“ชมพู” บอกเพลง “นางฟ้าคืนเดียว” ของ “วิด ไฮเปอร์” เนื้อหาผู้หญิงหลอกฟันผู้ชายแค่ขำๆ แต่ยอมรับอาจขาดความรอบคอบในเรื่องภาษา เจ้าตัวคุยองค์กรแคร์เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนส่วนใหญ่ และอยากให้เป็นกรณีศึกษาในเรื่องความรับผิดชอบต่อการทำงาน แต่สุดท้ายกลับบอกคนฟังจะตัดสินเองว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ
ยังคงเป็นข่าวที่มีให้เห็นออกมาอยู่เรื่อยๆ สำหรับกรณี “เนื้อหาเพลง” ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม/ไม่เหมาะสมในการนำเสนอ ล่าสุดก็เป็น “นางฟ้าคืนเดียว” โดย “วิด ไฮเปอร์” จากค่ายอาร์เอสฯ ซึ่งทางกระทรวงวัฒนธรรมได้ออกมาท้วงติงในเรื่องของเนื้อหาและการใช้ภาษาที่กำกวมในเจตนา อาทิ คำว่า อม, น้ำแตกฯ
ทั้งนี้ เจ้าของเนื้อเพลงอย่าง “บั๋ง-สุทธิพงษ์ สมบัติจินดา” นักแต่งเพลงชื่อดังเองก็ได้ออกมาชี้แจงถึงที่มาของเพลงไปแล้วว่า เกิดขึ้นมาจากการแต่งเล่นๆ เป็นเพลงที่ร้องกันเองในทีมงาน ไม่ได้คิดอะไร ทว่าทางนักร้องคนดังกล่าวถูกใจจึงได้ขอนำไปร้องบ้าง ซึ่งกับเสียงติติงที่มีเข้ามาตนยอมรับว่าเป็นบทเรียนที่สำคัญที่จะต้องคิดอะไรให้รอบคอบมากกว่านี้
ล่าสุด วันนี้(1) ทางด้าน “ชมพู สุทธิพงษ์ วัฒนจัง” หรือ “ชมพู ฟรุตตี้” ก็ได้เป็นตัวแทนของค่ายฯ ออกมาพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้งโดยบอกว่า จริงๆ แล้วเพลงนี้ไม่ได้อยู่ในแผนการโปรโมตแต่อย่างใด และทางค่ายก็มีความเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่งต่อกระแสวิจารณ์ต่างๆ
“ผมขอพูดแทนผู้แต่งนะครับ ผมได้คุยกับคุณบั๋งแล้วในเพลงนี้ พูดในมุมสนุกๆ ว่าผู้ชายคนหนึ่งเห็นความรักเป็นเรื่องสำคัญ แต่ไปพบกับผู้หญิงที่ไม่ได้จริงจังเลยเสียใจ แต่การบรรยายของเพลง อาจจะเห็นภาพหรืออารมณ์พาไปแบบขำๆ ไม่ได้มีเจตนาส่อไปในทางที่ไม่ดี คุณบั๋งก็บอกว่ามันเป็นบทเรียนที่สำคัญของเขา สำหรับการทำงานของผู้เขียน ก็จะจดจำไว้ในครั้งต่อไป ให้รอบคอบมากที่สุด”
“ในส่วนผลจากกระแส เกินความคาดหมาย ซึ่งในที่นี้เพลงนี้ไม่ได้อยู่ในแผนโปรโมต แต่ที่นำออกมาสู่สื่อ เพราะผมคิดว่ามันน่าจะมีอะไรน่าสนใจ แต่ก็แล้วแต่มุมมอง ความละเอียดอ่อของการนำเสนอศิลปะแขนงนี้ด้วย เราอาจจะมองว่ามันอาจไม่มีอะไรมากนัก แต่ถ้ากระแสสังคมที่เข้าอยู่ตอนนี้ เราก็มองว่ามีความรู้สึกเป็นห่วงเหมือนกัน”
รับเพราะกระแสตอบรับดีเลยตามน้ำทำมิวสิกวิดีโอออกมา แต่ถึงตรงเวลานี้เจ้าตัวยอมรับว่าคงจะต้องมีความเคลื่อนไหวที่ชัดเจนต่อเพลงๆ นี้...“พอมีกระแสมาเราก็นึกว่าเขาคงชอบกัน ก็เลยเอาออกมา ซึ่งเราทำเป็นเอ็มวีคาราโอเกะอยู่แล้ว”
“พอมีการรับรู้มากขึ้น เสียงส่วนใหญ่หรือกลุ่มเฝ้าระวังของภาครัฐมองไม่เหมาะสม ถึงตรงนี้เรามองว่า เราน่าจะมีความเคลื่อนไหวที่ชัดเจนกับเพลงนี้”
เชื่อไม่มีใครที่จะไม่ใส่ใจกับเรื่องในลักษณะนี้ ก่อนบอกในมุมมองของตนเองถือเป็นเรื่องที่ขำๆ มากกว่า...“ไม่มีใครหรอกครับที่ ไม่ใช่เราทำอะไรโดยไม่สนใจใครเลย แต่ว่าความผิดพลาดหรือโอกาสแบบนี้ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ในเมื่อเกิดขึ้นแล้ว เรามองในมุมของเรา ผมก็ยังบอกว่าขำอยู่ดี มันไม่ใช่ลองผิดลองถูก แต่เราคิดว่ามันถูก แบบนี้นำเสนอได้”
“เพราะมันเป็นเรื่องขำดีที่ผู้ชายถูกฟันแล้วทิ้ง เจตนาคือเอามัน คะนอง แล้วก็ยอมรับว่า เรามองในมุมของ”
ส่วนคำบางคำที่อาจจะฟังแล้วให้ความรู้สึก แรง อาทิ น้ำแตก เจ้าตัวบอกถือเป็นความละเลย...“ขอยอมรับว่าเป็นความละเลย เป็นอารมณ์สนุกๆ ถึงวันนี้ผมก็ขออภัยแทนคุณบั๋ง ซึ่งถ้าจริงๆ พูดถึงคุณบั๋งเขามีงานสร้างสรรค์แทบจะนับไม่ถ้วน คุณบั๋งก็ฝากผมมาขออภัยกับสังคมและสื่อมวลชนด้วย”
“ณ ตรงนี้อยากจะขอบอกว่า อยากจะขอความร่วมมือทุกสื่อช่วยกันแบนเพลงนี้เลย เพราะมุมมองส่วนใหญ่ของสังคมมองว่ามันไม่เป็นเรื่องน่าขำ เราก็คิดว่าน่าจะถูกแบนออกไป ไม่อยากให้เป็นกรณีที่คุยกันต่อไปยาว”
เตรียมส่งจดหมายถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจงในรายละเอียดต่างๆ และพร้อมที่จะแบนเพลงที่ว่า“เดี๋ยววันนี้จะมีจดหมายไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจงและก็ขอความร่วมมือที่จะแบนตรงนี้จริงๆ แต่ตอนนี้กระทรวงวัฒนฯ ก็ยังไม่มีหนังสือมาถึงเรานะครับ (แบนเพลงตัวเองเหมือนเป็นการโปรโมตทางอ้อม) ไม่ได้โปรโมตทางอ้อมครับ แบนแล้วไม่ซื้อได้ก็ดีครับ”
“พูดให้ชัดๆ ไปเลยเราต้องการให้ความร่วมมือกับสังคมและหน่วยงานภาครัฐจริงๆ ซึ่งเราก็อยากไม่ให้เพลงนี้ถูกเผยแพร่ออกไป”
บอกแม้จะเรียกเก็บซีดีคืนก็คงจะไม่มีผลอะไร ส่วนเรื่องคอนเสิร์ตคงจะเป็นเรื่องยากที่จะห้ามไม่ให้มีการเล่นเพลงนี้
“เรื่องนี้จะขอปรึกษากับคุณสุรชัย (เฮียฮ้อ) อีกที จริงๆ ผมคิดว่าการเก็บคืนน่าจะไม่มีผลอะไรเท่าไร เพราะ ณ วันนี้ที่เราไกด์ไลน์ให้ฟังแล้วเขาอาจจะฟังแล้วขำไปเลยก็ได้ การแบนของเราคือสื่อไม่นำเสนอต่อไปเพื่อไม่ให้มีกระแสหรือการพูดถึงหรือมาสนใจเพลงนี้อีก”
“คอนเสิร์ตอันนี้ยากนะที่จะไม่ให้วิดร้องเพลงนี้ เพราะเชื่อว่าคนที่ดูคอนเสิร์ตอยากฟัง คงจะไปห้ามไม่ได้มั้งครับ ที่นี่สังคมประชาธิปไตยนะครับ ถ้าเป็นการสื่อสารระหว่างกลุ่มที่มีวุฒิภาวะเพียงพอแล้วน่าจะปล่อยให้เป็นการตัดสินใจแต่ละกลุ่มนะครับ”
คุยไม่ถือว่าได้รับความเสียหายจากเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะไม่เกี่ยวข้องกัน ก่อนโยนเรื่องของเหมาะสมไม่เหมาะสมให้สังคมตัดสิน
“ในแง่ของธุรกิจเราไม่น่าจะได้รับความเสียหาย เพราะคนที่จะซื้ออัลบั้มของวิดเขาไม่ได้ซื้อเพราะเพลงนี้เพลงเดียว และคิดว่าที่อยู่ในแผงถึงวันนี้คนที่จะซื้อคงซื้อไปแล้ว คนที่ไม่ชอบหรือต่อต้านอยู่ตอนนี้ก็คงไม่มีผลอะไรที่จะทำให้เขาไปซื้ออยู่ดี”
“ถ้าเป็นไปได้นะครับเ พลงนี้ผมอยากจะให้เป็นกรณีศึกษาว่าวงการเพลงควรจะเป็นอย่างไรต่อไป ถ้าเห็นว่าเป็นสิ่งที่ก้ำกึ่งล่อแหลมผมพูดแทนองค์กรว่าคงจะแบนได้เลยครับ แต่ไม่ได้ไปสรุปว่าผู้ทำงานมีเจตนาที่ไม่ดีนะครับ ความหมายผมคือให้สังคมตัดสินแล้วกันว่าไม่สมควรดาวน์โหลดหรือไม่สมควรก็ควรทำเช่นนั้น”
.....
เพลง “นางฟ้าคืนเดียว”
ไม่รักแล้วมานอนกับฉันทำไม
ไม่รักแล้วเธอใยไม่ยอมขัดขืน
ไม่รักแล้วมาบอกเมื่อตอนฉันตื่น
ไม่รักแล้วเมื่อคืนเราเป็นอะไรกัน
ไม่รักแล้วทำไมให้ฉันทุกท่า
ไม่รักใยลีลาเร่าร้อนปานนั้น
ไม่รักแล้วมาห่มผ้าผืนเดียวกัน
ไม่รักแล้วมาอม...ใจฉันทำไม
* ไม่ใช่ผู้ชายข้างทาง สว่างก็จะชิ่งกัน
เจ็บปวดกับความสัมพันธ์ สำคัญแค่ตอนดับไฟ
ไม่ใช่ผู้ชายชั่วคราว จบข่าวก็จบเยื่อใย
หมดแม็กก็แยกกันไป มาฆ่าให้ตายเลยดีกว่า
** ไม่รักแล้วมานอนกับฉันทำไม
ไม่รักแล้วเธอใยไม่บอกกันหา
ปล่อยฉันให้น้ำแตกตรงนี้ที่ตา
บอบช้ำเพราะลีลานางฟ้าคืนเดียว
(ซ้ำ *, **, **)
บอบช้ำเพราะลีลานางฟ้าคืนเดียว