"พอล" เปิดใจเหตุบอกเลิก "ซาร่า" กะทันหัน เผยเพราะงานยุ่งจึงรู้สึกไม่ยุติธรรมที่ดูแลแฟนสาวได้ไม่เต็มที่ ย้ำไม่เกี่ยวกับมือที่สามตามที่เป็นข่าว ยอมรับรู้จัก "เกรซ - ป๊อบ" แต่ไม่ได้สนิทอะไรมากพร้อมลั่นโอกาสพัฒนาไม่มีแน่ แจงยังรักแฟนสาวเหมือนเดิมแต่ขอเวลาทำใจสักพัก
หลังจากที่ก่อนหน้านี้นางสาว "ซาร่า-มาลากุล เลน" ได้ออกมาเปิดใจถึงกระแสข่าวรักร้าวกับแฟนหนุ่ม "พอล-ภัทรพล ศิลปาจารย์" แล้ว
ล่าสุดพระเอกหนุ่มก็ได้ออกมาแถลงข่าวถึงความสัมพันธ์และเรื่องราวที่ใครหลายคนสงสัย ในเวลาประมาณ 14.00 น. ที่ร้าน "รูท 66" ย่านอาร์ซีเอ หลังจากที่อัดรายการ "อสูรชายโชว์" เสร็จ ก็ได้จัดแถลงข่าวถึงเรื่องดังกล่าวท่ามกลางสื่อมวลชนที่มาทำข่าวเป็นจำนวนมากว่า...
"สำหรับในเรื่องของความสัมพันธ์ของผมกับซาร่านั้นก็คงเป็นอย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่า ตอนนี้เราสองคนเริ่มห่างกันแล้วและเหลือไว้แต่ความเป็นเพื่อนกัน"
"ก่อนหน้านี้ที่ผมเคยออกมาบอกความสัมพันธ์ของเรายังมั่นคงนั้นเป็นเพราะว่าตอนนั้นมันยังอยู่ในช่วงที่เรายังไม่ได้คุยอะไรกันที หลังจากวันนั้นเราก็ได้มาคุยกันก่อนที่ผมจะไปทำงานที่ต่างประเทศว่าเราลองถอยออกมากันคนละก้าวดีไหม"
ยอมรับพักหลังไม่ค่อยจะได้มีเวลาคุยกับแฟนสาวสักเท่าไหร่? พร้อมบอกตนเองก็เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่แพ้ฝ่ายหญิง
"พักหลังนี้เราไม่ค่อยได้คุยกันสักเท่าไหร่และผมก็คิดว่านี่คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว เมื่อวานผมก็ทราบนะว่าตอนที่พี่นักข่าวไปสัมภาษณ์ซาร่า เขาก็ร้องไห้ด้วย ผมก็อยากจะบอกว่าผมเองก็เสียใจไม่แพ้เขาหรอก ที่ต้องทำให้เขาเสียใจอยากจะบอกตรงนี้เลยว่ามันเป็นความผิดของผมเอง"
"ซาร่าเป็นคนดี เป็นคนน่ารัก แล้วเขาก็ดีกับผมมาตลอดในทุกๆ อย่าง เขาไม่ใช่เป็นแค่แฟนเขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผมด้วย ตอนนี้ผมก็ยังรักซาร่าเหมือนเดิมนะ แต่ถ้าถามว่าจะมีการกลับมารีเทิร์นไหมอันนี้มันคงเป็นเรื่องของอนาคตนะ คงจะให้มาบอกอะไรตอนนี้ยังไม่ได้"
เผยยังไม่ได้ติดต่อกับอดีตแฟนเหตุเพราะเชื่อว่าพูดอะไรไปตอนนี้ก็ไม่มีอะไรที่ดีขึ้น
"ผมคิดว่าอยากจะให้เวลากับเขาและตัวเองดีกว่า เพราะผมเชื่อว่าตอนนี้คุยกันไปก็คงจะไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้นแต่ผมก็ยังหวังว่าสักวันหนึ่งเราจะเป็นเพื่อนที่ดีกันได้เหมือนเดิม แต่อาจจะต้องใช้เวลาสักพัก"
ยืนยันคิดหนักก่อนที่จะพูดคำเลิกราออกไป พร้อมกับยืนยันว่าเป็นเรื่องของเวลาที่ไม่ค่อยมีให้จริงๆ..."ตอนที่ผมโทรไปบอกเขานะว่าขอถอยออกห่างสักพัก ตอนนั้นผมคิดนานมาก ผมนั่งทบทวนกับตัวเองว่าจะโทรไปหาเขาดีไหม คือใจหนึ่งก็อยากที่จะโทรเช็คว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง แต่ตอนแรกก็ยังไม่กล้าพูดหรอก สุดท้ายผมก็คิดว่าบอกไปเลยดีกว่าก็เลยบอกเขาไป"
"ยอมรับนะว่าสาเหตุที่ทำให้รู้สึกแบบนั้นเป็นเพราะช่วงที่ผ่านมาผมไม่ค่อยมีเวลาว่างสักเท่าไหร่ พอเริ่มโตมากขึ้นผมก็จะมองไปในเรื่องของงานมากกว่าอย่างอื่นแล้ว แต่ที่ผมไม่ได้บอกน้องเขาตั้งแต่แรกเป็นเพราะว่าผมพยายามปรับปรุงตัวเองแล้วและพยายามใส่ใจแล้วพยายามบริหารเวลาตัวเองให้ดีแล้ว"
"แต่ว่าผมเองนี่แหละที่ไม่สามารถทำได้ แล้วผมก็เสียใจที่เรื่องมันมาถึงขนาดนี้ ตอนนี้ผมมามุ่งในเรื่องของงานอย่างเดียวเลย ทำให้บางครั้งผมรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเลยกับคนที่เราจะเอาเขามาเป็นแฟนเรา"
"เขาอาจจะมีโอกาสไปเจอกับคนที่ดีกว่าผม แต่ผมไม่ได้บอกนะว่าการที่ผมเลิกกับเขาแล้วเขาจะไปมีคนใหม่อย่างรวดเร็ว เพราะผมคิดว่าคงจะไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน เพราะว่าซาร่าเขาไม่ใช่เป็นคนแบบนั้น ผมบอกได้เลยนะว่าซาร่าเป็นผู้หญิงที่ดีมากๆ ผมรู้ว่าเขารักผมมากและเขาก็ดีกับผมมาตลอดระยะเวลาที่เราคบกัน"
"ผมเลยมานั่งคิดว่าการทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง มันไม่ควรปฏิบัติกับคนที่รักเราแบบนั้น ผมก็เลยคิดว่ามันคงไม่มีประโยชน์เหมือนกันที่จะต้องมาดึงเขาไว้ มาหวงเขาไว้อยู่กับเราคนเดียว ผมเลยบอกว่าถ้างั้นเราลองแยกกันสักพักและนั้นก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อไปถึงสาเหตุที่เลิกกันว่ามาจากเรื่องของมือที่สามตามที่เป็นข่าวหรือเปล่า พระเอกหนุ่มทำหน้างงแล้วตอบทันทีว่า...
"สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเรื่องของเราสองคน คือผมกับซาร่าไม่เกี่ยวกับเรื่องของมือที่สามเลย กับกระแสข่าวที่ออกมาผมก็อยากขอโทษ เกรซ มหาดำรงค์กุลและป๊อบ อารียา สิริโสภาด้วย ที่อยู่มีชื่อของเขาทั้งสองคนเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้
"ผมเชื่อว่าซาร่าและผมไม่ได้เป็นคนพูดเรื่องนี้แน่นอนและไม่รู้ด้วยว่าข่าวแบบนี้ออกไปได้อย่างไรและใครเป็นคนปล่อยข่าว มันไม่ใช่เรื่องจริงเลยแม้แต่น้อย"
บอกส่งเอสเอ็มเอสไปให้กับทั้งสองสาวที่ต้องมาเป็นข่าวด้วยแล้ว
"หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นผมก็ได้ส่งเอสเอ็มเอสไปขอโทษทั้งสองคนนะ ส่วนป๊อบเขาก็ได้โทรมาหาผมนะและบอกว่างงมากกับข่าวที่เกิดขึ้น และแปลกใจว่าทำไมถึงมีชื่อเขาและนั่นก็เป็นครั้งแรกเลยที่ผมกัยป็อบได้คุยกัน"
"กับป็อบนั้นเราก็เคยได้ร่วมงานกันนะในรายการอสูรชายโชว์ เพราะการที่เราจะเชิญแขกมาร่วมงานนั้น โดยเฉพาะแขกที่ดังหน่อยผมก็จะเป็นคนที่โทรไปเชิญด้วยตัวเอง"
"ส่วนพี่เกรซนั้นเราก็รู้จักกันมานานแล้วตั้งแต่ที่ถ่ายโฆษณาและเป็นพรีเซ็นเตอร์แอมเวย์ด้วยกัน คือตอนนั้นเราไปถ่ายโฆษณาที่เมืองนอกด้วยกัน ช่วงนั้นเราไปออกงานด้วยกันบ่อยนะเลยได้รู้จักกันแต่ก็ไม่ได้สนิทอะไรมากหรอก"
ยืนยันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการสานสัมพันธ์กับสาวใดสาวหนึ่ง ก่อนปฏิเสธข่าวที่ว่าเจ้าตัวไปนัวเนียกับสาวในผับ..."แต่ในเรื่องของความสัมพันธ์กับคนทั้งสองนั้น ผมมั่นใจเลยว่าจะไม่มีการพัฒนาต่อไปแน่นอน ไม่มีทางแน่นอน เพราะว่ามันไม่มีอยู่ในสมองเลย"
"แต่ข่าวที่หาว่าผมไปนัวเนียกับสาวในผับก็เหมือนกัน อันนี้ก็งงมากและไม่แน่ใจเลยว่าข่าวมาจากไหน แต่ขอยืนยันไว้ตรงนี้เลยว่าไม่ได้ไปทำอะไรหรือไปนัวเนียกับสาวคนไหนในผับเลย แถมเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ยังมีชื่อของเพื่อนผมอย่างพีเคไปด้วยอีก"
"งงมากเลย ที่บอกว่าพีเคเป็นคนที่ไปดูต้นทางให้ผม ผมบอกได้เลยนะว่าผมกับพีเคแทบจะไม่ได้เจอกันเลย เดือนหนึ่งเจอกันแค่สองครั้งเอง เจอกันเฉพาะตอนที่เรามาอัดรายการอสูรชายโชว์เนี่ยแหละ เพราะว่าต่างคนต่างก็ยุ่งมาก"
เมื่อต่อไปว่าหลังจากที่เลิกรากับแฟนสาวแล้วชีวิตของหนุ่มพอลเปลี่ยนไปไหม? พระเอกหนุ่มตอบด้วยสีหน้าเศร้าว่า...
"ชีวิตของผมตอนนี้เปลี่ยนไปเยอะมากเลย เพราะเวลาที่ผมออกไปไหนก็จะรู้สึกว่าเราเคยมาที่นี่ด้วยกัน เคยทำกิจกรรมเหล่านี้ด้วยกัน ผมก็เข้าใจนะว่ามันก็คงต้องใช้เวลา แต่ด้วยความโชคของเรานะที่เรามีงานค่อนข้างเยอะเลยทำให้เราไม่ไปคิดเรื่องส่วนตัวมากไม่ไปคิดตรงนั้นมาก"
"ต้นเดือนหน้าก็เปิดละครอีก 2 เรื่อง ภาพยนตร์อีกเรื่อง มีรายการอสูรชายโชว์และรายการใหม่อีก ตอนนี้งานผมเยอะมาก แต่ผมก็คิดนะไม่ใช่ไม่คิดเลย แต่ผมไม่รู้นะว่าจะตอบอย่างไรดีกับเรื่องนี้ ผมตอบได้แค่เพียงว่าผมเสียใจและรู้สึกผิดที่ไม่สามารถทำให้เรื่องของความรักครั้งนี้มันเวิร์คได้..."
