว่าเป็นใครแต่ถ้าเขามางี่เง่าผมแบบนี้ผมฟ้องกลับแน่"
"กับเรื่องของรถคันนั้นตอนนี้ผมว่ามันคงไม่ต้องเคลียร์แล้วนะ คือมันเหลือแค่ว่าผมเดินไปเอารถกลับมาแค่นั้นก็จบแล้ว แต่ผมอาจจะไม่ได้ไปเอาเองนะ อาจให้คนอื่นไปเอาให้ อย่างที่บอกผมไม่ได้โกรธคุณเข็ม คุณเมย์กับคุณอั้มอาจจะพูดดีๆ แต่คุณเข็มอาจจะตกใจก็ขับรถออกมาเราไม่ได้กล่าวหาใครแต่ข่าวพลิกแค่นิดเดียวตรงที่บุคคลที่สี่ออกมาพูดก็ได้ คือพวกนี้ชอบฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับมากระเดียด พวกนี้เขารู้จักคำภาษาไทยคำนี้ไหมนะ"
"แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าบุคคลที่สี่ที่มาบอกว่าได้โทรปรึกษานายตำรวจคนหนึ่ง บอกว่ามีเหตุทะเลาะวิวาท โดนทำร้ายร่างกาย ผมบอกได้นิดนึงว่าคำพูดของคุณผมฟ้องได้นะ เพราะผมรู้สึกว่ามันก๋ากั่นเหลือเกิน อยากรู้จริงๆ ว่าเขาไม่ทราบกฎหมายหรืออย่างไร ไหนบอกว่าไปเรียนเมืองนอกเมืองนามา แต่กลับมาอยู่เมืองไทยแล้วอย่าโง่สิครับ ถ้าแน่จริงก็เอาหลักฐานมายืนยันแล้วกันดีกว่า นี่ผมท้านะครับ อย่าออกมาพูดพล่อยๆ ด้วย ทำให้เขาเสียหายแล้วเขาเป็นผู้หญิงด้วย คุณไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ คุณไม่ได้มีตาทิพย์ คุณฟังคนพูด คุณอย่าเพิ่งสรุปเหตุการณ์เองเลย"
ต่อข้อถามที่ว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ของนักแสดงหนุ่มกับสาวเข็มเป็นอย่างไร นักแสดงหนุ่มเปิดใจว่า
"สำหรับความสัมพันธ์ของผมกับคุณเข็มนั้น ผมบอกเลยว่ามันจบไปแล้วแน่นอน แต่ถ้ามีเรื่องที่จำเป็นต้องคุยกัน แต่ไม่ได้คุยกันในฐานะชู้สาวเดี๋ยวจะกลายเป็นว่าผมกลืนน้ำลายตัวเองอีก กับเรื่องนี้ผมกล้าพูดต่อหน้านักข่าวเลย คือเหตุแบบนี้มันไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย ผมไม่อยากจะให้มันมีข่าวขึ้นหน้าหนึ่งแบบนี้เลย ก่อนหน้านี้อย่างที่ผมเคยพูดไปแล้วว่าครั้งหนึ่งว่าผมกับคุณเมย์เราเคยมีปัญหากันแล้วและครั้งนั้นผมก็สามารถคุยกับคนอื่นได้ คุณเมย์สามรถคุยกับคนอื่นได้"
"แต่วันหนึ่งที่เราคิดว่าถ้าเราคุยกับคนอื่นไม่ได้จริงๆ แล้วเรากลับมาคบมันก็เป็นสิทธิ์ไม่ใช่เหรอ คือผมไม่ได้กลืนน้ำลายตัวเองนะ เพราะผมเคยพูดว่าวันนึงผมอาจจะกลับมาคบกับคุณเมย์ก็ได้ ตรงนี้ผมมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้ เพราะผมยังไม่ได้แต่งงาน โอเคผมอาจจะเป็นบุคคลสาธารณะ แต่ผมก็มีหัวใจเหมือนกัน"
กระซิบถามทิ้งท้ายว่าหากอีกฝ่ายคือทางสาว "เข็ม" จัดงานแถลงข่าวเหมือนแฟนสาวบ้างจะช่วยออกหน้าแบบนี้ด้วยหรือไม่ เรื่องนี้หนุ่มขุนแผนยืนยันว่าคงไม่ไปแน่นอน...