อึดอัด “แคท” ระบายกรณีถูกนักข่าวรวมตัวแบนไม่เสนอข่าว เผยรู้ตัวถึงกับปล่อยโฮ ยันไม่เคยเดินหนีสื่อ อ้างเกิดการเข้าใจผิด ครวญไม่ใช่ความผิดตัวเอง แต่ถูกลงโทษเหมือนโดนรังแก ก่อนบ่นท้อถึงขั้นอยากลาจากวงการหนีกลับอังกฤษ
ถูกกระแสนักข่าวรวมตัวแบนนักร้องเสียงดี “แคท แคทลียา อิงลิช” ในวันแถลงข่าวคอนเสิร์ตกับนักร้องหนุ่ม “มอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต์” ที่จะมีขึ้นเร็วๆ นี้ ด้วยสาเหตุที่เธอเกิดอาการอารมณ์ไม่ค่อยดี เบือนหน้า และชิ่งไม่ให้สัมภาษณ์ต่อนักข่าว ทำเอาเจ้าตัวถึงกับเกิดอาการงง พร้อมชี้แจงออกมาให้สัมภาษณ์แล้ว แต่ไม่มีใครสนใจ
“มาหาว่าแคทไม่ให้สัมภาษณ์ คือไม่รู้เรื่อง งงมาก แคทไม่มีเหตุจะไม่ให้สัมภาษณ์เลย แคทก็ลงมาแล้ว ก็รอด้วย ไม่มีใครมาสัมภาษณ์แคท แล้วแคทมีงานอีกสองงานต่อจากนั้นด้วย แล้วแคทยืนรอตรงนั้นนานไม่ได้ มีพี่เลี้ยงที่อยู่กับแคทบอกเราต้องรีบไปแล้ว เดี๋ยวไปงานไม่ทัน บอกงั้นเราไปกันดีกว่าก็เลยไป”
“เราไม่รู้เรื่องจนถึงพี่ๆ พีอาร์ที่แกรมมี่ เขาก็โทร.มาบอกแคทว่าแคทรู้มั้ยพี่ๆ นักข่าวเขาโกรธแคทมาก เขาหาว่าแคทหนีไม่ให้สัมภาษณ์ แล้วบอกไม่ให้สัมภาษณ์ เราบอกตอนไหนพี่ สงสัยตอนที่แคทไปซับหน้ามั้ง”
“เพราะวันนั้นอยู่กลางสยามฯ ร้อนมาก พี่มอสดูเหมือนตกสระว่ายน้ำมาอ่ะ เราบอกพี่มอสไปซับหน้ากันก่อนนะ อาจจะไม่ได้ยินแคทก็ว่าเออไม่เป็นไร เดี๋ยวแคทไปซับหน้าก่อนแล้วกัน เพราะว่าออกกล้องยังไงประชาชนเห็นมันก็ต้องดูดีนิดนึงนะ เหงื่อท่วมตัวมันก็ดูไม่งาม ซับหน้าไม่ถึง 2 นาทีก็ไปซับหน้าแล้วก็ออกมาใหม่แล้วก็มายืนรอก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
ลั่นไม่ใช่หน้าที่ของเธอที่ต้องคอยบอกนักข่าวว่าตนเองขอเวลาไปซับหน้าก่อน ยันหลังซับหน้าเสร็จกลับมาให้สัมภาษณ์ต่อทันที แต่ไม่มีนักข่าวสังกัดไหนสนใจที่จะสัมภาษณ์
“ไม่ใช่หน้าที่ของแคทที่ต้องมาสื่อสารกับพี่ๆ เพราะทางฝ่ายเวทีก็บอกแคทให้ไปหลังเวที แคทก็โอเค จริงๆ แล้วต้องมีฝ่ายอยู่ตรงนั้นที่เดินมาบอกพี่ว่าแคทไปซับหน้ารอแป๊บนึงนะ แต่อาจจะไม่มีใครบอกหรือสื่อสารกันผิดอะไรไม่ทราบ”
“แคทก็ไม่รู้เรื่อง แล้วแคทก็ยังลงมาเพื่อจะสัมภาษณ์ว่าแคทไม่รู้ว่าไม่มีใคร เหมือนกับว่าบอยคอตแคทไปเลยวันนั้น แคทก็ไปยืนเอ๋อว่าเมื่อไรพี่ๆ จะสัมภาษณ์แคทสักที เปิ่นๆ อยู่อย่างนั้น จนพี่ๆ บอกว่าแคทเราไปงานเถอะเดี๋ยวไปไม่ทัน”
โอดพอรู้ข่าวจากพีอาร์ว่าตนเองถูกบอยคอตแล้วถึงกับปล่อยโฮ บ่นท้อถึงขนาดอยากลาจากวงการกลับไปอยู่บ้านเกิดที่อังกฤษ ฟุ้งหากตนเองทำผิดพลาดเองจะยอมรับแต่โดยดี แต่กับเหตุการณ์นี้เกิดการผิดพลาดด้านการสื่อสารแล้วมาลงที่ตน ซึ่งเธอคิดว่าไม่แฟร์กับตัวเอง
“ทุกอย่างรวมกันหมด ทั้งเสียใจ ทั้งผิดหวัง ทั้งโกรธ มีความรู้สึกท้อไปเลย มีความรู้สึกว่าอยู่วงการมานานขนาดนี้แล้วพี่ๆ ก็ต้องรู้จักแคทอ่ะ แล้วทำไมแค่เหตุการณ์ที่เกิดการเข้าใจผิด แล้วไม่ได้เกิดจากตัวแคทด้วยแล้วมาแบนแคท”
“ถ้าแคทเป็นฝ่ายผิดแล้วแคททำตัวอย่างนั้นจริงๆ แล้วแคทหนีกลับไปเลยโดยที่บอกว่าพี่หนูไม่ให้สัมภาษณ์โอเคไม่ว่ากัน แต่ว่าวันนั้นเข้าใจผิดว่าแคทไปซับหน้าแล้วหาว่าแคทหนี ไม่รู้เรื่องแล้วก็มาแบนแคท”
“แคทโกรธที่ว่าเกิดการสื่อสารผิดหรือไม่มีการสื่อสารตรงนั้นแล้วมันไม่ใช่ความผิดของแคท ทำไม เพราะมันเกิดความผิดพลาดแคทรับเอง จากการที่คนอื่นผิดพลาดแล้วมาลงที่แคทก็ไม่แฟร์อะ พี่พีอาร์โทรมาบอกแล้วแคทก็ร้องไห้ไปลย บอกเฮ้ยแคทอย่าคิดมากสิ”
“แคทก็ว่าพี่หนูเหนื่อยแล้วอ่ะ พี่หนูอยากกลับบ้าน หนูอยากกลับอังกฤษแล้ว ท้อแคทมีความรู้สึกว่าทุกครั้งที่แคทมางานแคทก็กันเองกับพี่มาตลอด”
พอได้ระบายถึงเหตุการณ์ที่เธออ้างว่าเกิดการเข้าใจผิดไปแล้วนั้น เจ้าตัวก็ขอระบายถึงวันงานเปิดอัลบั้มของตัวเองที่โดนสื่อกล่าวหาว่าเธอหนีหน้านักข่าวอีกเป็นครั้งที่สองว่าไม่เป็นความจริง
“อีกเรื่องนึงที่ไม่ได้พูด วันแถลงข่าวเปิดอัลบั้ม อาจจะมาเกี่ยวโยงกับตรงนี้ หรือาจจะมีใครอยากเขียนหรือป่าวไม่รู้ ซึ่งขอบอกนะวันนั้นแคทอยู่ต่อจากพี่ๆ อีก 2 ชม.อันนั้นคือรีบกลับเหรอ ถามหน่อยแคทอยู่ที่นั่นเซ็นลายเซ็น เซ็นโปสเตอร์ให้แฟนๆ 2 ชม.และสัมภาษณ์หนังสือต่างๆ ด้วย แคทก็เลยงงว่าหนูรีบกลับตรงไหน”
ลั่นเหมือนถูกรังแก ซ้ำเติมไม่เลิก....“ขอร้องเหอะ อย่าทำอย่างนี้เพราะคนเข้าใจผิดในตัวแคท แคทเจอพี่ๆ นักข่าวทุกคน แคทก็รักเคารพพี่ แต่พอพี่มาทำอย่างนี้กับแคทรู้สึกแย่นะ รู้สึกเสียใจ เหมือนโดนรังแกอ่ะ ซ้ำเติมอีกเหรอ เหมือนอยากจะสร้างกระแสอีกอันนึงขึ้นมา ขอร้องเถอะอย่ารังแกหนูเลยนะ”
“แคทก็ทำตัวปกติเหมือนเดิม เพราะ 17 ปี แคทก็ไม่เคยทำตัวมีปัญหากับพี่ๆ นักข่าว เป็นการเข้าใจผิด ก็รู้สึกท้อเหมือนกัน รู้สึกเสียใจมาก”
“วันนั้นไม่ได้สัมภาษณ์เลย พอลงมาจากเวทีแคทก็ยืนอยู่ตรงนั้น เขาบอกแคทหายไปเลย แต่จริงๆ ไม่ใช่แคทไปซับหน้าแล้วกลับมาอีกทีแคทจะชักสีหน้าอะไรตอนไหน อยากรู้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเติมสีสันหรือป่าวแคทก็ไม่ทราบ ไม่รู้ทำไมเป็นอย่างนี้ เป็นเรื่องใหญ่เหลือเกิน ใจเย็นก่อนนะ แคทก็ยังเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนไป”
อีกทั้งยังโดนกระแสว่าเรื่องมากอีกกระทง เกี่ยวกับเรื่องนี้ นักร้องสาวเผยเป็นคนพูดตรงมากกว่า...“แคทก็ไม่รู้ว่าคำว่าเรื่องมากมาจากไหนเหมือนกัน แคทเป็นคนซีเรียสเรื่องหน้าที่การงานของแคท ทำงานทุกอย่างต้องเต็มที่ บางทีมีอะไรที่ไม่ใช่เอาอย่างนี้ดีกว่า จะเป็นการเรื่องมากหรือป่าวไม่ทราบแต่แคทพยายามเอางานออกมาให้ดีที่สุด และแคทเป็นคนพูดตรงมากไม่อย่างนั้นก็ไม่ได้งานเสียที พูดไปกันตรงๆ จบตรงนั้น”