"หยาด" ลั่นสัมพันธ์ "พอล" มีโอกาสพัฒนา ย้ำรักครั้งใหม่ขอดูนานๆ รับคุยโทรศัพท์เพื่อปรับทุกข์กันจริง นางเอกสาวออกปากฝ่ายชายเป็นคนดีจนรู้สึกสงสาร ส่วนคดีถูกโจรฉกกระเป๋าหน้าบ้านเจ้าตัวบอกไม่มีอะไรคืบหน้า บอกยังอยากได้สมุดจดคิวคืนพร้อมโต้กระแสเมาท์ตนเป็นแม่พระเกินเหตุที่ไม่เอาเรื่องโจร
"หยาด หยาดทิพย์ ราชปาล" ยังคงเป็นนางเอกสาวเจ้าเสน่ห์เหมือนเคยแม้เพิ่งจะออกมายอมรับทั้งน้ำตาว่าอกหักจากลูกชายอดีตนายกฯ "โอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร" ล่าสุดมีข่าวว่าหนุ่มเจ้าชู้มาดนิ่ง "พอล ภัทรพล ศิลปาจารย์" ที่เพิ่งบอกเลิกนางแบบสาว "ซาร่า มาลากุล เลน" ตามตื๊อโทรจีบนางเอกสาวได้สักพักแล้ว
อย่างไรก็ตามงานนี้สาวหยาดยันว่าสัมพันธ์นั้นยังเป็นแค่พี่ - น้อง
"กับพี่พอลไม่มีอะไรค่ะ เรารู้จักกันนานแล้วตั้งแต่ละครเรื่องอมฤตาลัย จริงๆ หยาดคุยกับพี่เขาเรื่อยๆ อยู่แล้วค่ะ บางทีไปงานก็คุยกันเลยสนิทกัน มีอะไรปรึกษาเขาได้ เขาเป็นที่ปรึกษาที่ดีมาตั้งนานแล้ว เขามีความคิดในแง่ดีน่ะค่ะ ไม่ค่อยมองอะไรในแง่ร้ายแต่ก็เป็นพี่เป็นน้องกันมากกว่าตอนนี้ เราไม่ได้คุยกันบ่อยค่ะแล้วก็เรียกว่าดูๆกันก็ไม่ได้น่ะแต่อนาคตก็ไม่แน่ ทุกคนไม่แน่ทั้งนั้นแหละ"
"จริงๆ เราก็คุยกันเรื่องข่าว ก็สงสารเขาเนาะถามว่าทำไมไม่สงสารตัวเองเหรอเพราะหยาดก็โดนข่าวแย่ๆเหมือนกัน คงเป็นเพราะหยาดโดนข่าวมานานแล้วไงคะแต่อย่างพี่พอลเขาดูเป็นคนดีเลยแหละแต่ช่วงนี้โดนข่าวแรง ก็ให้กำลังใจกันไปค่ะ"
เจ้าตัวลั่นคนรักคนใหม่ต้องเป็นคนซื่อสัตย์ มีเมตตาถึงจะอยู่กับตนได้รอด..."ความรักก็เรื่อยๆ ค่ะ สนุกกับเพื่อนๆ ช่วงนี้ดูแบบว่าใครเป็นคนดีก็คุยบ้าง รู้สึกว่าดูกันต้องดูนานๆน่ะ ตอนนี้สบายใจแล้วค่ะ ไม่ได้เครียด ทำงานได้เต็มที่"
"รักใหม่ต้องเลือกมากขึ้นน่ะค่ะ ต้องมีความเป็นคนดีมากๆด้วยน่ะไม่งั้นก็คงอยู่กันไม่ได้ เมื่อก่อนอาจจะแค่รักใช่มั้ยคะ เออ นิสัยแค่นี้เองไม่เป็นไรหรอก เรารักเขา เขารักเรามาก แต่หยาดเชื่อว่านิสัยแค่นั้นน่ะนับวันมันจะยิ่งเยอะขึ้นและจริงๆ คนที่รักเรามากมันต้องมีอยู่แล้วแหละ ต่อไปนี้จะดูความซื่อสัตย์และที่เป็นคนมีเมตตาอะไรแบบนี้ด้วย"
เพิ่งทำใจได้จากความรักที่ผิดหวังแต่สาวหยาดก็มีเรื่องร้ายให้ใจหายอีกที่เมื่อเร็วๆ นี้ถูกโจรฉกกระเป๋าซึ่งๆ หน้าที่หน้าบ้านของตัวเองในขณะที่กำลังเปิดประตูลงจากรถ แต่เคราะห์ยังดีไม่สูญเสียของมีค่ามากมายนัก
มีเพียงสมุดจดคิวงานที่เจ้าตัวอยากได้คืนที่สุดถึงขนาดตั้งค่าส่งคืนถึง 10,000 บาท
"หยาดอยู่บ้านหลังนี้มา 12 ปีแล้วนะ พอจะลงจากรถก็ยังกลัวๆ นะ แต่ว่าอยู่ตรงนี้แหละดีแล้ว ไม่คิดย้ายค่ะ แต่ตอนนี้คุณแม่ปวดหัวมากเลยค่ะเรื่องสมุดคิวเพราะงานใหม่ก็เข้ามาใช่มั้ยคะแล้วงานเก่าเราก็ไม่รู้ว่าเรารับงานอะไรเอาไว้บ้าง แต่หลังข่าวออกก็มีคนติดต่อกลับมาเยอะค่ะแต่ว่าก็ยังไม่หมดอยู่ดี"
"แล้วเราก็จำไม่ได้ว่าเราคุยอะไรกับเขาไว้บ้างแต่เราก็ยังไม่ได้รับงานใหม่นะ รอเขาติดต่อกลับมาก่อนแต่ถ้าพี่คนไหนไม่ได้ติดต่อกลับมาจริงๆ หยาดก็ต้องขออนุญาตรับงานใหม่แล้วน่ะ"
ถามถึงความรู้สึกของสาวหยาดที่ถูกพิธีกรคนเก่ง "สรยุทธ สุทัศนะจินดา" พูดแซวนางเอกสาวกลางรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" ด้วยอารมณ์เอ็นดูที่หยาดตามหาสมุดจดคิว งานนี้เจ้าตัวบอกสมุดจดคิวของตนมีค่ามากกว่าที่หลายคนคิด
"หยาดไม่ได้ดูเลยน่ะ เขาแซวหยาดเหรอคือของที่หายหยาดไม่ได้อยากได้คืนเพราะมูลค่ามันน้อยมาก คนอาจจะคิดว่าเป็นแค่สมุดจดคิวแต่มันไม่ใช่แค่นั้นน่ะค่ะ มันยังมีอะไรที่เป็นสิ่งสำคัญของบ้านหยาดอยู่ในนั้น"
"ส่วนเรื่องงานคนบอกว่าสำคัญเหรอสำคัญเพราะคุณแม่ไม่ได้เมมเบอร์ในโทรศัพท์ไงคะ จะเขียนเอาไว้ในนั้น แล้วหยาดมีงานวันหนึ่ง 3 - 4 งาน 30 วันนี่ 90 งานแล้วนะ เราไม่อยากรับงานซ้อนค่ะและเราไม่อยากให้เขาบอกว่าเราเบี้ยวงาน ไม่อยากเสียชื่อคือเราจำไม่ได้หมดหรอกว่ามีงานวันไหนที่ไหนอย่างไรบ้างน่ะ "
ยอมไม่เอาเรื่องโจรแต่ก็ยังโดนกระแสเมาท์ว่าเป็นแม่พระใจบุญเกินเหตุเข้าอีก
"ไม่รู้น่ะ บางทีหยาดไม่ได้ใจบุญอะไรมากมายหรอกค่ะแต่เขาไม่ได้ทำร้ายอะไรเราแล้วก็เราไปเอาเรื่องเขา ทำให้เขาติดคุกไงคะ หยาดไม่อยากให้ใครมาติดคุกเพราะเราแต่ถ้าเขาคิดว่าเราใจดีแล้วมาใหม่ถ้าเขามาวางยาเบื่อก็คงจัดการน่ะ คือเขาคงมีลูกมีเมียก็ช่างเขาเถอะ อย่ามาทำอีกก็แล้วกัน"
"ถามว่าหยาดพูดแบบนี้ไม่กลัวโจรคนอื่นเหรอเพราะเราใจดีขนาดนี้ หยาดว่าคราวนี้ไม่มีใครกล้ามาแน่เพราะตำรวจมาเฝ้าหน้าบ้านทุกวันเลยค่ะ..."