xs
xsm
sm
md
lg

Minutes To Midnight : ก้าวถอยหลังของมนุษยชาติ กับก้าวต่อไปของ Linkin Park

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โดย เวสารัช โทณผลิน

ถึงแม้จะมีคนที่รู้จริง และศึกษาคลุกคลีอยู่กับปัญหาสิ่งแวดล้อมบนโลกใบนี้อย่างลึกซึ้งหลายคน ออกมายอมรับอย่างถดท้อแต่จริงจังว่า "ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์สร้างสมบ่มเพาะให้กับโลกใบนี้ มันกองทับหนาสูง เกินกว่าจะเยียวยาได้แล้ว เวลาที่เหลือต่อไปนี้ มนุษย์จำต้องก้มหน้ารับกรรม ที่ตัวเองและเพื่อนร่วมโลกสายพันธ์เดียวกันได้กระทำเอาไว้เท่านั้น"

แต่ความจริงที่ไม่มีใครอยากฟังเหล่านี้ กลับทำให้ใครต่อใครเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตตัวเองในการเบียดเบียนสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังน้อยเสียกว่าการเลือกปิดหู ปิดตากับชะตากรรมที่มาจดจ่ออยู่ปลายจมูกเหล่านี้

แม้ว่าช่วงเวลาต่อไปนี้ เป็นวินาทีแห่งการใช้กรรม แต่หากไม่มีใครกล้าพอที่จะลุกขึ้นเปลี่ยนแปลงขนบการใช้ชีวิตที่ผิดต่อเพื่อนร่วมโลกทั้งหลายแล้ว วันสิ้นโลกที่แท้จริง อาจมาถึงเร็วและโหดร้ายเกินกว่าคำทำนาย

สิ่งหนึ่งที่มนุษย์ตัวเล็กๆ หกคน ในนาม Linkin Park จะพอทำได้ ในฐานะนักดนตรีอาชีพ นั้นคือการใช้เสียงดนตรีเป็นสื่อในการกระตุ้นเตือนเพื่อนมนุษย์ สัตว์ประเภทเดียวซึ่งไม่รู้จักการปรับตัวเองตามสภาวะแวดล้อม แต่เลือกที่จะเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้เข้ากับจริตผิดเพี้ยนของตัวเอง

การปรากฏกายของ Linkin Park ซึ่งช่วยต่อลมหายใจแผ่วระรินแห่งการรอคอยของแฟนเพลง ออกมาในรูปแบบของอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 ที่ชื่อ Minutes To Midnight ซึ่งแปลความหมายตรงๆ ว่า การนับถอยหลังสู่วันสิ้นโลก หรือวันโลกาวินาศ วันพิพากษาของมนุษย์โง่เขลาทุกคนบนโลก

การหายหน้าไปจากวงการเพลงร่วม 4 ปี ถึงแม้สมาชิกในวงบางคน อย่าง ไมค์ ชิโนดะ หัวเรี่ยวหัวแรงคนสำคัญของวง จะออกงานเดี่ยวของตัวเอง เพื่อผลาญพล่าพลังงานในการทำเพลงส่วนตัวของเขา และให้แฟนๆ ได้สูดเสพพอหายถวิลหา แต่สำหรับในนามของวงแล้ว หลายต่อหลายคนยังเพรียกหา Linkin Park อยู่เสมอ

จากการทำงานอย่างหนักหน่วง แต่งเพลงทั้งหมดทั้งปวงไว้ถึง 101 เพลง ใช้เวลานานกว่า 14 เดือนในห้องอัด พร้อมทั้งได้รับโอกาสร่วมงานกับโปรดิวเซอร์เจ้าของรางวัล Producer Of The Year จากเวทีแกรมมีปีล่าสุด อย่าง ริค รูบิน และการก้าวมาเป็นโปรดิวเซอร์ร่วมของไมค์ ชิโนดะเอง ก็ทำให้ผู้คนที่เฝ้ารองานของพวกเขา วางใจได้ส่วนหนึ่งว่า งานของ Linkin Park ชุดนี้จะไม่ทำให้ผิดหวังแน่ๆ

เสียงดนตรีและเสียงร้องทั้ง 12 บทเพลง ในอัลบั้มชุดนี้ ถือเป็นการสอดประสานที่ลงตัวระหว่างเครื่องดนตรีดั้งเดิมที่พวกเขาถนัด กับเสียงแปลกใหม่จากเครื่องดนตรีที่พวกเขาเลือกมาใช้ในอัลบั้มชุดนี้ อย่าง เมลโลทรอนกับดรัม แมชชีน ที่ทำให้เสียงเปิดตัวของเพลง Given Up กระชับฉับไว ยิ่งได้เสียงแตกพร่าของการสับกีตาร์เป็นจังหวะด้วยแล้ว ยิ่งสร้างความคึกคักร้อนแรงมากขึ้นไปอีก

เสียงร้องของนักร้องนำทั้งคู่นั้น ถูกแบ่งบทบาทและแยกส่วนทำงานกันได้อย่างลงตัวและชัดเจนขึ้นกว่าทุกอัลบั้มที่ผ่านมา เสียงสำรอกอันเป็นเอกลักษณ์ของเชสเตอร์ กับการร้องแบบ MC ของไมค์ สามารถทำหน้าที่ได้ทั้งแยกส่วนกันไปในแต่ละเพลงและสอดประสานร่วมกันเหมือนทุกอัลบั้มที่ผ่านมาได้ดีมาก

ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งซึ่งไม่หยุดนิ่งของวงดนตรี นู เมทัลรุ่นใหม่ที่มีแฟนเพลงมากที่สุดแห่งยุค ในอัลบั้มชุดนี้จะเห็นว่าพวกเขากล้าที่จะเลือกใช้ซาวน์แปลกใหม่มาประสานใส่กับเครื่องดนตรีที่มีอยู่แล้วของวง รวมไปถึงการเขียนเนื้อหาของเพลงที่สามารถตีความ แฝงนัยยะ แสดงถึงวุฒิภาวะและการเจริญเติบโตของวง

ถึงแม้บีทส์ดนตรีโดยรวมจะดูเชื่องช้าลงกว่าอัลบั้มที่ผ่านมา แต่นั่นก็เป็นการทุ่มลึกหนักหน่วงในห้วงของตัวโน๊ต แบบไม่โฉ่งฉ่าง กระโตกกระตาก เป็นการบ่งบอกถึงการก้าวพ้นผ่านวัยรุ่นเข้าสู่วัยหนุ่มได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จังหวะดนตรีจะไม่ได้รวดเร็วรุนแรงเฉกเช่นในชุดก่อนๆ แต่หากฟังแบบแยกส่วนในแต่ละบทเพลง จะพบว่ามีความหนักแน่นและซับซ้อนในไลน์ของเครื่องดนตรีทุกชิ้นอย่างที่ไม่เคยมีวงนู เมทัลวงไหนจะกล้าทำมาก่อนทีเดียว

การแสดงออกของ Linkin Park อาจเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงออกในฐานะของคนทำเพลง ที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่พวกเราร่วมก่อ ก่อนที่วันสุดท้ายจะมาถึง ก่อนที่จะไม่ใครจะมีสิทธิ์เอ่ยปากพูดโทษคนอื่นไปมา ก่อนที่จะไม่มีจมูกสูดดมกลิ่นอากาศที่คลุ้งจมไปด้วยควันพิษ ก่อนที่จะไม่มีดวงตาเอาไว้มองหยามหยันผู้อื่นในสังคม และเลือกที่จะปิดตายามที่ปัญหาดังกล่าวยังมาไม่ถึงตัวเรา

ก่อนที่จะไม่มีคนทำเพลง ก่อนที่จะไม่มีคนฟังเพลง ก่อนที่จะไม่มีสักคนซื้อผลงานแผ่นแท้จริงจากคนทำเพลง ก่อนที่จะเหลือแต่ "คนเล่นดนตรี" และ "พ่อค้านายทุนที่คิดถึงเพียงยอดขายของบริษัท" ก่อนที่วงการดนตรีจะล่มสลายไปก่อนที่วันสุดท้ายของมวลมนุษยชาติจะมาเยือนจริงๆ

Linkin Park ก็เพียงแค่ลุกขึ้นมา ตั้งใจกลั่นงานของตัวเอง ด้วยหยาดเหงื่อ และลมหายใจรวยระริน ท่ามกลางเสียงโยนภาระรับผิดชอบระหว่างผู้ซื้อกับผู้ผลิตในประเทศไทย อย่างน้อยสิ่งหนึ่งที่หกหนุ่มหวังไว้ก็คือ งานเพลงของพวกเขาคงจะไม่ดับสูญไปก่อนที่โสตประสาทของมนุษย์จะไม่สามารถรับได้

เพราะแท้จริงแล้ว Minutes To Midnight นั้น มีความหมายแฝงฝากไปถึงคนในวงการเพลงทั้งหลายว่าอย่างไร ต้องไปถามคนทำงานเพลงอย่าง Linkin Park กันเอง?


กำลังโหลดความคิดเห็น