“กาละแมร์” ควง “พีเค” โต้เปล่าเปิดห้องนอนสวีทที่บางแสน แจงนอนห้องเดียวกันจริง แต่เป็นห้องใหญ่แถมมีแม่และน้าของฝ่ายชายไปด้วย ลั่นที่เดินทางไปเที่ยวด้วยกันเพราะฝ่ายหญิงรับงานพิธีกร จึงอยากหาเวลาอยู่ร่วมกัน ด้านพิธีกรฝีปากกล้าเชื่อข่าวก็คือข่าว มีเติมสีสันบ้างเป็นของธรรมดา
โดนสื่อรุมมากที่สุดทีเดียวสำหรับคู่รักช็อกโกแลต หรือฉายาที่เจ้าตัวตั้งเองอย่าง “หมูดำ” และ “หมาเน่า” ของพิธีกรฝีปากกล้า “กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ” และดีเจ “พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร” ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของพอนด์ส และซีรีส์โฆษณารักสุดโรแมนติก ณ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย สยามพารากอน วันนี้ (17) เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา เรียกว่าทันทีที่ฝ่ายชายให้สัมภาษณ์ถึงข่าวที่ว่าทั้งคู่ได้เปิดห้องสวีทร่วมกันที่บางแสน จนสาวกาละแมร์กลับออกมาพูดอีกอย่างหนึ่งซึ่งไม่ตรงกัน อีกทั้งโดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มแฟนคลับจวกเละ ถึงพฤติกรรมของทั้งคู่
วันนี้ทั้งคู่ควงกันมาชี้แจงข่าวนี้อีกครั้งอย่างยิ้มแย้ม โดยยอมรับว่าเปิดห้องใหญ่ห้องเดียวกันจริง แต่มีแม่และน้าของฝ่ายชายไปด้วย ซึ่งตนทั้งสองก็ใช้เวลานี้ไปเจอกันบ้าง ฝ่ายสาวแมร์ยืนยันครอบครัวเข้าใจข่าวเป็นอย่างดี เชื่อข่าวย่อมมีสีสันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา โดยพีเคเอ่ยปากแจงก่อนว่าไม่อยากพูดเรื่องนี้อีกเพราะคนตีความจนฝ่ายหญิงเสียหาย
พีเค : ยอมรับว่าไปกันจริงๆ แต่คือวันนั้นกาละแมร์ออกไปทำงาน แล้วผมก็ตามไป เพราะว่าเวลาที่เราเจอกันเนี่ยมันน้อย ผมก็อยากจะไปเจอเขา เราก็เลยคิดว่าเราก็เลยอยากจะไปพักผ่อนกันบ้าง ก็เลยถือโอกาสที่เขาไปทำงาน ไปเจอกันที่โน่น แต่กับเรื่องนี้ผมไม่อยากเล่าอะไรมาก เพราะเล่าไปนิดเดียวคนก็เอาไปตีความกันต่างๆนานา ทำให้ฝ่ายหญิงเขาเสียหมด จริงๆแล้วเรื่องของห้องพักที่บางแสนนั้น คือห้องมันติดกัน มันเป็นห้องใหญ่ คือแมร์เขาเป็นพิธีกรงานที่นั่น แล้วเขารู้ว่าเราไปกันหลายคน เขาก็เลยเลือกห้องใหญ่ให้ มันก็คือห้องเดียวกันนั่นแหละ แต่คือมันมีหลายห้องย่อย
กาละแมร์ : คือจริงๆ แล้วก็คือมีแม่แล้วก็น้าของพีเคไปด้วย เราไม่ได้ไปกันแค่ 2 คนนัดไปเที่ยวครั้งนี้ ก็อย่างที่พีเคบอกว่าเราไม่ได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน เพราะต่างคนก็ต่างงานเยอะ พอเวลาจะไปเที่ยวครั้งหนึ่งก็เลยพากันไปหมด เหมือนครอบคลุมทุกๆคน เอาเป็นว่าไปกันเป็นแบบว่าทูอินวันเลย เพราะว่าถ้าเราไปกันสองคน แมร์คิดว่ามันก็คงจะไม่มันสักเท่าไหร่
“กับข่าวที่ออกมาก็มีหลายคนถามนะว่ามันดูแรงนะ แต่สำหรับตัวแมร์แล้วไม่ได้แรงเสียเท่าไหร่ แมร์ก็คิดว่าข่าวทุกข่าวมันก็มีสีสัน คือแมร์เข้าใจว่าข่าวมันก์คือข่าว มันต้องมีการแต่งเติมสีสันกันอยู่แล้ว อีกอย่างหนึ่งก็คือว่ามันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร และมันก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกย่ำแย่อะไรด้วย มันเป็นเรื่องพอรับได้ แล้วเราก็เลยคิดว่าข่าวก็คือข่าว คือทุกอย่างคือเวลามีข่าวออกมาเราก็ต้องมีสติ”
“เราอยู่ในวงการนี้มา 10 ปีแล้ว พอมีอะไรเกิดขึ้นเราก็ต้องไม่หวั่นไหว แล้วก็ต้องพร้อมรับมือกับทุกๆอย่าง ที่จำได้ก็คือโดนข่าวมาหลายอย่างแล้ว ก็คงเหลืออีกอย่างเดียวก็คงเป็นเรื่องเสี่ยเลี้ยง แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีเสี่ยที่ไหนจะมาเลี้ยงสักที.. (หันไปแซวพีเค)”
พีเค : โอ๊ยยังไม่ได้เป็นเสี่ยหรอก คงสักพักแหละ ตอนนี้เลี้ยงตัวเองกันไปก่อนแล้วกัน ขาวก็ไม่ขาว อ้วนก็ไม่อ้วน แล้วจะเป็นเสี่ยได้ไง กับข่าวที่เกิดขึ้น ผมก็รู้สึกแย่นะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแฟนคลับเอย อะไรเอยข่าวมันออกมาไม่ดี ไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น แต่เราก็ได้คุยกันแล้ว และก็คิดว่ามันไม่น่าจะเป็นอะไร
กาละแมร์ : เราก็โตๆ กันแล้ว ไม่ต้องไปโวยวายอะไรขนาดนั้นหรอก คือจริงแล้วงานวันนั้นเราก็ยืนอยู่ด้วยกัน ก็ให้สัมภาษณ์ด้วยกัน แต่ทำไมไม่มีภาพคู่กันเลย ไม่คิดว่าข่าวจะออกมาได้ขนาดนี้ แต่อย่างไรแมร์ก็ยังเชื่อว่าข่าวก็คือข่าว ยังไงมันก็ต้องมีสีสันอยู่แล้ว แต่ว่าเวลามีอะไรเกิดขึ้นทุกครั้ง เราก็ต้องคุยกันอยู่แล้ว แต่ส่วนทางบ้านแมร์ เขาไม่ได้ว่าอะไร เขาก็เข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันเป็นอย่างไร