"ผมอยากรู้ว่าคนที่ปากตรงกับใจเนี่ยมันผิดเหรอ?..."
ประโยคคำถาม จากปากของ "เต๋า สมชาย เข็ดกลัด" ที่ดูเหมือนจะเป็นการท้าทายในความรู้สึกของใครที่ได้ฟัง แต่ด้วยแววตาที่จริงจังก็น่าคิดได้ว่าเจ้าตัวหมายความตามที่ว่าจริงๆ
จากข่าวคราวที่ผ่านทั้งกรณีการเลิกรากับภรรยา มีเรื่องทะเลาะวิวาทอยู่บ่อยครั้ง การพูดการจาที่ค่อนข้างจะแรงกระทั่งรับเอาฉายา "แบดบอย" ไปแล้ว ล่าสุดเจ้าตัวก็เพิ่มดีกรีความเข้มของตัวเองอีกครั้งหลังเป็นแขกรับเชิญในรายการ "ที่นี่หมอชิต" และบอกในทำนองที่ว่าอยากจะเตะหมอดู!
อะไรที่ทำให้เขารู้สึกไม่ชอบใจคนที่ประกอบอาชีพเหล่านี้ถึงขั้นอยากจะวางมือวางเท้า ต้องลองฟังรายละเอียดจากปากเจ้าตัว
“เรื่องที่ผมไปพูดในรายการที่นี่หมอชิต หลายคนอาจจะมองว่าเป็นคนที่แรง ผมก็ยอมรับว่าผมแรง แต่ผมเป็นคนแรงแบบมีขอบเขต ผมเป็นมนุษย์คนหนึ่ง เป็นคนที่มีชีวิตจิตใจ ผมเป็นคนพูดอะไรตรงๆ ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบก็บอกว่าไม่ชอบ คือถ้าให้ผมมาพูดเสแสร้งผมก็คงพูดไม่ได้หรอกนะ”
“ตรงนี้ถ้าใครรับไม่ได้ก็เว้นผมไว้ซักคนเถอะ คือจริงๆ แล้วถ้าเกิดมันไม่ถึงที่สุดถ้ามันไม่ถึงเส้นของผมที่ผมแบ่งเอาไว้ และไม่มีใครล้ำเส้นมา ผมก็จะไม่พูด แต่ถ้ามันขาดขึ้นมาผมก็ต้องพูด ก็มันไม่ใช่เรื่องของผมคนเดียว มันลุกลามไปถึงครอบครัวผม"
"บางอย่างที่คุณพูดออกไปมันทำให้ญาติพ่อแม่และพี่น้องผมเขากินไม่ได้นอนไม่หลับ ผมอยากรู้นักว่าถ้าเขาช็อกหัวใจวายตายไปเนี่ยใครจะมารับผิดชอบตรงนี้ ผมเชื่อได้เลยว่าไม่มีใครมารับผิดชอบหรอก ที่ผมออกมาพูดในรายการผมแค่ต้องการที่จะเรียกร้องสิทธิ์อะไรบางอย่าง"
"คือถ้าเกิดคุณหยุด ผมก็หยุด เวรระงับด้วยการไม่จองเวร”
บอกหลังออกรายการรู้สึกดีขึ้น อีกทั้งตนได้ปรึกษาดารารุ่นพี่อย่างอ๊อฟ พงพัฒน์ มาแล้วว่าจะจัดการอย่างไรกับหมอดูทั้งหลายที่ออกมาฟันธงดวงชาวบ้านทั้งที่ไม่เคยเดินเข้าหา
“ก็รู้สึกดีใจที่ผมได้พูดในสิ่งที่ผมอยากพูด บางอย่างถ้าเกิดไม่มีใครมาล้ำเส้นผมมาก ผมก็ไม่อยากที่จะพูด ผมไม่ได้อยู่ๆ ก็จะมาพูด ทุกอย่างผมคิดและไตร่ตรองมาแล้ว ที่ผมพูดเตือนใครไปนั้นผมไม่ได้คิดหรือถือสาใครนะ เอาเป็นว่าสิ่งที่ผ่านมาแล้ว ผมจะไม่จำไปยึดติดอะไรมัน ก็ขอแค่ว่าคุณอย่าทำอีกได้มั้ย อย่ามาทำนายอะไรผมอีกเลย ผมทำนายชีวิตผมเองได้”
"ถ้าคุณคิดว่าคุณทำนายผมได้ ผมว่าของผมง่ายกว่าของคุณ ของผมใช้ระยะเวลาสั้นเพียงแค่ 3 วินาทีสิ่งที่ผมทายก็จะเป็นจริงทันที แต่ถ้าเกิดเขายังทำนายออกมาอีกหลังจากที่ผมบอกเตือนเขาไปแล้ว ผมก็คงจะต้องหยุดเขาด้วยวิธีของผมเอง เราก็จะมีวิธีของพวกเรา ผมก็ต้องปรึกษาป๋า อ๊อฟ พงพัฒน์ ว่าเราควรจะทำอย่างไรกับบุคคลคนนี้”
แจงเป็นเรื่องของตนกับอีกฝ่ายไม่เกี่ยวกับสื่อฯ
“นี่แค่กรณีของผมคนเดียวนะ ไม่รวมกับเพื่อนดาราอีกหลายคนที่ผมไม่อยากจะพูด ผมแค่พูดในส่วนที่ผมควรจะพูดเท่านั้น ผมกำลังจะเรียกร้องสิทธิ์ของผมคืนเพราะเขาล้ำเส้นไปถึงครอบครัวผม ผมว่ามันดูเกินไปหน่อยแล้ว ผมอยากรู้จริงๆ ว่าใครจะรับผิดชอบในส่วนที่เกิดขึ้น"
"ผมไม่ได้เดินไปให้เขาดู แต่เขาเอาชื่อเอาแซ่ไปดูของเขาเอง อยากจะบอกเลยว่าเขาไม่มีสิทธิ์ ผมมีคนทำนายส่วนตัวของผม คุณไม่มีสิทธิ์ คือจริงๆ คนจะมีทุกข์ หรือมีสุข มันก็เกี่ยวกับตัวเราเอง ไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น อย่างนี้เขาเรียกว่าคุณกำลังหากินอยู่บนความทุกข์ของคนอื่น”
ยืนยันตนไม่ได้พูดด้วยความโมโห แต่ยอมรับว่าตัวเองคือตัวอันตรายที่หมอดูต้องระวัง
"ผมพูดด้วยเหตุผล คนเราจะเลิกไม่เลิกมันก็อยู่ที่หัวและก้อย พอเขาทายถูกแล้วก็รีบออกมาบอกว่าเขาถ่ายถูก แต่ทำไมทายผิดกลับเงียบหายไปเลย ผมก็ท้าไปแล้วนะว่าผมจะเจออะไรอีก ทายมาเลยซิ ก็เห็นเขาเงียบไม่ทำนายอีก"
"ผมเตือนคุณแล้วนะ อย่ามายุ่งกับผมเลย เพราะผมเป็นบุคคลอันตรายของคุณ อย่ามายุ่งกับผมอีกเลย แล้วถ้าเกิดเอาจริงขึ้นมา ผมไม่ได้มาคนเดียว ผมมาเป็นบริษัทภายใต้ชื่อแบดคอมพานี ของผมโดยมีพงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง เป็นเอ็มดี ตรงนี้ผมถามพี่อ๊อฟไว้แล้วนะว่าผมขอที่จะพูด"
"เขาก็บอกว่าพูดเลย พูดไห้เต็มที่ในเมื่อเราถูก และในเมื่อป๋าสั่งลุยผมก็ลุยเต็มที่เหมือนกัน แต่ทุกครั้งที่ผมพูดผมก็พูดอย่างมีเหตุผล ผมปรึกษาผู้ใหญ่หลายๆ ท่านมาแล้ว คือผมขอเถอะนะกับเรื่องตรงนี้มันไม่ใช่เรื่องของการทะเลาะวิวาทอะไร เพราะทุกอย่างมันเป็นเรื่องของเหตุและผล”
"ผมถือว่าตรงนี้คือการท้าทายนะ เพราะทุกครั้งที่เขาเอาเรื่องผมไปลงหน้าหนึ่งนั่นก็เป็นการท้าทายแล้ว อย่าคิดนะว่าผมไม่รู้ ผมรู้ทุกเรื่องแหละ แต่แค่ผมไม่ออกมาพูดเท่านั้นเอง”
ก่อนย้ำอีกครั้ง...ผมเตือนคุณแล้วนะ
“อย่าคิดว่าการที่เขาเห็นคนคนหนึ่งไม่สู้อย่านึกว่าเขากลัวนะ เขาไม่กลัวหรอกแต่เขาแค่ขี้เกียจ แค่ผมไม่อยากมีเรื่องเท่านั้นเอง แต่พอผมไม่พูดเขาก็กลับได้ใจอีกก็เลยต้องออกมาเตือนเขาสักหน่อยว่าผมบอกไปแล้วนะ และถ้ามันเกิดอะไรขึ้นมากับเขาอันนี้ก็ไม่รู้แล้วนะ แล้วผมบอกผ่านทุกคนแล้ว เตือนแล้ว"
"ถ้าเกิดทุกอย่างมันหยุดเรื่องทุกอย่างมันก็จะหายไปเองโดยปริยาย เรียกว่าอดีตเราอย่าไปมองเพราะผมไม่มีนิสัยเรื่องหยุมหยิมที่จะเอาเรื่องเก่ามาพูดอีก เราพยายามมองไปข้างหน้าดีกว่า แต่ว่าอนาคตพอเถอะครับกับเรื่องการทำนาย เอาเป็นว่าผมเตือนทุกอย่างไปหมดแล้ว”
ส่วนกรณีฉายาว่า “แบดบอย” นั้น พระเอกมาดเซอร์ชื่อดังบอกตนยินดีน้อมรับโดยบอกว่าน่ารักดี พร้อมแจงว่าถึงจะแบดบอยแต่ไม่เคยมีเรื่องกับใครสุ่มสี่สุ่มห้าหรือด่าแม่ใคร ก่อนคุยถึงความดีของตนเองขนาดแฟนคลับมาตามในเวลาเรียนยังไล่กลับ
“ฉายาที่เขาว่าผมแบดบอย ตรงนี้ผมชอบนะ วันนี้แฟนคลับยังทำเสื้อแบดบอยบายสมชายให้ผม ผมยังชอบเลย ผมก็ถือว่าเป็นความน่ารักและเป็นความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อกัน ผมคิดว่ามันคือกำลังใจให้ผม แค่นี้ผมเห็นก็นอนตายตาหลับแล้ว”
“ฉายานี้ถึงผมจะบอกว่าไม่เอาเขาก็ให้ผมอยู่ดี เมื่อถ้าปฏิเสธไปแล้วเขาก็ยังให้ก็เลยรับไว้ซะเลยดีกว่า แต่แบดบอยอย่างผมเนี่ย ผมมีหลักการนะ ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้าก็จะมีเรื่อง ผมไม่ใช่คนตีหัวหมาด่าแม่เจ๊ก ผมเป็นแบดบอยที่มีแนวทาง"
"ชีวิตผมผ่านอะไรมาเยอะ ทุกครั้งที่มีแฟนคลับมาตามตื๊ออะไรผม ผมไม่เคยรังเกียจใคร เพราะผมถือว่าทุกคนรักผม ขนาดน้องที่เป็นนักเรียนผมก็บอกว่าชอบได้แต่ต้องไปเรียน อย่ามาเสียเวลากับผมเลย ผมบอกตลอด คือถ้าว่างแล้วมาเจอไม่ว่าอะไรนะ”
"ผมไม่ต้องการแฟนคลับเยอะเหมือนคนอื่น ผมต้องการจำนวนน้อยที่มีคุณภาพ และกับฉายานี้มันก็ไม่มีผลกับงานของผมเลย เรื่องของงานนี่คือผมรับในส่วนที่ผมชอบและสิ่งที่ผมทำดี ผมไม่จำเป็นต้องรับในสิ่งที่คนอื่นให้มาทุกเรื่อง"
"ผมไม่จำเป็นต้องเล่นหนัง เล่นละครทุกวัน ทุกปี ปีนี้มี ปีหน้าไม่มีก็ได้ ไม่เห็นต้องเหมือนคนอื่น...”
งานนี้หมอดูทั้งหลายดูดวงตัวเองกันไว้บ้างก็ดี