ไม่มีเรื่องทะเลาะกับพิธีกรรุ่นพี่คนดัง "หม่อมปลื้ม" ยันเหตุโบกมือลา "เรื่องเล่าเช้านี้" เพราะความคิดและจุดยืนการทำงานที่ไม่ตรงกัน ด้าน "เอกราช" บอกพิธีกรรุ่นน้องน่าจะเข้าใจรูปแบบของรายการก่อนที่จะมารับหน้าที่แต่ยอมรับรู้สึกเสียดาย อยากให้อยู่นานกว่านี้ วอนคนเข้าใจ "สรยุทธ" ไม่ใช่คนดุ
ค่อนข้างจะเป็นไปตามที่หลายคนคาดการณ์ไว้ทีเดียว สำหรับการทำงานร่วมกันของพิธีกรในรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" ทางช่อง 3 ของ "สรยุทธ สุทัศนะจินดา" และ "คุณปลื้ม ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล" ที่ว่ากันว่าไม่น่าจะอยู่ด้วยกันได้นานสักเท่าไหร่ แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งสองจะสามารถทำหน้าที่ร่วมกันพร้อมกับคนอื่นๆ ทั้ง กุ๊ก-กฤติกา ศักดิ์มณี, เอกราช เก่งทุกทาง ได้อย่างดูเหมือนว่าจะเข้าขากันได้ดีก็ตาม
ทั้งนี้ตั้งแต่เช้าวันอังคารที่ผ่านมา ในรายการดังกล่าวกลับไม่ปรากฏหม่อมปลื้มมาร่วมทำหน้าที่แต่อย่างใดโดยมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงอาการอึดอัดและความไม่ลงรอยระหว่างเขากับพิธีกรดัง "สรยุทธ" ก่อนที่อีกไม่นานจะมีข่าวตามมาว่าหม่อมปลื้มนั้นได้ลาออกจากการเป็นหนึ่งในผู้ดำเนินรายการของ "เรื่องเล่าเช่านี้" เรียบร้อยแล้ว โดยเจ้าตัวเองก็ได้เปิดเผยถึงการตัดสินใจในครั้งนี้ว่า...
"ผมไม่อยากพูดอะไรมากนักนะ เอาแบบเป็นหลักการแล้วกัน คือผมคิดว่าสำหรับสื่อมวลชนไทยนั้นไม่ควรที่จะนำเสนอข่าวแนวอาชญากรรม ข่าวข่มขืน ฆาตกรรมเพื่อมาเป็นจุดขายเลย ไม่ว่าจะเป็นในหน้าของหนังสือพิมพ์หรือหน้าจอทีวี"
"ทุกวันนี้การเสนอข่าวอาชญากรรมโดยการนำรายละเอียดเกี่ยวกับเหยื่อที่ถูกข่มขืน โดยให้รายละเอียดต่างๆ เป็นเรื่องที่ไม่สมควรเลย คือผมจะต่อต้านเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว การให้รายละเอียดเกี่ยวกับผู้หญิงทุกๆ ครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นสิ่งที่ผิดเราไม่ควรจะเอาสิ่งเหล่านี้มาพูดหรือเขียนไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ก็ตาม"
ยืนยันไม่ใช่เรื่องของการทะเลาะเบาะแว้ง แต่เป็นจุดยืนของการทำงานที่ไม่ตรงกัน
"ผมไม่เห็นด้วยที่ใช้ประเด็นเรื่องข่มขืน ฆาตกรรม เรื่องเพศ มากระตุ้นให้สังคมและเยาวชนมาหมกมุ่นในเรื่องเพศ ซึ่งสื่อเมืองนอกหรือประเทศที่พัฒนาแล้วเขาไม่มาทำกันแบบนี้หรอก คือคนในสังคมไทยปัจจุบันนี้เขาไม่รู้ตัวหรอกว่าเคยชินกับเรื่องพวกนี้มาตลอด มิหนำซ้ำยังมาเจอในสื่อโทรทัศน์อีก"
"คนอื่นอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กนะ แต่กับผมคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่มากเลย ก็เลยตัดสินใจลาออกดีกว่า ตั้งแต่ตอนเย็นวันจันทร์ที่ผ่านมา ผมให้เหตุผลครั้งนี้ไปว่าเราไม่มีอิทธิพลอะไรต่อรายการอยู่แล้ว ผมก็เลยขอถอยออกมาดีกว่าและผมคิดว่าการที่เราตัดสินใจลาออกนั้น ผมถือว่าเพื่อเป็นการแสดงจุดยืนของสังคมไทย"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวที่ออกมาว่าเขามีปัญหากับ "สรยุทธ" จนทำให้ต้องออกมาจากรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" ม.ล.ณัฏฐกรณ์ กล่าวต่อเป็นภาษาอังกฤษทันทีว่า "Respect in the two way street" ซึ่งความหมาย คือ ควรเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน และหลุดปากออกมาอีกว่า "อาชญากรรมในเมืองไทยมีมากพอแล้ว" ก่อนกล่าวเพิ่มเติมว่า
"สำหรับเรื่องนี้ไม่เป็นความจริงเลย เราไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลย เรื่องนี้ผมไม่ได้มีปัญหากับตัวบุคคล อย่างที่บอกมันเป็นเรื่องของหลักการในการนำเสนอข่าว ที่ผมไม่สนับสนุน เป็นเรื่องของมารยาท ผมก็รู้ว่าการลาออกของผมครั้งนี้ ในที่สุดคนก็จะคิดกันในสิ่งที่อยากคิด ผมขอย้ำเลยว่าการตัดสินใจลาออกของผม เพื่อการแสดงจุดยืนสังคม"
ถามความคิดเห็นไปยังอีกหนึ่งเพื่อนร่วมงานที่เป็นคนกลางอย่าง "เอกราช เก่งทุกทาง" เจ้าตัวเผยว่า โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกเสียดายหม่อมปลื้มเพราะถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีมุมมองเป็นของตนเอง ส่วนเรื่องของการทะเลาะเบาะแว้งกับสรยุทธนั้นเจ้าตัวบอกว่าไม่อยากพูดเพราะไม่รู้รายละเอียด..."ความรู้สึกของพี่นั้นพี่ก็เสียดายเขานะ เพราะเขาถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่อีกคนหนึ่งที่เก่งทีเดียว มีความคิดและรูปแบบการนำเสนอที่เป็นของตนเอง"
"เขาน่าจะทำงานกับเราได้นานกว่านี้หน่อยนะ เพราะเราก็ทำงานเข้ากันได้ดีเลยทีเดียว ส่วนกระแสข่าวที่บอกว่าปลื้มทะเลาะกับยุทธนั้นพี่คิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาทั้งสองคน คือพี่ก็ไม่ได้รู้อะไรลึกมากหรอกนะ เพราะหลังจากทำรายการเสร็จต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปทำงานของแต่ละคน แต่เท่าที่พี่เห็นอยู่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะ"
เผย จริงๆ รุ่นน้องคนนี้น่าจะรู้อยู่แล้วว่าคอนเซ็ปต์ของรายการนั้นเป็นอย่างไรก่อนที่จะเข้ามา ยอมรับไม่ค่อยจะรู้ความคิดของอีกฝ่าย เพราะเป็นคนที่เงียบๆ ไม่ค่อยพูดอะไรออกมา
"การที่ปลื้มเข้ามาทำรายการนั้นก็น่าจะต้องรับรู้คอนเซ็ปต์ของรายการอยู่แล้วนะว่าเป็นอย่างไร รายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" นั้นแต่ละคนมันก็จะมีคาแรกเตอร์ของมันอยู่ จริงๆ แล้วเราก็น่าจะมีการพูดคุยมาตั้งแต่แรกแล้วนะ ว่าบทบาทของพิธีกรแต่ละคนเป็นอย่างไร แต่เราก็ไม่รู้ได้นะว่าการทำงานของปลื้มที่ผ่านมานั้นเขาจะมีความสุขหรือไม่แค่ไหนนะ ตรงนี้พี่ไม่รู้จริงๆ"
"เพราะเขาก็ไม่เคยที่จะพูดเลยนะว่าเขาจะออกหรือเขารูสึกอย่างไรกับการทำงาน คือวันที่เขาหายไปนั้นพี่มาถึงก็งงอยู่เหมือนกันว่าเขาหายไปไหน คือพี่เห็นแค่หนังสือลาออกของเขาวางอยู่ว่าเขาลาออกไปอย่างเป็นทางการแล้วพี่ก็งงเหมือนกันตรงนี้ แต่หลังจากนั้นพี่ก็ไม่ได้เจอกับเขาเลยนะและก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไมเขาถึงลาออกและลาออกทำไม"
เมื่อถามต่อไปถึงภาพที่ออกมาของพิธีกรดังซึ่งค่อนข้างจะใช้พิธีกรร่วมเปลืองนั้น เอกราชเผยว่า...
"สำหรับเรื่องนี้พี่ก็รู้สึกเฉยๆ นะ เพราะอย่างกรณีของ "ไก่-มีสุข" หรือ "ปอ-อรปรียา" นั้นแต่ละคนเขาก็มีเหตุผลส่วนตัวของเขานะ เพราะปอเขาก็จะต้องไปแต่งงานในช่วงนั้นจะให้ตื่นเช้ามาทำงานก็คงจะไม่ไหว ส่วนไก่เขาก็มีเหตุผลของเขา คือมันไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับตัวยุทธหลอกที่ใครจะอยู่หรือไม่อยู่"
"เราต้องทำความเข้าใจก่อนนะว่ารายการนี้พิธีกรตัวหลักเลยก็คือยุทธ คือบางทีคนจะชอบไปมองกันว่ายุทธชอบเข้ามาเบรคคนอื่นที่กำลังพูดอยู่ตลอดเลย คือจริงๆ แล้วตัวยุทธเขาจะเป็นคนที่จะต้องพูดมากที่สุดอยู่แล้ว แล้วอีกอย่างพิธีกรที่เหลือนั้นก็จะมีบทบาทที่แตกต่างกันออกไปอยู่แล้ว"
พร้อมวอนเข้าใจในตัว "สรยุทธ" กรณีที่หลายคนมองว่าเขาเป็นคนแรง ดุดัน เอาแต่ตัวเองเป็นที่ตั้งและชอบเบรกคนอื่นๆ โดยบอกว่าพิธีกรดังเป็นคนที่อ่อนไหวมากๆ
"ทุกคนก็จะมีบทบาทที่เด่นชัดอยู่แล้วนะมันไม่น่าจะมีปัญหานะตรงนี้ การที่ยุทธเข้ามาเบรกแต่ละครั้งนั้นเราอย่าเรียกว่าเป็นการเบรกเลย คือรายการเราก็ต้องมีการแรกเปลี่ยนความคิดเห็นและพูดคุยกันอยู่แล้ว เพราะถ้าพูดไปเฉยๆ ก็นิ่งพอดี คือการเบรกแต่ละครั้งนั้นก็ไม่ได้ทำให้ใครเสียหน้านะ การทำงานร่วมกันมันก็จะต้องมีการตอบโต้หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันบ้างนะเพื่อให้รายการมีสีสันดูไม่น่าเบื่อ"
"การทำรายการขึ้นมาสักอย่างไม่ว่าจะเป็นรายการไหนก็แล้วแต่ เราไม่สามารถที่จะทำอะไรออกมาให้ได้อย่างใจเราทุกอย่างหรอกนะ คือเราต้องรู้อยู่แล้วตั้งแต่แรกว่ารายการที่เราจะทำเป็นอย่างไรก่อนที่เราจะตัดสินใจทำ แต่ที่ผ่านมาพี่ก็เห็นปลื้มเขาก็บทบาทที่เด่นชัดเหมือนกันนะ ดูขนาดพี่มาช่วงหลังยังเป็นเหมือนแค้น้ำจิ้มเองและตรงพี่ก็เข้าใจนะ พี่เห็นปลื้มเขาก็ได้คุยได้อะไรดีนะ เห็นบางทีเขาก็ยังจะมีการแซวกันเลย"
"ในเรื่องของการทำงานกับยุทธนั้นหลายคนจะคิดว่ายุทธเป็นคนดุดัน พูดตรง แต่ที่จริงแล้วตัวจริงยุทธเขาเป็นคนที่ลึกๆ เขาอ่อนไหวง่ายนะ เขาเป็นคนที่ให้เกียรติคนอื่นตลอด คือการที่ยุทธต้องแสดงออกไปแบบนั้น เพราะมันเป็นการวิเคาระห์ข่าวที่เป็นส่วนตัวและทำให้ดูแล้วมีสีสันอยู่แล้วนะ พี่ก็เห็นปลื้มและทุกคนที่ได้ร่วมงานเขาก็มีความสุขดี ก็เฮฮาดี แต่ลึกๆ นั้นจะมีใครเก็บเอาไปคิดอะไรหรือเปล่าตรงนี้ก็ไม่รู้"
เผยทุกคนรู้สึกตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ขณะที่รุ่นน้องเองก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกเลยหลังเดินออกไปจากรายการ ส่วนพิธีกรคนใหม่ที่จะมาแทนยังไม่แน่นอนว่าจะเป็นใคร ก่อนจะออกตัวถ้าให้ตนขึ้นไปทำแทนคงไม่ไหว
"เรื่องที่ปลื้มหายไปนั้นทางยุทธกับกุ๊กเขาก็ตกใจและก็งงเหมือนกันนะ เพราะเราเจอกันเกือบทุกวันและก็รู้สึกคิดถึงและเสียดายเป็นเรื่องธรรมดา เราได้ทำงานร่วมกันทำรายการมาประมาณ 5 เดือนได้แล้วนะ พี่บอกได้เลยนะว่าตอนนี้เราทั้งสี่คนกำลังเข้าขากันได้ดีเลยทีเดียว แต่ปลื้มออกไปก็เสียดายมากเหมือนกัน"
"คือปลื้มเขาเป็นคนที่มีบุคลิกและความคิดเฉพาะตัวเขาอยู่แล้ว เขาเป็นคนดีนะมีน้ำใจกับทุกคนที่ร่วมงานตลอด แต่เราก็ไม่ได้ไปสนิทอะไรมากหรอกก็มีแค่ไปกินข้าวด้วยกันบ้าง เพราะปลื้มเขาก็เป็นคนที่มีงานค่อนข้างเยอะ แต่หลังจากที่เขาออกไปนั้นเขาก็ไม่ได้ติดต่ออะไรเข้ามาหาใครเลย"
"ส่วนในเรื่องของพิธีกรคนใหม่นั้น ตอนนี้ทุกฝ่ายเขาก็คิดและประชุมกันอยู่นะว่าจะเอาใครมาแทนตรงนี้ แต่ก็ยังไม่แน่นอนนะว่าจะเป็นใครเลย แต่ถ้าจะให้พี่ขึ้นมาแทนก็คงไม่ไหวนะ เพราะงานพี่ทุกวันนี้ยังทำไม่ค่อยทันเลย บางวันตอนเช้ามายังไม่ทันแต่งหน้าเลยด้วย แต่ใครจะเข้ามาเป็นพิธีกรคนใหม่นั้นมันก็คงต้องใช้เวลาสักพักนะ"
"เพราะมันจะต้องเลือกคนให้มาเหมาะสมกับรูปแบบของรายการ เพื่อให้รายการออกมาแล้วดูสมบูรณ์และดีที่สุด..."
