ไม่สนใจ "เต๋า" โพล่ง องค์กรไหนอยากแบนตนเล่นหนัง ระบุมาเลย ส่วนตนจะแบน ผกก.ไม่เล่นหนังให้เช่นกัน เหน็บ แม้ตัวไม่อยู่แต่ก็ถูกพูดถึงอยู่ตลอด ฟุ้ง เปล่าตกอับงานมีแต่ไม่รับเอง เผยคำพูดตรงๆ เป็นสันดาน ส่วนความสัมพันธ์กับอดีตภรรยา รับยังคิดถึงแต่ให้ได้แค่เพื่อน เหตุเพราะอยากใช้ชีวิตอิสระ
เรียกว่าตอนนี้คิดอยากจะเจอหน้าพระเอกหนุ่ม "เต๋า สมชาย เข็มกลัด" ก็ช่างยากเย็นแสนเข็ญเสียเหลือเกิน เพราะหลังจากที่เคยมาให้กำลังใจชมละครเวทีที่อดีตภรรยาคนสวย "นัท มีเรีย" แสดงไปเมื่อไม่นานมานี้ก็หายหน้าหายตาไปเลย แต่ถึงแม้ว่าตัวจะไม่อยู่แต่ด้านกระแสข่าว (คาว) ของพระเอกหนุ่มก็ยังมีให้ได้ยินอยู่เสมอ
ถามความคืบหน้าเรื่องที่ถูกกลุ่ม ผกก.รุมแบนนั้น เจ้าตัวเผยยังมีงานให้เห็นและใช้ชีวิตอยู่ได้แม้ไม่ต้องเล่นหนังก็ตาม ลั่น ตนได้แบนผกก.ไว้แล้วเช่นกัน
"ผมบอกเลยว่าผมเล่นหนังมาสองเรื่องและ "โอปาติกะ" คงออกสิ้นปีนี้ และ "นาคปรก" คงออกปีหน้า ถ้าเขาฉายในประเทศไทยนะ ก็จะได้ฉายสองเรื่องติดผมคงไม่รับอีก ถ้าจะแบนผมแบนผู้กำกับดีกว่า คือไม่ต้องติดต่อผมนะครับ ผมไม่รับ นอกจากสัญญาใจที่ผมเคยพูดไว้กับรุ่นพี่ ว่าตลอดสองสามปีนี้ผมไม่เล่นและ"
"ถามว่าผมอยู่ได้ยังไง ผมมีบางอย่างปล่อยให้เช่า อย่างคอนโด ซึ่งเดือนนึงเกือบหลักแสน ผมไม่ต้องทำงานก็ได้ ซึ่งครอบครัวผมเป็นครอบครัวสมถะ ผมไม่ต้องใช้เงินเยอะอยู่แล้ว ทุกอย่างไม่ต้องผ่อน บางคนทำงานทั้งเดือนได้สองหมื่น บางคนได้หมื่นนึงเขายังอยู่กันได้ แล้วที่สำคัญผมมีบางอย่างทำกับเพื่อน"
ส่วนกรณีที่ถูก ผกก. กลุ่มหนึ่ง ได้ทำการแบนพระเอกหนุ่มเป็นระยะเวลาสองปีนั้น "เต๋า" บอกจะแบนไม่เล่นหนังให้เช่นกัน เว้นแต่จะเล่นให้กับรุ่นพี่ด้วยสัญญาใจเท่านั้น ยัน ตนมีงานเข้ามาตลอดแต่ไม่รับเอง
"ไม่ต้องครับ ผมแบนเขาแล้ว เขาบอกว่าแบนแค่สองปี ผมแบนคุณสองปีเลยดีกว่า หนังมีรุ่นพี่คนนึงซึ่งผมเคยบอกว่า ณ วันนึงถ้าพี่ทำหนัง ผมจะเล่นให้มันเป็นเรื่องของสัญญาใจแล้ว มันเบื่อ ผกก.แบน เต๋าไม่มีงาน ไม่ใช่ไม่มี เขาติดต่อแต่ผมไม่รับ ซึ่งกว่าจะรับได้เนี่ย เราต้องดูว่าสิ่งที่เขาให้เรามาเรามีความสามารถพอหรือป่าว เราทำให้เขาได้หรือป่าว ให้ผมเล่นเป็นกะเทยอย่างนี้ โห ใครจะเชื่อ"
"แล้วก็มีกระแสว่าแบน องค์กรไหนละครับ ช่วยลงชื่อได้มะใครแบนมั่งอ่ะ ก็ยินดีครับ เชิญ แบนสองปีก็แบนไปเลยครับ ไม่ต้องแบนผม ผมแบนเลยดีกว่า"
เหน็บ รู้สึกภูมิใจแม้ตัวจะไม่อยู่แต่ก็ยังถูกพูดถึงอยู่ตลอด แถมยังถูกออกข่าวตามหาตัวอีกต่างหาก ลั่น ไม่ซีเรียสหากคนมองไม่ดีด้วยความเป็นคนพูดตรงจนเกินไปเพราะมันเป็นสันดานไปแล้ว ย้ำไม่ได้เป็นคนรุนแรง
"แต่แปลกนะครับ ผมภูมิใจตัวเองมากถึงผมไม่อยู่ยังมีคนไปนั่งเสวนาเรื่องผมได้ ผมได้ยินว่าถ้าดูรายการนี้ให้ติดต่อมา ผมไม่ได้ตามหาพ่อแม่นะครับ ผมงงมาก คิดอะไร คุณเอาอะไรคิดเหรอ แล้วเอาญาติพี่น้องผม คนรู้จัก พี่พจน์ อานนท์ ป้าจิ๊ เขาอยู่ของเขาดีๆ เอาเขาไปพูดเรื่องมาเฟีย เขาจะรู้มั้ยเนี่ย"
"ไม่ซีเรียสครับ ชอบ จริงๆ มันเป็นสันดาน มันเป็นชีวิตของผม ผมคิดว่าคนที่ปากตรงกับใจแล้วพูดออกมาดีกว่าคนที่ฟังอะไรที่มันดูปลิ้นปล้อน พอหันหลังไปเขาบอกนี่โง่นะ พูดแค่นี้ก็เชื่อ อย่างผมถ้าชอบก็ชอบ ไม่ชอบผมก็ไม่คุย ผมไม่จำเป็นต้องด่าใคร ผมไม่ได้รุนแรงนะครับ อย่าให้ผมรุนแรงดิ ผมอยู่ของผมดีๆ แล้วมายุ่งกับผมทำไม"
ตัดขาดโลกภายนอกไปนาน กลับมาคราวนี้ พระเอกหนุ่ม "เต๋า" ฝากผลงานละคร "ดั่งดวงตะวัน" ให้ดูกันอีกหนึ่งเรื่องก่อนจะพักยาว ส่วนพ็อคเก็ตบุ๊คส์ที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะทำนั้น โพล่ง หากคิดจะทำ ทำหนังสืองานศพตัวเองดีกว่า มันส์กว่าเยอะ
"พักอีก ก็ปีละเรื่อง หัวปีท้ายปี ส่วนพ็อคเก็ตบุ๊คส์ ถ้าทำหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊คส์ผมทำหนังสืองานศพผมดีกว่า สนุกกว่าเยอะ มันจะได้รู้อะไรเยอะๆ แล้วมันพูดทีเดียวจบ มีคนอยากให้ผมทำพ็อคเก็ตบุ๊คเยอะ ผมบอกไม่ทำ ทำไมผมต้องเอาชีวิตของผม มุมมองที่ผมมีความสุขให้คนอื่นฟัง บางมุมเรื่องส่วนตัวก็ต้องเก็บไว้ในใจ ถามว่าทำไมตอนนี้คนไม่เห็นผม ผมไม่ใช้โทรศัพท์ ผมไม่ดูโทรทัศน์ ไม่อ่าน นสพ. วิทยุยังไม่ฟังเลย"
ด้านข่าวที่บอกไปรับไปส่งม่ายสาว "นัท" ช่วงที่เธอทำการแสดงละครเวทีเรื่อง "ฟ้าจรดทราย" นั้น โบ้ย เปล่ารับส่งแต่เคยไปกินข้าวด้วยกัน เผยฝ่ายหญิงยังชวนให้ไปดู "คอนเสิร์ต 25 ปี นิติพงษ์ ห่อนาค" อีกด้วย
"ไม่ได้ไปรับไปส่งครับ ผมไปเจอกัน ทานข้าวกัน ไปนั่งคุยกันว่าเป็นไงบ้าง ทักทายบ้างหลังจากละครเขาปิดไป ก็เจอกันอยู่ 26 นี้ถ้ามีโอกาสผมคงได้ไปดูคอนเสิร์ต 25 ปี พี่ดี้ คงต้องบอกเพราะเขาบอกผม สำหรับผมกับน้องนัทเราเป็นเพื่อนกันมาตลอด ตลอดระยะสิบกว่าปี ต่อจากนี้เราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ 60 เราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ ตอนนี้เราเป็นเพื่อนที่ดีมากต่อกัน ถ้าเขามีงานแล้วชวนเราไปก็ได้แต่ไม่ควรเซอร์ไพร์สนะครับ เพราะผมกลัวคนที่เขาเซอร์ไพร์สมากลัวผม (พูดเล่นนะ)"
รับ ตอนนี้กินบุญเก่าจากที่เคยขายดีจนเดี๋ยวนี้กลายเป็นตำนานไปเสียแล้ว...."มีคนบอกผมติส ผมก็เป็นอย่างนี้ตั้งแต่แรกแล้ว ตอนที่ผมเฟื่องฟู ฟู่ฟ่า ตำนานผมมีอะ บุญเก่าผมเยอะ ผมเลยรู้สึกว่าเออ ดี รู้จักเก็บ ต่อไปผมมีละครอีกค่ายนึง ถ้ารับละครไม่รับอย่างอื่นเลย ถ้ารุ่นพี่เสร็จเรื่องของบทหนังผมจะเล่นให้เขาเลย"
บอกดีใจที่มีคนลุ้นให้กลายเป็นคู่รักรีเทิร์นอีกครั้ง แต่กลับพอใจจะอยู่เป็นโสดมากกว่า เหตุผลหนึ่งคืออยากอิสระและไม่อยากให้ผู้หญิงต้องมาเหนื่อยที่ต้องมาคบกับเขา
"ดีใจครับ ที่เขาเชียร์มีความรู้สึกว่าถ้าเขาไม่รัก ไม่เอ็นดู ถ้าเขารู้สึกไม่ดี เขาไม่เชียร์หรอก ดูชีวิตผมดิมันหนื่อยนะ ผู้หญิงที่เข้ามายอมมาเหนื่อยกับผมไม่คุ้มหรอก บางทีผมเห็นว่าเขาเหนื่อยกับผมแล้ว คงให้เขาพักครับ ผมยังชอบใช้ชีวิตที่ผมเป็นอยู่เนี่ย ไปไหนมาไหนทำโน่นทำนี่ ผมมีความสุขกับชีวิตของผม ผมไม่อยากได้ยิน พอเหนื่อยแล้วบ่น คนที่เข้ามาผมไม่ได้รังเกียจ ปิดกั้น แต่ผมอยากใช้ชีวิตส่วนตัวที่ผมอยากทำ โลกส่วนตัวที่ผมอยากทำแต่น่ากลัวสำหรับคนอื่น ตอนนี้ผมยังไม่สนใจที่จะกลับไปใช้ชีวิตคู่หรือแฟน กิ๊กยังไม่อยากมี"
ย้ำ "นัท" เป็นคนน่ารักแต่ความสัมพันธ์ให้ได้แค่เพื่อน ลั่น ยังคิดถึงเสมอ.... "เขาเป็นคนดีนะครับ เป็นผู้หญิงที่น่ารัก ตอนนี้ความเป็นเพื่อนมีเยอะมาก ผมคิดว่าผมกับเขาเจอกันก็ยิ้ม บางทีผมบอกว่าไม่เจอคุณนานนะ ชอบไปร้านนี้มั้ย ผมมีร้านๆ นึงเจ๋งมากเลยอ่ะ เขาบอกดีจัง ผมบอกยังมีอีกหลายร้านแต่ค่อยๆ ทีละร้าน ไปหมดไม่ได้เดี๋ยวคุณไม่ไปกับผม ก็เล่นๆ กันอย่างนี้ ผมก็ไปกับเพื่อนบ้างต่อให้ผมไปกับเขาสองคนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก คิดถึงอยู่แล้ว สายใยบางๆ มันมีอยู่แล้วเรื่องของความรักเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน"