"วสันต์" ยอมรับกระแสวิจารณ์ "ปลื้ม" ทำหน้าที่พิธีกรได้ไม่ดีแต่ออกปากพอใจเรตติ้ง "เป็นปลื้ม" ลั่นมีแผนให้เป็นรายการสดเหมือน "ตาสว่าง" ของ "ดู๋" ส่วนข่าวภาคค่ำของ "กิตติ" เจ้าตัวบอกไปได้ดี ยันปรับค่าโฆษณาขึ้น ต.ค. นี้ คาดผลกำไรไตรมาส 3 ทะลุเป้าอย่างมีนัย
ถูกวิพากษ์วิจารณ์พอสมควรทีเดียวสำหรับหนุ่ม "ปลื้ม ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล" หลังเข้าไปรับทำหน้าที่พิธีกรในรายการ "เป็นปลื้ม" ให้กับโมเดิร์นไนน์ ทีวี ทั้งในเรื่องของการตั้งคำถาม จุดมุ่งหมายในการนำเสนอ ความไม่ลื่นไหลของการพูดคุย เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับพิธีกรอย่าง "ดู๋ สัญญา คุณากร" ในรายการ "ตาสว่าง"
อย่างไรก็ตามในมุมมองของ "วสันต์ ภัยหลีกลี้" กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บมจ.อสมท.เผยว่า ในความคิดของตนเองค่อนข้างจะพอใจกับการทำงานของพิธีกรคนดัง พร้อมเผยอีกฝ่ายหนึ่งนั้นมีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา
"มุมมองของผมถามว่าปลื้มสอบผ่านมั้ย ก็สำหรับการเริ่มต้นเนี่ยผมถือว่าทำได้ดีนะครับแต่ก็ยังมีจุดที่จะปรับแล้วก็มีจุดที่จะทำได้อีกพอสมควร อย่างเช่น ทางปลื้มเองก็สนใจที่จะทำเป็นรายการสดนะครับ วันนี้เป็นอัดเทปอยู่ก็กำลังคุยกันอยู่ว่าจะปรับมาเป็นรายการสด ก็เป็นไปได้สำหรับเรื่องนี้ ส่วนตรงจุดไหนบ้างที่ผมเห็นว่าปลื้มต้องปรับอีก ตรงนี้เดี๋ยวผมขอไปดูรายละเอียดแล้วเดี๋ยวบอกครับ"
"ผมคิดว่าคุณปลื้มเองก็แข็งแรงในฐานะเป็นดาวรุ่งน่ะ ดู๋ก็ถือว่าเป็นพิธีกรระดับแนวหน้า รอบตัวก็ถือว่าเก๋าพอสมควร ในเรื่องของความสามารถก็มี ผมว่าปลื้มเขาคงมีการปรับอยู่ตลอดเวลานะ เป็นธรรมดาของการทำรายการมีเสียงติชม วิพากษ์วิจารณ์แต่ผมไม่ได้มีการไปเตือนเขานะครับเพราะเราคิดว่าในแง่การทำงานก็คงต้องมีการวิเคราะห์และมีการปรับอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว"
ยืนยันแม้กระแสพิธีกรติดลบแต่เรตติ้งรายการวิ่งฉิวพร้อมบอกการปรับผังครั้งล่าสุดเป็นผลที่น่าพอใจ
"เรตติ้ง เป็นปลื้ม กับ ตาสว่าง ถือว่าดีขึ้นมากแล้วก็ได้รับกระแสตอบรับจากทางผู้ชมและเอเจนซี่ดีมากนะครับตั้งแต่เริ่มรายการมาเลย ตอนนี้ความนิยมกำลังไต่สูงขึ้นเป็นลำดับ บางวันเรตติ้งถึง 1 แล้วสำหรับรายการในช่วงเวลานั้น เป็นปลื้ม ก.ค.-ส.ค.ขึ้นเป็นเท่าตัว ส.ค.อยู่ที่ 0.8 ส่วนตาสว่างอยู่ที่ 0.74"
"สมัยก่อนช่วงที่เป็น 5 รายการเรตติ้งจะต่ำกว่า เปรียบเทียบกันแล้วก็ประมาณ 3-4 เท่าตัวเพราะการเป็น 5 รายการบางทีโอกาสที่มันจะติดหรือว่าแข็งแรงอาจจะน้อยกว่าแต่ถ้าเป็นรายการเดียวกัน สถานการณ์ก็กระเตื้องขึ้น ก่อนหน้านี้เรามีไฮไลท์ฟุตบอลชิงแชมป์โลก 20 ปีกับรายการปมเด่นประเด็นร้อนสถานการณ์ก็ดีขึ้นเพราะว่ามีการขึงรายการ ถึงช่วงที่เอาตาสว่างกับเป็นปลื้มลงเรตติ้งก็เพิ่มขึ้นอีก"
เมื่อถามต่อว่าปัจจัยที่ 2 รายการนี้โตเร็วมาจากกระแสพิธีกร,เนื้อหาหรือความต่อเนื่องของรายการกันแน่ ผอ.ชี้แจงว่า...
"ทุกอย่างประกอบกันคือพิธีกรมีส่วนมากเพราะว่าทั้งดู๋และปลื้มต้องถือว่าเป็นพิธีกรชั้นนำที่แข็งแรง ในขณะที่รายการเองก็น่าจะเหมาะกับช่วงเวลที่เป็นช่วงเวลาก่อนนอน ซึ่งได้สาระความรู้อัพเดทสด น่าสนใจในขณะเดียวกันก็ไม่เครียด ได้บรรยากาศที่สบายๆถ้าติดตามดูรายการก็จะได้อะไร แล้วก็ตาสว่างขึ้น ก็คิดว่าเรามาถูกทางแล้วครับ"
ฟุ้งไม่ใช่มีแค่ 2 รายการที่เรตติ้งกระเตื้อง รายการข่าวที่อสมท.มุ่งเน้นแถมสามารถดึงผู้ประกาศข่าวมือดี "กิตติ สิงหาปัด" มาจากทีไอทีวีนั้นเรตติ้งก็ดีเช่นกัน
"หลายรายการเรตติ้งก็เพิ่มขึ้น 10% 20% บางรายการจะเพิ่มขึ้นชนิดเท่าตัว แต่โดยรวมทั้งสถานีเรตติ้งแนวโน้มดีขึ้นนะครับ ข่าวเช้าที่เราปรับเรตติ้งก็ขึ้นเท่าตัวหลังจากปรับแล้ว ส่วนของกิตติก็ช่วยเยอะครับ ทำให้รายการข่าวภาคค่ำแข็งขึ้นเยอะนะครับแล้วทำให้ทีมงานของอสมท. สำนักข่าวไทยได้แสดงศักยภาพเต็มที่"
"เรตติ้งดีขึ้นในที่นี้เราเทียบกับของเราเองนะ ไม่ได้เทียบกับที่ไหนนะ เทียบกันแล้วก่อนที่จะปรับเรตติ้งอยู่ที่ 1.92 หลังปรับเดือนก.ค. 2.08 แล้วหลังจากนั้นส.ค. ปรับขึ้นมา 2.17 เป็นแนวโน้มที่ดีที่น่าจะปรับขึ้นได้เรื่อยๆ"
เรตติ้งดีขึ้นขนาดนี้เจ้าตัวยันขึ้นค่าโฆษณาเดือน ต.ค. นี้อย่างแน่นอน
""เป็นปลื้ม" กับ "ตาสว่าง" ปรับตั้งแต่แรกแล้วจาก160,000 เป็น 200,000 เลยยังไม่ปรับแต่ของใหม่ที่จะขึ้นค่าโฆษณา เช่น "บางรักซอย 9" จาก 300,000 เป็น 330,000 ซึ่งเป็นค่าโฆษณาที่สูงที่สุดของสถานี "นัดกับนัด" จาก 260,000 เป็น 280,000 "บ้านนี้มีรัก" จาก 280,000 เป็น 300,000 ด้านข่าวภาคเที่ยง จาก 50,000 เป็น 60,000 ข่าวภาคค่ำจาก 200,000 เป็น 240,000"
"การปรับค่าโฆษณาครั้งนี้ประกอบกับเรตติ้งที่เพิ่มขึ้นนะครับซึ่งคาดว่าไตรมาส 3 จะทำให้รายได้ของเราสูงกว่าไตรมาส 2 อย่างเห็นได้ชัดอย่างมีนัยสำคัญนะครับ ต้องเรียนว่าไตรมาส 2 รายได้จากหน่วยงานภาครัฐมาเข้าเดือนมิ.ย. เราคิดว่าจากนี้รายได้ภาครัฐจะมีต่อเนื่องแต่ที่สำคัญที่สุดรายได้จากภาคเอกชนของเราโตขึ้นมากเมื่อเทียบช่วงต้นปีที่ผ่านมา"
