เอเอฟ วีก 9 “ตี๋ V12” คะแนนสูงแต่ร่วง เจ้าตัวรับทำไม่ดีเมื่อเทียบกับเพื่อนคนอื่น บอกต้องออกจากบ้านไปก็ไม่เสียดาย ถือว่าทำเต็มที่แล้ว เผยเสียดายที่ไม่ได้อยู่ในบ้านกับเพื่อนต่อ แต่ดีใจที่ได้ออกมาเจอครอบครัว พร้อมขอบคุณแฟนคลับบอกไม่เคยรู้จักแต่อุตส่าห์มาเชียร์ ส่วนสัมพันธ์ “พะแพง” ย้ำแค่เพื่อนไม่ได้คิดเกินเลย ยันอยู่ในบ้านคุยกับทุกคน ไม่ได้เลือกคบใคร ลั่นทุกอย่างในบ้านเป็นตัวตนจริงไม่ได้เสแสร้งเหมือนใคร เชื่อที่ต้องออกจากบ้านไม่เกี่ยวสัมพันธ์เพื่อนสาวคนสนิทแน่นอน
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับคอนเสิร์ต “ทรูอะคาเดมี่ แฟนเทเชีย ซีซัน 4” ในวีกที่ 9 ซึ่งในค่ำคืนของวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี โจทย์เพลงในคอนเสิร์ตวีกนี้บรรดาเหล่านักล่าฝันทั้ง 6 คน ต่างต้องใช้ฝีไม้ลายมือและต้องงัดกลเม็ดทีเด็ดออกมาแข่งขันกันเต็มที่กับโจทย์ธีมเพลง “เชียร์ (CHEER)”
โดยมีโจทย์เพลงดังนี้ ...
“V1 นัท” เพลง The Cup Of Life ของ Ricky Matin, “V3 พะแพง” เพลง Reach For The Star ของ Tata Young, “V8 มิวสิค” เพลง To Be Number One ของ Giorgio Moroder Project, “V9 ต้อล” เพลง จับมือกันไว้ ของ เบิร์ด ธงไชย, “V12 ตี๋” เพลง อ่อนซ้อม ของ สามารถ พยัคฆ์อรุณ, “V17 ลูกโป่ง” เพลง One Moment In Time ของ Whitney Houston,“V1 นัท-V3 พะแพง-V8 มิวสิค” เพลง Boom ของ Cheer “V9 ต้อล-V12 ตี๋-V17 ลูกโป่ง” เพลง Cheer ของ Bazoo “รวมนักล่าฝัน 1” เพลง The Final Countdown ของ Europe, “รวมนักล่าฝัน 2” เพลง We Will Rock You ของ Queen
โดยภาพรวมแล้วถือว่านักล่าฝันทุกคนทำออกมาได้ดี ทั้งเสียงร้องและลีลาการแสดงต่างๆ บนเวที เรียกว่า เกินคาดจริงๆ ทำให้สามารถเรียกเสียงกรี๊ดจากคนดูในธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่นักล่าฝันที่เรียกเสียงกรี๊ดจากคนดูในฮอลล์ได้มากที่สุด คงต้องยกให้หนุ่มหล่ออย่าง “V1 นัท” ที่มาในเพลง The Cup Of Life ของ Ricky Matin เรียกได้ว่างานนี้ทักษะการร้องและท่าเต้น ทำเอาได้รับเสียงกรี๊ดของสาวๆ แบบไม่ตกเลย เรียกได้ว่าเต้นกันแบบระดับมืออาชีพกันเลยทีเดียว ทำเอาแฟนคลับหลายคนที่รอฟังต่างกดโหวตให้กันแทบไม่ทัน
ส่วนทางด้านฝ่ายหญิงก็ต้องยกให้กับทั้งสองสาวที่เหลืออยู่ในบ้านอย่าง “V3 พะแพง” เพลง Reach For The Star ของ Tata Young และ “V17 ลูกโป่ง” เพลง One Moment In Time ของ Whitney Houston เรียกได้ว่า การแสดงบนเวทีของนักล่าฝันฝ่ายหญิงทั้งสองคนกับคอนเสิร์ตเมื่อวานนี้ พอแฟนคลับของสองสาวฟังเพลงจบก็รีบแข่งกันกดโหวตกันแบบกระจายเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะเชือดเฉือนกันด้วยที่เสียงร้องอันทรงพลังแล้ว ยังรวมไปถึงการแสดงบนเวทีที่ดูแล้วมีสง่าราศีของการเป็นนักร้องมืออาชีพในอนาคตอย่างเด่นชัด
หลังจากเพลงโจทย์ของนักล่าฝันทั้ง 6 คนเสร็จสิ้นลง ก็ถึงเวลาของเพลงรวมอย่าง “V1 นัท-V3 พะแพง-V8 มิวสิค” เพลง Boom ของ Cheer “V9 ต้อล-V12 ตี๋-V17 ลูกโป่ง” เพลง Cheer ของ Bazoo๐ เรียกได้ว่า เหล่านักล่าฝันออกลีลาการเต้นกันแบบกระจายทำเอานักร้องต้นฉบับที่ได้เข้ามาร่วมชมอยู่ในธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ถึงกับออกอาการชอบอกชอบใจปรบมือเชียร์กันอย่างเต็มที่ เรียกได้ว่า นักล่าฝันแต่ละคนทำออกมาได้อย่างเต็มที่และเกินความคาดหมาย
แต่แล้วเมื่อสิ้นเสียงปิดโหวต กติกาก็ต้องเป็นกติกา เมื่อพิธีกร “ต้อย เศรษฐา” ประกาศรายชื่อผู้ที่มีผลโหวตน้อยที่สุดออกมายืนด้านหน้า 3 คน ได้แก่ 3 หนุ่มที่หลายคนไม่คาดคิดอย่าง “V8 มิวสิค-V9 ต้อล-V12 ตี๋” ทำเอาเหล่าบรรดาแฟนคลับของสามหนุ่มนักล่าฝันต่างพากันร่วมลุ้นกันแบบนั่งไม่ติดเลยทีเดียว
เพราะต่างพากันลุ้นว่าหนึ่งในสามหนุ่มคนที่ออกมายืนด้านหน้านั้นใครจะต้องออกไปจากบ้านในค่ำคืนนี้ เพราะทุกคนต่างคาดเดากันไม่ถูกเลย เนื่องจากคะแนนโหวตกลางสัปดาห์ของนักล่าฝันทั้งสามคนมีคะแนนโหวตที่ค่อนข้างจะสูงแถมยังมีกลุ่มแฟนคลับที่ยังเหนียวแน่นอีก
แต่แล้วเมื่อพิธีกรบอกว่าผู้เข้าแข่งขันที่จะต้องออกจากบ้านไปในวันนี้ ก็คือ หนุ่มหน้าทะเล้น “V12 ตี๋” ทำให้บรรดาแฟนคลับที่ต่างเข้ามาร่วมเชียร์ต่างออกอาการเสียใจ และบางคนก็ตะโกนเพื่อเอาใจช่วยและเป็นกำลังใจให้หนุ่มตี๋กันอย่างสนั่นหวั่นไหวไปทั้งฮอล์ล
อีกทั้งยังมีแฟนคลับบางส่วนถึงกับกอดคอกันร้องไห้ออกมาอย่างสุดซึ้งที่เหล่านักล่าฝันที่ตนเองรักต้องออกจากบ้าน แต่แล้วเหล่านักล่าฝันที่เหลือที่จะต้องออกจากบ้านไปในสัปดาห์หน้าจะถึงคิวของใครต้องรอดูกันต่อไป
แต่หลังจากคอนเสิรต์จบลง “ตี๋-วิวิศน์ บวรกีรติขจร (V12)” ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกหลังจากที่ต้องออกจากการแข่งขันว่า...
“สำหรับคอนเสิร์ตในวีกนี้ ที่ผมต้องออกจากบ้านไปก่อน อยากบอกว่าผมไม่เสียใจเลย เราถือว่าเราทำเต็มที่ที่สุดแล้ว ทำสุดความสามารถเราแล้ว แต่ด้วยวีดนี้ผมอาจจะร้องเพลงได้ออกมาไม่ดีสักเท่าไหร่ มันอาจจะมีเสียงเพี้ยนออกมาก็เลยทำให้ไม่ถูกใจใครหลายๆ คน”
“ผมก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรกับการประกวดในครั้งนี้นะ แต่ผมกับรู้สึกเสียดายมากกว่าที่ผมจะไม่มีโอกาสที่จะได้เรียนเต้น เรียนร้องเพลง เรียนการใช้ชีวิตอยู่กับคนหลายคนเป็นเวลานาน ผมยังอยากอยู่กับเพื่อนๆ ในบ้านต่อไปอีกนานเลย”
“กับการที่ผมต้องออกจากบ้านอาทิตย์นี้ผมยอมรับนะว่าผมทำได้ไม่ดีจริงๆ เมื่อเปรียบเทียบกับเพื่อนนักล่าฝันคนอื่นๆ ซึ่งเขาทำออกมาได้ดีมากจนผมยังคิดเลยว่าวันนี้เราทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อีกอย่างหนึ่งถ้าวันนี้เป็นเพื่อนคนอื่นที่จะต้องออกจากบ้านไปผมก็คงรู้สึกไม่ดีนะ เพราะเพื่อนๆ เขาทำได้ดีมาก”
“แต่กับวันนี้ที่ผมได้ออกมาแล้วก็ดีเหมือนกัน เพราะผมอยากที่จะเจอหน้าครอบครัวมานานแล้ว เพราะผมคิดถึง แต่วันนี้มีโอกาสได้เจอได้คุยกันแล้วก็ถือเป็นเรื่องที่ดีใจเหมือนกัน ในเรื่องที่เราออกจากบ้านวันนี้นั้น เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ แต่กลับชมอีกว่าไม่ต้องเสียใจ เพราะเราทำของเราเต็มที่แล้ว เต็มความสามารถของเราแล้วและเขาก็ชื่นในในตัวผมมากด้วย”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่ารู้สึกอย่างไรบ้างที่คอนเสิร์ตทุกครั้งจะมีกลุ่มแฟนคลับมาร่วมให้กำลังใจ “หนุ่มตี๋” อย่างเต็มฮอล์ลตลอด นักล่าฝันหนุ่มเปิดใจว่า
“ผมก็อยากที่จะบอกว่าขอบคุณแฟนคลับทุกคนเลยที่เป็นกำลังใจให้ผมและโหวตให้ผมมาตลอด กับคอนเสิร์ตที่ผ่านมาผมรู้สึกดีใจนะที่ทุกคนมาเชียร์ผมทุกอาทิตย์ ถึงแม้บางครั้งฝนตกก็ยังมีคนมาคอยเชียร์ผม ผมรู้สึกดีใจมากนะที่ได้รับการตอนรับเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าผมอาจจะไม่ได้เป็นคนดีอะไรมาก โดนด่าทุกอาทิตย์ แต่ทุกคนก็ยังเชียร์ผมอยู่”
“อีกอย่างหนึ่งก็คือ ทุกคนยอมเสียเงินโหวตให้ผม ทั้งๆ ที่เรายังไม่ได้รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ แต่ผมก้ต้องขอบคุณจริงๆ ผมรักทุกๆ คนนะ ผมปลื้มมากๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะมีคนรักขนาดนี้ ผมอยากบอกว่าขอโทษทุกคนด้วยที่ผมต้องทำให้ทุกคนผิดหวัง แต่ผมก็ทำเต็มที่สุดความสามารถแล้วนะครับ ก็อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้ผมและเพื่อนๆ ในบ้านแบบนี้ตลอดไปนะ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า หนุ่มตี๋คิดว่าการที่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านแล้วทำตัวสนิทกับเพื่อนสาวอย่าง “พะแพง” มากเกินไปทำให้ตนเองต้องออกจากบ้านหรือเปล่า หนุ่มจอมทะเล้นตอบทันทีว่า
“ในเรื่องราวของผมกับพะแพงนั้นมันไม่น่าจะเกี่ยวกันนะ เพราะเราก็เป็นเพื่อนกันทั้งนั้นไม่มีอะไรหรอก คือเรารู้จักกันมานานแล้วตั้งแต่ก่อนเข้าบ้านอีก คือเราอายุใกล้เคียงกันก็เลยอาจจะดูเหมือนสนิทกันมาก แต่จริงๆ แล้วผมก็ยังสนิทกับเพื่อนคนอื่นอีกนะ อย่างมิวสิกไงผมก็คุยกับเขาตลอด ไม่ใช่คุยกัยพระแพงคนเดียว”
“แต่ที่ผ่านมาตอนที่อยู่ในบ้านผมก็ไม่รู้นะว่ามันมีกระแสข่าวอะไรบ้างเกี่ยวกับผม คืออาจจะมีรู้ๆ บ้างในตอนที่เรามาขึ้นคอนเสิร์ตพอโดนแซวแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากหรอกก็ถือว่าเป็นเพื่อนกันจริงๆ”
“กับเรื่องทั้งหมดนี้ผมว่าอย่าคิดอะไรไปมากเลย เอาเป็นว่าเราเป็นเพื่อนกันจริงๆ เพราะในบ้านมันก็มีอยู่กันไม่กี่คน ถ้าจะให้ผมไปพูดอยู่กับมิวสิกอย่างเดียวเดี๋ยวก็โดนหาว่าเป็นคู่เกย์อีก คือในบ้านผมก็คุยทุกคนนะ แต่อาจจะสนิทกับพะแพงมากกว่าคนอื่นหน่อย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรจริงๆ”
“มันอาจจะมีตอนที่เราโดนทำโทษด้วยกันบ่อยๆ มีโอกาสได้คุยกันมากขึ้นคนก้อาจจะจับตามองเราตรงนั้นด้วย ผมก้เข้าใจนะว่าอยู่ในบ้านมันก็ต้องสนิมกันมากอยู่แล้ว เพราะมันเป็นคนจำนวนน้อย”
“สำหรับการใช้ชีวิตอยู่ในบ้านตลอดที่ผ่านมานั้น นี้แหละคือตัวผมทุกอย่างเลยไม่ได้มีการเสแสร้งเหมือนใครเลย ผมทำทุกอย่างเป็นปกติตลอดไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากเลย กับข่าวที่ออกมานั้นผมรู้สึกไม่ค่อยดีนะ เพราะเดี๋ยวทางพะแพงเขาจะเสียหายได้นะ เขาเป็นผู้หญิงด้วยมันจะดูไม่ดี ส่วนผมไม่เป็นไรหรอก เราเป็นผู้ชายมันไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว”
“แต่ผมขอยืนยันเลยนะว่าไม่มีอะไรจริงๆ ระหว่างผมกับพะแพง ส่วนการที่จะต้องโดนโหวตออกเพราะเรื่องนี้ผมก็ว่าไม่เกี่ยวกันเลย”