เป็นการต่อยอดจากการจัดระดับความเหมาะสมของสื่อโทรทัศน์ (Rating) ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2549 ที่ให้แสดงสัญลักษณ์รายการทีวีแต่ละรายการว่าเป็นรายการประเภทใดที่น่าสนใจทีเดียวสำหรับมติครม.ที่ออกมาควบคุมการออกอากาศของรายการที่มีสัญลักษณ์ น.(รายการที่เด็กอายุ 13- 18 ปีสามารถดูได้แต่ต้องมีผู้ใหญ่ คอยให้คำแนะนำ เพราะมีภาพ เนื้อหา ที่ไม่เหมาะสมกับเด็กและเยาวชน) ให้ออกอากาศได้ หลังเวลา 20.00 น.
ขณะที่รายการประเภท ฉ. ที่เป็นรายการเฉพาะไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชน เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปนั้นให้ออกอากาศได้หลังเวลา 22.00 น. โดยคาดว่าทั้งหมดจะเริ่มดำเนินการอย่างเป็นรูปเป็นร่างได้ในช่วงระยะเวลา 2 - 3 เดือนนับจากนี้
ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจากรายการส่วนใหญ่ที่ติดเรตอักษร น. และ ฉ. ได้แก่ ละคร, ซิทคอม, ซีรีส์ รวมถึงในส่วนของภาพยนตร์ - การ์ตูนบางส่วนแล้ว ดูเหมือนว่าคงจะวุ่นวายไม่เบากับการย้ายเวลาการออกอากาศรายการเหล่านี้ของแต่ละสถานี โดยช่องที่น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากมติครม.ที่ออกมาก็คือช่อง 3 และช่อง 7 ในส่วนของละครภาคค่ำ ซึ่งล่าสุดราคาค่าหุ้นของ Bec เองก็ได้ตกมาบ้างแล้วนั้น
อย่างไรก็ตามเมื่อจากการสอบถามไปยังบรรดาสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ทุกฝ่ายต่างยืนยันว่าพร้อมจะทำตามมติดังกล่าวและไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงการออกอากาศอะไรมากมายนัก เนื่องจากเท่าที่ผ่านมาทางสถานีได้มีการพิจารณาในเรื่องนี้อยู่แล้ว ที่สำคัญการพิจารณาว่ารายการใดจะติดเรตไหนนั้นก็มิได้เป็นการระบุไว้ตายตัว แต่จะใช้หลักในการพิจารณาเนื้อหาเป็นหลัก โดยแหล่งข่าวช่อง 7 เผยว่าในส่วนของละครภาคค่ำของช่อง 7 คงจะมีอยู่ต่อไปอย่างแน่นอน แต่อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในเนื้อหาเพื่อให้มีความเหมาะสมต่อช่วงเวลาดังกล่าว
ด้านแหล่งข่าวของ "กันตนา" เผยว่าทางกันตนาพร้อมที่จะทำตามทุกอย่างเพียงแต่รอความชัดเจนในรายละเอียดต่างๆ จากทางช่องเสียก่อน...“ทางผู้ใหญ่ยังไม่ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องนี้อย่างจริงจัง แต่อย่างไรก็ตามทางกันตนาไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ทุกอย่างแล้วแต่สถานี เรื่องละครตอนเย็นที่เรามีส่งให้มีทั้งช่อง 7 และทีไอทีวี ซึ่งเราไม่มีปัญหานะ ช่องว่าอย่างไร เราสามารถปรับได้อยู่แล้ว ตอนนี้ก็รอมติจากช่องน่ะครับ”
ด้านแหล่งข่าวจาก "โพลีพลัส" ยืนยันว่ามติที่ออกมาดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัทเหตุเพราะส่วนใหญ่รายการของโพลีพลัสที่ติดเรต น. จะเป็นละครที่ออกอากาศในช่วงหลังข่าวอยู่แล้ว ขณะที่ค่าย "ทีวีซีน" เผยว่าทุกอย่างคงจะต้องรอดูก่อนว่าทางช่องมีนโยบายอย่างไร ซึ่งทางทีวีซีนก็พร้อมที่จะทำตาม
"ทราบข่าวมาว่าจะมีการจัดเรตนะคะ แต่ว่าทางค่ายเนี่ยยังไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้เลย เรียนตรงนี้ก่อนว่าเราคงแล้วแต่ทางช่อง เพราะว่าช่องว่าอย่างไรก็คงต้องตามนั้น แต่ตอนนี้ช่องยังไม่ได้แจ้งมาก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ถ้าจะถามว่ามันมีผลกระทบมั้ย คิดว่าละครเย็นมีผลกระทบแน่นอน ในเรื่องของการผลิต"
"ส่วนเรื่องการจัดว่าเรื่องไหนเอาไปหลังข่าว เรื่องไหนไว้ตอนเย็นอันนี้ไม่ทราบจริงๆ เพราะขั้นนั้นน่าจะเป็นทางช่องดูแลจัดการมากกว่า...”
ฟากของทางด้านนักแสดง "วุธ อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร" แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีกับความตั้งใจของรัฐฯ ที่ห่วงใยต่อเด็ก - เยาวชนซึ่งแม้จะยังไม่รู้ว่าผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร แต่ทั้งนี้เจ้าตัวก็ยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นคงจะส่งผลกระทบต่อดารานักแสดงอยู่บ้างเช่นกัน
"ถ้าในช่วงเย็นแล้วเป็นรายการที่ยังติด น.อยู่ก็อาจจะมีผลบ้าง แต่ส่วนใหญ่ของเราก็ทำงานกับเด็กอยู่แล้วทั้งวาดรูป ทำรายการ หรือมีกิจกรรมที่ทำร่วมกับเด็ก"
กังวลมั้ยถ้างานละครตอนเย็นอาจจะต้องน้อยลง?
"มันเป็นสิทธิ์ของคนจ้างนะ เราก็ในฐานะคนทำงานก็อยากทำงาน อยากทำอะไรบ่อยๆ ได้โผล่เจอหน้า ได้เจอคนดูบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเด็กใหม่หรือคนวัยไหนก็ตาม ทุกคนคิดเหมือนกัน ในฐานะนักแสดง ทีนี้ทั้งหมดทั้งมวลแล้วเนี่ยมันขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ครับว่าเขาจะมีเรียกใช้เรามั้ย มันขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ตัดสิน"
"มันเป็นสัจธรรมน่ะครับ ว่ามันการเปลี่ยนแปลง เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงมันมีผลกระทบอยู่แล้ว มันจะมากหรือจะน้อยเท่านั้นเอง แตกต่างกันไป เราต้องยอมรับในสิ่งที่จะเกิดขึ้น เราไม่อยากคิดในทางลบ กับตัวเองว่าถ้ามันเกิดแบบนี้งานเราจะน้อยลง คงไม่อยากคิดในทางลบ พยายามคิดในทางบวก มากกว่าว่าคงไม่มีอะไร เพราะสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นในอนาคตเราก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง"
"ไม่เครียดมาก นี่คือในมุมผม มันจะตกงานหรืองานเพิ่มขึ้นก็ยังไม่รู้”
ในส่วนของ ผอ.อสมท. คนใหม่ "วสันต์ ภัยหลีกลี้" เผยว่า โดยส่วนตัวถือว่าเป็นความพยายามที่ดีของภาครัฐฯ ซึ่งในส่วนของโมเดิร์นไนน์ เองคงไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากมายนัก
"ผมคิดว่าก็คงเป็นความตั้งใจที่ดีที่อยากให้รายการที่นำเสนอทางทีวีสอดคล้องกับกลุ่มคนดูนะครับ เนื่องจากว่าเรามีการนำระบบเรตติ้งมาทดลองใช้อยู่แล้ว แต่ว่าในช่วงที่ผ่านมาไมได้มีการกำหนดช่วงเวลาที่เหมาะสมในการนำเสนอ ผมคิดว่าเป็นการต่อยอดจากการจัดเรตเดิมนะครับและคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับสังคมเป็นประโยชน์กับสังคม"
"สำหรับเราคงได้รับผลกระทบน้อยเพราะว่าแนวคิดเราคือสังคมอุดมปัญญาเราก็คิดว่าจะเสนอสิ่งที่ดีๆ กับสังคมอยู่แล้วนะครับ ของเราเองไม่ได้ทำรายการละครเท่าไหร่นะครับ จะมีก็ละครเทิดพระเกียรติหรือละครตามรอยพ่อ เราเองคงไม่ได้รับผลกระทบครับ"
ต้องดูรายละเอียดที่ชัดเจนอีกครั้งหรือแม้กระทั่งการหามาตรฐานของการติดเรตที่ยังไม่เท่าเทียมกันสักเท่าไหร่
"ผมว่าเราคงมาดูรายละเอียดอีกทีหนึ่ง เราเห็นด้วยที่มันควรจะมีการจัดเรตติ้งนะครับ ที่ผ่านมามีแต่บอกว่าประเภทรายการแต่ไม่บอกสล็อตเวลาวันนี้มันจะต้องทำให้การจัดมันมีมาตรฐานขึ้น เหมือนอย่างบางช่องมีรายการนี้เป็น น. ต้องแนะนำแต่ในขณะที่บางช่องรายการในมาตรฐานเดียวกันอาจจะตีเป็น ท.มันต้องสร้างมาตรฐานให้ตรงกันก่อน"
"อย่างที่บอก ผมว่ามันเป็นการต่อยอดจากการจัดเรตติ้งจากที่แล้ว ก็จัดมาตรฐานให้มันชัดเจนขึ้น เขาบอกว่าบางรายการไม่ควรนำเสนอก่อน 2 ทุ่มบางรายการไม่ควรนำเสนอก่อน 4 ทุ่มไม่มีปัญหาครับ แต่ยังไม่ได้บอกว่าตั้งแต่กี่โมงเป็นต้นมาก็คงให้ชัดเจนขึ้น ผมมองในแง่ดีนะครับ"
"ผมว่ามันจะช่วยนะครับเหมือนภาพยนตร์เหมือนกันในต่างประเทศก็มีการจัดเรตติ้ง บ้านเราไม่มีการจัดเรตติ้ง มีเซ็นเซอร์ผมคิดว่าบางทีเราอาจจะต้องคิดอะไรในเชิงบวกหรืออะไรใหม่นะครับ ผมมองเป็นเรื่องที่ดี..."