"สเตฟาน" สุดฉุนถูกด่ากินในที่ลับไขในที่แจ้งเหตุปากพาจนให้ข่าวว่าตนเปิดห้องนอนกับ "น้ำฝน" ที่ญี่ปุ่น ลั่นเป็นเรื่องธรรมชาติที่แฟนจะนอนห้องเดียวกัน บอกตนรู้อะไรผิดชอบชั่วดีแต่ที่กล้าพูดแบบนั้นเพราะไม่ชอบโกหก เจ้าตัวระบายเสียใจที่คนไทยจ้องแต่จะหาเรื่องด่าคนอื่นแต่ไม่ยอมรับความจริงของสังคมและนำไปปรับปรุงให้ดีขึ้น
ซวยเพราะปากอีกแล้วสำหรับพระเอกหนุ่มลูกครึ่ง "สเตฟาน สันติ วีระบุญชัย" ที่เผลอให้สัมภาษณ์ว่าไปเปิดโรงแรมนอนกับแฟนนางเอกสาว "น้ำฝน กุลณัฐ ปรียะวัฒน์" ที่เมืองปลาดิบจนโดนชาวเว็บรุมด่าว่าเป็นผู้ชายที่ไม่ให้เกียรติผู้หญิงเข้าข่าย "กินในที่ลับไขในที่แจ้ง"
เกี่ยวกับเรื่องนี้หนุ่มฟานจวกกลับว่า...
"ผมรู้สึกเฉยๆ ครับ คนเราไม่มีอะไรทำก็ไปว่าคนอื่น ผมไม่เคยไปว่าคนอื่นเลยนะทำไมผมจะต้องโดนว่าแบบนี้ด้วย เราไม่ได้ตั้งใจทำตัวอย่างที่ไม่ดีหรือเสื่อมเสีย คนที่มานั่งว่าคนอื่นแย่กว่าเรามันง่าย ผมไม่ชอบนิสัยแบบนี้น่ะ
"ก็ไม่แย่ครับที่โดนกระแสแบบนี้แต่ผมเสียใจแทนพวกเขาต่างหากน่ะครับ เวลาวันหนึ่งที่เราจะทำอะไรผมว่ายังไม่พอเลยนะ 24 ชั่วโมงน่ะผมทำงานอยากจะพักผ่อน เล่นเกมส์ อ่านหนังสือ คนที่เอาเวลามาเปลืองกับการยุ่งเรื่องคนอื่นเขาคงคิดว่าเขามีเวลาเยอะเกิน อีกอย่างผมเสียใจที่แทนที่เขาจะทำความเข้าใจให้ได้ง่ายๆ แต่กลับชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่"
เจ้าตัวบอกรู้ว่าวัฒนธรรมไทยถือเรื่องแบบนี้แต่ตนขอยืนยันว่าไม่ชอบพูดโกหก
"ผมรู้ว่ามันเป็นวัฒนธรรมไทยแต่พูดไว้เลยว่าถ้าคุณยังไม่ยอมรับความจริงว่าสังคมคุณเป็นอย่างไร คุณก็ไม่มีทางแก้ปัญหาได้ คุณคิดว่าสังคมวิดีโอ คลิปเป็นวัฒนธรรมไทยมั้ยก็ไม่ใช่ ผมเชื่อเลยคนที่เดินสยาม 100 คน 50% มีวิดีโอ คลิปผมไม่ได้ต้านแต่ผมแค่พูดตามความจริง"
"วันนี้ที่ผมพูดแบบนี้นักข่าวหรือคนดูอาจจะคิดว่าผมพูดอะไรไม่ดีออกไปผมก็เสียใจเพราะว่าผมแค่อยากจะเตือนคนว่าการที่เราจะแก้ปัญหาเราต้องรู้และยอมรับปัญหาก่อน คนที่ติดยาเสพติดเขาจะเลิกได้เขาต้องยอมรับก่อนว่าเขาติดยาเสพติด เราจะแก้ปัญหาสังคมเราได้เราต้องยอมรับก่อนว่าสังคมเรามีจุดไม่ดีตรงไหน ตอนผมอายุ 13-14 ผมไม่เคยจีบผู้หญิงเลยทำไมเดี๋ยวนี้เด็กอายุเท่านี้เดินจูบกันกลางถนน"
"จริงๆ ผมจะพูดไปก็ได้ครับว่าไม่ครับ ผมกับฝนนอนแยกห้องกันมันก็หมดเรื่องแล้ว เรื่องนี้ก็ไม่มีใครมาสัมภาษณ์ผมอีกใช่มั้ยครับแต่ผมกลืนน้ำลายตัวเองไม่ลงน่ะที่ผมต้องมาโกหกและผมคิดว่ามันไม่น่าที่จะโกหกด้วยซ้ำเพราะมันเป็นเรื่องธรรมชาติ ผมเชื่อเลยว่าจิตใจพวกพี่ๆ นักข่าวก็คิดว่าเป็นเรื่องธรรมชาติเหมือนกัน มันไม่ได้ผิดคนเราโตแล้วรู้อยู่แล้วอะไรผิดอะไรถูก ถ้าในเน็ตว่าผมก็เสียใจที่คิดว่าสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เป็นสิ่งไม่ดีแทนที่จะแก้ปัญหาใหญ่ๆ"
แม้ว่าแฟนสาวจะให้สัมภาษณ์เชิงโวยนิดๆ ออกมาว่าหนุ่มฟานไปพูดเรื่องอะไรให้เธอต้องเสียหายอีกแต่เจ้าตัวยังย้ำเปล่าทำใครเสียหาย
"ฝนไม่มีพูดอะไรนะครับ เพราะว่าผมไม่ได้เป็นคนสร้างเรื่อง คนที่มามองผมไม่ดีก็คือคนสร้างเรื่อง ผมว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิดด้วยซ้ำคือประเทศเราไม่ยอมรับความจริงสักทีน่ะ วิดีโอคลิปมีเป็นล้านๆ คุณมาว่าผม 2 คนแต่คุณก็ไม่สามารถรักษามาตรฐานสังคมนี้ไว้ได้แทนที่จะมาว่านักแสดงเรื่องแบบนี้ ผมว่าเอาเวลาไปดูคนใกล้ๆ ตัวลูกหลานตัวเองดูเยาวชนไทยดีกว่า"
"เพราะผมเห็นมีข่าวตลอดว่ามีวิดีโอคลิปนู้นนี้ บางทีอายุ 12-13 ปีไม่ควรจะเป็นน่ะ แล้วมาโทษว่าเป็นเพราะนักแสดงเขามีอิทธิพลที่ไม่ดีมันเป็นไปไม่ได้น่ะ การแสดงก็มีสิ่งที่ดีและไม่ดีก่อนที่จะมองว่าคนอื่นไม่ดีเรามาดูตัวเองก่อนดีกว่า ผมไม่ชอบมองคนอื่นเป็นอย่างนู้นอย่างนี้เพราะว่าผมก็ยังมีบางจุดที่ไม่ดีแต่ผมก็พยายามแก้ปัญหาของตัวเองก่อนที่จะไปยุ่งเรื่องของคนอื่น"
ส่วนกรณีที่ดูเหมือนสเตฟานจะไม่ให้เกียรติแฟนสาวที่พูดออกมาแบบนั้น หนุ่มฟานบอกร้อยทั้งร้อยคนเป็นแฟนกันหากไปเที่ยวญี่ปุ่นต้องนอนร่วมห้องเดียวกัน
"เรื่องไม่ให้เกียรติก็ไม่ใช่หรอกครับ เป็นเรื่องธรรมดาน่ะเรา 2 คนเวลาจะทำอะไรก็ปรึกษากันทุกครั้ง พ่อแม่ผมหรือพ่อแม่ฝนก็รู้ว่าไปเที่ยวญี่ปุ่นคือ จะให้ผมบอกว่าเราแยกห้องกันก็ได้ใช่มั้ยแต่คนมันเป็นแฟนกันน่ะเราไม่ได้ทำอะไรน่าเกลียด เราแค่ไปเที่ยวต่างประเทศเราไม่มีสิทธิ์จะอยู่ห้องเดียวกันเหรอ ผมจะเปิด 2 ห้องก็ได้นะครับคนที่มาว่าผมก็เอา 40,000 บาทมาให้ผม ผมยินดีเปิดให้เลย"
"เราไปญี่ปุ่นเราไม่ได้ไปอยู่เตียง เราไม่ได้นอนกันแล้วคืออย่างนั้นน่ะแต่ห้องที่เราเช่าเป็นห้องแบบญี่ปุ่นสมัยก่อนที่ปูเสื่อ ห้องหนึ่งขนาด 2 คนก็ประมาณ 20,000 กว่า ผมรับประกันได้เลยว่าถ้าไปเที่ยวญี่ปุ่นถ้าเป็นแฟนกันแล้วแยกห้องกันอยู่ ไม่มีน่ะ 40,000 น่ะทำงานไม่ได้หาเงินได้ง่ายๆ นะ"
เมื่อเกิดกระแสในเชิงลบขนาดนี้อีกทั้งที่ผ่านมาหนุ่มฟานก็เคยพูดออกมาแบบไม่ทันคิดจนมีปัญหากับนางเอกสาว "อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ" เกิดอาการไม่พอใจถึงขนาดจะถอนตัวจากละครที่รับเล่นด้วยกันมาแล้ว จึงมีคำถามตามมาว่าต่อไปนี้พระเอกหนุ่มจะระวังคำพูดหรือไม่เพราะบางเรื่องก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรพูดจริงๆ
"ก็คิดอยู่ครับ ผมก็ไม่อยากจะหาปัญหาให้ตัวเอง ผมถือว่าผมมาเล่นละครก็ถือเป็นงานของผมแล้วผมไม่อยากทำอะไรที่มันเสียงานแต่ว่าถ้าผมระวังคำพูดขึ้นมั้ยก็ระวังนะแต่ผมเชื่อว่าการที่ผมพูดอะไรออกมาจะเลือกคำพูดที่มันดีๆน่ะครับ"
"ผมจะไม่พูดอะไรที่ไม่ได้อยู่ในใจผม ผมไม่เชื่อว่าการพูดโกหกแล้วดีผมไม่อยากจะเป็นแบบว่าสัมภาษณ์นักแสดง 10 คนผมก็เห็นเขาพูดเหมือนกันทุกคน คำพูดแบบนี้ผมทำไม่ได้น่ะ ผมไม่ชอบโกหกเราควรพูดอะไรที่มันจริงบ้าง รับไม่ได้น่ะที่คนพูดเฟกๆ"
"ก่อนหน้านี้มีกรณีของอั้มผมมองว่าคำพูดที่ออกไปทุกคำเนี่ยความหมายมันอยู่ที่น้ำเสียงแต่ว่าถ้าเราเขียนออกมาปั๊บความหมายมันจะไม่รู้ไงคนอ่านน่ะ อาจจะเป็นการประชดหรือว่าก็ได้ ชมก็ได้ พูดเล่นก็ได้น่ะครับ..."