"อ๊อฟ" ยกคดีหมอฆ่าเมีย ลงจอเงินถ่ายทอดมุมของความรักมากกว่าเน้นเรื่องผี ฆาตกรรม บอกไม่ได้พาดพิงถึงใครเพราะเนื้อหาถูกดัดแปลงใหม่ทั้งหมด รับ ห่วงสภาพจิตใจครอบครัวผู้เกี่ยวข้อง ฟุ้ง ไม่ได้หวังโปรโมตเกาะกระแสหมอ "วิสุทธิ์" ดัง คาดคนดูได้แง่คิดคู่รักมีปัญหาควรคุยกันดีกว่าทำร้ายกัน
หยิบดคีดังของคู่รักที่ถูกฆาตกรรมโดยอาชีพอันมีเกียรติอย่างหมอ มาถ่ายทอดเป็นหนังที่ถูกฉาบหน้าด้วยหนังผีแต่เนื้อหาที่แท้จริงนั้น ผกก."อ๊อฟ มณฑล อารยางกรู" บอกอยากเล่าเรื่องราวว่าอะไรเป็นเหตุผลให้คนที่เคยรักกันมากถึงตัดสินใจทำร้ายกันได้ถึงขนาดปลิดชีวิตเธอผู้นั้น โดยที่มาของหนังเรื่อง "บ้านผีสิง" นั้นเริ่มตั้งแต่เขาทำหนังเรื่อง "ผีคนเป็น" นั่นเอง
"ตอนที่ทำ “ผีคนเป็น” แล้วไปรีเสิร์ชเอาคดีของหมอ “วิสุทธิ์” (บุญเกษมสันติ) มาป็นต้นแบบในเรื่อง “ผีคนเป็น” ที่มีหั่นศพ ทำไมหมอคนนี้เหมือนเขาเคยอยู่ที่ รพ. ก็ว่าคดีคุ้นๆ เหมือนคดีคุณนวลฉวี ก็เหมือนมีใครอยู่ที่ รพ.นี้ก็เลยไปหาข้อมูล เอ้า เป็นหมออยู่ รพ.เดียวกันด้วย”
“อีกอย่างมีอาร์ตไดเรกเตอร์ของหนัง “ผีคนเป็น” เขาเป็นคนที่อยู่ข้างๆ บ้าน อยู่มาตั้งแต่เด็กๆ เขาบอกเชื่อมั้ยละเขาเคยเห็น “เสริม” (สาครราษฏร์) บอกให้หาหลักฐานมาให้หน่อย พอหาหลักฐานแล้ว เราก็มาคุยกันว่าทำมั้ย ตัวบ้านก็ไปดูมา ถามคนรอบๆ สัมภาษณ์ว่าเคยเห็นผีมั้ย ก็เลยทำเป็นหนังดีกว่า"
บอกกลัวเช่นกันที่เนื้อหาค่อนข้างพาดพิงกับคดีดัง จึงทำการดัดแปลงเนื้อหาใหม่ทั้งหมด ทั้งชื่อคน ฉาก เพียงแต่เอาโครงเรื่องว่าทั้งหมดเคยอยู่สถานที่เดียวกันเท่านั้น อีกทั้งเขายังห่วงกลัวหนังกระทบจิตใจผู้ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย ลั่น แท้จริงหนังเรื่องนี้ตั้งใจนำเสนอแง่มุมของผู้ที่จากไปและผู้ที่ยังอยู่ ไม่ต้องการนำเสนอทำให้ใครต้องผิด
"กลัว เราบอกเราต้องพูดตลอดเวลาเราดัดแปลงตัวเนื้อประเด็นมันยังเหมือนเดิมอยู่ แต่ว่ารายละเอียดทั้งหลายไม่หลุด กลัวจะกระทบจิตใจเขามากกว่า ในตัวเรื่องความรุนแรงในหนังไม่มี มีแต่คดีเกิดขึ้น พอเกิดแล้วเขารู้สึกยังไง คนที่ยังอยู่กับคนที่ไป คนที่ไปแล้วเหมือนเป็นวิญญาณไม่ได้โกรธแค้น เหมือนพยายามทำให้ทุกคู่เขาเสียใจ สำนึกผิด ที่เขาทำลงไปนะ แล้วคนที่เขาไปแล้วเขาก็ให้อภัยนะ อะไรประมาณนี้พยายามคิดในแง่ดี ไม่ได้ทำให้ใครผิด"
ส่วนกรณีของนายแพทย์คนดังที่ตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าเมียตัวเองและมีการอ่านฎีกาไปเมื่อเร็วๆ นี้ “อ๊อฟ” เผยที่เปิดตัวหนังช่วงนี้ไม่ได้หวังเกาะกระแสโปรโมต ห่วงทำร้ายจิตใจคนในครอบครัวเขาอีกต่างหาก
"ไม่ตั้งใจโปรโมตช่วงนี้นะ เรารู้ปีนี้ตัดสินแต่ไม่รู้ว่าช่วงไหน เฮียฮ้อยังบอกเลยว่าเขาตัดสินวันที่ 25 ก.ค. นี้ ไม่เกาะกระแสเหรอ เราบอกไม่เกาะ ความจริงเราอยากทำเรื่องนี้เราอยากทำเรื่องของความรัก เรากลัวมาก กลัวมากว่าคนเอาไปเกาะแล้วเราไปทำร้ายจิตใจคนอื่นเขา”
“คือถ้ามันเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้เวลาเขาพูดถึงแล้วเขารู้สึกว่าอยากดูหนัง เราก็มีความรู้สึกว่ามันก็ดี แต่เราก็ทำใจไว้ตลอดเวลาว่าเราไม่อยากให้เขาเอาไปเกี่ยวกัน เพราะเรื่องนี้ยืนยันว่าดัดแปลง เอาแค่ที่เขาเคยอยู่ที่เดียวกัน ที่เหลือเราดัดแปลง สถานที่ถ่ายทำก็เซ็ตใหม่"
ย้ำ หนังต้องการสื่อถึงเรื่องความรักมากกว่าความรุนแรง ฆาตกรรม
"ถามว่ามีการขออนุญาตผู้ที่เกี่ยวข้องมั้ย มีบางครอบครัวแต่บางครอบครัวเราคุยกับเขาแล้วบอกก็ไม่รู้ แล้วแต่ จริงๆ แล้วเราไม่ได้เอาครอบครัวมาเป็นจุดขาย เราอยากพูดถึงเรื่องความรัก สงสัยเท่านั้นเองว่าทำไมเขาถึงฆ่ากัน เพราะว่าความรักเท่านั้นเองในหนังจะเป็นแบบนั้นมากกว่า"
ด้านอาถรรพ์ไม่เคยเจอ แค่รู้สึกการทำงานราบรื่นไปเสียหมด …. "เรื่องนี้ไม่ค่อยมี มันเป็นเรื่องของความรู้สึกมากกว่า คุณนวลคนเดียวละมั้ง เหมือนว่าถ่ายแล้วดูโอเคปกติ ปิดสะพาน (นวลฉวี) ครึ่งวันก็ไม่มีใครว่าอะไร ฝนจะตกก็ไม่ตก เราบอกขอนักแสดงหน้าตาเหมือนคุณวรพจน์ไม่ได้เลยนะ หาตั้งนานไม่ได้ บอกแม่นวลเดี๋ยวหนังไม่ได้เปิดนะ ไปคุยงานทีเดียวทั้งที่อยู่ใกล้ตัวกันแค่นี้เองก็เจอ"
เผยกลัวเหมือนกันที่ต้องหยิบยกเรื่องจริงทำเป็นหนัง แต่เหตุที่ต้องทำหนังผีอีกครั้งเพราะอยากทำจริงๆ
"มีคนบอกเยอะว่าทำหนังผีทำไม ทำ "ผีคนเป็น" คนก็โอเคหมดแล้ว ไม่ควรจะมาทำซ้ำ ไอ้เราก็บอกขอเรื่องนี้อยากทำ ไม่ได้เกี่ยวว่าเอาเรื่องจริงมาทำนะ เผอิญว่าเรื่องนี้รู้สึกว่ามันทำหนังที่ผมอยากได้ง่ายไง เหมือนผมดู “นางนาก” ชอบนะ ชอบมากๆ รู้สึกว่าไม่ใช่หนังผี เป็นหนังที่พูดถึงเรื่องความรัก ไม่ได้กะว่าเป็นเรื่องจริง จริงๆ ก็ไม่อยากเอาเรื่องจริงมาทำ อันตรายน่ากลัว”
ลั่น อยากให้คนดูมีสติในเรื่องความรักมากขึ้น
"จุดนี้เป็นจุดสำคัญ รู้สึกว่าพอทำหนังไป ตอนแรกๆ หนังเรื่องนี้ถูกฉาบหน้าด้วยหนังผี ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเวลาการโปรโมตต้องโปรโมตความเป็นผีออกไป แต่ว่าในหนังมันเป็นหนังรัก เป็นหนังที่พอตายแล้วคนจะเห็นคำตอบเลยว่า ทำไมคนที่อดีตที่รักกันมากๆ ทำไมวันนึงถึงทำร้ายกันได้ลงคอ เขาจะรู้ว่าคำตอบคือแบบนี้นี่เอง"
"ท้ายๆ หนังเรื่องนี้มันเศร้า เรื่องความบันเทิง รู้ว่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของคดีที่ไม่เคยมีใครรู้ก็เอามาหยอดๆ ใส่หน่อย เพื่อให้มันพอสนุกแต่ไม่พาดพิงถึงเขา ได้ข้อคิดว่าเรากลับไปจะลงมือทำอะไรสักอย่าง จะหึงใครสักคนอย่าดีกว่ามั้ย ค่อยๆ คุยกันดีกว่า จะมีเรื่องพวกนี้อยู่เยอะ"