xs
xsm
sm
md
lg

"นารากร" บอกคืน(ที)ไอทีวี เพราะบ้า! ผู้บริหารมั่นใจเรียกเรตติ้งแทน "กิตติ"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ดึง "ต๊ะ นารากร" เสียบแทน "กิตติ" ใน " TITV Hot News" ผู้บริหารมั่นใจเรตติ้งยังแจ๋วเหมือนเดิม ยันไม่โกรธทุกคนที่ชิ่งบ้านเกิดไปหาสิ่งที่ดีกว่าเพราะเข้าใจต้องหาเลี้ยงครอบครัว ด้านผู้ประกาศสาวบอกตนเองบ้ายอมทิ้งเงินแสนที่โมเดิร์นไนน์ ลั่นลุยอ่านข่าวบ้านเก่าช่องเดียวเพื่อสร้างประวัติศาสตร์

เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันนี้ (5ก.ค.) ที่อาคารชินวัตร 3 "อัชฌา สุวรรณปากแพรก" ผอ.ฝ่ายข่าวสถานีโทรทัศน์ ทีไอทีวี ร่วมด้วยทีมข่าวฝีมือดีของ Hot News "สร้อยฟ้า โอสุคนธ์ทิพย์" , "ธีรัตถ์ รัตนเสวี" ,"ชิบ จิตนิยม" และ "เชิงชาย หว่างอุ่น" โปรแกรมเมอร์ ไดเร็คเตอร์ เปิดตัวผู้ประกาศข่าวสาว "นารากร ติยายน" ที่จะมารับหน้าที่แทน "กิตติ สิงหาปัด" ซึ่งจะย้ายวิกไปอยู่โมเดิร์นไนน์ทีวี

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้ผ.อ.ฝ่ายข่าวทีไอทีวียืนยันว่าเรตติ้งของรายการยังจะดีเหมือนเดิมแน่นอนเพราะมั่นใจในทีมข่าวและไม่หวั่นช่วงเวลาจะชนกันกับลูกหม้อคนสนิท "กิตติ" ที่ย้ายไปอีกช่อง พร้อมแสดงจุดยืนว่าจะทำรายการข่าวแนวรีพอร์ทต่อไป

"ผู้ประกาศจากทีไอทีวีออกไปหลายคนแต่ก็คือจริงๆ ผมมองว่าwindowของช่องต่างๆ ข่าวเราทีไอทีวีปัจจุบันเรามีเวลาผลิตรายการวันหนึ่งจริงๆ 8 ชม.กว่าแล้วเราก็สร้างวินโดว์ว่าคนนี้เป็นเจ้าของรายการนี้ เป็นพรีเซ็นเตอร์รายการนี้ชัดเจน และเรามีคนรุ่นหลังๆ ที่เป็นผู้สื่อข่าวที่เปี่ยมพร้อมเป็นผู้ประกาศได้ พอเราปรับก็จะปรับให้น้อยที่สุด ให้มีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก ส่วนหนึ่งไปเราก็เอาไปแทนได้นะครับซึ่งผู้ประกาศหลักยังอยู่นอกจากกิตติคนเดียว ภาคค่ำ เช้า เที่ยงยังอยู่ครบนะครับ"

"ก่อนหน้านี้มีคำถามมาตลอดว่าคุณกิตติจะไปแน่รึเปล่า ผมก็บอกว่าผมตอบไม่ได้นอกจากคุณกิตติตอบเอง ณ วันนี้หลังจากที่นารากรอาสากลับมาช่วยผลกระทบก็คงไม่มากเพราะว่าดูกระแสตอบรับของเอเจนซี่ เราก็ยังมีรูท สป็อตอยู่ที่ประมาณ 50 กว่าล้านส่วนค่าเช่าเวลาเราจะมีรายได้ประมาณ 30 ล้านเหมือนเดิม ทุกคนโอเคกับการกลับมาของต๊ะนะครับด้วยความสามารถของเขาด้วย"

"ส่วนกระแสเปรียบเทียบระหว่างต๊ะกับกิตติต้องคอยดูว่ามันจะเป็นอย่างไร ส่วนเรื่องตำแหน่งรองผอ.ฝ่ายข่าวที่เคยเป็นของกิตติเนี่ยตอนนี้ผมก็ยังไม่แต่งตั้งใครใหม่มาแทนที่นะครับเพราะคิดว่ายังไม่จำเป็น"

"กลยุทธ์ต่อไปของการทำข่าวผมมองว่ามันเป็นความท้าทายของกองบก.นะว่าเราจะทำอะไรต่อ การประชุมข่าวที่ไม่เข้มข้นก็กระตุ้นให้เข้มข้นขึ้น วิธีการก็ให้พัฒนาขึ้นว่าเฮ้ย ! เราต้องสู้นะ"

จากการที่เอเจนซี่ยังคงสนับสนุนเหมือนเดิม ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ว่า "กิตติ" จะอยู่หรือไปหรือใครมาแทนที่หากแต่อยู่ที่ศักยภาพของทีมข่าวทีไอทีวี
"ผมขอเรียนอย่างนี้ว่าช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมากระแสคุยข่าวเล่าข่าวแรงมาก ฝ่ายข่าวเองของไอทีวีเดิมโดนกดดันให้เป็นไปตามกระแสนั้นแต่ผมนี่ยืนหยัดทีมข่าวกองบก.เองยืนหยัดว่าเราจะให้เป็นลักษณะรีพอร์ทอย่างนี้แหละ เราจะไม่มีคอมเมนต์เราจะไม่เล่าข่าวเพื่อที่จะให้คนแยกแยะไม่ได้ว่าอันไหนข้อเท็จจริงอันไหนคือความเห็นซึ่งเรายืนอยู่ตรงนั้นเนี่ยถ้าเราจำไม่ผิดโดนประชุมเรื่องพวกนี้ 3 - 4 ครั้งแต่เราก็ยันว่าจะเป็นอย่างนี้แหละ"

"แต่ในระยะยาวเวลานี้ก็เป็นสิ่งพิสูจน์ว่าสิ่งที่เราทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องในการนำเสนอข่าวนะครับ มันทำให้คนแยกแยะได้ว่านี่คือข้อเท็จจริงที่เรานำเสนอ ประชาชนสามารถที่ว่าโอเคข่าวที่จะออกมาดีได้ก็อยู่ที่กองบก. ทีมข่าวที่จะออก ผู้ประกาศจริงๆแล้วที่บอกว่าเราสร้างมาจากทีมข่าวเป็นส่วนเสริมกันและกัน วางแผนร่วมกัน รู้เรื่องข่าวพอกันกับโต๊ะข่าว"

ส่วนกรณีที่ "กิตติ สิงหาปัด" คนข่าวหัวเรือใหญ่กำลังจะย้ายช่องไปยังโมเดิร์นไนน์นั้น ผู้บริหารสถานีข่าวทีไอทีวียอมรับถึงกับเครียด แต่ไม่เคยคิดโกรธเพราะเชื่อทุกคนต่างมีภาระที่ต่างกัน ปิดปากเรื่องราคาค่าจ้างของกิตติที่ได้มากกว่าที่อยู่ที่ทีไอทีวี

"ยอมรับว่าเครียดที่กิตติจะไปคือสิ่งที่เราทำงานมาประมาณ 10 กว่าปีอยู่ด้วยกันเกือบทุกวัน กินข้าวด้วยกัน ทำงาน ประชุมแล้วก็ใจหายทุกครั้งที่คนไหนมาลาผมว่าจะไปเนี่ยคือผมดูแลพวกน้องๆเหมือนครอบครัว แต่ว่าวิถีทางของแต่ละคนคงบังคับไม่ได้ เราก็ไม่แน่ใจผมก็ไม่สามารถให้หลักประกันใครได้ว่าหลังจากนี้ต่อไปคุณจะเป็นอย่างนี้ๆนะ แต่เราก็ต้องพัฒนากันต่อไปในช่วงที่เราเนี่ยได้คนเพิ่มมาหลายคนนะ ก็พออยู่ได้"

"ซึ่งจริงมันเป็นธรรมดาของวงการนี้นะครับ เราก็เคยเจอเราก็เคยดึงคนที่อื่นมาในตำแหน่งอื่นๆ เราก็เข้าใจแต่ว่าเราก็ไม่ถึงกับเรือจ้างหรอกจริงๆมันเป็นวิถีของแต่ละคนซึ่งจริงๆถ้าทีไอทีวียังมีสภาพที่ผมให้คำตอบเขาได้ ให้ความมั่นใจเขาได้นั่นน่ะผมถึงสามารถดึงได้"

"ก็จะปฏิเสธก็คงไม่ได้นะว่าน้อยใจและท้อบ้างแต่รู้สึกโกรธน้องเขามั้ย ไม่โกรธนะครับ ผมอย่างไรก็เหมือนพี่น้องกันแต่ว่าเราจะทำอย่างไรมันเป็นวิถีที่ทุกคนเลือกเราไม่สามารถกำหนดชะตาหรือทางเดินเขาได้ ถ้าวันหนึ่งเขาจะกลับมาก็ยินดีตอนนี้เราเริ่มตั้งหลักได้แล้วล่ะจาก 3-4 เดือนที่ผ่านมา เราก็จะเริ่มเดินหน้าหลังจากนี้เราคงมองภาพไปข้างหน้ามากขึ้น"

"ส่วนเรื่องสภาพการเงินเนี่ย ผมไม่ทราบครับว่าข้อเสนอเขาเป็นอย่างไร ผมไม่ได้คุยในรายละเอียดตรงนี้มากนัก ต้องยอมรับกันนะครับว่าตั้งแต่ 8 มี.ค.-พ.ค.ต้นๆทุกคนห่อเหี่ยว ขวัญกำลังใจมันตก ผมก็พยายามกระตุ้นใช้ทุกวิถีทางที่คุย ถามความรู้สึกน้องๆด้วย พยายามคุยกับเขาตลอด โอเค ณ วันนั้นมันผ่านไปแล้วแต่วันนี้เรามีกำลังใจมากขึ้นเพราะทุกอย่างชัดเจนแล้วในเรื่องของระเบียบการ การถูกต้องตามกฎหมายหรือเรื่องการจ่ายเงิน"

ส่วนกรณีที่ว่าพอถึงยามคับขันแต่ทุกคนก็ทิ้งสถานีซบช่องอื่นนั้น ผู้บริหารทีไอทีวีย้ำว่าอุดมการณ์เป็นเรื่องส่วนบุคคลซึ่งตนเข้าใจดีว่าทุกคนต่างมีภาระที่ต้องดูแล
"การปลูกฝังอุดมการณ์ในเรื่องตรงนี้นั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคลน่ะนะครับ บุคคลมีความจำเป็นหลายอย่าง มีความจำเป็นเรื่องของที่ผมบอกที่ผมไม่สามารถให้ความมั่นใจได้ หลายคนก็มีครอบครัวที่ต้องดูแลอะไรพวกนี้น่ะครับ"

ก่อนทิ้งท้ายว่ามั่นใจในทีมข่าวที่จะเข้ามาทำงานตรงนี้ว่ามีความเข้มข้นและเป็นคนคุณภาพของทีไอทีวี แม้ว่าเรตติ้งอาจจไม่หวังถึงอันดับต้นๆแต่มั่นใจความถูกต้องและน่าเชื่อถือทีไอทีวีต้องเป็นอันดับหนึ่ง

"คือผู้ประกาศส่วนใหญ่มาจากทีมข่าว เป็นนักข่าวในสนามอย่างสร้อยฟ้า ธีรัตถ์ไม่ใช่โดดออกมาเป็นผู้ประกาศข่าวเลย กิตติเองเขาก็ต้องออกไปทำข่าวนี่คือแนวทางการสร้างผู้ประกาศเรา ที่สำคัญที่สุดของผู้ประกาศคือต้องรายงานสิ่งที่ประชาชนเชื่อถือ"

"เพราะฉะนั้นการสร้างในสนามข่าวเนี่ยคือสร้างความน่าเชื่อถือ สร้างเครดิตให้ผู้ประกาศนั้นคือแนวทางที่เรายึดมั่นมาตลอด 11ปี ผมมั่นใจนะกับผู้ประกาศข่าวใหม่ๆของเรา เทสต์แล้ว หน้าตา การพรีเซ็นต์ฝึกกันอยู่แล้วแต่ในอนาคตก็ไม่แน่นะที่เราจะดึงผู้ประกาศข่าวดังๆเข้ามา ต้องดูต่อไปแต่มีคนนอกเข้ามาเสนอกับเราแต่เราเอาคนของเราไว้ก่อนครับ"

"ตั้งแต่ชินคอร์ปเข้ามาจะมีคำถามตลอดว่าเราเป็นกลางหรือไม่จนกระทั่ง 4 ปี ปี 48 คำถามนั้นหายไปโอเคเราเสนอความเป็นกลาง เราใช้ความพยายามเยอะในการพิสูจน์ว่าเราเป็นกลาง เป็นธรรมเพราะฉะนั้นผมถือว่าผมประกาศว่าเราเป็นกลางแน่นอนตามหลักวิชาชีพ และการพิสูจน์จริงๆเนี่ยคือประชาชนจะพิสูจน์ที่หน้าจอ เรตติ้งอาจไม่ได้เป็นอันดับ 1 แต่ความน่าเชื่อถือต้องเป็นที่ 1"

ด้าน "ต๊ะ นารากร ติยายน" ที่แม้ไม่ได้กลับมาเป็นพนักงานประจำของทีไอทีวีแต่แค่ยอมเซ็นสัญญาเดือนต่อเดือน เจ้าตัวบอกไม่หวั่นที่มาเสียบแทนกิตติเพราะมั่นใจในทีมข่าว ออกปากตนยอมทิ้งเงินเหยียบล้านจากโมเดิร์นไนน์กลับบ้านเก่าเพื่อต้องการสร้างประวัติศาสตร์ให้ตัวเอง

"ที่ผ่านมาต๊ะก็ออกจากไอทีวีหลายๆครั้ง ต๊ะก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนในยุคบุกเบิกของเมื่อไอทีวีเป็นทีวีเสรีต๊ะก็ได้ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ตรงนั้นด้วยครั้งแรก และเมื่อถึงยุคที่ไอทีวีรุ่งเรืองสุดๆเป็นยุคที่ใครๆก็อยากจะเข้ามาไอทีวีเพื่อจะเติบโต"

"แต่ถ้าทุกคนจำได้ในยุคนั้นที่ไอทีวีเฟื่องฟูสุดๆต๊ะเองได้เดินออกไปจากไอทีวีเพื่อที่จะไปทำงานอื่นๆที่ท้าทายประสบการณ์ ได้ทำรายการ "เจาะใจ" เป็นพิธีกรที่นั่น 5 ปีเศษ ไปอ่านข่าวที่ช่อง 3 อีก 2 ปีที่สุดแล้วก็กลับมาไอทีวีอีกบทบาทหนึ่งเป็นฟรีแลนซ์ก็ไม่มีปัญหาอะไรแต่ด้วยการปรับเปลี่ยนแผนงานก็ต้องออกจากไอทีวีไปอีกครั้งหนึ่งนะคะแต่ก็ติดตามข่าวสารและคุยกับเพื่อนๆที่ร่วมบุกเบิกมาตลอด"

กลับคืนรัง(เก่า) อีกครั้งเพราะต้องการช่วยทีไอทีวีจริงๆ เปล่าหาผลประโยชน์
"ในจังหวะที่คุย คุณอัชฌาบอกว่าคุณกิตติจะไปจากฮ็อต นิวส์ช่วงนั้นต๊ะบอกตรงๆว่าต๊ะได้รับข้อเสนอที่ดีมากเป็นข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ลง ต๊ะก็ปรึกษาผู้ใหญ่หลายๆคนเขาก็บอกว่าคุณจะคิดอะไรอีกล่ะมันเป็นข้อเสนอที่ดีขนาดนั้นแล้ว แต่เมื่อได้รับข่าวแบบนี้ก็มานึกถึงเพื่อนๆ ที่เคยทำงานมาด้วยกันก็คิดว่าทุกวันนี้ไอทีวีอยู่ได้ด้วยหัวใจจริงๆนะ"

"ถามว่าไอทีวีจะกลับไปรุ่งเรืองเหมือนไอทีวีเหมือนตอนเป็นทีวีเสรีมั้ยทุกคนตอบไม่ได้ ความหวังน้อยมากทีไอทีวีจะเป็นทีวีสาธารณะหรือเปล่าไม่มีใครรู้ จะมีการเปลี่ยนแปลงรึเปล่าแต่ก็เห็นมาตลอดว่าคนที่นี่สู้ด้วยใจ"

"ถ้าต๊ะจะมาช่วยเสริมความเข้มแข็งของไอทีวีได้เนี่ยต๊ะก็ขอตามรอยเท้าของตัวเองดีกว่านะ...(พูดเสียงสั่น น้ำตาคลอ) คนเราสักครั้งหนึ่งน่าจะมีประวัติศาสตร์ที่เราสร้างด้วยตัวเอง สร้างรอยเท้าของตัวเอง จริงๆ เราเลือกเองว่าเราอยู่ตรงไหนเรามีประโยชน์มากที่สุด เราน่าจะอยู่ตรงนั้นมากกว่านะคะก็เลยเลือกที่จะมาที่ทีไอทีวี"

"มีน้องๆ เพื่อนๆ ถามว่าทำไมกล้าตัดสินใจอย่างนี้เราก็คิดว่าทำไมเรากล้า ก็บอกว่าไม่กล้าหรอกเราบ้ามากกว่า รอยเท้าตะอยู่ที่ไอทีวีและก็ยินดีที่จะเดินกลับมาที่บ้าน ไปที่ไหนไม่เคยลืมไอทีวี ไปบ้านอื่นอาจจะอบอุ่นแต่ที่สุดแล้วเมื่อบ้านนี้มีปัญหาเรากลับมาทำประโยชน์ได้ก็เลือกที่จะกลับมา ก็ขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆที่ได้มาเจอและเขายังชอบต๊ะอยู่น่ะค่ะ"

เจ้าตัวบอกว่าหากตนไม่บ้าคงไม่ยอมทิ้งเงินเกือบล้านต่อสัปดาห์
"ตอนนี้ทำหลักๆคือรายการฮ็อต นิวส์ 21.10 - 22.10 น. ทุกวันเริ่ม 9 ก.ค.นี้และมีรายการขบวนการแก้โกง ทางช่อง 9 อาทิตย์ 15.00น. มีแค่นี้น่ะค่ะ ช่อง 9 ทาบทามก็คุยกันหลายครั้งแล้วก็คุยนาน"

"จริงๆ ผู้ใหญ่ช่อง 9 เมตตาต๊ะมากและท่านก็มีโอกาสดีๆ รายการในผังใหม่จริงๆ รวมแล้วที่ผู้ใหญ่ช่อง 9 ให้โอกาสก็หลาย 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์นะคะที่เสนอมาซึ่งถ้าถามถึงตัวเงินก็เป็น 6 หลักปลายๆ ค่ะแต่ว่าเมื่อต๊ะเลือกที่จะเดินเข้ามาร่วมต่อสู้กับที่ทีไอทีวี ก็ยอมเสียโอกาสตรงนั้นไปน่ะค่ะ"

พร้อมทั้งบอกว่าที่จริงสามารถอ่านข่าวสองช่องได้ ตามคนข่าวอย่าง "สรยุทธ สุทัศนะจินดา" หรือ "กนก รัตน์วงศ์สกุล" แต่ไม่ใช่ธรรมเนียมของทีไอทีวี
"เป็นวัฒนธรรมของที่ทีไอทีวีด้วยและเป็นมารยาทนะ โดยหลักการอย่างทั่วโลก ต่างประเทศเขาจะอยู่ช่องนั้นช่องเดียวโอกาสที่จะย้ายช่องก็เป็นเรื่องใหญ่ และตัวต๊ะเองเติบโตมากับงานข่าวรู้ว่าคนดูข่าวเนี่ยเขาเชื่อเราเพราะการที่ทำให้คนเชื่อได้เหมือนต้องมีแบรนด์ เราต้องมีแบรนด์ว่าคุณอยู่ที่ไหน อย่างไปไหนคนจะจำหน้าเราได้ว่าคุณอ่านข่าวที่นี่ จำหน้าได้แต่จำชื่อไม่ได้ก็ง่ายกว่าที่จะบอกว่าอ่านข่าวที่ไหน"



กำลังโหลดความคิดเห็น