"ประวิทย์" ยัน! สัมพันธ์ "สรยุทธ-ปลื้ม" แตกหัก

โมเดิร์นไนน์รุกรายการข่าว "ประวิทย์" รับโดนผลกระทบแต่ไม่หวั่นเพราะช่อง3กำลังสร้างคนมีฝีมือพร้อมเตรียมปรับเนื้อหา ออกปากชม "พชร" พูดกระชับกว่าคนเก่า ยันยังปลื้ม "เรื่องเล่าฯ" แม้รูปแบบยังไม่ลงตัวเหตุเปลี่ยนตัวพิธีกรถี่ เจ้าตัวโพล่งใครจะมาทำงานกับ "สรยุทธ" ต้องคิดให้ดีๆ ส่วนกระแสข่าว "ปลื้ม" เตรียมชิ่งไปช่อง 9 เต็มตัวแถมทำข่าวเช้าแข่ง "สรยุทธ" ผู้บริหารช่อง 3 ไม่สน บอกเป็นเรื่องธรรมดาพร้อมลั่นสัมพันธ์ 2 พิธีกรไม่จำเป็นต้องเคลียร์ เปรียบเหมือนแก้วที่แตกแล้ว

คึกคักทีเดียวสำหรับการทำรายการข่าวของสถานีโทรทัศน์ต่างๆ เนื่องจากหลายช่องมีการขยับตัวและเปลี่ยนแปลงกันมากขึ้นทั้งในเรื่องของรูปแบบรายการ,เนื้อหาสาระข่าวหรือแม้กระทั่งตัวผู้ประกาศข่าวเอง ล่าสุดโมเดิร์นไนน์ประกาศจะเป็นองค์กรข่าวอันดับ 1 ให้ได้โดยดึงผู้ประกาศข่าวชื่อดังฝีมือดีอย่าง "กิตติ สิงหาปัด" จาก ทีไอทีวี มาทำข่าวภาคค่ำชนกับ "ฮ็อต นิวส์" ที่เจ้าตัวเคยทำอยู่

อีกทั้งให้ "ปลื้ม ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล" ทำข่าวภาคเช้าแข่งกับ "เรื่องเล่าฯ" ทางช่อง 3 ที่มีพิธีกรฝีปากกล้า "สรยุทธ สุทัศนะจินดา" เป็นผู้ดูแลรายการอยู่ด้วยแถมสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดูเหมือนกลายเป็น "คู่เกาเหลา" กันเช่นนี้แล้ว ยิ่งทำให้การแข่งขันในเรื่องของรายการข่าวครั้งนี้ดูจะเข้มข้นและน่าสนใจกว่าทุกครั้งที่มีการปรับเปลี่ยนกันมา

เกี่ยวกับเรื่องที่ "ปลื้ม" ทำรายการชนกับของ "สรยุทธ" นี้ ในงานแถลงข่าวเปิดตัวทีมผู้ประกาศข่าวของอสมท.เมื่อวันก่อนพิธีกรกระแสแรงปฏิเสธที่จะพูดถึงโดยได้เดินหนีพร้อมโบกมือให้สื่อมวลชนไปแบบเนียนๆ แต่ปลื้มได้พูดถึง 2 รายการของตัวเองกับทางช่อง 9 ว่า...

"รูปแบบการนำเสนอในรายการข่าวของเราจะไม่นำเสนอความคิดเห็นส่วนตัว ยกตัวอย่างเช่น รัฐธรรมนูญเราจะชอบหรือไม่ชอบรัฐธรรมนูญนี้ เราจะไม่พูดให้เป็นอิทธิพลต่อคนฟังให้เชื่อในรายการผมแต่ผมจะเอาไปเขียนลงคอลัมน์ประจำของผมในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ทุกวันพฤหัสบดี เพราะนี้คือเวทีความคิดของเรา"

"รายการ "เป็นปลื้ม" ไม่จำเป็นต้องเอาคนที่ผมปลื้มแต่เอาคนที่น่าสนใจ รายการจะเป็นกึ่งวาไรตี้คุยทั้งเรื่องหนักและเบาสมองและจุดประสงค์คือให้ผู้ชมดูแล้วได้ข้อมูลและมีความสุขกับการชมรายการครับ"

ทางด้านช่อง 3 ที่ดูจะได้รับผลกระทบที่สุดในการปรับครั้งนี้ ผู้บริหารใหญ่ "ประวิทย์ มาลีนนท์" แสดงทัศนะว่าเป็นเรื่องธรรมดาของการแข่งขัน

"ช่อง 9ปรับปลื้มชนกับสรยุทธเป็นเรื่องธรรมดาครับ ไม่ใช่เรื่องผิดปกติครับ ไม่เป็นไรก็แข่งขันกัน ประโยชน์อยู่ที่คนดู ถามว่ามันมีผลกระทบมากมั้ย..มันก็กระทบนะครับในด้านที่ว่าคนดูได้มีโอกาสเลือกดูมากขึ้น หวั่นมั้ยก็ไม่ เราอยู่ในโลกการแข่งขันอยู่แล้วน่ะครับ เราก็เติมแบงค์ ( พชร ปัญญายงค์) เข้ามานะครับเราค่อยๆสร้างคนขึ้นมาซึ่งแบงค์จะรวบรัดกว่าแล้วก็ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านค่อนข้างสูง ส่วนรูปแบบรายการเราก็จะเพิ่มเนื้อหาสาระมากขึ้น"

เมื่อถามต่อว่ารูปแบบรายการ "เรือ่งเล่าฯ" ที่ล่าสุดดึง "ปอ อรปรียา" เข้ามาและให้ "แบงค์ พชระ" เสียบแทน "ปลื้ม" นั้นลงตัวหรือยัง ผู้บริหารช่อง 3 ยังตอบได้ไม่ชัดนักแต่บอกยังพอใจกับเรตติ้ง

"ความจริงปอ อรปรียาไม่มีอะไรนะ ที่เขาลาออกไปเพราะปัญหาเรื่องสุขภาพ ไม่ไหวแล้วและเขาเตรียมตัวจะแต่งงาน จะให้เขาตื่นตี 4 เดี๋ยวแฟนเขาทิ้งเอาแต่นี่เขาขอกันแล้ววันหนึ่ง ก็คือวันศุกร์เนี่ยเขาอยากให้เป็นอะไรที่เบาๆก็เลยเอาปอเข้ามา เขาไม่ได้มีความขัดแย้งกัน"

"ช่วงนี้เรายังไม่มีดึงใครเข้ามาเพิ่มหรือเปลี่ยนตัวนะ เรื่องเพิ่มเวลาให้แบงค์ความจริงเราอยากให้แบงค์อยู่ตลอดแต่ว่าเขาต้องไปทำรายการอีกช่องหนึ่ง มีโอกาสเชิญมาประจำมั้ยก็แล้วแต่เขาครับและแล้วแต่คุณสรยุทธเขาไปชวน ถ้าถามผมว่าผมกลัวเหมือนตอนปลื้มมั้ยที่ไม่เซ็นสัญญาแล้วเขาก็ไปคือตรงนี้เขาคุยกันเอง เราไม่ได้บังคับอยู่แล้วเรื่องนี้ ซึ่งวันนี้คนก็ยังตามดูรายการเราอยู่นะครับ"

มีกระแสข่าวว่ารายการภาคเช้าของช่อง 3 มีเรตติ้งแพ้ช่องอื่น อาทิรายการ "เรื่องเล่าฯ" แพ้ "จมูกมด" ของช่อง 7 เกี่ยวกับเรื่องนี้นายประวิทย์บอก...
"เรายังเชื่อว่าของเรายังดีอยู่แต่ว่าเราไม่ได้ทิ้งความตั้งใจที่เราจะพัฒนารายการไปเรื่อยๆ เราไม่ได้อยู่นิ่งและเราไม่ได้ประมาทคนอื่น อย่างรายการผู้หญิงก็เช่นกันครับยังดีเพียงแต่ว่าคนอาจจะกล่าวขวัญน้อยหน่อย"

บิ๊กบอสลั่นไม่เคืองหาก "ปลื้ม" จะย้ายไปอยู่ช่อง 9 เต็มตัวพร้อมปฏิเสธข่าว 3 คว่ำบาตรพิธีกรกำลังดังคนนี้ บอกตนไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร
"ข่าวจะออกไปอยู่ช่อง 9 เต็มตัวเป็นเรื่องของเขาน่ะครับ เราไม่มีสิทธิ์เพราะเราไม่ได้เซ็นสัญญากับเขา และรายการอื่นๆก็เป็นคนอื่นว่าจ้างไม่ใช่สถานีว่าจ้าง ซึ่งรายการอื่นนอกเหนือจากเรื่องเล่าเช้านี้ที่เขาทำกับช่อง 3 เป็นอิสระของเขาไง เขาเลือกไปทำงานกับใครก็ได้ เราไม่ได้เป็นศัตรูกับคุณปลื้มนะ"

"ผมไม่เคืองหรอกที่เขามาดังจากช่อง 3แล้วไปอยู่ช่อง 9 จะเคืองทำไม เป็นสิทธิ์ของเขาอีกอย่างเราไม่บังคับคน ถ้าทำงานไม่ได้บังคับไปก็เปล่าประโยชน์"

ต่อคำถามที่หลายคนแคลงใจถึงความสัมพันธ์ระหว่าง "สรยุทธ" กับ "ปลื้ม" ว่าแท้จริงแล้วเป็นอย่างไรกันแน่ คนกลางอย่างนายประวิทย์ตอบชัดเจนว่าเหมือนแก้วที่แตกแล้ว
"ถามถึงเรื่องสรยุทธกับปลื้มไม่ลงรอยกัน คือมันไม่มีเค้ามาก่อนน่ะผมยังแปลกใจ คุณสรยุทธก็ยังไม่ได้พูดเลยใช่มั้ย ถ้าถามผมว่าผมได้ถามถึงสาเหตุมั้ยว่าเกิดจากอะไร มันสายไปแล้ว ถามไปก็ไม่มีประโยชน์ แก้วมันแตกแล้วน่ะ ซึ่งที่เขายังทำรายการอื่นอยู่เพราะเขามีปัญหาตรงเรื่องเล่าเช้านี้ผมจะไปพาลรายการอื่นไม่ได้"

เมื่อถามต่อว่านายประวิทย์เคยมองหรือไม่ว่าเพราะเหตุใดคนที่มานั่งคู่กับ "สรยุทธ" มักถูกเปลี่ยนเรื่อยๆเป็นเพราะตัวเขาเองหรือเพราะอะไร
"ผมเรียนอย่างนี้ดีกว่าคนที่จะมานั่งทำงานกับสรยุทธเนี่ยต้องรู้ก่อนว่าคุณสรยุทธลักษณะการทำงานเขาเป็นอย่างไร อย่ามาบอกว่าเอ๊ะ! สรยุทธทำให้เขาเป็นตัวตลก ต้องรู้บุคลิกสรยุทธอยู่แล้วก่อนรับงาน"

"หรือที่มีคนบอกสรยุทธทำงานด้วยค่อนข้างยาก..ถ้าอย่างนั้นก่อนที่จะมาร่วมงานต้องคิดให้ดีๆน่ะ คุณสรยุทธจะห่วงเรื่องเนื้อหาบางทีถ้ายังเล่าไม่ชัดเจนเขาต้องสอดเข้ามา คุณสรยุทธเป็นคนที่จับประเด็นเก่งและนำเสนอแม่นมาก ต้องรวบรัด ถ้าคนอื่นมัวแต่ไปวนๆอยู่หรือบางทีเล่าๆไปตกประเด็นสำคัญไปก็ต้องสอด แกความจำดีน่ะ อ่านเยอะเหมือนแกรู้ทุกข่าวเลยนะ"

จะมีคนมองว่า "สรยุทธ" แสดงความคิดเห็นลงไปในข่าวมากเกินไป
"ก็เป็นปกติ รายการอื่นหรือคนอื่นก็เป็นในลักษณะเล่าข่าวแบบนี้แต่เราก็พยายามจะห้ามนะ ถ้าเราจะสร้างมาตรฐานใหม่ขึ้นมาเนี่ยถ้าเราเป็นคนบริโภคสื่อเราต้องตามให้ทัน เราต้องมองเห็นว่าเออ นี่เป็นความเห็นของสรยุทธนะ มันจะได้หลากหลายไง เมื่อก่อนนี้เราไม่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นกันเลย"