ในการจัดอับดับหนังฮอลลีวูดยอดเยี่ยมในครึ่งปีแรก ทั้งจากสำนักที่เชื่อถือได้และสำนักที่ทำโพลกันเล่นๆ หนังตลก-โรแมนติคของผู้กำกับ จัดด์ แอพาโทว เรื่อง Knocked Up ถูกวางให้อยู่ในหมวดดีเด่นของทุกโผ เคียงข้างกับหนังแข็งๆ อย่าง Zodiac ของ เดวิด ฟินเชอร์, Grindhouse ของ ตารันติโน-โรดริเกซ หรือ Ratatouille ของ แบรด เบิร์ด – ซึ่งมีสิทธิอาละวาดในช่วงฤดูกาลล่ารางวัลเท่าเทียมกัน
แม้จะถูกมองและให้ค่าที่ต่ำต้อย แต่ Knocked Up ก็ถีบตัวเองให้อยู่เหนือหนังตลก-โรแมนติคที่โดยปกติแล้วจะไม่หวังอะไรมากนอกจากรายได้และความพึงพอใจของคนดู - - มันดูเอาจริงเอาจัง ฉลาด สนุกและเฉียบคม
คล้ายคลึงกับ The 40 Year Old Virgin งานชิ้นก่อน, Knocked Up ยังมีพล็อตที่เกี่ยวกับเซ็กซ์ ความรักของคนเมือง และการแสวงหาความสุขในชีวิต ตัวละครเอกของเรื่องเป็นหนุ่มสาวที่โดยพื้นฐานและนิสัยแตกต่างกันอย่างลิบลับ แต่จำเป็นต้องปรับตัวเข้าหากันเพราะสถานการณ์บังคับ
แอลิสัน (แคเธอรีน ไฮเกล์) เป็นผู้หญิงทำงานที่มีอนาคตไกล ส่วนหนึ่งคงเนื่องมาจากนิสัยบ้างานของเธอเอง หนังเปิดเรื่องในช่วงที่เธอได้รับการเลื่อนขั้นจากผู้กำกับรายการมาเป็นพิธีกรหน้าจอ เธอพาพี่สาวไปเลี้ยงฉลอง และได้พบกับ เบน (เซธ โรเจน) อย่างบังเอิญ
เบนไม่ได้เฉียดใกล้คำว่า “ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อม” หมอยังไม่มีงานทำ พอจะมีงานอดิเรกอยู่บ้างคือการนั่งพี้ยากับเพื่อนๆ แล้วคุยเรื่องลามก คืนนั้นแอลิสันดื่มกับเบน และลงเอยด้วยการมีอะไรกัน อีก 2 เดือนต่อมา แอลิสันก็ได้พบกับสิ่งสุดท้ายที่เธอจะนึกถึง เธอตั้งท้องอย่างไม่ตั้งใจ และกับผู้ชายที่เธอบอกกับตัวเองว่า จะไม่ขอเจอเป็นครั้งที่สอง
คนดูอาจจะสงสัยในตอนแรกว่าผู้หญิงอย่างแอลิสันยอมปล่อยตัวไปกับชายหนุ่มอย่างเบนได้อย่างไร เรื่องรูปลักษณ์ของคนทั้งคู่คัดค้านสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง แต่มันคงไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรอีกแล้ว แอลิสันตัดสินใจจะเก็บลูกไว้ ไม่ว่าเบนจะร่วมหัวจมท้ายกับเธอหรือไม่
เราได้มารับรู้ทีหลังว่า เบนอายุเพียง 23 ปี งานในฝันที่จะเปิดเว็บไซต์ภาพโป๊ดารายังไม่คืบหน้า เขาไม่ได้อยู่ในฐานะที่ “พร้อม” สำหรับแอลิสันหรือกระทั่งตัวเอง
แต่สิ่งที่เบนพูด ณ เวลาแห่งการตัดสินใจเป็นเรื่องงดงาม เขาบอกกับเธอว่า ชีวิตก็อย่างนี้เอง เราวางแผนอะไรล่วงหน้าไม่ได้หรอก ถึงแม้เราจะคิดว่าเราวางมาอย่างดี ชีวิตมันก็ไม่สนอะไรทั้งนั้น อย่างมากที่สุดเราก็แค่ปล่อยให้มันพาไป
แนวโน้มดูเหมือนจะเป็นไปในทางที่ดี แต่ก็อย่างที่ทราบๆ กัน การประคับประคองชีวิตคู่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ คู่เปรียบเทียบชั้นดีคือคู่ของ เด็บบี้ (เลสลี มานน์) พี่สาวและ พีท (พอล รัดด์) สามีของเธอ ทั้งคู่แต่งงานกันมาเกือบ 10 ปี มีลูกสาวน่ารัก 2 คน การงานและการเงินมั่นคง สั่นคลอดและจืดชืดเพียงอย่างเดียว คือความรักที่มีระหว่างกัน
แล้วหนังก็ดำเนินไปถึงจุดที่แสดงให้คนดูเห็นว่า การใช้ชีวิตคู่คือการจัดการกับปัญหาหยุมหยิมเล็กน้อยที่ทุกวันจะมาไม่ซ้ำแบบกัน เรื่องตลกและโรแมนติคค่อยๆ ขาดระยะ ทั้งพีทและเด็บบี้ไม่มีเซ็กซ์กันอีกแล้ว โดยไม่มีเหตุผลเป็นตัวเป็นตนมารองรับ
อาจเป็นเพราะ Knocked Up กำกับโดยผู้ชาย หนังจึงมีพื้นที่ให้พีทและเบนปล่อยตัวเองออกมา ทั้งความคับแค้นใจและสิ่งที่ตนเองต้องการที่สะสมมาจากความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่น
ช่วงหนึ่งที่เบนและพีทเตลิดไปเที่ยวเวกัส พีทเป็นคนสังเกตว่าในห้องพักมีเก้าอี้อยู่ถึง 5 ตัว รูปทรงและความนิ่มของเบาะแตกต่างกันออกไป พีทนั่งลงบนเก้าอี้ทรงประหลาดตัวหนึ่งพลางพูดถึงเมียตัวเองที่หยิบยื่นทั้งความรักและความคาดหวังให้จนเขารู้สึกว่ารับมันไม่ได้ ก่อนจะปล่อยโฮและเปลี่ยนไปนั่งเก้าอี้อีกตัวที่สามารถรับความรวดร้าวของเขาได้ดีกว่า
แม้จะเป็นฉากงี่เง่าตลกๆ ที่พอล รัดด์และเซธ โรเจนได้แสดงทักษะการแสดงของตนเอง แต่ความหมายที่น่าเศร้าของมันก็คือ ถ้าพูดความสัมพันธ์แล้ว ผู้ชายยังต้องการพื้นที่ส่วนตัวที่ตนหวงแหน ถึงจะเป็นคนที่เขารักมากที่สุดก็ห้ามบุกรุก แต่ชะตากรรมของพีทอธิบายได้ชัดเจนด้วยคำพูดที่เบนบอกไป “ถ้านายไม่นั่งลงบนเก้าอี้ ฉันก็ไม่รู้หรอกว่ามันมีเก้าอี้วางอยู่ตรงนั้น”
เปรียบเทียบกับผู้ชายแล้ว ผู้หญิงในหนังเรื่องนี้ซับซ้อนน้อยกว่า พวกเธอไม่ใช่คนที่ปิดงำความรู้สึกของตัวเอง สิ่งเดียวที่เด็บบี้เป็นกังวลก็คือ อายุที่มากขึ้นของตนเองอาจทำให้สามีแสดงความเฉยเมย
ที่พอเหมาะพอดีที่สุดคือตัว แอลิสัน หนังวางเธอไว้แบบกลางๆ เธอไม่ใช่คนขี้โวยวาย แต่ถ้าจำเป็นขึ้นมาก็ต้องมีบ้าง นอกเหนือจากการให้ภาพผู้หญิงสมัยใหม่ที่ยังกังวลเรื่องอนาคต (ทั้งๆ ที่เธอสามารถกำหนดเองได้) อีกด้านที่ชัดเจนมากของตัวแอลิสัน คือการไม่คาดหวังเรื่องครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อมและการไม่เอาศีลธรรมมาเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจ
4-5 ปีที่ผ่านมามีหนังหลายเรื่องที่พูดถึงครอบครัวในแบบที่ต่างกันออกไป ครอบครัวที่ประกอบด้วย พ่อ แม่ ลูก บ้านหนึ่งหลัง รถหนึ่งคัน หมาหนึ่งตัว ค่อยๆ คลี่คลาย เราไม่สามารถให้คำจำกัดความครอบครัวแบบเดิมๆ กับหนังอย่าง A Home at the End of the World หรือ Happy Endings ได้ และน่าคิดต่อว่าหลังจากลูกคลอดออกมาแล้ว แอลิสัน เบน และลูกจะผูกพันกันด้วยพันธะทางเคมีแบบใด
ถ้าจะแยกหนังเรื่องนี้ออกมาเป็นส่วนๆ เราก็จะได้สูตรของหนังรักธรรมดาๆ เรื่องหนึ่ง ตั้งแต่ เริ่มพบกัน เริ่มรักกัน เริ่มทะเลาะกัน แยกทาง และกลับมาคืนดีอีกครั้ง แต่ทุกกระบวนการใน Knocked Up คืบหน้าอย่างค่อยเป็นค่อยไป จุดหักเหเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยแต่น่าเชื่อถือ แม้แต่ฉากบอกเลิกของเบนและแอลิสันก็เรียบง่าย พวกเขายังคุยกันไม่จบด้วยซ้ำ ผู้ชายที่ชอบคิดว่าตนเองไม่เคยทำอะไรสำเร็จเลยสักอย่างคงดูแล้วเจ็บ
รวมๆ แล้ว สิ่งหนึ่งที่น่าชื่นชมคือการที่หนังไม่เร่งเร้าตัวละครให้ทำอะไรผลีผลามจนเกินควร ก็คงเหมือนที่เบนบอก...ปล่อยชีวิตไปตามสบาย
Knocked Up เป็นหนังทีชวนให้รื่นรมย์มากๆ แต่คงไม่ถึงขนาดเปลี่ยนความคิดใครจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทั้งนี้ทั้งนั้นดูจบแล้วคงได้บทเรียนไปคนละนิดละหน่อยว่า ความรักเป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะฉะนั้นควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ