“ซ้อเจ็ด” รีเทิร์นโลกออนไลน์ เผยที่ผ่านมาถูกข่มขู่ถึงเอาชีวิตเลยต้องเก็บตัว คุยกลับมาครั้งนี้เพื่อชาติ ก่อนแจงรูปแบบการเขียนยังคงสไตล์ ลึก ดุ เด็ด เผ็ด มัน พร้อมขยายวงกว้างสู่สังคมการเมือง-ไฮโซ เจ้าตัวฝากบอกคนบันเทิงถ้าทำตัวดี ไม่สร้างภาพ ไม่เสพยา-มั่วผู้หญิง ก็ไม่เห็นจะต้องกลัวอะไร
สร้างชื่อเอาไว้ให้เป็นที่ฮือฮาในโลกออนไลน์เมื่อหลายปีที่ผ่านมา ก่อนจะเงียบหายไปในช่วงระยะเวลาที่ประเทศเกิดความผันผวนทางด้านการเมืองนานกว่า 1 ปี ล่าสุดคอลัมนิสต์ชื่อดัง “ซ้อ 7” เจ้าของคอลัมน์ “บีบสิว” อันลือลั่นที่มีชาวไซเบอร์ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ก็เตรียมจะกลับมาทำหน้าที่อีกครั้งหนึ่งแล้วที่ www.manager.co.th กับคอลัมน์เดิม แต่ชื่อใหม่ที่ยาวกว่า อย่าง “บีบสิวหัวช้าง”
ทั้งนี้ บันเทิงออนไลน์ได้รับการเปิดเผยจากคอลัมนิสต์ฝีปากจัดชนิดที่ดาราหลายคนต้องขยาดถึงการกลับมาในครั้งนี้ว่า...
“ก็เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคมนี้แล้ว ทำไมต้องวันจันทร์ อ่อ...ซ้อเป็นคนงมงายปีนี้วันจันทร์เป็นวันดีค่ะ เราควรคึกกันตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ก็เดี๋ยวเวลาที่ซ้อจะขึ้นก็รอซ้อตื่นก่อนนะคะ ซ้อเป็นคนตื่นสาย หลังจากไปมุดรูชาวบ้านมา”
“คือ เราหายไปนานน่ะ ตั้งแต่ซ้อโดนข่มขู่ จนเป็นเป้าหมายในการปิดเว็บไซต์ผู้จัดการ เป็นสาเหตุว่าทำให้คนอื่นเขาต้องเดือดร้อนไปด้วย ช่วงซ้อไม่อยู่เรื่องของคอลัมน์ประเภทซุบซิบก็มีมากขึ้น เราก็ได้บอกตัวเองว่าจะทำอย่างดีที่สุด ลึกที่สุด โหดที่สุด ส่วนจะโดนใจมั้ยก็แล้วแต่ผู้อ่านจะตัดสินเอา”
ขอใช้รูปแบบเดิมในการนำเสนอ แต่อาจจะขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้นให้เข้ากับสถานการณ์ ... “การกลับมาครั้งนี้ก็คงไม่แตกต่างไปจากเดิมมาก สันดานเราจะเป็นแบบนี้อยู่ จะให้ทำตัวเป็นนางเอกเหมือน ไก่ มีสุข เป็นนางเอกแบบนั้นตลอดเวลาซ้อคงทำไม่ไหว มีอะไรที่เป็นความจริงเราก็จะมาพูดกัน”
“คราวนี้ที่มาคุยกับทางบรรณาธิการเนี่ย การกลับมาครั้งนี้เขาอยากให้ซ้อขยายฐานออกไปในเรื่องของดาราและข่าวบันเทิง รวมไปถึงการเมือง อาชญากรรม เราจะขยายขอบเขตของเราออกไปอีก บีบสิวเฉยๆ ก็เลยกลายเป็นบีบสิวหัวช้างขึ้นมา บีบเปรี้ยงเดียวหนองทะลักกระเด็นใส่หน้าไปเลย”
พอกระซิบถามว่า ที่ผ่านมา ซ้อหายไปไหน เจ้าตัวตอบติดขำว่า หายไปทำงานเพื่อชาติ แล้วก็กลับมาทำเพื่อชาติอีกครั้ง... “ซ้อหายไปทำเพื่อชาติแล้วก็กลับมาเพื่อชาติอีก โดยมี ไก่-มีสุข แจ้งมีสุข เป็นแรงบันดาลใจ หลังจากเห็นไก่ มีสุข อ่านข่าวทุกๆ วัน สังคมนี้เราควรจะมีปัญญามากกว่านี้หรือไม่ ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ไก่ มีสุข ยังอยู่ได้ ยังได้รับโอกาส”
“ที่จริงอ่านข่าวผิดมันไม่ใช่เรื่องให้อภัยกันไม่ได้ค่ะ ซ้อก็เห็นใจเขา ก็ในเมื่อสังคมให้โอกาสคน เมื่อไก่ยังได้โอกาส ซ้อก็ควรได้โอกาสนี้เช่นกัน แต่ซ้อคงไม่มีวันพลาด ไม่เข้าใจว่าโคราช คือ นครศรีธรรมราช ซ้อคงไม่คิดว่าสารทจีน คือ สาทรจีนนะค่ะ”
กับความคาดหวังแห่งการกลับมาสู่แวดวงเมาท์แบบดุเดือดของซ้อ ซ้อ บอกว่า ไม่เคยคาดหวังอย่างอื่นนอกเสียจากเพิ่มสติปัญญาให้กับผู้อ่านเท่านั้น
“ที่จริงซ้อไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายนะ แค่มาเติมเต็มทางความรู้สึก ความรู้สึกใฝ่รู้ของคนที่ชอบอ่านข่าวบันเทิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอมมิวนิตี้ในสังคมที่มันเคยอยู่ในสังคม อยู่ในอินเทอร์เน็ตที่จะเอาเรื่องจริงมาพูด ไม่สามารถเอาเรื่องแบบนี้ไปป่าวประกาศได้อีกจุดหนึ่ง”
“ที่ผ่านมา พอซ้อไม่อยู่ คล้ายๆ กับว่าสังคมแบบนี้มันหายไปเยอะ สิ่งที่ซ้อหวังก็คือ กลับมาเจอกันใหม่ของเพื่อนเก่าทั้งหลาย มิตรรัก แฟนเพลงเก่าๆ คือ มันมีซ้อ 7 แล้วก็ควรจะมีลูกหลานซ้อที่อาจจะมีข้อมูลที่ดีกว่ามาแลกเปลี่ยนกัน ผ่านทางคอลัมน์นี้ได้”
“มันตอบไม่ได้นะว่าจะมีคนรอซ้อหรือเปล่า เพราะตอนที่หยุดไปเนี่ยคนที่เคยอ่านคอลัมน์เราเขาก็คงจะโตขึ้น ซ้อ มองว่า เราอยู่ในโลกที่เมืองไทยเนี่ย น้ำเน่ามันครองเมือง น้ำเน่ามันครองสื่อ แล้วคนก็ยังแฮปปี้ที่จะเสพเรื่องน้ำเน่า ซ้อเองก็ยิ่งเน่าโคตรๆ เพราะฉะนั้นซ้อคิดว่าทำไมเราจะอยู่ไม่ได้ ซ้อคิดว่าวงการที่เน่าแบบนี้ มันเหมาะกับซ้อแล้วนะค่ะ”
ก่อนที่จะอำลาไปซ้อเคยโดนขู่เอาชีวิต เคยแม้กระทั่งมีดาราร่วมกันลงขันอุ้มซ้อ แม้ว่าการกลับมาครั้งนี้จะสร้างความโกลาหลในแวดวงคาวๆ ของแวดวงการเมือง และบันเทิง แต่การกลับมาของซ้อครั้งนี้ ซ้อไม่มีอาการเกร็งและกลัวแต่อย่างใด บอกเพียงว่า ไม่หวังสร้างความสะเทือน แต่มุ่งหวังสร้างปัญญาให้สังคมที่มองดาราแต่ภาพที่สวยงาม
“ซ้อเอง มองว่า ไม่ใช่กลับมาให้วงการสั่นสะเทือนหรอกค่ะ แต่คนอ่านก็อาจจะทราบได้เหมือนกันว่ามายาภาพที่เรามองเห็น คนนั้นดีอย่างนี้ดี คนนั้นนางฟ้า คนนั้นนางเอก ซ้อจะทำให้เห็นว่าดาราตัวจริงๆ มันเป็นอย่างไร มันสกปรกแค่ไหน”
“ถ้าคนอยากรู้ว่าวันนี้มันจะมีแรงอะไรสักแค่ไหน ข้อมูลอย่างไร มาแลกเปลี่ยนกันค่ะ ไม่ได้คิดว่ามันจะสั่นสะเทือนมากขนาดนั้น แต่อย่างน้อยก็พอจะทำให้คนที่มีบางส่วนที่รับซ้อได้ มีความสุข แล้วก็ไม่อยู่อย่างมงายอีกต่อไป ปัญญาเป็นเรื่องสำคัญนะค่ะ ซ้อคิดว่าซ้อก็นำปัญญามาสู่สังคมอีกส่วนหนึ่ง”
“จริงๆ ไม่อยากบอกอะไรแล้วนะเนี่ย ..(หัวเราะ) เดี๋ยวรออ่านแล้วกัน อยากบอกว่าถ้าเราอยากให้สังคมนี้สะอาดเนี่ย คนๆ เดียวมันทำให้โลกนี้สะอาดไม่ได้ มันต้องช่วยกัน มันต้องช่วยกัน ใครที่มีอุดมการณ์เดียวกันก็มาช่วยกันปัดกวาด ให้ดาราหรือคนบันเทิงที่มีอิทธิพล”
“มันจะได้สำเหนียกเสียบ้างว่า ทุกๆ ครั้งที่พวกเอ็งทำอะไรกันเนี่ย สังคมมันมีผลกระทบด้วยกันทั้งสิ้น ค่านิยมที่พวกเอ็งกำลังใส่ให้สังคมเนี่ยมันเป็นค่านิยมที่บางครั้งก็ควรจะเลิกซะ คือ ถ้าคนที่เป็นคนดัง คนมีอิทธิพล ไม่ดี นำสังคมไปสู่ความอุบาทว์ สังคมก็จะอุดมไปด้วยกามารมณ์ แต่ถ้าไม่อยากให้เป็นแบบนั้นทำตัวดี ซ้อก็ตกงานแน่ๆ ซ้อก็จะไม่มีงานทำ ถ้าอยากให้ซ้อตกงาน และหยุดเขียนหนังสือ ก็ทำตัวเป็นคนดีกันหน่อยได้มั้ย”
“ซ้อไม่กลัวหรอกค่ะดารามาจ้างอุ้ม ถามกลับค่ะว่า ดาราพวกนั้นน่ากลัวเท่าทักษิณหรือเปล่าคะ คงไม่ใช่มั้ง ก็อีกนั่นแหละค่ะ คือ ถ้าพวกคุณทำตัวกันดีๆ ไม่ได้สร้างภาพอะไรมาก คุณก็ไม่ควรจะเดือดร้อนอะไร เพราะซ้อแค่อยากพูดถึงดาราที่มันสร้างภาพ ดาราที่มันโสมม ถ้าไม่โสมมจะเดือดร้อนมั้ย อย่าเพิ่งกินปูนร้อนท้องดีที่สุด ทำได้มั้ย”
“คือ ซ้อเนี่ยด้านทั้งหัวใจแล้วค่ะ และทุกๆ ส่วนของร่างกายก็อยากจะบอกน้องไว้นิดหนึ่งค่ะ ถ้าคิดที่จะทำอะไรเพื่อชาติเนี่ย เจ็บแต่บางทีก็ต้องกลืนเลือดค่ะ หวังว่าวันนึงเราจะสามารถนำพาแสงสว่าง มาสู่สังคมได้เหมือนกัน”
ก่อนจะทิ้งท้ายถึงเหล่าดาราทั้งหลายถึงข้อแนะนำในการปฏิบัติ เน้นอย่าทำตัวเสื่อมเสีย เข้าวัดเข้าวาเสริมปัญญาบ้างก็จะดี...“คือ ที่จริงแค่อย่าไปมั่วสุมอย่าเสพติดกันมากนักในที่สาธารณะ อย่าประพฤติผิดในกามมากนัก มันไม่ดี หัดเข้าวัดซะบ้าง และหัดหาหนังสือหนังหามาอ่านประกอบสติปัญญาบ้างก็จะดีค่ะ”
..........
พลาดไม่ได้ : รับฟังเสียงซ้อเจ็ดจ้อคอลัมน์ “บีบสิวหัวช้าง” ผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้ก่อนใครทางเบอร์ในเครือข่าย DTAC เพียงกด *7336 โทร.ออกแล้ว กด 2 (นาทีละ 4 บาท) ประเดิมวันแรก จันทร์ที่ 1 ตุลาคมนี้!!!
สร้างชื่อเอาไว้ให้เป็นที่ฮือฮาในโลกออนไลน์เมื่อหลายปีที่ผ่านมา ก่อนจะเงียบหายไปในช่วงระยะเวลาที่ประเทศเกิดความผันผวนทางด้านการเมืองนานกว่า 1 ปี ล่าสุดคอลัมนิสต์ชื่อดัง “ซ้อ 7” เจ้าของคอลัมน์ “บีบสิว” อันลือลั่นที่มีชาวไซเบอร์ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ก็เตรียมจะกลับมาทำหน้าที่อีกครั้งหนึ่งแล้วที่ www.manager.co.th กับคอลัมน์เดิม แต่ชื่อใหม่ที่ยาวกว่า อย่าง “บีบสิวหัวช้าง”
ทั้งนี้ บันเทิงออนไลน์ได้รับการเปิดเผยจากคอลัมนิสต์ฝีปากจัดชนิดที่ดาราหลายคนต้องขยาดถึงการกลับมาในครั้งนี้ว่า...
“ก็เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคมนี้แล้ว ทำไมต้องวันจันทร์ อ่อ...ซ้อเป็นคนงมงายปีนี้วันจันทร์เป็นวันดีค่ะ เราควรคึกกันตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ก็เดี๋ยวเวลาที่ซ้อจะขึ้นก็รอซ้อตื่นก่อนนะคะ ซ้อเป็นคนตื่นสาย หลังจากไปมุดรูชาวบ้านมา”
“คือ เราหายไปนานน่ะ ตั้งแต่ซ้อโดนข่มขู่ จนเป็นเป้าหมายในการปิดเว็บไซต์ผู้จัดการ เป็นสาเหตุว่าทำให้คนอื่นเขาต้องเดือดร้อนไปด้วย ช่วงซ้อไม่อยู่เรื่องของคอลัมน์ประเภทซุบซิบก็มีมากขึ้น เราก็ได้บอกตัวเองว่าจะทำอย่างดีที่สุด ลึกที่สุด โหดที่สุด ส่วนจะโดนใจมั้ยก็แล้วแต่ผู้อ่านจะตัดสินเอา”
ขอใช้รูปแบบเดิมในการนำเสนอ แต่อาจจะขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้นให้เข้ากับสถานการณ์ ... “การกลับมาครั้งนี้ก็คงไม่แตกต่างไปจากเดิมมาก สันดานเราจะเป็นแบบนี้อยู่ จะให้ทำตัวเป็นนางเอกเหมือน ไก่ มีสุข เป็นนางเอกแบบนั้นตลอดเวลาซ้อคงทำไม่ไหว มีอะไรที่เป็นความจริงเราก็จะมาพูดกัน”
“คราวนี้ที่มาคุยกับทางบรรณาธิการเนี่ย การกลับมาครั้งนี้เขาอยากให้ซ้อขยายฐานออกไปในเรื่องของดาราและข่าวบันเทิง รวมไปถึงการเมือง อาชญากรรม เราจะขยายขอบเขตของเราออกไปอีก บีบสิวเฉยๆ ก็เลยกลายเป็นบีบสิวหัวช้างขึ้นมา บีบเปรี้ยงเดียวหนองทะลักกระเด็นใส่หน้าไปเลย”
พอกระซิบถามว่า ที่ผ่านมา ซ้อหายไปไหน เจ้าตัวตอบติดขำว่า หายไปทำงานเพื่อชาติ แล้วก็กลับมาทำเพื่อชาติอีกครั้ง... “ซ้อหายไปทำเพื่อชาติแล้วก็กลับมาเพื่อชาติอีก โดยมี ไก่-มีสุข แจ้งมีสุข เป็นแรงบันดาลใจ หลังจากเห็นไก่ มีสุข อ่านข่าวทุกๆ วัน สังคมนี้เราควรจะมีปัญญามากกว่านี้หรือไม่ ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ไก่ มีสุข ยังอยู่ได้ ยังได้รับโอกาส”
“ที่จริงอ่านข่าวผิดมันไม่ใช่เรื่องให้อภัยกันไม่ได้ค่ะ ซ้อก็เห็นใจเขา ก็ในเมื่อสังคมให้โอกาสคน เมื่อไก่ยังได้โอกาส ซ้อก็ควรได้โอกาสนี้เช่นกัน แต่ซ้อคงไม่มีวันพลาด ไม่เข้าใจว่าโคราช คือ นครศรีธรรมราช ซ้อคงไม่คิดว่าสารทจีน คือ สาทรจีนนะค่ะ”
กับความคาดหวังแห่งการกลับมาสู่แวดวงเมาท์แบบดุเดือดของซ้อ ซ้อ บอกว่า ไม่เคยคาดหวังอย่างอื่นนอกเสียจากเพิ่มสติปัญญาให้กับผู้อ่านเท่านั้น
“ที่จริงซ้อไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายนะ แค่มาเติมเต็มทางความรู้สึก ความรู้สึกใฝ่รู้ของคนที่ชอบอ่านข่าวบันเทิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอมมิวนิตี้ในสังคมที่มันเคยอยู่ในสังคม อยู่ในอินเทอร์เน็ตที่จะเอาเรื่องจริงมาพูด ไม่สามารถเอาเรื่องแบบนี้ไปป่าวประกาศได้อีกจุดหนึ่ง”
“ที่ผ่านมา พอซ้อไม่อยู่ คล้ายๆ กับว่าสังคมแบบนี้มันหายไปเยอะ สิ่งที่ซ้อหวังก็คือ กลับมาเจอกันใหม่ของเพื่อนเก่าทั้งหลาย มิตรรัก แฟนเพลงเก่าๆ คือ มันมีซ้อ 7 แล้วก็ควรจะมีลูกหลานซ้อที่อาจจะมีข้อมูลที่ดีกว่ามาแลกเปลี่ยนกัน ผ่านทางคอลัมน์นี้ได้”
“มันตอบไม่ได้นะว่าจะมีคนรอซ้อหรือเปล่า เพราะตอนที่หยุดไปเนี่ยคนที่เคยอ่านคอลัมน์เราเขาก็คงจะโตขึ้น ซ้อ มองว่า เราอยู่ในโลกที่เมืองไทยเนี่ย น้ำเน่ามันครองเมือง น้ำเน่ามันครองสื่อ แล้วคนก็ยังแฮปปี้ที่จะเสพเรื่องน้ำเน่า ซ้อเองก็ยิ่งเน่าโคตรๆ เพราะฉะนั้นซ้อคิดว่าทำไมเราจะอยู่ไม่ได้ ซ้อคิดว่าวงการที่เน่าแบบนี้ มันเหมาะกับซ้อแล้วนะค่ะ”
ก่อนที่จะอำลาไปซ้อเคยโดนขู่เอาชีวิต เคยแม้กระทั่งมีดาราร่วมกันลงขันอุ้มซ้อ แม้ว่าการกลับมาครั้งนี้จะสร้างความโกลาหลในแวดวงคาวๆ ของแวดวงการเมือง และบันเทิง แต่การกลับมาของซ้อครั้งนี้ ซ้อไม่มีอาการเกร็งและกลัวแต่อย่างใด บอกเพียงว่า ไม่หวังสร้างความสะเทือน แต่มุ่งหวังสร้างปัญญาให้สังคมที่มองดาราแต่ภาพที่สวยงาม
“ซ้อเอง มองว่า ไม่ใช่กลับมาให้วงการสั่นสะเทือนหรอกค่ะ แต่คนอ่านก็อาจจะทราบได้เหมือนกันว่ามายาภาพที่เรามองเห็น คนนั้นดีอย่างนี้ดี คนนั้นนางฟ้า คนนั้นนางเอก ซ้อจะทำให้เห็นว่าดาราตัวจริงๆ มันเป็นอย่างไร มันสกปรกแค่ไหน”
“ถ้าคนอยากรู้ว่าวันนี้มันจะมีแรงอะไรสักแค่ไหน ข้อมูลอย่างไร มาแลกเปลี่ยนกันค่ะ ไม่ได้คิดว่ามันจะสั่นสะเทือนมากขนาดนั้น แต่อย่างน้อยก็พอจะทำให้คนที่มีบางส่วนที่รับซ้อได้ มีความสุข แล้วก็ไม่อยู่อย่างมงายอีกต่อไป ปัญญาเป็นเรื่องสำคัญนะค่ะ ซ้อคิดว่าซ้อก็นำปัญญามาสู่สังคมอีกส่วนหนึ่ง”
“จริงๆ ไม่อยากบอกอะไรแล้วนะเนี่ย ..(หัวเราะ) เดี๋ยวรออ่านแล้วกัน อยากบอกว่าถ้าเราอยากให้สังคมนี้สะอาดเนี่ย คนๆ เดียวมันทำให้โลกนี้สะอาดไม่ได้ มันต้องช่วยกัน มันต้องช่วยกัน ใครที่มีอุดมการณ์เดียวกันก็มาช่วยกันปัดกวาด ให้ดาราหรือคนบันเทิงที่มีอิทธิพล”
“มันจะได้สำเหนียกเสียบ้างว่า ทุกๆ ครั้งที่พวกเอ็งทำอะไรกันเนี่ย สังคมมันมีผลกระทบด้วยกันทั้งสิ้น ค่านิยมที่พวกเอ็งกำลังใส่ให้สังคมเนี่ยมันเป็นค่านิยมที่บางครั้งก็ควรจะเลิกซะ คือ ถ้าคนที่เป็นคนดัง คนมีอิทธิพล ไม่ดี นำสังคมไปสู่ความอุบาทว์ สังคมก็จะอุดมไปด้วยกามารมณ์ แต่ถ้าไม่อยากให้เป็นแบบนั้นทำตัวดี ซ้อก็ตกงานแน่ๆ ซ้อก็จะไม่มีงานทำ ถ้าอยากให้ซ้อตกงาน และหยุดเขียนหนังสือ ก็ทำตัวเป็นคนดีกันหน่อยได้มั้ย”
“ซ้อไม่กลัวหรอกค่ะดารามาจ้างอุ้ม ถามกลับค่ะว่า ดาราพวกนั้นน่ากลัวเท่าทักษิณหรือเปล่าคะ คงไม่ใช่มั้ง ก็อีกนั่นแหละค่ะ คือ ถ้าพวกคุณทำตัวกันดีๆ ไม่ได้สร้างภาพอะไรมาก คุณก็ไม่ควรจะเดือดร้อนอะไร เพราะซ้อแค่อยากพูดถึงดาราที่มันสร้างภาพ ดาราที่มันโสมม ถ้าไม่โสมมจะเดือดร้อนมั้ย อย่าเพิ่งกินปูนร้อนท้องดีที่สุด ทำได้มั้ย”
“คือ ซ้อเนี่ยด้านทั้งหัวใจแล้วค่ะ และทุกๆ ส่วนของร่างกายก็อยากจะบอกน้องไว้นิดหนึ่งค่ะ ถ้าคิดที่จะทำอะไรเพื่อชาติเนี่ย เจ็บแต่บางทีก็ต้องกลืนเลือดค่ะ หวังว่าวันนึงเราจะสามารถนำพาแสงสว่าง มาสู่สังคมได้เหมือนกัน”
ก่อนจะทิ้งท้ายถึงเหล่าดาราทั้งหลายถึงข้อแนะนำในการปฏิบัติ เน้นอย่าทำตัวเสื่อมเสีย เข้าวัดเข้าวาเสริมปัญญาบ้างก็จะดี...“คือ ที่จริงแค่อย่าไปมั่วสุมอย่าเสพติดกันมากนักในที่สาธารณะ อย่าประพฤติผิดในกามมากนัก มันไม่ดี หัดเข้าวัดซะบ้าง และหัดหาหนังสือหนังหามาอ่านประกอบสติปัญญาบ้างก็จะดีค่ะ”
..........
พลาดไม่ได้ : รับฟังเสียงซ้อเจ็ดจ้อคอลัมน์ “บีบสิวหัวช้าง” ผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้ก่อนใครทางเบอร์ในเครือข่าย DTAC เพียงกด *7336 โทร.ออกแล้ว กด 2 (นาทีละ 4 บาท) ประเดิมวันแรก จันทร์ที่ 1 ตุลาคมนี้!!!