xs
xsm
sm
md
lg

แฉ แฟน "อ๋อม" มีส่วนเหตุตัดเพื่อน "ตุ๊ยตุ่ย"ด้านนักแสดงสาวขู่ฟ้อง หากถูกใส่ร้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คนใกล้ชิด “ตุ๊ยตุ่ย” สับ “อ๋อม” พูดไม่จริงกรณีเรื่องความไม่ลงรอยในการทำธุรกิจ แจงทางนี้มีหลักฐานชัดเจนทุกอย่างและเตรียมแถลงข่าว 17 ก.ย. เผยเรื่องวุ่นๆ ที่เกิดขึ้นหนุ่ม "เอ อาทิตย์" มีส่วน ขณะที่นักแสดงสาวขู่ ใครพูดไม่จริงหรือใส่ร้ายระวังจะโดนฟ้อง พร้อมบอกจะไม่ชี้แจงอะไรอีกเหตุหวั่นเป็นเครื่องมือโฆษณาขายของให้อีกฝ่าย

กลายเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดไปซะแล้วสำหรับคู่เพื่อนซี้ อย่าง "อ๋อม-สกาวใจ พูนสวัสดิ์" กับ "ตุ๊ยตุ่ย-พุทธชาด พงษ์สุชาติ" หลังได้ลงขันทำธุรกิจนำเข้าเครื่องสำอางจากต่างประเทศ "แคทเธอลีน" ภายใต้ชื่อบริษัท "เออลีเน่" ก่อนที่ไม่นานนักฝ่ายแรกจะออกมาให้ข่าวในลักษณะทำนองที่ว่ามีปัญหาในเรื่องของผลประโยชน์จนต้องขอถอนหุ้นออกมา

พร้อมยังบอกด้วยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ตนเองเข็ดที่จะทำธุรกิจกับคนอื่น หากจะทำก็ทำคนเดียวหรือไม่ก็กับพ่อแม่เพราะทั้งสองคงไม่โกงลูกตนเองอยู่แล้ว

"เรื่องบริษัทตอนนี้มีชื่ออ๋อมเป็นหุ้นส่วนอยู่แล้ว คือเรื่องแบบนี้ใครทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจแหละค่ะ มันต้องใครที่โกหกสักคนหนึ่ง แต่อ๋อมอยากให้มันจบๆ ไป ขออโหสิกรรมให้ทั้งหมด ตัวอ๋อมเองไม่อยากพูดถึงมันแล้ว ไม่อยากพูดถึงมัน เพราะใครทำอะไรก็ต้องรู้อยู่ว่าทำอะไรลงไป มันต้องมีคนโกหกคนหนึ่ง แล้วอ๋อมก็คิดว่าเรื่องนี้มันจบไปแล้ว" เจ้าตัวเคยให่สัมภาษณ์ผ่านนิตยสารสยามดารา

ด้านสาวตุ๊ยตุ่ยเองก็ได้ชี้แจงเพียงสั้นๆ ว่าตนไม่อยากจะพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและยืนยันว่าตนไม่เคยโกหกเรื่องอะไร กระทั่งทำให้หลายคนสงสัยว่าตกลงแล้วเงื่อนงำที่แท้จริงคืออะไรกันแน่? ซึ่งล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวคนใกล้ชิดของสาวตุ๊ยตุ่ยเกี่ยวกับเรื่องราวที่เป็นข่าวขึ้นมา โดยเจ้าตัวเผยว่าแท้จริงแล้วเรื่องทั้งหมดหาใช่อย่างที่นักแสดงหญิงบอกไว้แต่อย่างไร

"งงจริงๆ ว่าข่าวมันออกมาแบบนี้ได้อย่างไร คือวันนี้พี่เห็นหลักฐานเกี่ยวกับการโอนเงินทุกอย่างหมดแล้ว ก็เลยรู้สึกแปลกใจว่าทำไมอ๋อมถึงออกมาพูดว่าโดนโกงทั้งๆ ที่หลักฐานทั้งหมดก็มี"

เผยนักแสดงหญิงไม่ได้เป็นหุ้นส่วนในบริษัทที่ว่านี้แต่อย่างใด หากมีสถานะเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์เท่านั้นและทุกครั้งที่มีการโชว์ตัวไม่ว่าจะในกรุงเทพหรือต่างจังหวัดก็ได้รับค่าว่าจ้างตลอด..."ที่ผ่านมาที่จำได้เขาได้รับไปแล้วประมาณ 1 ล้าน 2 แสนกว่าบาทนะ คือเงินนี้เขารับไปหมดแล้ว ส่วนเรื่องของหุ้นส่วนนั้นอ๋อมเขาไม่มีส่วนอะไรตรงนี้เลย อยากให้ทุกคนเข้าใจไว้ด้วย จริงๆ แล้วหุ้นส่วนนั้นมีแค่ตุ๊ยตุ่ยกับอลิส(อลิส สุไลมาน) ที่เป็นหลัก"

พร้อมบอกถึงเหตุผลที่สาวตุ๊ยตุ่ยไม่ออกมาชี้แจงเพราะรักเพื่อนมากๆ ก่อนเผยที่เป็นเรื่องขึ้นมาก็เพราะการเข้ามาของหนุ่ม "เอ อาทิตย์ จิตพาเพลิน" แฟนหนุ่มของสาวอ๋อมที่ก่อนหน้านี้เคยถูกมองในลักษณะที่ว่าเข้ามาเพื่อหวังเกาะนักแสดงหญิงมาแล้ว
"ตอนนั้นอ๋อมเขาเครียดมาก ก็เลยมานั่งร้องไห้กับเพื่อนสนิทที่ร่วมทำธุรกิจกันอย่างอลิส สุไลมาน ว่าอ๋อมเครียดมากเลยว่านักข่าวทำไมถึงมาหาว่าพี่เอมาเกาะอ๋อมกิน จนพี่อลิสเขาสงสาร เลยเซ็นชื่อเพื่อที่จะยกกิจการเกี่ยวกับอีเวนต์ให้กับเอครึ่งหนึ่ง เพราะความที่ไว้เนื้อเชื่อใจและเห็นว่าเป็นเพื่อนกันมานานคงจะไม่โกงแน่ แถมยังให้เงินปันผลทุกเดือนด้วย"

"แต่การที่ให้หุ้นส่วนไปแล้วยังไม่จบแค่นั้นนะ มันยังมีเรื่องที่มากไปกว่านั้นอีก คือการที่อลิสเขาให้หุ้นส่วนไปนั้นจริงๆ แล้วเขาต้องการแค่ว่าอยากที่จะให้อ๋อมสบายใจ เวลาที่จะไปให้สัมภาษณ์ที่ไหนก็สามารถที่จะบอกใครได้ว่าเอเขามีธุรกิจนะและไม่ได้มาเกาะอ๋อมอย่างที่เป็นข่าว และอีกอย่างหนึ่งก็ไม่อยากที่จะให้ภาพลักษณ์ของอ๋อมเสียด้วยเพราะเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์เขาด้วย"

"แต่แล้วพอทำงานไปได้สักพักหนึ่งกับเกิดเรื่องขึ้นอีกว่าเอเขาโกงเงินบริษัทอีเวนต์นี้อีก ก็เลยมีปัญหากันทำให้เรื่องมันแดงขึ้นมาหมด"

"จริงๆ กับเรื่องข่าวที่อ๋อมออกมาพูดนั้น พี่ก็ไม่เข้าใจเลยว่าเขาจะทำไปเพื่ออะไร กับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ตุ่ยเขาเสียใจมาก แต่ตอนนี้ทางบริษัทได้ยกเลิกสัญญาว่าจ้างอ๋อมเป็นพรีเซ็นเตอร์ไปแล้ว และกำลังหาคนใหม่อยู่" แหล่งข่าวคนเดิมเผย ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวบันเทิงออนไลน์ ได้ติดต่อสอบถามไปยังนักแสดงสาว "ตุ๊ยตุ่ย-พุทธชาด พงษ์สุชาติ" เพื่อจะขอสอบถามในรายละเอียดของเรื่องดังกล่าว แต่ก็ได้รับการปฏิเสธว่ายังไม่พร้อม โดยที่เจ้าตัวบอกว่าจะขอแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 17 กันยายนนี้ ที่ร้าน "หนึ่งมิตร" ย่าย ม.หอการค้าไทย

ขณะที่ในส่วนของสาวอ๋อมเองภายหลังจากรับทราบถึงเรื่องที่ว่านี้เจ้าตัวได้เปิดเผยว่า ตนอยากให้เรื่องนี้ผ่านไปและไม่อยากจะพูดถึงอีกเพราะที่ผ่านมาได้พูดไปหมดแล้ว..."ถ้าจะมาให้พูดอีกครั้งมันก็เหมือนเป็นการที่เราไปโฆษณาให้เขาอีกอ๋อมว่ามันคงไม่ดีนะ อีกทั้งมันยังไม่จบไม่สิ้นเสียที แถมถ้าพูดต่อไปเรื่อยๆ เขาก็จะยิ่งได้ผลประโยชน์จากเราไปอีก ก็เลยเลือกที่จะไม่พูดดีกว่า เพราะที่ผ่านมาพอพูดไปมันก็ยิ่งทำใหความรู้สึกเรายิ่งแย่ลงไปอีก"

"ส่วนตุ่ยนั้นเราก็ไม่ได้คุยกันแล้วและไม่รู้จะคุยอะไรด้วย เพราะสถานภาพตอนนี้ของเราก็บอกได้คำเดียวว่าเราไม่น่าที่จะมาเจอกันเลยและมาร่วมธุรกิจอะไรแบบนี้เลย คือความรู้สึกตอนนี้มันแย่มาก แต่ส่วนตัวแล้วอ๋อมก็ไม่ได้ที่อยากจะมีปัญหาอะไรนะ แต่อยากบอกว่าคนที่เขาทำอะไรไว้เขาน่าจะรู้อยู่แกใจ"

"อ๋อมไม่อยากที่จะพูดถึงเพราะมันจะเหมือนเป็นการที่เราไปโฆษณาให้เขาอีก มันไม่จบไม่สิ้น ต่างคนต่างทำงานที่ตัวเองรับผิดชอบกันดีกว่า คือใครทำอะไรเวรกรรมมันตามทันอยู่แล้วและอ๋อมก็เชื่อว่าคนทำดีต้องได้ดีอยู่แล้ว"

เผยที่ผ่านมาโดนเอาเปรียบมามากจริงๆ ถึงทำให้รู้สึกเช่นนี้
"แต่เราก็ไม่อยากพูดที่จะพูดอะไรมากว่ามันเป็นมูลค่าเท่าไหร่ แต่ก็เยอะนะและมีมูลค่ามากด้วย คือยิ่งพูดมากมันก็ยิ่งมากเรื่องและเดี๋ยวเขาก็ต้องออกมาโฆษณาตัวเองอีก และเดี๋ยวก็ออกมาใส่ร้ายอ๋อมอีก ความจริงอีกไม่นานมันก็คงจะรู้เองว่ามันคืออะไร เพราะพูดไปครั้งที่แล้วกับครั้งนี้คนทั่วไปเขาก็รู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นอย่างไร เพราะที่ผ่านมาเราก็เป็นคนยอมถอยและเดินออกมาเอง"

ยันไม่ได้เสียดายผลประโยชน์ในเชิงธุรกิจหากแต่เสียเสียความรู้สึกมากกว่า พร้อมบอกได้บทเรียนในการทำงานกับเพื่อนเป็นอย่างดี ก่อนยืนยันคงไม่มีการฟ้องร้องแต่อย่างใด
"เราก็อยากที่จะให้เรื่องมันจบๆ ไปมากกว่า อีกอย่างหนึ่งเราก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทนั้นแล้วด้วย เพราะที่ตกลงกันไว้ก็คือในส่วนของรูปที่อ๋อมเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้นอ๋อมก็บอกเขาไว้แล้วว่าให้เอารูปอ๋อมออกก่อนวันที่ 5 ก.ย. ส่วนอนาคตนั้นเอาเป็นว่ายังตอบไม่ได้นะว่าจะเป็นอย่างไร"

ทั้งนี้กับประเด็นที่มีการระบุว่าเธอมีหน้าที่เป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์หาใช่หุ้นส่วนแต่อย่างใดนั้น เรื่องนี้นักแสดงสาวรีบตอบทันทีว่า...
"อ๋อมก็คงตอบไม่ถูกนะว่าจะพูดอย่างไร แต่เอาเป็นว่าสื่อมวลชนคนใดที่ได้ไปงานวันเปิดตัวนั้นก็คงจะรู้อยู่แล้วนะว่าจะเป็นอย่างไร เอาเทปเก่ากลับมาดูก็ได้นะว่าอ๋อมพูดว่าอย่างไร เรื่องนี้อ๋อมคงไม่พูดแล้ว แต่กับแหล่งข่าวนี้อ๋อมก็ไม่รู้ว่าเขาจะออกมาพูดเรื่องโกหกแบบนี้อีกทำไม เพราะใครรก็สามารถที่จะพูดอะไรได้"

"ตอนนี้อ๋อมไม่อยากที่จะมาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระแบบนี้แล้ว พูดไปมาจนไม่จบไม่สิ้นเสียที ไร้สาระสิ้นดี เรื่องความจริงเป็นอย่าางไรเอาเทปวันเปิดตัวออกมาดูกันดีกว่าทุกอย่างอยู่ในวันนั้นหมดแล้ว"

ก่อนจะออกอาการสุดฉุนหลังถูกวิพากษ์วิจารณ์พาดพิงถึงเรื่องแฟนหนุ่ม "เอ อาทิตย์" ลั่นหากใครพูดไม่จริงระวังจะถูกฟ้อง
"มันไม่ใช่เรื่องจริงอ๋อมมีสิทธิ์ที่จะฟ้องได้นะ อย่ามาพูดแบบนี้เลย เล่นมาทำให้อ๋อมเสียชื่อเสียงอ๋อมฟ้องนะ อ๋อมไม่ยอมหรอกแบบนี้ ส่วนเรื่องของการที่หาว่าเราโกงนั้นใครโกงอ่ะ กับเรื่องตรงนี้มันเป็นอย่างไรคนที่ออกมาให้ข่าวหรือเจ้าตัวคนที่ทำน่าจะรู้ดีนะ อย่ามาป้ายความผิดให้ใครเลย สุดท้ายรู้ดีอยู่แล้ว กับตัวเอเองเขาก็มีสิทธิ์ฟ้องได้นะ เพราะเขาอยู่ของเขาดีๆ มาพูดแบบนี้ได้ไง"

"ตอนนี้เอเขาก็เสียใจนะ คือเราสองคนถือว่าอโหสิกรรมให้ดีกว่าและเราก็โตกันหมดแล้วอย่ามาพูดจากันเป็นเด็กๆ เลยมันดูไร้สาระ แต่ละคนทำอะไรก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้ว ส่วนตัวอ๋อมก็บริสุทธิ์ใจพร้อมที่จะพิสูจน์ทุกอย่าง เราไม่ได้เป็นเหมือนที่เขากล่าวร้ายมาแน่นอน อ๋อมก็ไม่รู้นะว่าเขาจะพูดอะไรมาแรงแค่ไหน แต่ถ้าจะให้อ๋อมพูดแบบเขาอ๋อมก็พูดได้นะ แต่อ๋อมไม่พูดเพราะว่าในเมื่อเรามาพูดแบบนี้มันดูไร้สาระ คืออ๋อมทำแบบที่อ๋อมสบายใจดีกว่า"

"ส่วนข่าวที่บอกว่าเขาอาจจะออกมาฟ้องกลับอ๋อมนั้น เราก็อยากถามหน่อยว่าจะฟ้องเรื่องอะไร อ๋อมมีเรื่องอะไรให้เขาฟ้องอ่ะ เรื่องที่อ๋อมไม่ทำเหรอ หรือว่าอะไรบอกมาดิ และถ้าเขาอยากที่จะแถลงก็แถลงไปเลยนะ เชิญเลย คือเราบริสุทธิ์ใจอยู่แล้ว และก็ไม่เครียดด้วย เฉยๆ มากแล้ว"

"เรื่องทั้งหมดมันเป็นเรื่องของเรา เราไม่ทำก็เรื่องของเรา ฉะนั้นมันก็เป็นเรื่องเรา เราไม่ทำก็ตัวเรา เรื่องนี้มันเป็นเรื่องไร้สาระนะ เขาคงออกมาพูดเพื่ออยากดัง อยากให้ผลิตภัณฑ์เขาขายได้ด้วยมั้ง เหมือนเราเป็นเครื่องมือให้เขาดังอีก"

"อ๋อมเชื่อว่าใครที่ได้ติดตามผลงานหรือข่าวต่างๆ ของอ๋อมก็น่าจะรู้นะว่าเราเป็นอย่างไร และก็มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง อีกทั้งคนที่รู้จักอ๋อมเขาน่าจะเข้าใจว่าอ๋อมเป็นคนอย่างไร และต่อไปนี้อ๋อมก็คิดว่าคงจะไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้ว"
.....
"อ๋อม" เคลียร์ข่าวแตกคอ "ตุ๊ยตุ่ย"

“อ๋อม” เจอฟ้องกลับ! บริษัทเครื่องสำอางเรียก 180 ล้าน


กำลังโหลดความคิดเห็น