จากคำบอกเล่าของนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายส่วนตัวของครอบครัว "ชินวัตร" ในการให้สัมภาษณ์ที่ผ่านๆ มา หากไม่มีอะไรผิดพลาด ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ สองนักร้องหญิงของไทย "ลิเดีย ศรัณญ์รัชต์ วิสุทธิธาดา - ใหม่ เจริญปุระ" จะต้องขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีคอนเสิร์ตภายในสนามซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ ในการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรระหว่าง ทีม "บาเลนเซีย - ทีมแมนฯ ซิตี้"
อันเกิดมาจากความต้องการของอดีตนายกรัฐมนตรีไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
นอกจากมิติทางด้านการเมืองแล้ว ในแง่ของ "ความสัมพันธ์" ระหว่างบุคคล อันเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ทั้ง 3 ล้วนแล้วแต่มีกรณีของการ "พบ" อย่าง "บังเอิญ" ที่ปรากฏเป็นข่าวออกมาอยู่บ่อยครั้ง ก็เป็นเรื่องที่สร้างความสนใจให้กับผู้ซึ่งติดตามข่าวคราวเกี่ยวกับอดีตนายกฯ คนนี้มาโดยตลอดได้ไม่น้อยเช่นกัน
เฉพาะอย่างยิ่งในรายของนักร้องสาวจากค่ายอาร์เอส "ลิเดีย" ที่มีข่าวออกมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวติดต่อไปที่นักร้องสาวโดยตรงไม่ผ่านสังกัดแต่อย่างใด
"...ในวันนั้น (4 ส.ค.) เดียรับหน้าที่เปิดเวทีซึ่งเตรียมไป 4 เพลงมีเพลงไทย 3 เพลงคือ “ใช่รักหรือเปล่า” , “ว่างแล้วช่วยโทรกลับ” , “ไม่เคยเป็นอย่างนี้เลย” และเพลงสากลอีกหนึ่งเพลงอาจจะเป็น “with you” ที่ลีเดียแต่งเองในอัลบั้ม “ลีเดีย ไนท์ ทีน” ส่วนการแต่งตัวเสื้อผ้าเน้นให้ดูหรูนิดๆ ตอนนี้เตรียมทุกอย่างเกือบสมบูรณ์แล้วค่าเสื้อผ้าก็หลายหมื่นอยู่ ไม่อยากให้เขาดูถูกเรา (ยิ้ม) ช่วงนี้ก็ซ้อมร้องเพลงทุกวัน ตื่นเต้นมากๆ กดดันด้วยกลัวทำได้ไม่ดี เพราะเขาถ่ายทอดทั่วทวีปยุโรป อยากให้บ้านเราถ่ายทอดเหมือนกัน ไม่รู้จะมีไหม?"
ที่ผ่านมาแม้หลายคนจะรับรู้กันดีถึงความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว "วิสุทธิธาดา" และตระกูล "ชินวัตร" ทว่าการไปปรากฏตัวร่วมกับอดีตนายกบ้านเราของนักร้องหญิงในหลายสถานที่ หลายเวลา และค่อนข้างจะบ่อย ทำให้หลายคนคิดอย่างสงสัยว่าเป็นเรื่องบังเอิญจริงหรือ?
จุดเริ่มต้นของความเกี่ยวเนื่องในความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มต้นจากการเข้าไปรับหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ของนักร้องหญิงให้กับมือถือค่ายเอไอเอสที่ตระกูลชินวัตรถือครองหุ้นใหญ่อยู่ ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับผู้ที่รับรู้ไม่น้อยเพราะก่อนหน้านั้นจะเป็นศิลปินค่ายแกรมมี่ฯ ของ "อากู๋ ไพบูลย์" หนึ่งในเพื่อนสนิทของอดีตนายกฯ ที่รับหน้าหลักที่มาโดยตลอด
"ตอนนั้นเดียอยู่เยอรมัน ไปคอนเสิร์ตมาดอนน่า ทีนี้พี่ที่เขาเป็นหัวหน้าของทางบริษัทเขาโทรมาหา บอกว่าทางบริษัทสนใจ เพราะว่าเขาจะเอาลุคส์ใหม่ เขาจะเปลี่ยนการตลาดจากปาล์มมี่ เมื่อสักสองปีที่แล้ว เขาก็จะเปลี่ยนพรีเซนต์เตอร์ใหม่ มีตัวเลือก 4 คนเท่าที่ทราบตอนนั้น ซึ่งใน 4 คนนั้นมีเดียเป็นนักร้องคนเดียว ที่เหลือเขาจะเป็นดารา นักแสดง นางแบบ"
"เขาก็เลือกระหว่าง 4 คนนี้ แล้วเขาก็เรียกเข้าไปคุยทีละคน ดูประวัติ ดูว่าเรามีคุณสมบัติพอไหมที่จะเป็นพรีเซนเตอร์ และถ้าเป็นพรีเซนเตอร์แล้วจะทำภาพของสินค้าเขาให้ดีขึ้นหรือเปล่า จะเจาะตลาดวัยรุ่นได้มากขึ้นหรือเปล่า เขาเน้นเป็นคนรุ่นใหม่ แล้วก็เป็นตัวอย่างที่ดีด้วยค่ะ เขาก็ถามเดีย ดูว่า เออ เดียก็ไม่ค่อยมีข่าวไม่ดีอะไรอย่างนี้นะ ข่าวเรื่องผู้ชายอะไรอย่างนี้ก็ไม่มี ไม่มีข่าวเสียหาย"
"เขาก็โอเคค่อนข้างดี เขาก็ดูตรงนี้ด้วย ดูภาพลักษณ์ ภาพรวมของเราด้วย เพราะคนที่ตัดสินใจนี่ไม่ใช่คนเดียว มีเป็น 10 คนเลยค่ะ ก็เลยค่อนข้างนานนิดนึง กว่าเขาจะตัดสินใจได้ ที่เดียได้มาเป็นพรีเซนเตอร์นี่ มันไม่เกี่ยวกับที่เดียรู้จักกับครอบครัวพี่โอีคเลยค่ะ..." นักร้องสาวเคยยืนยันถึงการเข้าไปรับหน้าที่ดังกล่าวโดยระบุชัดว่า ความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างจะสนิทชิดใกล้ของครอบครัวเธอ ต่อตระกูลชินวัตรนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
ผิดกับการปรากฏตัวอีกครั้งของเธอและครอบครัวร่วมกับอดีตนายกฯ ไทยที่ประเทศอเมริกาซึ่งเป็นช่วงที่การเมืองไทยกำลังร้อนแรงทำให้ข่าวนี้กลายเป็นเรื่องที่ฮือฮาพอสมควร
แรกเริ่มเดิมทีข่าวที่ว่าเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น จากการออกมาเปิดเผยของแหล่งข่าวคนหนึ่งถึงการเข้าไปพบเจอและพูดคุยกับรักษาการณ์นายกรัฐมนตรี "ทักษิณ ชินวัตร" ช่วงกลางค่ำกลางคืนถึงโรงแรมที่พักแกรนด์ไฮแอท เลขที่ 109 E 42nd St, New York รัฐนิวยอร์ก ของนักร้องสาวจากค่ายอาร์เอสคนนี้พร้อมครอบครัว โดยทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ของค่ายต้นสังกัดของสาวลิเดียได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่า น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า
เหตุเพราะนักร้องสาวและครอบครัวมักจะเดินทางไปที่อเมริกาอยู่บ่อยครั้งอยู่แล้ว และการไปครั้งนี้ก็เพื่อที่จะทำเรื่องขอดรอปจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง "ฮาร์เวิร์ด" ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ (ทั้งที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่าตนเองศึกษาอยู่ที่ Northwestern University ในรัฐอิลลินอยส์) ขณะที่นักร้องหญิงได้เปิดเผยว่าไปพบกับอดีตนายกฯ เพื่อให้อีกฝ่ายเซ็นใบ recommendation เข้าเรียนที่ ม.ฮาร์เวิร์ด
ที่ผ่านมา ไม่ว่าอดีตนายกฯ ทักษิณ จะบินไปที่ประเทศไหนตาม อาทิ ออสเตรเลีย ฮ่องกง สิงคโปร์ ก็จะมีข่าวเล่าลือออกมาว่า นักร้องหญิงคนนี้จะต้องบินไปเจออย่างบังเอิญยังประเทศนั้นๆ อยู่ตลอดเวลา
โดยที่เป็นหลักเป็นฐานอีกประเทศหนึ่งก็คือประเทศญี่ปุ่นในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยที่นักร้องหญิงได้ให้เหตุผลของการไปที่ประเทศญี่ปุ่นกับผู้เป็นแม่ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่อดีตนายกฯ ไปอยู่ที่นั่นว่าไปดูแฟชั่น และหาซื้อเสื้อผ้าเพื่อมาใส่ในงานอัลบั้มชุดใหม่
ก่อนที่นักร้องหญิงจากค่ายอาร์เอสฯ คนนี้จะมีงานเพลงชุดใหม่ออกมาในปัจจุบัน อยู่ดีๆ ก็ปรากฏข่าวออกมาในทำนองที่ว่าเธอมีอะไรกุ๊กกิ๊กอยู่กับนักร้องหนุ่มร่วมค่าย "แมทธิว ดีน" แต่เรื่องที่ว่านี้ค่อนข้างจะมีน้ำหนักไปในทางข่าวโปรโมตเสียมากกว่า
เพราะจากนั้นไม่นานมิวสิกวิดีโอที่ทั้งสองแสดงร่วมกันในเพลงใหม่ของสาว "ลิเดีย" อย่าง "ระหว่างเราคืออะไร" ก็ออกตามมา ก่อนจะถูกกลบด้วยข่าวที่ฝ่ายหญิงได้รับการชักชวนเป็นตัวเลือกแรกจากอดีตนายกฯ ให้บินไปร่วมร้องเพลงที่ประเทศอังกฤษพร้อมกับ "ใหม่ เจริญปุระ" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งนักร้องหญิงที่มีข่าวว่าเดินควงอดีตนายกฯ ไทยช้อปปิ้งกลางห้างดัง "แฮร์ร็อดส์" ในอิริยาบถที่กระเง้ากระงอดถือข้าวถือของให้กันแบบหวานฉ่ำในหน้าไฮโซของนสพ.หัวสี(เขียว)มาแล้วเช่นกัน
ความสงสัยในพฤติกรรมแห่งความบังเอิญและความสัมพันธ์ที่สนิทสนมของอดีตนายกไทยกับนักร้องหญิงคนดังที่ล่าสุดเก็บตัวเงียบหลังจากมีข่าวว่าตั้งท้อง ยังมีเรื่อง "ที่มา" ของเงินในการซื้อบ้านหลังใหญ่ภายในหมู่บ้านมาสเตอร์พีช ย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา ที่เธอเพิ่งย้ายเข้าไปอยู่กับน้องสาวเพียงสองคนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา รวมไปถึงรายละเอียดในรายการ "ที่นี่หมอชิต" เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 29 ก.ค.
โดยในเทปดังกล่าว เมื่อ 2 พิธีกรของรายการ “นุ่น-วรนุช” กับ “เสนาลิง” ได้ถามต่อผู้เป็นพ่อ - แม่ของนักร้องสาวถึงสเป็กของคนที่จะมาเป็นลูกเขยว่าเป็นอย่างไร? ซึ่งทั้งสองต่างบอกว่าไม่มี และเมื่อสองพิธีกรถามย้ำไปอีกว่าแล้วคนที่สนิทกับลิเดียปัจจุบัน( แมทธิว ดีน)ใช่สเป็กหรือเปล่า? ทั้งคู่ต่างตอบเลี่ยงไปว่าใครหรือ?
ก่อนที่อยู่ดีๆ ทางผู้เป็นพ่อของเธอจะถามกลับให้ลูกสาวตนเองคิดเอาไว้ ระหว่าง "นายห้าง" กับ "นายแบบ" ลิเดียจะเลือกใคร?
นายแบบที่ว่าคงรู้กันอยู่กันว่าคือใคร แต่ "นายห้าง" นี่สิมาได้อย่างไร? หมายถึงใครกัน? มีนัยอะไรที่มากไปกว่าคำถามธรรมดาหรือไม่? หลายคนอาจจะสงสัยกันอยู่
แต่ที่รู้ๆ ก็คือเรื่องที่นักร้องหญิงได้ไปร้องเพลงและต้องพบปะกับอดีตนายกฯ ที่อังกฤษในครั้งนี้นั้น ไม่ "บังเอิญ" เหมือนที่ผ่านๆ มาอย่างแน่นอน
..........
“แม้ว” ยอมรับสนิท “ลิเดีย” หลังโดนปฏิวัติไป “โอเกะ” กันประจำ